สวัสดีค่ะ ชาวพันทิบทุกๆท่าน วันนี้ได้ฤกษ์งามยามดี หนีพ้นคมมีด ไม่ถูกเฉือนเป็นหมูไหว้เจ้า

นับว่าโชคดี ยังเห็นดั้นเป็นมนุษย์ บ่อช่ายหมู แต่ก็แทบไปทุกที.........
แฮะแฮะ ไม่เกี่ยวกับเรื่องที่จะเขียน ขอไร้สาระไปเรื่อยๆ ม๊ะมาเข้าเรื่องดีก่า
หลังจากหนีเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นด้วยวิธีการใดก็แล้วแต่ขอให้ได้ไป ไม่ว่าจะเป้นการหลอกหัวหน้า หลอกเพื่อนร่วมงานขอความเห็นใจให้ช่วยทำงานให้ แบบว่าเที่ยวแล้วเสียว เดี๋ยวโดนไล่ออก หากเปิด Location ประมาณนั้น แต่ไม่เป็นไร ดั้นพอมีตังค์ อยู่ซัก 10 วันนน


ไร้สาระอีกแย้ว
มาเข้าเรื่องดีก่า จากทริปแรกของปี แต่ไม่ใช่ทริปสุดท้ายของดั้นนะฮ่ะ
เรื่องมันมีอยู่ว่า จองเจ้าหางแดงเป็นช้าด ก็ได้เวลาเหินเวหาสักที
ทุกคนเป็นไหม ขึ้นเครื่องทีไรตอนมันจะเทคเนี้ย กัวว่ามันจะไม่ขึ้น ก็เสียงมันยังกะเครื่องจะพัง เล่นเอาเสียว

และพอมันขึ้นเส็ดนะสักพักมันต้องเลี้ยวโค้ง มันจะเลี้ยวทามมัย รู้ไหมว่ามันเสียวเล่นตีโค้งซะเอียงเป็นแถบ จะนั่งเครื่องหย่าย ก่านี้ ตังค์ก็ไม่มี เลยต้องเสียวกันไป
พอถึงชอมอ จองรถ ตรวจรถ คุณแม่เจ้า ไอ้รถคันนี้ มันใส่แผ่นเสียงตรงไหนว่ะ ดูนั้นดูนี้ แกะนั้นแกะนี้ แกะไปแกะมาเจอเจ้าช่องสี่ เหลียม มีที่เสียบด้วย เอาแล้ว เอาแล้ว อุตสาห์ก็อปมาเป็นแผ่น สุดท้าย USB คับเพ่

ตรูร้องเองก็ได้ คิดหรือว่าจะง้อ ขับรถออกมาเรื่อยๆ แบบคนเกิดในพื้นที่ ขับไปจนถึงแยกขึ้นดอยอินทนนท์
ขับขึ้นไปเรื่อยๆ แอบนั่งเถึยงในใจนะว่า จำได้ ว่า กมที่ 30 หรือ 31 นี้แหละต้องเลี้ยวขวาแหละ เพื่อจะไปขุนวาง ไล่ล่าบ้างสิ่งที่ตั้งใจไว้
ดั้นคอยดูหลัก กม เด็กดั้นขับไป ขับไปเรื่อยๆ ดั้นเห็นแล้วว่ามันผ่าน กม ที่ 34 33 32 เลยบอกเด็ก ให้ชะลอ บอกว่าจะถึงแล้วนะ
เตรียมเลี้ยวขวาได้ พอขับไปอีกสักพักผ่าน กม 31 30 มันไม่มีทางเลี้ยวขวาเลยแฮะ มีแต่หน้าผา คิดในใจ จะให้ดั้นไต่หน้าผา ม้วนตัวรถ เอาต้นไม้เป็นถนนป่าวว่ะ เอแต่รถก็หนักนี่หว่า เลยบอกให้หยุดแวะถามคนในพื้นที่ดีก่า
ไปเจอร้านกาแฟร้านหนึ่ง เด็กอยากกินกาแฟม๊าก ตรงดิ่งไปเลยนะ แล้วบอกว่า เอเพรสโซ ทีหนึ่ง
แล้วเสียงหวานๆ ก็ตอบมาว่า ไฟด้บค่ะ ไม่มีน้ำร้อน
ดั้นก็เลยบอกว่านั้นขอม่าม่าละกั้น แล้วก็เถียงในใจ แล้วตรูจะกินกะอะไรฟ่ะ มันไม่มีน้ำร้อนนี่ว่าาา
ต่างคนต่างเศร้า คิดเมนูใหม่
ดั้นเดินเปิดตู้แช่น้ำ ดั้นหยิบน้ำเปล่ามา ส่วนเด็กบอกว่า เอาสไปร์ทนะ แล้วเดินไปห้องน้ำ
ดั้นก็หยิบมานะ เด็กเสร็จธุระออกมา แล้วมาดูบทสนทนาดั้นกะเด็กก้านนะ
เด็ก : น้ำอยู่ไหน
ดั้น : ที่โต๊ะไง
เด็ก : ไม่มี
ดั้น : ม้านจะไม่มีได้ไง ก็ว่างอยู่นั้นไง เริ่มหงิดหงุด
เด็ก : ไม่มี
ดั้น : ก็ไอ้ขวดสีส้มไง
เด็ก : สั่งอะไร
ดั้น : สั่งสไปร์ท
เด็ก : และนั้นอะไร
ดั้น : สะเปรช เออว่า
ดั้น : จะกินป่าวไม่กินเดี๋ยวกินเอง
เด็ก : ดูดเอาดูดเอา
ลืมไปเรื่องทางมันยังไม่จบอ่ะดิ ไอ้เสาหลักกี่โลที่ดูอ่ะ มันมีสี่ด้านใช่ป่ะ ดั้นก็ดูด้านที่หันมาทางเราด้านข้าง พอจอดรถหันไปถามคนแถวนั้น สายตาอันว่องไว ดันไปเห็นด้านข้างที่หันมาถนนว่า มันเพิ่งจะ กอมอ 29 อ่ะ เอาเป็นว่า ภาคนี้จบก่อนนะ ดั้นเหนือยอ่ะ มาเอาบทสรุปเลยดีก่า
สุดท้ายก็ถึง........ต้นทางเข้าขุนวาง ไปแน่นิ่งวิ่งพล่านถ่ายรูปเป็นนายกะนางแบบอยู่ซะนาน จนแถบไม่เหลือคราย ถ่ายรูปแล้วรูปอีก เล็งแล้วเล็งอีก สุดท้ายเอาวีดีโอมาให้ดูดีก่า แต่เป็นภาครวมมิตรนะ เพราะถ้าเอารูปลงคงไม่จบอ่ะ เรื่องนี้มียาวววววว
[CR] ลุยหาดอกนางพญาเสือโคร่ง ดอยอินทนนท์
นับว่าโชคดี ยังเห็นดั้นเป็นมนุษย์ บ่อช่ายหมู แต่ก็แทบไปทุกที.........
แฮะแฮะ ไม่เกี่ยวกับเรื่องที่จะเขียน ขอไร้สาระไปเรื่อยๆ ม๊ะมาเข้าเรื่องดีก่า
หลังจากหนีเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นด้วยวิธีการใดก็แล้วแต่ขอให้ได้ไป ไม่ว่าจะเป้นการหลอกหัวหน้า หลอกเพื่อนร่วมงานขอความเห็นใจให้ช่วยทำงานให้ แบบว่าเที่ยวแล้วเสียว เดี๋ยวโดนไล่ออก หากเปิด Location ประมาณนั้น แต่ไม่เป็นไร ดั้นพอมีตังค์ อยู่ซัก 10 วันนน
มาเข้าเรื่องดีก่า จากทริปแรกของปี แต่ไม่ใช่ทริปสุดท้ายของดั้นนะฮ่ะ
เรื่องมันมีอยู่ว่า จองเจ้าหางแดงเป็นช้าด ก็ได้เวลาเหินเวหาสักที
ทุกคนเป็นไหม ขึ้นเครื่องทีไรตอนมันจะเทคเนี้ย กัวว่ามันจะไม่ขึ้น ก็เสียงมันยังกะเครื่องจะพัง เล่นเอาเสียว
และพอมันขึ้นเส็ดนะสักพักมันต้องเลี้ยวโค้ง มันจะเลี้ยวทามมัย รู้ไหมว่ามันเสียวเล่นตีโค้งซะเอียงเป็นแถบ จะนั่งเครื่องหย่าย ก่านี้ ตังค์ก็ไม่มี เลยต้องเสียวกันไป
พอถึงชอมอ จองรถ ตรวจรถ คุณแม่เจ้า ไอ้รถคันนี้ มันใส่แผ่นเสียงตรงไหนว่ะ ดูนั้นดูนี้ แกะนั้นแกะนี้ แกะไปแกะมาเจอเจ้าช่องสี่ เหลียม มีที่เสียบด้วย เอาแล้ว เอาแล้ว อุตสาห์ก็อปมาเป็นแผ่น สุดท้าย USB คับเพ่
ตรูร้องเองก็ได้ คิดหรือว่าจะง้อ ขับรถออกมาเรื่อยๆ แบบคนเกิดในพื้นที่ ขับไปจนถึงแยกขึ้นดอยอินทนนท์
ขับขึ้นไปเรื่อยๆ แอบนั่งเถึยงในใจนะว่า จำได้ ว่า กมที่ 30 หรือ 31 นี้แหละต้องเลี้ยวขวาแหละ เพื่อจะไปขุนวาง ไล่ล่าบ้างสิ่งที่ตั้งใจไว้
ดั้นคอยดูหลัก กม เด็กดั้นขับไป ขับไปเรื่อยๆ ดั้นเห็นแล้วว่ามันผ่าน กม ที่ 34 33 32 เลยบอกเด็ก ให้ชะลอ บอกว่าจะถึงแล้วนะ
เตรียมเลี้ยวขวาได้ พอขับไปอีกสักพักผ่าน กม 31 30 มันไม่มีทางเลี้ยวขวาเลยแฮะ มีแต่หน้าผา คิดในใจ จะให้ดั้นไต่หน้าผา ม้วนตัวรถ เอาต้นไม้เป็นถนนป่าวว่ะ เอแต่รถก็หนักนี่หว่า เลยบอกให้หยุดแวะถามคนในพื้นที่ดีก่า
ไปเจอร้านกาแฟร้านหนึ่ง เด็กอยากกินกาแฟม๊าก ตรงดิ่งไปเลยนะ แล้วบอกว่า เอเพรสโซ ทีหนึ่ง
แล้วเสียงหวานๆ ก็ตอบมาว่า ไฟด้บค่ะ ไม่มีน้ำร้อน
ดั้นก็เลยบอกว่านั้นขอม่าม่าละกั้น แล้วก็เถียงในใจ แล้วตรูจะกินกะอะไรฟ่ะ มันไม่มีน้ำร้อนนี่ว่าาา
ต่างคนต่างเศร้า คิดเมนูใหม่
ดั้นเดินเปิดตู้แช่น้ำ ดั้นหยิบน้ำเปล่ามา ส่วนเด็กบอกว่า เอาสไปร์ทนะ แล้วเดินไปห้องน้ำ
ดั้นก็หยิบมานะ เด็กเสร็จธุระออกมา แล้วมาดูบทสนทนาดั้นกะเด็กก้านนะ
เด็ก : น้ำอยู่ไหน
ดั้น : ที่โต๊ะไง
เด็ก : ไม่มี
ดั้น : ม้านจะไม่มีได้ไง ก็ว่างอยู่นั้นไง เริ่มหงิดหงุด
เด็ก : ไม่มี
ดั้น : ก็ไอ้ขวดสีส้มไง
เด็ก : สั่งอะไร
ดั้น : สั่งสไปร์ท
เด็ก : และนั้นอะไร
ดั้น : สะเปรช เออว่า
ดั้น : จะกินป่าวไม่กินเดี๋ยวกินเอง
เด็ก : ดูดเอาดูดเอา
ลืมไปเรื่องทางมันยังไม่จบอ่ะดิ ไอ้เสาหลักกี่โลที่ดูอ่ะ มันมีสี่ด้านใช่ป่ะ ดั้นก็ดูด้านที่หันมาทางเราด้านข้าง พอจอดรถหันไปถามคนแถวนั้น สายตาอันว่องไว ดันไปเห็นด้านข้างที่หันมาถนนว่า มันเพิ่งจะ กอมอ 29 อ่ะ เอาเป็นว่า ภาคนี้จบก่อนนะ ดั้นเหนือยอ่ะ มาเอาบทสรุปเลยดีก่า
สุดท้ายก็ถึง........ต้นทางเข้าขุนวาง ไปแน่นิ่งวิ่งพล่านถ่ายรูปเป็นนายกะนางแบบอยู่ซะนาน จนแถบไม่เหลือคราย ถ่ายรูปแล้วรูปอีก เล็งแล้วเล็งอีก สุดท้ายเอาวีดีโอมาให้ดูดีก่า แต่เป็นภาครวมมิตรนะ เพราะถ้าเอารูปลงคงไม่จบอ่ะ เรื่องนี้มียาวววววว