๐๐๐๐๐ มาดูผลโพลล์กันค่ะ..นึกว่าไม่มีซะอีก ๐๐๐๐๐

กระทู้สนทนา



บริษัทเอ็นไวโรเซลประเทศไทย ซึ่งดำเนินธุรกิจวิจัยและที่ปรึกษาที่มีสำนักงานใหญ่ในมหานครนิวยอร์กของสหรัฐฯ
เปิดเผยผลการจัดทำประชาพิจารณ์เรื่องความคิดเห็นของประชาชนต่อการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.
และประเด็นทางการเมืองอื่นๆ

โดยสุ่มตัวอย่าง 1000 คน ในประชากรชาย-หญิงตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป
ระหว่างวันที่ 28-30 ม.ค. พบว่า


ประชาชนทั่วประเทศกว่า 66% ไม่เชื่อมั่นในความโปร่งใสของการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 2 ก.พ. นี้
โดยมีเพียง 34% เท่านั้นที่คิดว่าการเลือกตั้งจะเป็นไปอย่างโปร่งใส
โดยคะแนนความไว้วางใจต่อความโปร่งใสในระบบการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ. นี้
อยู่ที่เพียงค่าเฉลี่ย 33.87 คะแนนจาก 100 คะแนนเต็ม

สำหรับคำถามว่าจะไปเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.หรือไม่ พบว่า

มีเพียง 22% ที่ตั้งใจไปเลือกตั้งและเลือกพรรคการเมืองที่ชอบ
โดยกว่า 45% ตั้งใจไม่ไปเลือกตั้ง
ขณะที่ราว 25% ตั้งใจที่จะไปแต่โหวตโน

และ 8% ตั้งใจไปแต่ทำบัตรเสีย


ขณะเดียวกัน ประชาชนถึง 64% ยืนยันเจตนารมณ์ที่ต้องการการปฎิรูปก่อนการเลือกตั้ง
ซึ่งนับเป็นสัดส่วนคงเดิมเมื่อเทียบกับผลงานวิจัยเมื่อวันที่ 1-4 ธ.ค. ที่ 63%
โดยมีเพียง 12% เท่านั้นที่ระบุว่าไม่ต้องการการปฏิรูป และราว 24% ต้องการการปฏิรูปหลังการเลือกตั้ง


นอกจากนี้ ประชาชนถึง 71% มองว่าทางออกของประเทศจะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อมีการเลื่อนเลือกตั้ง
โดยให้รัฐบาลลาออก เปิดโอกาสให้มีรัฐบาลชั่วคราว มีนายกฯที่ทุกฝ่ายรับได้เข้ามาทำหน้าที่ปฏิรูปประเทศ
โดยมีเพียง 29% ต้องการให้ ก.ป.ป.ส.หยุดชุมนุมเพื่อให้มีการเลือกตั้ง

สำหรับคำถามว่า หากมีการปฏิรูปการเมืองขึ้นจริง อยากให้ใครเป็นคนจัดตั้งคณะกรรมการ พบว่า

ประชาชนราว 54% ระบุว่า ต้องการคณะกรรมการที่มาจากเสียงโหวตของประชาชน
ขณะที่ 44% อยากได้คณะกรรมการการปฎิรูปการเมืองพระราชทาน และ 2% อยากให้มาจากรัฐบาล


ขณะเดียวกัน เมื่อถามถึงผลกระทบจากจากการชุมนุมของ ก.ป.ป.ส. 48% ของประชาชนระบุว่า

ได้มองข้ามเรื่องผลกระทบ เพราะรู้สึกเป็นหน้าที่ที่ต้องร่วมกันสู้เพื่อประเทศ
ในขณะที่ 27% ไม่ได้รับผลกระทบ หรือได้รับบ้างแต่ไม่รู้สึกเดือดร้อน มี 25% ที่เดือดร้อนและต้องการให้ยุติ



สำหรับปัญหาการจำนำข้าวที่กำลังส่งผลกระทบต่อชาวนา
ประชาชนถึง 57% รู้สึกไม่มั่นใจว่ารัฐบาลจะแก้ไขปัญหาให้กับเกษตกรได้
ขณะที่ราว 43% มั่นใจว่ารัฐบาลสามารถจัดการปัญหาได้แน่นอน



ทั้งนี้ ผลสำรวจดังกล่าว ใช้วิธีสุ่มจากหมายเลขโทรศัพท์ของประชาชนทุกภาคทั่วประเทศ
ไม่จำกัดความคิดเห็นจากฝ่ายใดเพียงฝ่ายหนึ่ง ซึ่งการสุ่มตัวอย่างมีการกระจายตามสัดส่วนประชากรโดยหลักการทางสถิติ
ด้วยความมั่นใจ 95% ความผิดพลาดจากการสุ่มตัวอย่าง +/- 3%

โดยกระจายกลุ่มตัวอย่างตามสัดส่วนประชากรทุกภาคดังนี้กรุงเทพ 14%,
กลาง+ตะวันออก 20%, อีสาน 34%, เหนือ 18%, ใต้ 14%

และกระจายกลุ่มตัวอย่างตามสัดส่วนรายได้ upper 18%, middle 38%, lower 44% ---ISN 05

.........................................................................................................
http://www.isnhotnews.com/read-pop/43122-2014-01-31-07-02-12.html
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่