ก่อนอื่นขอออกตัวก่อนนะครับว่า ไอดีนี้เป็นไอดีของเพื่อน ขอยืมมาเล่าสู่กันฟังครับ
มันเป็นเรื่องจริง แต่โครตยิ่งกว่านิทานเลยครับ
นิทานเรื่องนึง ของคนที่เคยรู้จักกัน เคยมีความรู้สึกดีๆให้กันจนมาพังไป
นิทานของความไว้ใจ...ความซื่อสัตย์ และการโกหกต่างๆ
ผู้ชายคนนึงเป็นนักศึกษา อายุน้อยกว่า 2 ปี ..ได้ทำความรู้จักกับผู้หญิงคนนึงซึ่งเพิ่งจะจบพยาบาลใหม่ๆจากมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังแถวๆสมุทรปราการ กำลังจะเริ่มชีวิตการทำงาน เริ่มทำความรู้จักกันไม่ได้ถึงกับคบกัน แค่ดูๆกัน
มองแวบแรก สองคนนี้ก็คงเป็นคนที่เข้ากันดีใช่ไหมครับ ?
ถ้าไม่ใช่ว่า เกิดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันทำให้เขาทั้งสองรู้สึกว่า...ไม่ไว้ใจกัน
ทั้งสองคนตกลงกันว่า หญิงดูคนนาน ชายจึงตกลง ทั้งๆที่ชายเคยมีอคติกับการที่ต้องรอผู้หญิงคนนึงมา แต่เขากลับหนีไปคบกับคนอื่น ทั้งๆที่เขาพูดว่า รอเขานะ
เริ่มแรกเหตุที่ทำให้ไม่ไว้ใจทางฝ่ายชายมีเรียนในวันเสาร์เพิ่ม..ทางฝ่ายหญิงเพิ่งลงเวรดึกมาตอนเช้า แต่ฝ่ายหญิงบอกกับฝ่ายชายว่านอนละ แต่ฝ่ายชายบังเอิญเจอที่จตุจักรขขณะนั่งรถกลับ และเป็นการเจอที่ไม่คิดว่าจะเจอเพราะเขาเชื่อใจมาตลอด ว่าทางนี้ไม่น่าโกหก
เขาเดินดูของ จนจะกลับดันมาเจอกันบนรถไฟฟ้าอีกรอบ โบกี้เดียวกัน ฝ่ายหญิงเห็นว่าฝ่ายชายเงียบ ฝ่ายหญิงเลยทักไลน์มาว่า ทำไรอยู่ ฝ่ายชายบอกว่า มาเดินเล่นกับเพื่อนที่จตุจักรซึ่งเป็นความจริงของเขา แต่ทางฝ่ายหญิงกลับโกหกว่านอนอยู่
ฝ่ายชายรู้ กลับไม่ตอบ....ไม่พูดว่ารู้ความจริง ทั้งๆที่ตัวเองควรพูด
หลังจากนั้นไม่มีไรเกิดขึ้น ฝ่ายชายยังทำหน้าที่ตามเดิม ไปรับไปส่ง ประจวบกับฝ่ายหญิงอยากย้าย รพ ใหม่ จึงไปหา รพ อื่นๆฝ่ายชายก็ยังพาไปเพราะไม่อยากให้ไปคนเดียว
จนกระทั่งวันนึง...ฝ่ายชายได้รู้เรื่องๆนึง ซึ่งไม่น่าจะเกิดขึ้นคือเพื่อนฝ่ายชาย ซึ่งเป็นคนเล่นไลน์ประจำ ชอบหาเพื่อนในไลน์ จึงได้ไปเจอ หญิง ซึ่งโพสหาเพื่อนเอาไว้ และโพสว่า "เหงา หาเพื่อน หาแฟน แอดมาคุยกันเยอะๆนะคะ" ซึ่งฝ่ายเพื่อนก็จำได้ว่าเป็นคนที่ชายกำลังดูๆกันอยู่ จึงทำให้ฝ่ายชายรู้สึกเสียใจมาก
หลังจากนั้น ฝ่ายชายก็ไม่เคยถามอีกเช่นเคย เก็บคำถามเอาไว้ในใจตลอด
จนกระทั่งมีการโพสซ้ำสอง แต่กลับเพศเป็น "เลสเบี้ยน" ทีนี้ฝ่ายหญิงได้คุยกับผู้ชายคนนึง เห็นว่าเป็นทหาร ฝ่ายหญิงหาว่าเป็นชายปลอมมาคุย ซึ่งฝ่ายชายไม่เคยปลอมไปเลย.... จนฝ่ายชายเริ่มสงสัย
ฝ่ายชายมีคำถามในใจ เราทำอะไรผิดหรือเปล่า ? เขาระแคะระคายเรื่องนี้มาก จึงแกล้งพูดว่าเพื่อนโดนแฟนทิ้งไปคบหญิงด้วยกัน มานั่งปลอบเพื่อนก่อน เพราะอยากรู้ว่า เขาเป็นเลสจริงอย่างที่เขาโพสในเว็บหาไลน์หรือไม่
ฝ่ายหญิงได้แต่ตอบอ้อมๆ ไม่ตอบตามจริง...แต่ฝ่ายชายก็ไม่อยากถามมาก จะได้ไม่ต้องมีปัญหา
สุดท้ายฝ่ายชายก็รู้ว่า หญิงโกหก แต่เขาเลือกที่จะไม่พูด
จนกระทั่งมีวันนึง....ฝ่ายหญิงตกลงปลงใจว่าจะเปลี่ยนที่ทำงานแน่นอนจึงไปสมัคร รพ ใหม่จากนั้นทั้งคู่รวมถึงเพื่อนทอมอีกคนของหญิง ดันชวนกันไปดูดวง
หมอดูดันทะลึ่ง ดูดวงว่า ชายแค่หวังฟันหญิง ซึ่งจริงๆมันไม่ใช่ตามที่ดู
แต่ฝ่ายหญิงหมอดูดันทักว่าไม่ซื่อสัตย์...ซึ่งมันก็ตรงตามที่ฝ่ายชายเคยสงสัย เพราะที่ผ่านมาเหมือนฝ่ายหญิงจะไม่พูดสิ่งที่ตัวเองคิดอยู่
คืนนั้นฝ่ายชายอยากวัดใจเลยแกล้งพูดไปว่า "เคยยิงคนตาย" ซึ่งเป็นการโกหกที่ผิดพลาดที่สุดในชีวิต เพราะมันทำให้ฝ่ายหญิงรู้สึกไม่อยากคุยกับผู้ชายคนนี้ต่อไป เพราะกลัวว่าฝ่ายชายจะทำอะไรรุนแรงกับเขา
หลังจากนั้นได้ไม่กี่วัน ชายมีสอบไฟนอล ฝ่ายหญิงกำลังมีแผนจะกลับบ้านเดือนนึงก่อนกลับมาทำงาน... ก่อนที่ฝ่ายหญิงจะกลับได้ 1 วัน ในคืนนั้นฝ่ายหญิงพูดว่า ขอคุยแบบเพื่อนไปก่อนได้มั้ย อยากใช้ชีวิตโสดๆไปก่อนซักปีสองปี ค่อยคิดเรื่องชีวิตคู่
คุณคิดกันมั้ยครับ ? ว่ามันเกี่ยวยังไง การดูๆกันมันไม่จำเป็นต้องมานั่งคิดเรื่องพวกนี้หรอกครับ
คืนนั้น ฝ่ายชายไม่เรียกร้อง และไม่พูด ไม่ร้องขอ ไม่ถามว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ เขาถามแค่ว่า ที่ผ่านมา เธอคิดว่าเขาเป็นคนยังไงหรอ ? ถามตรงๆ เขาอยากรู้สาเหตุว่าเกิดอะไรขึ้น ฝ่ายหญิงก็บอกว่า มันมีเหตุผลบางอย่างที่เขาบอกไม่ได้
ฝ่ายหญิงตอบแค่ว่า "สุภาพบุรุษดี แต่คิดมากไปหน่อย" ตามจริงแผนกำหนดกลับของฝ่ายหญิงเป็นวันที่ฝ่ายชายสอบวันสุดท้ายพอดีเขาเลยกะว่าจะไปส่งเธอที่หมอชิตและไปเรียนต่อ เพราะมหาวิทยาลัยอยู่แค่ตรงพระราม7 ซึ่งเขาก็ยังรับปากว่าจะไปส่งตอนเช้าก่อนกลับและอยู่เป็นเพื่อนก่อนเขาจะไปสอบ.....
20 กว่าวันที่เขาทนว่าฝ่ายหญิงจะกลับมา และกะว่าจะไปเที่ยวชลบุรีด้วยกัน เพราะเขาไม่เคยไปต่างจังหวัดกับผู้หญิงคนไหน
หลังจากหญิงกลับมา เขาได้ไปเที่ยวด้วยกันก็จริง แต่สิ่งหนึ่งที่กลับมาแล้วไม่เหมือนเดิมคือ เหมือนว่าฝ่ายหญิงเริ่มระแวงฝ่ายชายว่าจะไปทำอะไรเขา ซึ่ง....ที่ผ่านมาฝ่ายชายแทบจะไม่เคยทำอะไรแบบนั้นแม้แต่จะคิด ซึ่งเรื่องนี้ฝ่ายชายไม่เคยรู้อะไรเลย
ที่ผ่านมาฝ่ายชายก็โพสเฟสไปเรื่อยตามประสา แต่ส่วนใหญ่ช่วงนั้นเพื่อนจะเกรียนๆในเฟสเขาประจำ จนกระทั่ง ฝ่ายหญิงบอกว่า "สาเหตุที่เขาออกห่างออกมา เพราะเรื่องโพสเฟสนี่ละ" ฝ่ายชายจึงปรับปรุงตัว ไม่โพสอะไรเลย
ช่วงนั้น แฟนเก่าฝ่ายชาย เรียกว่าคนรักเก่าดีกว่า กลับมาขอคืนดี ซึ่งในตอนนั้นฝ่ายชายเองก็ยังยืนยันคำนั้นว่าจะรอ เพราะคิดว่าไหนๆก็ทำดีมาครึ่งทางแล้ว เขายังอยากจะทำต่อ
แต่ยิ่งทำก็เหมือนว่าเขาจะยังไม่ไว้ใจ
จนกระทั่ง ฝ่ายหญิงได้ไปรู้จักกับเด็กที่มหาวิทยาลัยของชายคนนึงซึ่งเป็นเลสเบี้ยนเหมือนกัน เพราะว่า ฝ่ายหญิงได้เอาไอดีไปโพสในเว็บหาเพื่อนไลน์ อีกแล้ว
ฝ่ายหญิงคุยเป็นตุเป็นตะ กับเด็กคนนี้ ซึ่งไม่เคยรู้จักกันเลยกับเขา หญิงบอกหมดเรื่องที่ชายเคยสงสัยว่าหญิงเป็นเลส ทั้งเรื่องที่เขาไม่ไว้ใจชายยังไง ทั้งเรื่องที่เขาโกหกฝ่ายชายยังไง โดยที่ฝ่ายชายไม่รู้ และ ฝ่ายหญิงพูดว่า ที่ขอออกมาห่างๆเพราะอยากจะกลับมาคบกับหญิงก่อนซักปีสองปีค่อยกลับไปคบกับเขา เหมือนตอนแรกๆฝ่ายหญิงไว้ใจเด็กคนนี้มาก จนเล่าอะไรหลายอย่าง รวมถึงจีบเด็กคนนี้ด้วย ซึ่งเด็กคนนี้กลับกลัวจึงไม่ยอมคุยทางโทรศัพท์ด้วย เพราะฝ่ายหญิงได้พยายามโทรไลน์บ่อย จนเขาไม่ไว้ใจ เพราะเด็กคนนี้อยากจะคุยแค่ผ่านๆ ไม่ได้ต้องการทำความรู้จักฝ่ายหญิงขนาดนั้น รวมถึงการที่ฝ่ายหญิงส่งคนมาสืบฝ่ายชาย ว่าพฤติกรรมที่มหาวิทยาลัยเป็นยังไง เด็กก็รับปากว่าจะทำให้ แต่ก็แค่รับปากไม่คิดว่าจะทำ
แต่เรื่องบังเอิญ(ซวย)เรื่องที่สองคือ เด็กคนนี้ดันรู้จักกับเพื่อนที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่อนุบาลของฝ่ายชายนี่สิ เรื่องจึงเกิด
เดี๋ยวมาเล่าต่อครับ เรื่องมันยาวครับ
จากใจผู้ชายคนนึงครับ ขอเล่าความรู้สึกหน่อยครับ
มันเป็นเรื่องจริง แต่โครตยิ่งกว่านิทานเลยครับ
นิทานเรื่องนึง ของคนที่เคยรู้จักกัน เคยมีความรู้สึกดีๆให้กันจนมาพังไป
นิทานของความไว้ใจ...ความซื่อสัตย์ และการโกหกต่างๆ
ผู้ชายคนนึงเป็นนักศึกษา อายุน้อยกว่า 2 ปี ..ได้ทำความรู้จักกับผู้หญิงคนนึงซึ่งเพิ่งจะจบพยาบาลใหม่ๆจากมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังแถวๆสมุทรปราการ กำลังจะเริ่มชีวิตการทำงาน เริ่มทำความรู้จักกันไม่ได้ถึงกับคบกัน แค่ดูๆกัน
มองแวบแรก สองคนนี้ก็คงเป็นคนที่เข้ากันดีใช่ไหมครับ ?
ถ้าไม่ใช่ว่า เกิดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันทำให้เขาทั้งสองรู้สึกว่า...ไม่ไว้ใจกัน
ทั้งสองคนตกลงกันว่า หญิงดูคนนาน ชายจึงตกลง ทั้งๆที่ชายเคยมีอคติกับการที่ต้องรอผู้หญิงคนนึงมา แต่เขากลับหนีไปคบกับคนอื่น ทั้งๆที่เขาพูดว่า รอเขานะ
เริ่มแรกเหตุที่ทำให้ไม่ไว้ใจทางฝ่ายชายมีเรียนในวันเสาร์เพิ่ม..ทางฝ่ายหญิงเพิ่งลงเวรดึกมาตอนเช้า แต่ฝ่ายหญิงบอกกับฝ่ายชายว่านอนละ แต่ฝ่ายชายบังเอิญเจอที่จตุจักรขขณะนั่งรถกลับ และเป็นการเจอที่ไม่คิดว่าจะเจอเพราะเขาเชื่อใจมาตลอด ว่าทางนี้ไม่น่าโกหก
เขาเดินดูของ จนจะกลับดันมาเจอกันบนรถไฟฟ้าอีกรอบ โบกี้เดียวกัน ฝ่ายหญิงเห็นว่าฝ่ายชายเงียบ ฝ่ายหญิงเลยทักไลน์มาว่า ทำไรอยู่ ฝ่ายชายบอกว่า มาเดินเล่นกับเพื่อนที่จตุจักรซึ่งเป็นความจริงของเขา แต่ทางฝ่ายหญิงกลับโกหกว่านอนอยู่
ฝ่ายชายรู้ กลับไม่ตอบ....ไม่พูดว่ารู้ความจริง ทั้งๆที่ตัวเองควรพูด
หลังจากนั้นไม่มีไรเกิดขึ้น ฝ่ายชายยังทำหน้าที่ตามเดิม ไปรับไปส่ง ประจวบกับฝ่ายหญิงอยากย้าย รพ ใหม่ จึงไปหา รพ อื่นๆฝ่ายชายก็ยังพาไปเพราะไม่อยากให้ไปคนเดียว
จนกระทั่งวันนึง...ฝ่ายชายได้รู้เรื่องๆนึง ซึ่งไม่น่าจะเกิดขึ้นคือเพื่อนฝ่ายชาย ซึ่งเป็นคนเล่นไลน์ประจำ ชอบหาเพื่อนในไลน์ จึงได้ไปเจอ หญิง ซึ่งโพสหาเพื่อนเอาไว้ และโพสว่า "เหงา หาเพื่อน หาแฟน แอดมาคุยกันเยอะๆนะคะ" ซึ่งฝ่ายเพื่อนก็จำได้ว่าเป็นคนที่ชายกำลังดูๆกันอยู่ จึงทำให้ฝ่ายชายรู้สึกเสียใจมาก
หลังจากนั้น ฝ่ายชายก็ไม่เคยถามอีกเช่นเคย เก็บคำถามเอาไว้ในใจตลอด
จนกระทั่งมีการโพสซ้ำสอง แต่กลับเพศเป็น "เลสเบี้ยน" ทีนี้ฝ่ายหญิงได้คุยกับผู้ชายคนนึง เห็นว่าเป็นทหาร ฝ่ายหญิงหาว่าเป็นชายปลอมมาคุย ซึ่งฝ่ายชายไม่เคยปลอมไปเลย.... จนฝ่ายชายเริ่มสงสัย
ฝ่ายชายมีคำถามในใจ เราทำอะไรผิดหรือเปล่า ? เขาระแคะระคายเรื่องนี้มาก จึงแกล้งพูดว่าเพื่อนโดนแฟนทิ้งไปคบหญิงด้วยกัน มานั่งปลอบเพื่อนก่อน เพราะอยากรู้ว่า เขาเป็นเลสจริงอย่างที่เขาโพสในเว็บหาไลน์หรือไม่
ฝ่ายหญิงได้แต่ตอบอ้อมๆ ไม่ตอบตามจริง...แต่ฝ่ายชายก็ไม่อยากถามมาก จะได้ไม่ต้องมีปัญหา
สุดท้ายฝ่ายชายก็รู้ว่า หญิงโกหก แต่เขาเลือกที่จะไม่พูด
จนกระทั่งมีวันนึง....ฝ่ายหญิงตกลงปลงใจว่าจะเปลี่ยนที่ทำงานแน่นอนจึงไปสมัคร รพ ใหม่จากนั้นทั้งคู่รวมถึงเพื่อนทอมอีกคนของหญิง ดันชวนกันไปดูดวง
หมอดูดันทะลึ่ง ดูดวงว่า ชายแค่หวังฟันหญิง ซึ่งจริงๆมันไม่ใช่ตามที่ดู
แต่ฝ่ายหญิงหมอดูดันทักว่าไม่ซื่อสัตย์...ซึ่งมันก็ตรงตามที่ฝ่ายชายเคยสงสัย เพราะที่ผ่านมาเหมือนฝ่ายหญิงจะไม่พูดสิ่งที่ตัวเองคิดอยู่
คืนนั้นฝ่ายชายอยากวัดใจเลยแกล้งพูดไปว่า "เคยยิงคนตาย" ซึ่งเป็นการโกหกที่ผิดพลาดที่สุดในชีวิต เพราะมันทำให้ฝ่ายหญิงรู้สึกไม่อยากคุยกับผู้ชายคนนี้ต่อไป เพราะกลัวว่าฝ่ายชายจะทำอะไรรุนแรงกับเขา
หลังจากนั้นได้ไม่กี่วัน ชายมีสอบไฟนอล ฝ่ายหญิงกำลังมีแผนจะกลับบ้านเดือนนึงก่อนกลับมาทำงาน... ก่อนที่ฝ่ายหญิงจะกลับได้ 1 วัน ในคืนนั้นฝ่ายหญิงพูดว่า ขอคุยแบบเพื่อนไปก่อนได้มั้ย อยากใช้ชีวิตโสดๆไปก่อนซักปีสองปี ค่อยคิดเรื่องชีวิตคู่
คุณคิดกันมั้ยครับ ? ว่ามันเกี่ยวยังไง การดูๆกันมันไม่จำเป็นต้องมานั่งคิดเรื่องพวกนี้หรอกครับ
คืนนั้น ฝ่ายชายไม่เรียกร้อง และไม่พูด ไม่ร้องขอ ไม่ถามว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ เขาถามแค่ว่า ที่ผ่านมา เธอคิดว่าเขาเป็นคนยังไงหรอ ? ถามตรงๆ เขาอยากรู้สาเหตุว่าเกิดอะไรขึ้น ฝ่ายหญิงก็บอกว่า มันมีเหตุผลบางอย่างที่เขาบอกไม่ได้
ฝ่ายหญิงตอบแค่ว่า "สุภาพบุรุษดี แต่คิดมากไปหน่อย" ตามจริงแผนกำหนดกลับของฝ่ายหญิงเป็นวันที่ฝ่ายชายสอบวันสุดท้ายพอดีเขาเลยกะว่าจะไปส่งเธอที่หมอชิตและไปเรียนต่อ เพราะมหาวิทยาลัยอยู่แค่ตรงพระราม7 ซึ่งเขาก็ยังรับปากว่าจะไปส่งตอนเช้าก่อนกลับและอยู่เป็นเพื่อนก่อนเขาจะไปสอบ.....
20 กว่าวันที่เขาทนว่าฝ่ายหญิงจะกลับมา และกะว่าจะไปเที่ยวชลบุรีด้วยกัน เพราะเขาไม่เคยไปต่างจังหวัดกับผู้หญิงคนไหน
หลังจากหญิงกลับมา เขาได้ไปเที่ยวด้วยกันก็จริง แต่สิ่งหนึ่งที่กลับมาแล้วไม่เหมือนเดิมคือ เหมือนว่าฝ่ายหญิงเริ่มระแวงฝ่ายชายว่าจะไปทำอะไรเขา ซึ่ง....ที่ผ่านมาฝ่ายชายแทบจะไม่เคยทำอะไรแบบนั้นแม้แต่จะคิด ซึ่งเรื่องนี้ฝ่ายชายไม่เคยรู้อะไรเลย
ที่ผ่านมาฝ่ายชายก็โพสเฟสไปเรื่อยตามประสา แต่ส่วนใหญ่ช่วงนั้นเพื่อนจะเกรียนๆในเฟสเขาประจำ จนกระทั่ง ฝ่ายหญิงบอกว่า "สาเหตุที่เขาออกห่างออกมา เพราะเรื่องโพสเฟสนี่ละ" ฝ่ายชายจึงปรับปรุงตัว ไม่โพสอะไรเลย
ช่วงนั้น แฟนเก่าฝ่ายชาย เรียกว่าคนรักเก่าดีกว่า กลับมาขอคืนดี ซึ่งในตอนนั้นฝ่ายชายเองก็ยังยืนยันคำนั้นว่าจะรอ เพราะคิดว่าไหนๆก็ทำดีมาครึ่งทางแล้ว เขายังอยากจะทำต่อ
แต่ยิ่งทำก็เหมือนว่าเขาจะยังไม่ไว้ใจ
จนกระทั่ง ฝ่ายหญิงได้ไปรู้จักกับเด็กที่มหาวิทยาลัยของชายคนนึงซึ่งเป็นเลสเบี้ยนเหมือนกัน เพราะว่า ฝ่ายหญิงได้เอาไอดีไปโพสในเว็บหาเพื่อนไลน์ อีกแล้ว
ฝ่ายหญิงคุยเป็นตุเป็นตะ กับเด็กคนนี้ ซึ่งไม่เคยรู้จักกันเลยกับเขา หญิงบอกหมดเรื่องที่ชายเคยสงสัยว่าหญิงเป็นเลส ทั้งเรื่องที่เขาไม่ไว้ใจชายยังไง ทั้งเรื่องที่เขาโกหกฝ่ายชายยังไง โดยที่ฝ่ายชายไม่รู้ และ ฝ่ายหญิงพูดว่า ที่ขอออกมาห่างๆเพราะอยากจะกลับมาคบกับหญิงก่อนซักปีสองปีค่อยกลับไปคบกับเขา เหมือนตอนแรกๆฝ่ายหญิงไว้ใจเด็กคนนี้มาก จนเล่าอะไรหลายอย่าง รวมถึงจีบเด็กคนนี้ด้วย ซึ่งเด็กคนนี้กลับกลัวจึงไม่ยอมคุยทางโทรศัพท์ด้วย เพราะฝ่ายหญิงได้พยายามโทรไลน์บ่อย จนเขาไม่ไว้ใจ เพราะเด็กคนนี้อยากจะคุยแค่ผ่านๆ ไม่ได้ต้องการทำความรู้จักฝ่ายหญิงขนาดนั้น รวมถึงการที่ฝ่ายหญิงส่งคนมาสืบฝ่ายชาย ว่าพฤติกรรมที่มหาวิทยาลัยเป็นยังไง เด็กก็รับปากว่าจะทำให้ แต่ก็แค่รับปากไม่คิดว่าจะทำ
แต่เรื่องบังเอิญ(ซวย)เรื่องที่สองคือ เด็กคนนี้ดันรู้จักกับเพื่อนที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่อนุบาลของฝ่ายชายนี่สิ เรื่องจึงเกิด
เดี๋ยวมาเล่าต่อครับ เรื่องมันยาวครับ