สิ่งที่ผมจะบอกพวกคุณก็คือ ผมจะบอกให้ ประชาธิปัตย์ น่ะผมเห็นว่าเขาทำอะไรผิดผมก็ไม่เคยแก้ตัวให้ผมเชื่อว่ามีคนที่เป็นนักการเมืองทำผิดอย่างที่พวกคุณหลายคนกล่าวหาจริงแต่ประชาชนก็ทำการตรวจสอบแล้วไงครับไม้ต่อไปก็เป็นเรื่องของฝ่ายบ้านเมืองที่จะปฎิบัติหน้าที่ตามกฏหมายแต่ไม่เข้าใจทำไมพวกคุณถึงบอกว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นทุกวันนี้เพราะ ประชาธิปัตย์อยากเป็นรัฐบาลจึงโยงเรื่องทั้งหมดให้เป็นการเมือง เท่านี้ก็เท่ากับดูถูกความคิดของคนอื่นอีกหลายล้านคนที่สนับสนุน กปปส ด้วยการกล่าวหาว่าเพียงเพื่อต้องการให้ประชาธิปัตย์ชนะเลือกตั้งอย่างนั้นเหรอ จะบอกว่าพวกคุณคิดผิดนะมีอีกเป็นหลายล้านคนรวมกับคนอย่างผมสนับสนุน กปปส เพราะถือเป็นโอกาศที่จะทำให้นักการเมืองชั่วน้อยลง ข้าราชการไม่รับสินผมทำธุรกิจผมรู้เรื่องนี้ดีว่าข้าราชการรับเงินใต้โต๊ะทุกอย่างเท่าที่จะทำได้แม้แต่เงินไม่กี่สิบกี่ร้อยสิ่งเหล่านี้คือความต้องการที่แท้จริงในการแก้คอร์รัปชั่นไม่ใช่เพราะ ประชาธิปัตย์
แล้วอย่างที่พวกคุณบอกอ้าว แล้วทำไมไม่ปฎิรูปซะตอนที่ตัวเองมีอำนาจหล่ะเรื่องนั้นผมไม่ทราบเป็นเรื่องของฝ่ายการเมืองที่สองฝ่ายจะคุยกันซึ่งประชาชนก็รู้เข้าใจว่าบ้านเมืองมันคอร์รัปชั่นขนาดไหนแต่ได้แค่พูดและมองหากไม่เชื่อถามคนสองฝ่ายก็ได้โดยไม่แยกสีให้ถามว่าประเทศไทยมีคอร์รัปชั่นหนักแค่ไหนทุกคนจะตอบว่ามีคอร์รัปชั่นมากบ้างน้อยบ้างตามโอกาศตาม ประสบการณ์ชีวิต ในตอนนี้ผมยังมองในแง่ดีที่ว่า อย่างน้อยมีคนที่คิดจะปฎิรูปแม้ว่าพวกคุณคิดว่าคนอย่างพวกผมจะมีน้อยกว่า แต่คุณไม่อยากให้คอร์รัปชั่นหมดไปหรือมีน้อยมากเหมือน ฮ่องกง หรือ สิงค์โปร์ หรือครับ และหากถามอีกว่าถ้างั้นเลือกตั้งสิแล้วค่อยปฏิรูปจะเร่งอะไรหนักหนา ทำได้ก่อนดีครับแล้วมีกฏหมายให้ทำเหรอทำยังไงมีขั้นตอนยังไง การจะไปถึงจุดนั้นได้ถ้าผมจะบอกคือนักการเมืองสองฝ่ายต้องคุยกันครับไม่ใช่คุยเรื่องผลประโยชน์แต่คุยถึงการแก้ปัญหาโดยยึดเอาผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่อันดับแรกซึ่งผมมองว่าปัญหาทุกอย่างสามารถแก้ไขได้ หากแก้ไขไม่ได้แสดงว่าคิดผิดก็ให้คิดทางแก้กันต่อไป
และในความเห็นส่วนตัวอีกผมก็ยังอยากได้การปฎิรูปอยู่ดีแม้ว่าจะมีการเลือกตั้งและมีการจัดตั้งรัฐบาลแล้ว แต่มองไปแล้วพวกเราที่รู้เห็นเรื่องการเมืองมาตลอดคงรู้ดีแน่หรือเอาเป็นว่าคาดการณ์แล้วกันว่า รัฐบาลที่จะจัดตั้งขึ้นต้องถูกปัญหารุมเร้าอย่างรุนแรงจนยากที่จะบริหาราชการได้อย่างราบรื่นหากมองว่าการบริหารราชการเป็นพียงแต่การจัดตั้งรัฐบาลและบริหารราชการไปตานโยบาย ตามที่แถลงเมื่อเปิดสภาเท่านั้นแต่ในทางปฎิบัติแล้วต้องบริหารความเป็นอยู่ปกติของสังคมกับเศรษฐกิจให้มีสเถียรภาพ ด้วยโดยหากยังมีการชุมนุมและประชาชนมีความเห็นแตกแยกซึ่งนั่นเป็นปัญหาทางสังคมโดยไม่ทำอะไรเลยก็เท่ากับเพิกเฉยต่อปัญหาโดยตรงโดยมองว่าตนเองมิใช่ผู้สร้างปัญหาคงไม่ได้เพราะสิ่งที่เกิดขึ้น ผู้ชุมนุมมองว่ารัฐบาลคือปัญหาที่ต้องได้รับการแก้โดยการแก้มิใช่เพียงใช้ กฏหมายหรือมองว่าตัวเองมาถูกต้องตามกฏหมายแต่ต้องมองว่าปัญหาของสังคมที่เกิดขึ้นในฐานะรัฐฐาธิปัตย์ซึ่งมีอำนาจเหนือประชาชนต้องเอื้อมมือลงไปหาครับมิใช่มองในฐานะพรรคการเมืองเพื่อไทยโดยต้องมีหน้าที่ทำให้ประเทศสงบสุขและให้หลายฝ่ายร่วมกันแก้ปัญหาด้วย
ท้ายสุดปัญหาที่เกิดขึ้นไม่มีทางที่จะทำให้บ้านเมืองปกติสุขได้แน่นอน แม้ว่าจะจัดตั้งรัฐบาลได้แล้วก็ตามการแก้ไขปัญหานี้ซึ่งนับว่าเป็นปัญหาที่หนักมากหากเทียบกับปัญหาที่ผ่านในอดีต แม้กระทั่ง 14 ตุลา ก็เทียบกันไม่ได้ เพราะปัญหานี้ผู้คนทั้งประเทศมีความคิดแตกแยกกันอย่างรุนแรงจึงนับเป็นโอกาศที่หัวหน้ารัฐบาลในฐานะผู้นำจะพิสูจน์ความมีภาวะวิสัยให้ประชาชนเห็นว่าสุดท้ายจะเลือกให้ปัญหาทุกอย่างเกิดขึ้นดำรงต่อไปและขยายความรุนแรงขึ้นจนเกินการแก้ไขหรือจะหันหน้ามาคุยในฐานะนักปกครองโดยยึดผลประโยชน์ของประชน
พูดให้ตายยังไงคนในห้องนี้ก็ไม่มีวันเชื่อหรอกว่าผมไม่ได้เชียร์ สุเทพ เพราะต้องการให้ประชาธิปัตย์ชนะเลือกตั้ง
แล้วอย่างที่พวกคุณบอกอ้าว แล้วทำไมไม่ปฎิรูปซะตอนที่ตัวเองมีอำนาจหล่ะเรื่องนั้นผมไม่ทราบเป็นเรื่องของฝ่ายการเมืองที่สองฝ่ายจะคุยกันซึ่งประชาชนก็รู้เข้าใจว่าบ้านเมืองมันคอร์รัปชั่นขนาดไหนแต่ได้แค่พูดและมองหากไม่เชื่อถามคนสองฝ่ายก็ได้โดยไม่แยกสีให้ถามว่าประเทศไทยมีคอร์รัปชั่นหนักแค่ไหนทุกคนจะตอบว่ามีคอร์รัปชั่นมากบ้างน้อยบ้างตามโอกาศตาม ประสบการณ์ชีวิต ในตอนนี้ผมยังมองในแง่ดีที่ว่า อย่างน้อยมีคนที่คิดจะปฎิรูปแม้ว่าพวกคุณคิดว่าคนอย่างพวกผมจะมีน้อยกว่า แต่คุณไม่อยากให้คอร์รัปชั่นหมดไปหรือมีน้อยมากเหมือน ฮ่องกง หรือ สิงค์โปร์ หรือครับ และหากถามอีกว่าถ้างั้นเลือกตั้งสิแล้วค่อยปฏิรูปจะเร่งอะไรหนักหนา ทำได้ก่อนดีครับแล้วมีกฏหมายให้ทำเหรอทำยังไงมีขั้นตอนยังไง การจะไปถึงจุดนั้นได้ถ้าผมจะบอกคือนักการเมืองสองฝ่ายต้องคุยกันครับไม่ใช่คุยเรื่องผลประโยชน์แต่คุยถึงการแก้ปัญหาโดยยึดเอาผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่อันดับแรกซึ่งผมมองว่าปัญหาทุกอย่างสามารถแก้ไขได้ หากแก้ไขไม่ได้แสดงว่าคิดผิดก็ให้คิดทางแก้กันต่อไป
และในความเห็นส่วนตัวอีกผมก็ยังอยากได้การปฎิรูปอยู่ดีแม้ว่าจะมีการเลือกตั้งและมีการจัดตั้งรัฐบาลแล้ว แต่มองไปแล้วพวกเราที่รู้เห็นเรื่องการเมืองมาตลอดคงรู้ดีแน่หรือเอาเป็นว่าคาดการณ์แล้วกันว่า รัฐบาลที่จะจัดตั้งขึ้นต้องถูกปัญหารุมเร้าอย่างรุนแรงจนยากที่จะบริหาราชการได้อย่างราบรื่นหากมองว่าการบริหารราชการเป็นพียงแต่การจัดตั้งรัฐบาลและบริหารราชการไปตานโยบาย ตามที่แถลงเมื่อเปิดสภาเท่านั้นแต่ในทางปฎิบัติแล้วต้องบริหารความเป็นอยู่ปกติของสังคมกับเศรษฐกิจให้มีสเถียรภาพ ด้วยโดยหากยังมีการชุมนุมและประชาชนมีความเห็นแตกแยกซึ่งนั่นเป็นปัญหาทางสังคมโดยไม่ทำอะไรเลยก็เท่ากับเพิกเฉยต่อปัญหาโดยตรงโดยมองว่าตนเองมิใช่ผู้สร้างปัญหาคงไม่ได้เพราะสิ่งที่เกิดขึ้น ผู้ชุมนุมมองว่ารัฐบาลคือปัญหาที่ต้องได้รับการแก้โดยการแก้มิใช่เพียงใช้ กฏหมายหรือมองว่าตัวเองมาถูกต้องตามกฏหมายแต่ต้องมองว่าปัญหาของสังคมที่เกิดขึ้นในฐานะรัฐฐาธิปัตย์ซึ่งมีอำนาจเหนือประชาชนต้องเอื้อมมือลงไปหาครับมิใช่มองในฐานะพรรคการเมืองเพื่อไทยโดยต้องมีหน้าที่ทำให้ประเทศสงบสุขและให้หลายฝ่ายร่วมกันแก้ปัญหาด้วย
ท้ายสุดปัญหาที่เกิดขึ้นไม่มีทางที่จะทำให้บ้านเมืองปกติสุขได้แน่นอน แม้ว่าจะจัดตั้งรัฐบาลได้แล้วก็ตามการแก้ไขปัญหานี้ซึ่งนับว่าเป็นปัญหาที่หนักมากหากเทียบกับปัญหาที่ผ่านในอดีต แม้กระทั่ง 14 ตุลา ก็เทียบกันไม่ได้ เพราะปัญหานี้ผู้คนทั้งประเทศมีความคิดแตกแยกกันอย่างรุนแรงจึงนับเป็นโอกาศที่หัวหน้ารัฐบาลในฐานะผู้นำจะพิสูจน์ความมีภาวะวิสัยให้ประชาชนเห็นว่าสุดท้ายจะเลือกให้ปัญหาทุกอย่างเกิดขึ้นดำรงต่อไปและขยายความรุนแรงขึ้นจนเกินการแก้ไขหรือจะหันหน้ามาคุยในฐานะนักปกครองโดยยึดผลประโยชน์ของประชน