ราตรีสีอำพัน (122)

กระทู้สนทนา
ราตรีสีอำพัน (122)

หลังจากทุกคนได้อุ้มตะวันถ่ายรูปกันถ้วนหน้าสมประสงค์
แล้วก็พากันขึ้นไปนวดสปา ท่านชายขลุกอยู่ในห้องป๋าดูทีวีกับหมอเติ้ล แป้งนวดตัวเสร็จก็มาแซะข้างๆ ตามด้วยหวานใจพฤกษา
สองสาวจับมือกัน แต่ทางหมอถูกโอบด้วยแขนแข็งแรงของท่านชาย ทางฝั่งแป้งพี่รองก็ไม่น้อยหน้า นั่งโอบน้องแป้งด้วย

“พอแก่แล้วเห็นเด็กมันกระหนุงกระหนิงกันแล้วอิจฉานะมะ” ป๋าเปรยขึ้นลอยๆ

“ป๋ายังไม่แก่นะครับ รูปร่างแข็งแรง หน้าตาหล่อเหลา” พี่รองพูดอย่างจริงใจ

“นี่รองแกอยากได้อะไรรึเปล่า ทำเป็นมาชมป๋า”

“อาจารย์พูดความจริงนะครับ” ท่านชายเสริม

“หากป๋าไม่หล่อ มีหรือมะจะย้ายมาเมืองไทย” พี่รองพูดต่อเพราะมีลูกคู่

มะทำเป็นไม่ได้ยิน “ใช่!พูดได้ถูกต้องเลยท่านชาย”

มะมองท่านชายด้วยความรู้สึกสองอย่างคือทั้งเห็นใจกับเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้น
แต่ก็อดห่วงลูกสาวตัวเองไม่ได้

แม้ลูกๆจะนั่งดูทีวี มะชำเลืองดูเติ้ล แต่ก่อนเป็นเพียงนกตัวน้อย อ้อนคนนั้นคนนี้
แต่มาถึงเดี๋ยวนี้ ดูเหมือนจะกลายเป็นแม่นกตัวใหญ่ที่แข็งแรงและพร้อมจะออกไปสร้างรวงรัง
เสียงถอนหายใจเบาๆ


“มะเป็นห่วงความหล่อ ของป๋าเหรอเห็นถอนหายใจ” ป๋าแหย่

“อือ! ห่วง กลัวใครจะขโมยไป หล่อแบบนี้แถมภูมิฐาน และมีเงิน เด็กสาวๆคงอยากเกาะกันแน่”
มะพูดตามน้ำไปเรื่อยๆ

“ป๋า มีมะและลูกแค่นี้ก็สุขใจแล้วเรื่องอะไรต้องเอาปัญหาเข้ามาให้ปวดหัวอีก”
ป๋าเข้ามากอดมะไว้ แล้วมะก็ยิ้ม แต่ไม่ใช่ยิ้มให้ป๋า เธอคิดเองว่า ท่านชายก็เป็นผู้ชายที่ดีคนหนึ่ง
ลูกสาวตัว ใครได้ไปก็เหมือนได้แก้ว เอาล่ะ สมกันดีแล้ว”  

หลังอาหารมื้อค่ำพี่รองชวนในกลุ่มไปนั่งต่อ แต่ดูเหมือนทุกคนจะไม่เหลือแรงแล้ว

“ขึ้นนอนเถอะ พี่รอง นอนดึกๆระวังแก่เร็วนะ” เสียงแจ๋วๆของแป้งเอ่ยขึ้น

“เอ้า!ขึ้นก็ขึ้น แล้วคืนนี้พี่รองนอนห้องแป้งเหรอ”

“บ้า!พี่รองเนี่ย” แป้งค้อนให้ใบหน้ากลมใสดูท่าทางจะง่วงแล้ว

“ไปนอนซิคะ พี่แดงจะได้ให้นอนข้างเตียง”

“แดง..ปากแกนะ” เสียงป้าอำไพดุเอา

“ขอโทษค่ะอาจารย์ ล้อเล่น แฮะๆ”

“พรุ่งนี้อาหารเช้าเจ้ดโมงครึ่งนะครับ เสร็จแล้วเราจะขึ้นไปทางเหนือนิดเดียวดูแม่น้ำจอร์แดน แล้วกลับวัง”

“ราตรีสวัสดิ์ครับ” หลังจากท่านชายแจงรายการแล้วจากไป แล้วค่ำคืนแห่งราตรีกาลก็ผ่านไป
ทุกคนหลับยาวจนสว่าง

หลังอาหารเช้ามูซาพาคณะกลับทางลัดขึ้นเหนือ
หยุดดูแม่น้ำสายเดียวที่ไหลผ่านช่วงสั้นๆของประเทศ  และแนวเขื่อนแห่งเดียวเช่นกัน พื้นที่ทางเหนือจึงดูค่อนข้างเขียวเป็นวงกว้างกว่าทางอื่น

แล้วไม่ถึงสามชั่วโมง มูซาก็พาทุกคนกลับเข้าสู่เมืองอัมมาน
ท่านชายชวนแวะทานข้าวที่ร้านอาหารจีน ก่อนเข้าวัง

“ทานกันก่อนจะได้ไม่หิวมาก และพอถึงวังจะได้มีเวลาพักผ่อนกันมากหน่อยนะครับ”

ท่านแม่ ท่านป้า และท่านหญิง มารอรับอย่างดีใจ อีกทั้งบรรดาสาวใช้หลายคนรวมฟารีเอาะห์ด้วย

“ท่านหมอ..” หมอเติ้ลทำความเคารพทุกท่านแล้วเดินไปหาท่านหญิง

“หมออยู่นี่แล้วค่ะ” เธอจับมือนางแล้วดึงท่านหญิงมากอดไว้

“พวกเราทราบเรื่องของท่านหมอ และพี่ข้าแล้ว มันเป็นสิ่งที่เหลือเชื่อ แต่ มันคือความจริง”

“ข้าดีใจ ที่ทุกคนปลอดภัย” ท่านแม่เอ่ยขึ้น
และเข้ามาหาท่านชายอะซันที่อยู่ใกล้ๆน้องงสาว แล้วกอดเขากับหมอเติ้ลไว้

“พระเจ้าทรงคุ้มครองไม่มีอะไรอีกแล้ว”

“เมื่อวานท่านอาเสด็จมา คุยกับท่านป้านานมาก” ท่านแม่เล่าให้ฟัง
ลุงหม่อม มองหน้าท่านป้าใหญ่แล้วยิ้ม  เขาเชื่อว่า ท่านป้าต้องให้คำตอบเป็นที่พอใจ
เพราะบรรดา ทั้งสามพี่น้อง อายุ ประสบการณ์ และความฉลาดของนางไม่มีใครเทียบ

“อือ!เข้าไปข้างในกันก่อนเถอะ” ท่านป้าใหญ่เอ่ยขึ้น  ทั้งหมดเข้าไปที่ห้องรับแขก
บรรดาสาวใช้ นำสัมภาระไปไว้ที่ห้องให้เรียบร้อย

ฟาติมานำชาร้อนและอินทผลัมมาเสริฟให้ ทุกคนดูรีแร็กซ์
และเมื่อจิบชาร้อนๆ กับอินทผลัมซึ่งเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์มาก ฟรุตโตสสูงช่วยให้หายอ่อนเพลีย

ท่านป้าใหญ่เริ่มก่อน “ข้า ทูลท่านอาเรื่องท่านชายฮัสเซนมุ่งร้ายกับเจ้า และใช้ปืน  ซึ่งอับดุลราฮ์อีมพูดตรงกัน ส่วนเรื่องท่านหมอ ท่านอาก็รู้อยู่แล้วว่าท่านหมอไม่เกรงกลัวใครอยู่แล้วจากเรื่องเดิมๆที่เคยเกิดหน้าพระพักตร์

เรื่องที่นครเพตราท่านหมอเอาแส้เฆี่ยน และดูเหมือนท่านชายฮัสเซนถอยอย่างหวาดกลัว
และพลัดตกลงไป โดยไม่มีใครคาดคิด และช่วยเหลือได้ทัน”

“ข้าไม่ได้เอ่ยเรื่องใดที่เกี่ยวกับเจ้าและพระธิดาอิสลาเบล
ข้าถือว่ามันถูกฝังไว้ที่มหานครเพตราแล้ว จบกันเสียที อดีตที่ตามหลอกหลอนทุกคน”
ท่านป้าเอ่ยพร้อมถอนหายใจยาว

“เรื่องนี้ไม่ต้องให้ใครรู้ดีที่สุด เพราะมันหมายถึงความปลอดภัยของทั้งท่านชายและท่านหมอ จะทำการสิ่งใดนับต่อนี้ไป ให้ระมัดระวัง และต้องไม่เด่นเกินผู้อื่น จำไว้” ท่านป้าใหญ่เอ่ยอย่างสุภาพแต่น้ำเสียงหนักแน่น

“ผมเห็นด้วยกับท่านป้า” ท่านชายฉัตราทัศน์เอ่ยขึ้น

ท่านชายถามท่านป้าอย่างสงสัย “ท่านอามิทรงกริ้วดอกหรือ”

“ท่านเอ่ยแต่เพียงว่า “จบซะที ข้าจะได้ไม่ต้องมาตามแก้ปัญหาให้เขาอีก เขาทำตัวเช่นนี้จะโทษใครเล่า”
บทสนทนาดูจะจบลงแล้ว

ท่านชายอยากให้คณะหมอได้พักผ่อนเพราะเย็นนี้ท่านทูตเพิ่งทราบว่าท่านชายฉัตราทัศน์ และป๋ามา
เขาเชิญทุกคนรวมท่านอาวุโสที่วังไปร่วมทานอาหารไทยที่บ้าน

ทุกคนเข้าเก็บของลงตะกร้า แม่บ้านส่งไปซักให้ ที่เหลือก็นั่ง นอนเล่นตามอัธยาศัย

ลุงหม่อม โทรหาท่านทูต”สวัสดีครับท่านปรีชา”
“สวัสดีครับท่านชาย ไปเที่ยวมาเป็นอย่างไรบ้างครับ”

“สนุกมาก ท่านชายพาไปแบบวีไอพี ได้ไปเยือนนครเพตรา กับทะเลลทรายวาดิรัม สุดคุ้ม ครับ สวยงามมาก
แถมไปนอนแช่ทะเลสาปเดดซีอีก”

“ท่านปรีชาเชิญพวกผมทั้งหมดหลายคนเลยนะครับ จะให้ป้าอำไพ กับแดงไปช่วยไหมครับ ผมพามาเที่ยวด้วย”

“ขอบคุณครับ  พี่สะอ้านแม่ครัวแกเตรียมเรียบร้อยไม่ต้องห่วงครับ พักผ่อน แล้วเตรียมมาทานกันให้เต็มที่ดีกว่า”

บรรดาแขกมาถึงบ้านท่านทูตหกโมงตรง ท่านทูตยืนรอพร้อมป้าสาวิตรี
หลังจากทักทายกันแล้วทุกคนก็เข้าไปในบ้าน

“อากาศปีนี้หนาวไวกว่าทุกปี ไม่แน่ก่อนกับท่านชายและป๋ากลับคงได้เห็นหิมะแน่” ท่านทูตพูดแล้วยิ้มกับทุกคน

ดูเหมือนหนูแป้งจะดีใจกว่าทุกคน “โอ้โฮ! ท่านทูตยังไม่เก็บต้นคริสมาสต์เลย สวยมาก หากคืนนี้มีหิมะตกมารับเทศกาลปีไหม่ ก็สุดยอดเลยนะเติ้ล” หน้ากลมใส และรอยยิ้มน่ารัก กับผมซอยสั้นเก๋ เติ้ลมองเพื่อนรักอย่างมีความสุข ตั้งแต่สูญเสีย พ่อ แม่ แป้งก็ได้รับความรักมากมายไม่น้อยไปกว่าเติ้ลจากครอบครัวป๋า
และอีกไม่นานพี่รองกับแป้งก็จะกำหนดการหมั้นและแต่ง เธอรู้สึกว่าครอบครัวเราโชคดีเพราะแป้งเป็นคนง่ายๆ และทำหน้าที่ดูแลทุกคนแทนเติ้ลมานาน จนเข้าสวมตำแหน่งว่าที่สะไภ้แล้ว

“บ้านท่านทูตตกแต่งได้สวยงาม สมเป็นตัวแทนประเทศไทยจริงๆ “ ป๋าเอ่ยชมหลังจากมองสำรวจรอบๆบ้าน

“ขอบคุณครับ ฝีมือคุณสาวิตรีทั้งนั้นแหละครับ”

“ค่ะป๋า คุณป้าแต่งบ้านเก่ง แถมจัดสวนฝีมือครูเลยค่ะ”

“แหม!ชมป้ามากๆ เอาเปรียบนะคะเพราะอิ่มใจเลยทานน้อยกว่าคนอื่น”

เสียงพูดคุยโดยใช้ภาษาอังกฤษเป้นภาษากลาง แต่ก็เรียกเสียงหัวเราะได้เป็นระยะๆ
ท่านทูตเปิดเพลงสวัสดีปีใหม่เบาๆ แม้จะเลยมาแล้ว สอง สามวัน แต่ก็ยังนับได้ว่าอยู่ในเทศกาล
ทุกคนแต่งตัวสวยงามในคืนพิเศษนี้ โดยเฉพาะ ท่านหญิงมาเรียม ที่ใส่ชุดยาวเข้ารูป สีเขียวมรกต คอเสื้อปักเลื่อมลงมาถึงอก โผกด้วยผ้าฮาญีบสีครีมปักลายดิ้นทอง “ท่านหญิงมาเรียมคืนนี้สวยมากครับ” ท่านทูตชม
ท่านหญิงกล่าวขอบคุณและยิ้ม

“ใช่ค่ะ ใบหน้าท่านหญิงดูสดใสดั่งแสงตะวัน” หมอเติ้ลเสริม  

มะมองแล้วยิ้ม “ใบหน้างดงามดูสดใสตามวัยยี่สิบต้นๆ “

“ท่านแม่คะ หากเป็นปีใหม่บ้านเรา เราจะมีการจับฉลากแลกของขวัญกันสนุกมากเลยค่ะ” แป้งเจรจา

“ฟังดูสนุกดีนะ วัยของพวกเจ้าเปรียบดั่งบัวแรกแย้ม สดใสนัก” ท่านแม่มองเด็กๆแล้วชื่นใจ
โต๊ะบุปเฟ่ถูกจัดขึ้นข้างๆต้นคริสมาสต์ ป้าอำไพ พี่แดง เข้าไปช่วยลำเลียงอาหารออกมา มีปีกไก่ทอด ของโปรดท่านชาย ปอเปี๊ยะกุ้ง ต้มยำทะเล ปลาทอดกระเทียม ยำทูน่า และสลัดผัก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่