แนวโน้มราคา SET50 ล่วงหน้า
ปัจจัยทีมีผลกระทบต่อ SET50
ตลาดหุ้นสหรัฐกลับมาปรับตัวลงแรง จากเรื่องผลประกอบการภายในและความกังวลเกี่ยวกันเงินทุนไหลออกในตลาดเกิดใหม่ หลังค่าเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าเร็วจากเงินเฟ้อยุโรปที่ออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้มาก โดยเพิ่มขึ้นเพียง 0.7% ต่ำกว่าที่คาดไว้ที่ 0.9% ถือว่ามีนัยสำคัญ เนื่องจากตัวเลขดังกล่าวปกติไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนัก และยิ่งเพิ่มความกังวลเรื่องเงินฝืดในยูโรโซนที่ก่อนหน้ามีความกังวลกันอยู่แล้ว ตลาดเริ่มคาดการณ์กันว่าทาง ECB อาจใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มมากขึ้น ภาพรวมดอลลาร์ที่แข็งค่าจะกดดันเงินทุนไหลออกจากเอเชียและประเทศเกิดใหม่ให้เร็วขึ้น ส่งผลให้ตลาดหุ้นในเอเชียได้รับผลกระทบเชิงลบ อย่างไรก็ตามค่าเงินบาทเช้านี้กลับแข็งค่า แทนที่ปกติมักจะอ่อนค่าจากดอลลาร์แข็ง ทำให้โดยรวมจะส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวดีกว่าภูมิภาคจากค่าเงินบาทที่กลับมาแข็งค่า ซึ่งคาดว่าส่วนหนึ่งเหตุการณ์การเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ผ่านมาไม่ได้มีความรุนแรงอย่างที่ตลาดกังวลกันจะเป็นปัจจัยหนุน ส่วนผลสรุปผลการเลือกตั้งมีผู้ใช้สิทธิน้อยกว่าทุกครั้งโดยเฉพาะในกรุงเทพฯมีผู้ลงคะแนนเพียง 26.18% ถือว่าน้อย ในขณะที่ทั้งประเทศเปิดหน่วยลงคะแนนได้เพียง 89.2% ซึ่งในช่วงปกติควรเปิดหน่วยลงคะแนนให้ได้เกือบ 100% ภาพรวมยังต้องมีการเปิดหน่วยเลือกตั้งที่ยังไม่สามารถเปิดหน่วยได้อีก และต้องติดตามว่าการเลือกตั้งมีปัญหาเป็นโมฆะตามที่หลายฝ่ายให้ข้อสังเกตหรือไม่ โดยรวมเหตุการณ์ที่ไม่รุนแรง ถือว่าจะเป็นปัจจัยบวกต่อตลาด อย่างไรก็ตาม ตลาดก็มีแรงซื้อเข้ามาตั้งแต่ช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมาในระดับหนึ่งแล้ว ซึ่งเป็นแรงซื้อของนักลงทุนสถาบันที่ในช่วงปลายปีไม่ได้มียอดซื้อสุทธิสูงอย่างที่เคยเกิดขึ้นในทุกปีๆ ภาพรวมเราคาดว่าสถานการณ์จะเริ่มงวดเข้ามาทุกทีและมีโอกาสสุกงอมมากขึ้น
ปัจจัยเงินทุนไหลเข้า-ออก: นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิใน SET -2,375 ล้านบาท ส่วนในตลาด TFEX ต่างชาติซื้อสุทธิ +417 สัญญา
ความเห็น SET50 ฟิวเจอร์
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาตลาดสามารถปรับตัวขึ้น แต่ยังไม่ถึงแนวต้านแรกที่ให้ไวที่ 860 จุด ทำจุดสูงสุดที่เพียง 857.30 จุด ก่อนมีช่วงชะลอตัวลง ทิศทางในระยะสั้นประเมินว่ายังคงมีแนวต้านที่ทำให้ชะลอตัวอยู่ที่บริเวณ 860 หรือ 868 จุด ส่วนแนวรับที่มีนัยสำคัญอยู่ที่ 852-850 จุด หากยังไม่หลุดต่ำกว่ายังไม่เสียทิศทางบวก โดย Basis อยู่ที่ -9.44 จุดถือว่าต่ำกว่าระดับที่ควรจะเป็นที่ -8 จุด ทำให้ฟิวเจอร์จะปรับตัวขึ้นได้มากกว่า SET50 เล็กน้อย
กลยุทธ์ระบบเทรด ระบบ TTS คงฐานะ Long ที่ 863.10 จุด, TTS—M คง short ที่ 846.90 จุด และ TTS---L คง short ที่ 849 (หากต้องการเล่นตามระบบ TTS แนะนำให้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่แทนการรับ SMS เพียงอย่างเดียว เนื่องจากสัญญาณ SMS อาจล่าช้าหรืออาจสูญหายและสามารถติดตามได้ทาง
http://www.kgieworld.co.th/th/tts/index.asp ซึ่ง Update ทุกๆ 5 นาที)
กลยุทธ์ปกติ: แนะนำให้ ถือ Long ต่อ โดยอาจพิจารณาขายทำกำไรสั้นๆหากถึงแนวต้านสอง แล้วค่อยรอซื้อกลับช่วงย่อ
ตัดขาดทุน : ให้ ปิด Long หาก S50H14 ต่ำกว่า 844 จุด
KGI ระบบ TTS- ยัง Long at 863.1
ปัจจัยทีมีผลกระทบต่อ SET50
ตลาดหุ้นสหรัฐกลับมาปรับตัวลงแรง จากเรื่องผลประกอบการภายในและความกังวลเกี่ยวกันเงินทุนไหลออกในตลาดเกิดใหม่ หลังค่าเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าเร็วจากเงินเฟ้อยุโรปที่ออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้มาก โดยเพิ่มขึ้นเพียง 0.7% ต่ำกว่าที่คาดไว้ที่ 0.9% ถือว่ามีนัยสำคัญ เนื่องจากตัวเลขดังกล่าวปกติไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนัก และยิ่งเพิ่มความกังวลเรื่องเงินฝืดในยูโรโซนที่ก่อนหน้ามีความกังวลกันอยู่แล้ว ตลาดเริ่มคาดการณ์กันว่าทาง ECB อาจใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มมากขึ้น ภาพรวมดอลลาร์ที่แข็งค่าจะกดดันเงินทุนไหลออกจากเอเชียและประเทศเกิดใหม่ให้เร็วขึ้น ส่งผลให้ตลาดหุ้นในเอเชียได้รับผลกระทบเชิงลบ อย่างไรก็ตามค่าเงินบาทเช้านี้กลับแข็งค่า แทนที่ปกติมักจะอ่อนค่าจากดอลลาร์แข็ง ทำให้โดยรวมจะส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวดีกว่าภูมิภาคจากค่าเงินบาทที่กลับมาแข็งค่า ซึ่งคาดว่าส่วนหนึ่งเหตุการณ์การเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ผ่านมาไม่ได้มีความรุนแรงอย่างที่ตลาดกังวลกันจะเป็นปัจจัยหนุน ส่วนผลสรุปผลการเลือกตั้งมีผู้ใช้สิทธิน้อยกว่าทุกครั้งโดยเฉพาะในกรุงเทพฯมีผู้ลงคะแนนเพียง 26.18% ถือว่าน้อย ในขณะที่ทั้งประเทศเปิดหน่วยลงคะแนนได้เพียง 89.2% ซึ่งในช่วงปกติควรเปิดหน่วยลงคะแนนให้ได้เกือบ 100% ภาพรวมยังต้องมีการเปิดหน่วยเลือกตั้งที่ยังไม่สามารถเปิดหน่วยได้อีก และต้องติดตามว่าการเลือกตั้งมีปัญหาเป็นโมฆะตามที่หลายฝ่ายให้ข้อสังเกตหรือไม่ โดยรวมเหตุการณ์ที่ไม่รุนแรง ถือว่าจะเป็นปัจจัยบวกต่อตลาด อย่างไรก็ตาม ตลาดก็มีแรงซื้อเข้ามาตั้งแต่ช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมาในระดับหนึ่งแล้ว ซึ่งเป็นแรงซื้อของนักลงทุนสถาบันที่ในช่วงปลายปีไม่ได้มียอดซื้อสุทธิสูงอย่างที่เคยเกิดขึ้นในทุกปีๆ ภาพรวมเราคาดว่าสถานการณ์จะเริ่มงวดเข้ามาทุกทีและมีโอกาสสุกงอมมากขึ้น
ปัจจัยเงินทุนไหลเข้า-ออก: นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิใน SET -2,375 ล้านบาท ส่วนในตลาด TFEX ต่างชาติซื้อสุทธิ +417 สัญญา
ความเห็น SET50 ฟิวเจอร์
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาตลาดสามารถปรับตัวขึ้น แต่ยังไม่ถึงแนวต้านแรกที่ให้ไวที่ 860 จุด ทำจุดสูงสุดที่เพียง 857.30 จุด ก่อนมีช่วงชะลอตัวลง ทิศทางในระยะสั้นประเมินว่ายังคงมีแนวต้านที่ทำให้ชะลอตัวอยู่ที่บริเวณ 860 หรือ 868 จุด ส่วนแนวรับที่มีนัยสำคัญอยู่ที่ 852-850 จุด หากยังไม่หลุดต่ำกว่ายังไม่เสียทิศทางบวก โดย Basis อยู่ที่ -9.44 จุดถือว่าต่ำกว่าระดับที่ควรจะเป็นที่ -8 จุด ทำให้ฟิวเจอร์จะปรับตัวขึ้นได้มากกว่า SET50 เล็กน้อย
กลยุทธ์ระบบเทรด ระบบ TTS คงฐานะ Long ที่ 863.10 จุด, TTS—M คง short ที่ 846.90 จุด และ TTS---L คง short ที่ 849 (หากต้องการเล่นตามระบบ TTS แนะนำให้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่แทนการรับ SMS เพียงอย่างเดียว เนื่องจากสัญญาณ SMS อาจล่าช้าหรืออาจสูญหายและสามารถติดตามได้ทาง http://www.kgieworld.co.th/th/tts/index.asp ซึ่ง Update ทุกๆ 5 นาที)
กลยุทธ์ปกติ: แนะนำให้ ถือ Long ต่อ โดยอาจพิจารณาขายทำกำไรสั้นๆหากถึงแนวต้านสอง แล้วค่อยรอซื้อกลับช่วงย่อ
ตัดขาดทุน : ให้ ปิด Long หาก S50H14 ต่ำกว่า 844 จุด