ลูกป้าเขียนไว้ในเฟสบุ๊ก เลยแอบเอามาให้คนอื่นอ่านด้วย
----------------------------
ช่วงนี้มีคนไข้ (คนดีๆ ที่ไม่มีโรคทางจิต)มาตรวจสุขภาพ และบวกพ่วงตรวจสุขภาพใจด้วย มาจากเขมรหลายคน
อายุระหว่าง 23-35 ปี
ทุกคนจบปริญญาตรี(หนึ่งคนจบโท)
ทุกคนพูดภาษาอังกฤษดีกว่า หลายคนที่เรารู้จัก(ที่จบปริญญาตรี) ดีกว่ามากมาก
เลยทำให้รู้ว่า
มหาวิทยาลัยในประเทศเขมร (กัมพูชา) สอนเป็นภาษาอังกฤษด้วย แม้แต่มหาวิทยาลัยของรัฐ
อาจารย์ก็เป็นเขมรนั่นแหละ แต่เค้าคุยกันสอนกันเป็นอังกฤษ
แต่ในบางวิชาเช่นประวัติศาสตร์ ศาสนา ภาษา และทางสังคมศาสตร์ จะสอนเป็นภาษาเขมร
เลยรู้สึกว่า
คนไทย(หลายคนมาก)รวมถึงตัวข้าพเจ้าเองด้วย
คงต้องปรับมุมมองใหม่เสียแล้ว
เพราะว่า คนเขมร ไม่ได้มีแต่กรรมกรคนใช้แรงงาน อย่างที่ใครชอบด่าว่ากัน
คนดีๆ มีการศึกษา ฉลาด มารยาทดี และภาษาอังกฤษดีมาก ก็มีเยอะ
รู้สึกสงสารคนไทยบางคน ที่ชอบดูถูกคนเขมรหรือคนลาว ว่าเค้าต้อยต่ำอย่างนู้นอย่างนี้
เอาภาษาลาวมาล้อเลียน (อย่างที่เป็นข่าว) หรือด่าใครที่ไม่ชอบว่า"ไอ้ขแมร์" เป็นต้น
แต่กลับไม่มองตัวเอง ว่าช่างเป็นกบน้อยในกะลาเล็กๆ เสียจริงๆ
เฮ้ออออ เวรกรรมจริงๆ แต่เราก็ทำอะไรไม่ได้
บุญกรรมนั้นมันของใครของมัน จะสามารถสำนึก รู้คิด ได้เมื่อไหร่ก็สุดแล้วแต่คนแต่ละคน
เฮ้ออออ
รู้สึกเป็นห่วงคนไทยอย่างแรง
เดี๋ยว AEC จะมาแล้ว คนไทย ยังไม่พร้อม ยังไม่แคร์ที่จะต้องพัฒนาตัวเอง
คนรุ่นๆใหม่ ที่ขี้เกียจเรียนภาษาอังกฤษ ขนาดหนัง(ภาพยนต์)soundtrack ยังไม่ยอมดู
แล้วหนังสือภาษาอังกฤษ หรือตำราต่างๆ จะไปมีประโยชน์อะไร
วิชาชีพทั้งหลาย หากพูดอังกฤษไม่ได้ ไม่รู้จะเหลือไว้ทำอะไร หรือจะทำงานกับ ชุมชนห่างไกล โลกภายนอกไม่ต้องเจอกัน
วันก่อนเจอข่าว(ช่องไหนจำไม่ได้) เสนอข่าวแม่ค้าพ่อค้าพัทยา ที่เรียนรู้ภาษาที่สาม(รัสเซีย-ฝรั่งเศส-เยอรมัน)
เรียนกันเอง จากลูกค้าบ้าง สังเกตบ้าง
สมัยก่อนจำได้ว่า มีมอเตอร์ไซด์รับจ้าง ที่พูดอังกฤษคล่องปรือ ต่างชาติชอบใช้บริการ
เค้าไม่ได้มีเงินไปเรียนต่างประเทศ แต่มีความมานะพยายามฝึกฝน จนประสบความสำเร็จ
คนจบนอก(หลายคน)ควรจะอาย
ที่รู้จักก็มีหลายคนอยู่ จบมา พูดประกิดไม่รู้เรื่องเลย ขนาดคนไทยด้วยกันยังฟังไม่รู้เรื่องเลย
โถ่ อวดชาวบ้านว่าจบนอก เท่ห์ (ไม่อยากด่าเลย ว่าตอนอยู่นอก แอบอยู่ข่างหลัง ให้กรูพูดแทนประจำ)
จะว่าไปก็
เป็นการแสดงภาพของความเป็นไทยได้อย่างชัดเจน ว่า
คนไทย
ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง ไม่ชอบความลำบาก
คนไทย ชอบสบายๆ ง่ายๆ ลัดคิวได้เป็นลัด ยัดเงินได้เป็นทำ
ทำไมต้องไปอ้อมรถไกล ก็แอบกลับรถตรงนี้แหละจะทำไม ตำรวจก็ไม่มี
คนอื่นนั้นเลวววนั่นนู้นนี่ แต่กรูนั้นแสนดี ควรแก่การกราบไหว้
อลุ้มอล่วยมาก วินัยระเบียบไม่เคยมีอยู่ในสายเลือด
โดนจับได้ก็ เอาหน่า เอาหน่า
แต่ก็ชอบด่าคนอื่นว่า โกง
แต่ไม่มองตัวเอง
ล่าสุด คนที่ชอบด่าคนอื่น โกงๆๆ ที่ดูถูกถูกคนอื่นว่าด้อยการศึกษา ไปเติมน้ำมันรถ แต่ปั้มขณะนั้นมีรถเข้าเติมน้ำมันมาก
มีหนึ่งหัวจ่าย มอเตอร์ไซด์แปดคัน ต่อแถวกันเป็นระเบียบ
พี่คนนี้ จอดรถปุ๊ป เปิดประตูลงมา พูดเสียงดังมาก ว่า
"น้อง โซลฮอล์ 91 ห้าร้อย เร็วหน่อย"
เห็นเด็กปั้มมองหน้ากันปริบๆ ไม่มีใครว่าง และคนอื่นมาก่อนกันก็หลายคนหลายคัน
มอไซด์ก็แอบมองพี่ท่านด้วยสีหน้าที่สุดบรรยาย
ซักพัก เด็กปั้มคนนึงรีบมาเต็มน้ำมันให้
ไม่รู้มันกลัวอะไร พี่นี่ก็แก่แล้ว อาชีพจริงๆก็เบ่งไม่ได้ รถก็เก่าโทรม เติมก็แค่ห้าร้อย
แค่เสียงดัง แสดงท่าทางข่มขู่ เอ หรือว่าเด็กมันกลัวจะวุ่นวายเลยรีบเติมให้รีบไล่ไปก่อน
อยากให้เปิด AEC เร็วๆจริงๆ
หลายคนจะได้สำนึก
เรื่องพวกนี้สอนกันไม่ได้
ต้องให้เจอเอง
ต้องเห็นโลงศพก่อน จึงจะรู้สึก
แต่คราวนี้ น้ำตาอาจมาเป็นสายเลือด เพราะเปลี่ยนแปลงตัวเองไม่ทันแล้ว สายไปเสียแล้ว
--จบ--
ง่ายๆ แบบนี้แหละ
เขมร กับ AEC และ พี่ไทย (ลูกป้าแอบระบาย)
----------------------------
ช่วงนี้มีคนไข้ (คนดีๆ ที่ไม่มีโรคทางจิต)มาตรวจสุขภาพ และบวกพ่วงตรวจสุขภาพใจด้วย มาจากเขมรหลายคน
อายุระหว่าง 23-35 ปี
ทุกคนจบปริญญาตรี(หนึ่งคนจบโท)
ทุกคนพูดภาษาอังกฤษดีกว่า หลายคนที่เรารู้จัก(ที่จบปริญญาตรี) ดีกว่ามากมาก
เลยทำให้รู้ว่า
มหาวิทยาลัยในประเทศเขมร (กัมพูชา) สอนเป็นภาษาอังกฤษด้วย แม้แต่มหาวิทยาลัยของรัฐ
อาจารย์ก็เป็นเขมรนั่นแหละ แต่เค้าคุยกันสอนกันเป็นอังกฤษ
แต่ในบางวิชาเช่นประวัติศาสตร์ ศาสนา ภาษา และทางสังคมศาสตร์ จะสอนเป็นภาษาเขมร
เลยรู้สึกว่า
คนไทย(หลายคนมาก)รวมถึงตัวข้าพเจ้าเองด้วย
คงต้องปรับมุมมองใหม่เสียแล้ว
เพราะว่า คนเขมร ไม่ได้มีแต่กรรมกรคนใช้แรงงาน อย่างที่ใครชอบด่าว่ากัน
คนดีๆ มีการศึกษา ฉลาด มารยาทดี และภาษาอังกฤษดีมาก ก็มีเยอะ
รู้สึกสงสารคนไทยบางคน ที่ชอบดูถูกคนเขมรหรือคนลาว ว่าเค้าต้อยต่ำอย่างนู้นอย่างนี้
เอาภาษาลาวมาล้อเลียน (อย่างที่เป็นข่าว) หรือด่าใครที่ไม่ชอบว่า"ไอ้ขแมร์" เป็นต้น
แต่กลับไม่มองตัวเอง ว่าช่างเป็นกบน้อยในกะลาเล็กๆ เสียจริงๆ
เฮ้ออออ เวรกรรมจริงๆ แต่เราก็ทำอะไรไม่ได้
บุญกรรมนั้นมันของใครของมัน จะสามารถสำนึก รู้คิด ได้เมื่อไหร่ก็สุดแล้วแต่คนแต่ละคน
เฮ้ออออ
รู้สึกเป็นห่วงคนไทยอย่างแรง
เดี๋ยว AEC จะมาแล้ว คนไทย ยังไม่พร้อม ยังไม่แคร์ที่จะต้องพัฒนาตัวเอง
คนรุ่นๆใหม่ ที่ขี้เกียจเรียนภาษาอังกฤษ ขนาดหนัง(ภาพยนต์)soundtrack ยังไม่ยอมดู
แล้วหนังสือภาษาอังกฤษ หรือตำราต่างๆ จะไปมีประโยชน์อะไร
วิชาชีพทั้งหลาย หากพูดอังกฤษไม่ได้ ไม่รู้จะเหลือไว้ทำอะไร หรือจะทำงานกับ ชุมชนห่างไกล โลกภายนอกไม่ต้องเจอกัน
วันก่อนเจอข่าว(ช่องไหนจำไม่ได้) เสนอข่าวแม่ค้าพ่อค้าพัทยา ที่เรียนรู้ภาษาที่สาม(รัสเซีย-ฝรั่งเศส-เยอรมัน)
เรียนกันเอง จากลูกค้าบ้าง สังเกตบ้าง
สมัยก่อนจำได้ว่า มีมอเตอร์ไซด์รับจ้าง ที่พูดอังกฤษคล่องปรือ ต่างชาติชอบใช้บริการ
เค้าไม่ได้มีเงินไปเรียนต่างประเทศ แต่มีความมานะพยายามฝึกฝน จนประสบความสำเร็จ
คนจบนอก(หลายคน)ควรจะอาย
ที่รู้จักก็มีหลายคนอยู่ จบมา พูดประกิดไม่รู้เรื่องเลย ขนาดคนไทยด้วยกันยังฟังไม่รู้เรื่องเลย
โถ่ อวดชาวบ้านว่าจบนอก เท่ห์ (ไม่อยากด่าเลย ว่าตอนอยู่นอก แอบอยู่ข่างหลัง ให้กรูพูดแทนประจำ)
จะว่าไปก็
เป็นการแสดงภาพของความเป็นไทยได้อย่างชัดเจน ว่า
คนไทย
ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง ไม่ชอบความลำบาก
คนไทย ชอบสบายๆ ง่ายๆ ลัดคิวได้เป็นลัด ยัดเงินได้เป็นทำ
ทำไมต้องไปอ้อมรถไกล ก็แอบกลับรถตรงนี้แหละจะทำไม ตำรวจก็ไม่มี
คนอื่นนั้นเลวววนั่นนู้นนี่ แต่กรูนั้นแสนดี ควรแก่การกราบไหว้
อลุ้มอล่วยมาก วินัยระเบียบไม่เคยมีอยู่ในสายเลือด
โดนจับได้ก็ เอาหน่า เอาหน่า
แต่ก็ชอบด่าคนอื่นว่า โกง
แต่ไม่มองตัวเอง
ล่าสุด คนที่ชอบด่าคนอื่น โกงๆๆ ที่ดูถูกถูกคนอื่นว่าด้อยการศึกษา ไปเติมน้ำมันรถ แต่ปั้มขณะนั้นมีรถเข้าเติมน้ำมันมาก
มีหนึ่งหัวจ่าย มอเตอร์ไซด์แปดคัน ต่อแถวกันเป็นระเบียบ
พี่คนนี้ จอดรถปุ๊ป เปิดประตูลงมา พูดเสียงดังมาก ว่า
"น้อง โซลฮอล์ 91 ห้าร้อย เร็วหน่อย"
เห็นเด็กปั้มมองหน้ากันปริบๆ ไม่มีใครว่าง และคนอื่นมาก่อนกันก็หลายคนหลายคัน
มอไซด์ก็แอบมองพี่ท่านด้วยสีหน้าที่สุดบรรยาย
ซักพัก เด็กปั้มคนนึงรีบมาเต็มน้ำมันให้
ไม่รู้มันกลัวอะไร พี่นี่ก็แก่แล้ว อาชีพจริงๆก็เบ่งไม่ได้ รถก็เก่าโทรม เติมก็แค่ห้าร้อย
แค่เสียงดัง แสดงท่าทางข่มขู่ เอ หรือว่าเด็กมันกลัวจะวุ่นวายเลยรีบเติมให้รีบไล่ไปก่อน
อยากให้เปิด AEC เร็วๆจริงๆ
หลายคนจะได้สำนึก
เรื่องพวกนี้สอนกันไม่ได้
ต้องให้เจอเอง
ต้องเห็นโลงศพก่อน จึงจะรู้สึก
แต่คราวนี้ น้ำตาอาจมาเป็นสายเลือด เพราะเปลี่ยนแปลงตัวเองไม่ทันแล้ว สายไปเสียแล้ว
--จบ--
ง่ายๆ แบบนี้แหละ