“ดีแลน ฟาร์โรว์” ออกโรงกล่าวหาว่า เธอเคยถูก “วู๊ดดี้ อัลเลน” ที่เป็นพ่อบุญธรรมของเธอ ล่วงละเมิดทางเพศมาตั้งแต่เธออายุเพียงแค่ 7 ขวบ และกลายเป็นฝันร้ายที่ยังคงตามหลอกหลอนเธอมาจนถึงปัจจุบัน
ดีแลน ฟาร์โรว์ เล่าเรื่องนี้ผ่านจดหมายเปิดผนึกที่เธอเขียนถึง The New York Times ซึ่งนับเป็นการเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในปี 1992 เป็นครั้งแรก โดยเธอกล่าวว่าตนเองตัดสินใจที่จะเล่าถึงเหตุการณ์อันน่าขยะแขยงครั้งนี้ เพราะรู้สึกสะเทือนใจที่เห็นคนทั้งฮอลลีวู๊ดต่างออกมาแสดงการยกย่องเชิดชูเกียรติยศต่อ วู๊ดดี้ อัลเลน ผู้กำกับชื่อดัง ทั้ง ๆ ที่เขาเคยก่อพฤติกรรมอันเลวร้ายมาก่อน
ถึงตอนนี้ วู๊ดดี้ อัลเลน ยังปฏิเสธที่จะให้ความเห็นถึงข้อกล่าวหาจากคำบอกเล่าของลูกสาวบุญธรรม เช่นเดียวกับแม่บุญธรรมของเธออย่าง นักแสดงชื่อดัง มีอา ฟาร์โรว์ ก็ยังไม่ได้ออกมาพูดอะไรเช่นเดียวกัน
โดยในจดหมาย ดีแลน ฟาร์โรว์ เล่าถึงเหตุการณ์ในปี 1992 ที่เกิดขึ้น ณ บ้านของครอบครัวในคอนเน็คติกัตว่า วู๊ดดี้ อัลเลน ได้ล่อลวงเธอเข้าไปในห้องใต้หลังคาที่มืดสลัว และกระทำการล่วงละเมิดทางเพศเธอ อย่างไรก็ตาม ดีแลน ไม่ได้แจกแจงรายละเอียดถึงสิ่งที่พ่อบุญธรรมกระทำกับเธอ แต่เธอได้เปิดเผยถึงพฤติกรรมอันไม่เหมาะสมของเขาอื่น ๆ ที่เคยทำกับเธอทั้งการ “นอนหนุนหัวบนตักเปลือย ๆ ของฉัน แล้วหายใจเข้า หายใจออกถี่ๆ” นอกจากนั้น ดีแลน ยังเคยบอกว่า วู๊ดดี้ อัลเลน ยังชอบให้เธอนอนหลับคู่กับเขาด้วย
“นานเท่าที่จำได้เลย ที่พ่อทำบางสิ่งบางอย่างกับฉัน และนั่นเป็นสิ่งที่ฉันไม่ชอบเลยค่ะ” ดีแลน ฟาร์โรว์ พูดถึงประสบการณ์อันเลวร้ายเมื่อตอนเธออายุแค่ 7 ขวบ “สิ่งเหล่านี้มันเกิดขึ้นเสมอ จนฉันคิดว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดาทั่วไป สุดท้ายกลายเป็นเรื่องกิจวัตร ด้วยความสามารถพิเศษที่จะปกปิดไม่ให้แม่รู้ ซึ่งท่านคงจะปกป้องฉันแน่ หากทราบเรื่องแบบนี้”
วู๊ดดี อัลเลน เคยโดนตำรวจสอบสวนข้อหาล่วงละเมิดทางเพศเมื่อปี 1992 มาแล้ว จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในรัฐคอนเน็คติกัต ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้สอบสวนอยู่ประมาณ 1 ปี ก่อนจะตัดสินใจไม่ตั้งข้อหาต่อผู้กำกับชื่อดัง อย่างไรก็ตามเรื่องราวคราวนั้นได้กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง โดยเฉพาะเมื่อ แฟรง เอส. มาโค อัยการผู้รับผิดชอบคดีได้กล่าวยอมรับระหว่างการแถลงข่าว ว่าอันที่จริงแล้วเขามี “เหตุผลเพียงพอ” ที่จะสั่งฟ้อง วู๊ดดี้ อัลเลน แต่สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจที่จะไม่สั่งฟ้องในคดีนี้
คดีล่วงละเมิดทางเพศลูกสาวบุญธรรมในปี 1992 นั้นเกิดขึ้นหลังจาก วู๊ดดี้ อัลเลน เริ่มมีสัมพันธ์กับ ซุนยี พรีวิน ลูกสาวบุญธรรมอีกคนของ มีอา ฟาร์โรว์ กับสามีคนก่อนของเธอ อย่างไรก็ตามแม้จะไม่ได้เป็นพ่อบุญธรรมของเด็ก ๆ โดยตรง แต่ก็ถือว่า วู๊ดดี้ อัลเลน ได้ทำหน้าที่พ่อของทั้ง ซุนยี และ ดีแลน อยู่หลายปีเช่นเดียวกัน โดยปัจจุบัน วู๊ดดี้ อัลเลน และ ซุนยี พรีวิน ยังคงครองรักกัน หลังจากแต่งงานในปี 1997 และ มีลูกสาวด้วยกัน 2 คน
เรื่องราวอื้อฉาวของ วู๊ดดี้ อัลเลน กลายเป็นจุดด่างพร้อยในอาชีพผู้กำกับของเขานับแต่นั้นเป็นต้นมา อย่างไรก็ตามแม้เขาจะโดนกระแสต่อต้านจากผู้คนมากมาย แต่อาชีพผู้กำกับภาพยนตร์ของ วู๊ดดี้ อัลเลน ก็ยังดูจะไปได้สวยอยู่ในวงกว้าง
โดยเฉพาะในระยะหลังที่เขาหันไปทำงานในตลาดยุโรป จนสามารถสร้างผลงานชั้นเยี่ยมออกมาอย่างต่อเนื่อง ทั้ง Midnight in Paris ที่ส่งให้ วู๊ดดี้ อัลเลน คว้ารางวัลออสการ์สาขาบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ส่วนผลงานล่าสุด Blue Jasmine ก็มีชื่อชิงรางวัลทั้งในสาขาบทภาพยนตร์ และนักแสดงนำของเรื่อง เคต แบลนเช็ต เองก็เป็นตัวเต็งจ๋าในรางวัลนักแสดงนำหญิงอยู่ในขณะนี้
วู๊ดดี อัลเลน ซึ่งเพิ่งจะได้รับรางวัลเกียรติยศ “เซซิล บี. เดมิล” จากเวทีลูกโลกทองคำ ท่ามกลางเสียงเชิดชูของบุคคลในวงการฮอลลีวู๊ดอย่างมากมาย ซึ่งรางวัลดังกล่าวดูจะกลายเป็นสิ่งที่สร้างความไม่พอใจให้กับครอบครัวของ มีอา ฟาร์โรว์ ที่ต่างคิดว่าคนมีพฤติกรรมอย่าง วู๊ดดี อัลเลน ไม่คู่ควรกับการยกย่องเชิดชูแบบนี้
โดย มีอา ฟาร์โรว์ ได้ทวีตข้อความระหว่างถึงช่วงที่จะมีการมอบรางวัลเกียรติยศให้ อัลเลน ว่าเธอขอเปลี่ยนช่องไปดูซีรี่ส์ เรื่อง Girl ดีกว่า ส่วน ลูกชายในสายเลือดแท้ ๆ ของเธอ และ วู๊ดดี้ อัลเลนอย่าง โรแนน ฟาร์โรว์ ก็โพสต์ข้อความจิกกัดในทวิตเตอร์ว่า “พลาดดูช่วงการยกย่องเชิดชู วู๊ดดี้ อัลเลน ไปนะ .... ว่าแต่ทางรายการ พวกเขาได้ใส่ประเด็นที่ว่าเด็กผู้หญิงคนหนึ่งยอมรับว่าเธอโดนเขาล่วงละเมิดทางเพศ ตั้งแต่ตัวเองอายุ 7 ขวบ ไว้ช่วงก่อนหรือว่าช่วงหลังเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่อง Annie Hall ล่ะเนี่ย ???”
แต่ดูเหมือนว่าสิ่งที่กำลังจะทำลายชื่อเสียงของ วู๊ดดี้ อัลเลน ลงอีกครั้งก็คือจดหมายของ ดีแลน ฟาร์โรว์ ที่ขึ้นต้นอย่างเจ็บแสบและสะเทือนใจว่า “หนังสุดโปรดของ วู๊ดดี้ อัลเลน ของคุณคือเรื่องไหนคะ ??? แต่ก่อนจะตอบก็ควรรู้เอาไว้ว่า วู๊ดดี้ อัลเลน เคยจูงมือฉันเข้าไปในห้องมืด ๆ ใต้หลังคาแล้วก็ล่วงละเมิดทางเพศฉัน”
ในเวลาเดียวกันแม้ว่าตอนนี้ วู๊ดดี้ อัลเลน จะโดนโจมตีด้วยเรื่องล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กอีกครั้ง แต่ก็ยังมีหลายคนพร้อมปกป้องเขา และตั้งข้อสงสัยไปถึงข้อกล่าวหาจากฝั่งของครอบครัว ฟาร์โรว์ เช่นเดียวกัน
โรเบิร์ต ไวเด้ ผู้กำกับสารคดี American Masters เป็นอีกคนที่ไม่เชื่อในสิ่งที่ มีอา ฟาร์โรว์ และลูก ๆ พยายามตะโกนบอกกับสังคม
โดยผู้กำกับสารคดีที่เคยนำเสนอเรื่องราวของ วู๊ดดี้ อัลเลน ในรายการของเขาแสดงความเห็นว่าเหตุการณ์ในปี 1992 ไม่เคยได้รับการพิสูจน์ว่าเกิดขึ้นจริง แม้ทาง ดีแลน กับ โรแนน จะเชื่อทุกอย่างอย่างฝังหัวว่าเกิดอะไรบางอย่างขึ้น แต่เขาก็เชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ๆ ไม่ได้เป็นไปอย่างที่ทุกคนคิด และปัจจุบัน วู๊ดดี้ อัลเลน ก็มีชีวิตที่เป็นปกติมีความสุขดี แต่เป็นลูก ๆ ของ มีอา ฟาร์โรว์ ต่างหากที่ยังคงโดนเรื่องครั้งนั้นหลอกหลอนอยู่ตลอดมา
ซึ่ง โรเบิร์ต ไวเด้ ก็แสดงความเห็นว่าการทำให้เรื่องราวทั้งหมดกลับมาเป็นข่าวอีกครั้ง คงไม่ได้เป็นการเยียวยาบาดแผลในจิตใจที่เหมาะสมเท่าใดนัก
ฝ่าย วู๊ดดี้ อัลเลน ก็เคยให้สัมภาษณ์ถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ว่าข้อกล่าวหาว่าเขาล่วงละเมิดทางเพศ ดีแลน เกิดขึ้นหลังจากความสัมพันธ์ของเขากับ ซุนยี เป็นข่าวขึ้นมา ซึ่งก็เห็นได้ชัดว่า มีอา ฟาร์โรว์ โกรธในตัวเขามาก และพยายามทำทุกอย่างเพื่อเล่นงานเขา รวมถึงทำให้ลูก ๆของเขา เกลียดชังในตัวเขาด้วย ทั้ง ๆ ที่ความจริงแล้วความสัมพันธ์ของเขากับ ดีแลน ไม่เคยมีอะไรเสียหาย เพราะเขาก็แค่เล่นกับลูกอย่างใกล้ชิดตามธรรมดา ๆ เหมือนพ่อปกติคนหนึ่งเท่านั้น
ในการให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้เมื่อหลายปีก่อน วู๊ดดี้ อัลเลน ที่เชื่อว่าลูก ๆ กล่าวหาปรักปรำเขาเพราะโดนสั่งสอนมาแบบนั้น ยังกล่าวหาว่า มีอา ฟาร์โรว์ เคยขู่เขาว่าเธอได้เตรียม “แผนการ” บางอย่างเพื่อเล่นงานเขาอย่างเจ็บแสบเอาไว้ด้วย
ซึ่งล่าสุดตัวแทนของ วู๊ดดี้ อัลเลน ได้เปิดเผยว่าเขาได้อ่านจดหมายของ ดีแลน แล้ว และยืนยันว่าสิ่งที่เธอเล่าไม่เป็นความจริง ซึ่งเขาพร้อมจะอธิบายทุกอย่างเร็ว ๆ นี้ โดยตัวแทนของผู้กำกับชื่อดังยังย้ำว่าเหตุการณ์ครั้งนั้นผ่านการสอบสวนอย่างเป็นทางการแล้ว และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องกับลงความเห็นว่าไม่มีหลักฐานที่บ่งชี้ชัดว่าเขาทำความผิดอย่างที่ได้ถูกกล่าวหา
โดยปัจจุบัน ดีแลน ฟาร์โรว์ ได้เปลี่ยนชื่อเสียงเรียงนามไปแล้ว และใช้ชีวิตแต่งงานที่เธอบอกว่ามีความสุขดีในรัฐฟลอริดา อย่างไรก็ตามเธอก็ยังกล่าวย้ำในจดหมายว่าอยากให้ทุกคนจดจำเรื่องราวต่าง ๆไว้ ถึงแม้จะเป็นประสบการณ์อันเลวร้ายของเธอเอาไว้
http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9570000013082
ลูกสาวบุญธรรมอีกคน แฉพฤติกรรมกามล่วงละเมิดเด็ก “วู๊ดดี้ อัลเลน” ถามกลับฮอลลีวู๊ด คนแบบนี้หรือที่ยกย่องให้เป็นตำนาน
ดีแลน ฟาร์โรว์ เล่าเรื่องนี้ผ่านจดหมายเปิดผนึกที่เธอเขียนถึง The New York Times ซึ่งนับเป็นการเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในปี 1992 เป็นครั้งแรก โดยเธอกล่าวว่าตนเองตัดสินใจที่จะเล่าถึงเหตุการณ์อันน่าขยะแขยงครั้งนี้ เพราะรู้สึกสะเทือนใจที่เห็นคนทั้งฮอลลีวู๊ดต่างออกมาแสดงการยกย่องเชิดชูเกียรติยศต่อ วู๊ดดี้ อัลเลน ผู้กำกับชื่อดัง ทั้ง ๆ ที่เขาเคยก่อพฤติกรรมอันเลวร้ายมาก่อน
ถึงตอนนี้ วู๊ดดี้ อัลเลน ยังปฏิเสธที่จะให้ความเห็นถึงข้อกล่าวหาจากคำบอกเล่าของลูกสาวบุญธรรม เช่นเดียวกับแม่บุญธรรมของเธออย่าง นักแสดงชื่อดัง มีอา ฟาร์โรว์ ก็ยังไม่ได้ออกมาพูดอะไรเช่นเดียวกัน
โดยในจดหมาย ดีแลน ฟาร์โรว์ เล่าถึงเหตุการณ์ในปี 1992 ที่เกิดขึ้น ณ บ้านของครอบครัวในคอนเน็คติกัตว่า วู๊ดดี้ อัลเลน ได้ล่อลวงเธอเข้าไปในห้องใต้หลังคาที่มืดสลัว และกระทำการล่วงละเมิดทางเพศเธอ อย่างไรก็ตาม ดีแลน ไม่ได้แจกแจงรายละเอียดถึงสิ่งที่พ่อบุญธรรมกระทำกับเธอ แต่เธอได้เปิดเผยถึงพฤติกรรมอันไม่เหมาะสมของเขาอื่น ๆ ที่เคยทำกับเธอทั้งการ “นอนหนุนหัวบนตักเปลือย ๆ ของฉัน แล้วหายใจเข้า หายใจออกถี่ๆ” นอกจากนั้น ดีแลน ยังเคยบอกว่า วู๊ดดี้ อัลเลน ยังชอบให้เธอนอนหลับคู่กับเขาด้วย
“นานเท่าที่จำได้เลย ที่พ่อทำบางสิ่งบางอย่างกับฉัน และนั่นเป็นสิ่งที่ฉันไม่ชอบเลยค่ะ” ดีแลน ฟาร์โรว์ พูดถึงประสบการณ์อันเลวร้ายเมื่อตอนเธออายุแค่ 7 ขวบ “สิ่งเหล่านี้มันเกิดขึ้นเสมอ จนฉันคิดว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดาทั่วไป สุดท้ายกลายเป็นเรื่องกิจวัตร ด้วยความสามารถพิเศษที่จะปกปิดไม่ให้แม่รู้ ซึ่งท่านคงจะปกป้องฉันแน่ หากทราบเรื่องแบบนี้”
วู๊ดดี อัลเลน เคยโดนตำรวจสอบสวนข้อหาล่วงละเมิดทางเพศเมื่อปี 1992 มาแล้ว จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในรัฐคอนเน็คติกัต ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้สอบสวนอยู่ประมาณ 1 ปี ก่อนจะตัดสินใจไม่ตั้งข้อหาต่อผู้กำกับชื่อดัง อย่างไรก็ตามเรื่องราวคราวนั้นได้กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง โดยเฉพาะเมื่อ แฟรง เอส. มาโค อัยการผู้รับผิดชอบคดีได้กล่าวยอมรับระหว่างการแถลงข่าว ว่าอันที่จริงแล้วเขามี “เหตุผลเพียงพอ” ที่จะสั่งฟ้อง วู๊ดดี้ อัลเลน แต่สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจที่จะไม่สั่งฟ้องในคดีนี้
คดีล่วงละเมิดทางเพศลูกสาวบุญธรรมในปี 1992 นั้นเกิดขึ้นหลังจาก วู๊ดดี้ อัลเลน เริ่มมีสัมพันธ์กับ ซุนยี พรีวิน ลูกสาวบุญธรรมอีกคนของ มีอา ฟาร์โรว์ กับสามีคนก่อนของเธอ อย่างไรก็ตามแม้จะไม่ได้เป็นพ่อบุญธรรมของเด็ก ๆ โดยตรง แต่ก็ถือว่า วู๊ดดี้ อัลเลน ได้ทำหน้าที่พ่อของทั้ง ซุนยี และ ดีแลน อยู่หลายปีเช่นเดียวกัน โดยปัจจุบัน วู๊ดดี้ อัลเลน และ ซุนยี พรีวิน ยังคงครองรักกัน หลังจากแต่งงานในปี 1997 และ มีลูกสาวด้วยกัน 2 คน
เรื่องราวอื้อฉาวของ วู๊ดดี้ อัลเลน กลายเป็นจุดด่างพร้อยในอาชีพผู้กำกับของเขานับแต่นั้นเป็นต้นมา อย่างไรก็ตามแม้เขาจะโดนกระแสต่อต้านจากผู้คนมากมาย แต่อาชีพผู้กำกับภาพยนตร์ของ วู๊ดดี้ อัลเลน ก็ยังดูจะไปได้สวยอยู่ในวงกว้าง
โดยเฉพาะในระยะหลังที่เขาหันไปทำงานในตลาดยุโรป จนสามารถสร้างผลงานชั้นเยี่ยมออกมาอย่างต่อเนื่อง ทั้ง Midnight in Paris ที่ส่งให้ วู๊ดดี้ อัลเลน คว้ารางวัลออสการ์สาขาบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ส่วนผลงานล่าสุด Blue Jasmine ก็มีชื่อชิงรางวัลทั้งในสาขาบทภาพยนตร์ และนักแสดงนำของเรื่อง เคต แบลนเช็ต เองก็เป็นตัวเต็งจ๋าในรางวัลนักแสดงนำหญิงอยู่ในขณะนี้
วู๊ดดี อัลเลน ซึ่งเพิ่งจะได้รับรางวัลเกียรติยศ “เซซิล บี. เดมิล” จากเวทีลูกโลกทองคำ ท่ามกลางเสียงเชิดชูของบุคคลในวงการฮอลลีวู๊ดอย่างมากมาย ซึ่งรางวัลดังกล่าวดูจะกลายเป็นสิ่งที่สร้างความไม่พอใจให้กับครอบครัวของ มีอา ฟาร์โรว์ ที่ต่างคิดว่าคนมีพฤติกรรมอย่าง วู๊ดดี อัลเลน ไม่คู่ควรกับการยกย่องเชิดชูแบบนี้
โดย มีอา ฟาร์โรว์ ได้ทวีตข้อความระหว่างถึงช่วงที่จะมีการมอบรางวัลเกียรติยศให้ อัลเลน ว่าเธอขอเปลี่ยนช่องไปดูซีรี่ส์ เรื่อง Girl ดีกว่า ส่วน ลูกชายในสายเลือดแท้ ๆ ของเธอ และ วู๊ดดี้ อัลเลนอย่าง โรแนน ฟาร์โรว์ ก็โพสต์ข้อความจิกกัดในทวิตเตอร์ว่า “พลาดดูช่วงการยกย่องเชิดชู วู๊ดดี้ อัลเลน ไปนะ .... ว่าแต่ทางรายการ พวกเขาได้ใส่ประเด็นที่ว่าเด็กผู้หญิงคนหนึ่งยอมรับว่าเธอโดนเขาล่วงละเมิดทางเพศ ตั้งแต่ตัวเองอายุ 7 ขวบ ไว้ช่วงก่อนหรือว่าช่วงหลังเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่อง Annie Hall ล่ะเนี่ย ???”
แต่ดูเหมือนว่าสิ่งที่กำลังจะทำลายชื่อเสียงของ วู๊ดดี้ อัลเลน ลงอีกครั้งก็คือจดหมายของ ดีแลน ฟาร์โรว์ ที่ขึ้นต้นอย่างเจ็บแสบและสะเทือนใจว่า “หนังสุดโปรดของ วู๊ดดี้ อัลเลน ของคุณคือเรื่องไหนคะ ??? แต่ก่อนจะตอบก็ควรรู้เอาไว้ว่า วู๊ดดี้ อัลเลน เคยจูงมือฉันเข้าไปในห้องมืด ๆ ใต้หลังคาแล้วก็ล่วงละเมิดทางเพศฉัน”
ในเวลาเดียวกันแม้ว่าตอนนี้ วู๊ดดี้ อัลเลน จะโดนโจมตีด้วยเรื่องล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กอีกครั้ง แต่ก็ยังมีหลายคนพร้อมปกป้องเขา และตั้งข้อสงสัยไปถึงข้อกล่าวหาจากฝั่งของครอบครัว ฟาร์โรว์ เช่นเดียวกัน
โรเบิร์ต ไวเด้ ผู้กำกับสารคดี American Masters เป็นอีกคนที่ไม่เชื่อในสิ่งที่ มีอา ฟาร์โรว์ และลูก ๆ พยายามตะโกนบอกกับสังคม
โดยผู้กำกับสารคดีที่เคยนำเสนอเรื่องราวของ วู๊ดดี้ อัลเลน ในรายการของเขาแสดงความเห็นว่าเหตุการณ์ในปี 1992 ไม่เคยได้รับการพิสูจน์ว่าเกิดขึ้นจริง แม้ทาง ดีแลน กับ โรแนน จะเชื่อทุกอย่างอย่างฝังหัวว่าเกิดอะไรบางอย่างขึ้น แต่เขาก็เชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ๆ ไม่ได้เป็นไปอย่างที่ทุกคนคิด และปัจจุบัน วู๊ดดี้ อัลเลน ก็มีชีวิตที่เป็นปกติมีความสุขดี แต่เป็นลูก ๆ ของ มีอา ฟาร์โรว์ ต่างหากที่ยังคงโดนเรื่องครั้งนั้นหลอกหลอนอยู่ตลอดมา
ซึ่ง โรเบิร์ต ไวเด้ ก็แสดงความเห็นว่าการทำให้เรื่องราวทั้งหมดกลับมาเป็นข่าวอีกครั้ง คงไม่ได้เป็นการเยียวยาบาดแผลในจิตใจที่เหมาะสมเท่าใดนัก
ฝ่าย วู๊ดดี้ อัลเลน ก็เคยให้สัมภาษณ์ถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ว่าข้อกล่าวหาว่าเขาล่วงละเมิดทางเพศ ดีแลน เกิดขึ้นหลังจากความสัมพันธ์ของเขากับ ซุนยี เป็นข่าวขึ้นมา ซึ่งก็เห็นได้ชัดว่า มีอา ฟาร์โรว์ โกรธในตัวเขามาก และพยายามทำทุกอย่างเพื่อเล่นงานเขา รวมถึงทำให้ลูก ๆของเขา เกลียดชังในตัวเขาด้วย ทั้ง ๆ ที่ความจริงแล้วความสัมพันธ์ของเขากับ ดีแลน ไม่เคยมีอะไรเสียหาย เพราะเขาก็แค่เล่นกับลูกอย่างใกล้ชิดตามธรรมดา ๆ เหมือนพ่อปกติคนหนึ่งเท่านั้น
ในการให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้เมื่อหลายปีก่อน วู๊ดดี้ อัลเลน ที่เชื่อว่าลูก ๆ กล่าวหาปรักปรำเขาเพราะโดนสั่งสอนมาแบบนั้น ยังกล่าวหาว่า มีอา ฟาร์โรว์ เคยขู่เขาว่าเธอได้เตรียม “แผนการ” บางอย่างเพื่อเล่นงานเขาอย่างเจ็บแสบเอาไว้ด้วย
ซึ่งล่าสุดตัวแทนของ วู๊ดดี้ อัลเลน ได้เปิดเผยว่าเขาได้อ่านจดหมายของ ดีแลน แล้ว และยืนยันว่าสิ่งที่เธอเล่าไม่เป็นความจริง ซึ่งเขาพร้อมจะอธิบายทุกอย่างเร็ว ๆ นี้ โดยตัวแทนของผู้กำกับชื่อดังยังย้ำว่าเหตุการณ์ครั้งนั้นผ่านการสอบสวนอย่างเป็นทางการแล้ว และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องกับลงความเห็นว่าไม่มีหลักฐานที่บ่งชี้ชัดว่าเขาทำความผิดอย่างที่ได้ถูกกล่าวหา
โดยปัจจุบัน ดีแลน ฟาร์โรว์ ได้เปลี่ยนชื่อเสียงเรียงนามไปแล้ว และใช้ชีวิตแต่งงานที่เธอบอกว่ามีความสุขดีในรัฐฟลอริดา อย่างไรก็ตามเธอก็ยังกล่าวย้ำในจดหมายว่าอยากให้ทุกคนจดจำเรื่องราวต่าง ๆไว้ ถึงแม้จะเป็นประสบการณ์อันเลวร้ายของเธอเอาไว้
http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9570000013082