ตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุจากมอไซด์เมื่อ 10 ปีก่อนเราก็ไม่ยอมนั่งหรือขับมอไซด์อีกเลย ...
ปีที่แล้วเราไปทำงานที่ต่างจังหวัด นานๆกลับกรุงเทพที เมื่อวานเรามีนัดทานข้าวกับพี่คนหนึ่งซึ่งสนิทกันแถวสุขุมวิท เรานั่งรถไฟฟ้าไป ตอนไปไม่มีปัญหาเพราะแท็กซี่พาเลี่ยงไปขึ้นที่สถานีอื่น ตอนกลับเรามาลงที่สถานีปลายทางหมอชิต ซึ่งตอนนั้นก็ประมาณสองทุ่มกว่าๆ คอนโดเราอยู่แถวๆรัตนาธิเบศร์
พอลงจากรถไฟฟ้าข้ามสะพานลอยมาฝั่งตรงข้ามเพื่อจะต่อรถกลับบ้าน ตอนลงบันไดเลื่อนมา เห็นวินมอโซด์ชุมนุมกันอยู่เยอะมาก ตอนแรกยังเข้าใจว่าเป็นม็อบวินมอโซด์ซะอีก จะถอยกลับก็ไม่ได้ต้องลงมาให้สุดบันไดเลื่อนก่อนแล้วค่อยหาทางเลี่ยงอีกที เราคิด แต่พอลงมาถึง ก็มีคนขับวินมาห้อมล้อมเราเต็มไปหมด เราตกใจมาก พวกเขาถามเราว่าจะไปไหน ๆ เราพยายามมองหาเพื่อนเห็นมีอยู่ 4-5 คน ซึ่งเขามีเพื่อนหรือแฟนมาด้วย เห็นพวกเขากำลังรีบเดินหนีไป
เราเองก็พยายามเดินหนีและมองหาแท็กซี่ ก็มีวินคนหนึ่งมาจับแขนเรา เราสะบัดแขนออกทันที เขาก็เข้ามาประชิดตัวเราและถามว่าเราจะไปไหน เราบอกว่าเราจะมาต่อรถกลับบ้าน เขาบอกว่า ไม่มีรถหรอกตอนนี้เพราะม็อบปิดถนนรถเข้ามาไม่ได้ ต้องนั่งมอไซด์ออกไปต่อรถข้างนอก เราบอกว่าเราจะเรียกแท็กซี่ เขาก็บอกว่า แท็กซี่ก็ไม่มี แต่เราเห็นแท็กซี่กำลังกลับรถย้อนออกไปอยู่ 2 คัน คนขับมอไซด์บอกว่าแท็กซี่ที่กำลังกลับออกไปน่ะ เขาคิดเที่ยวละ 500 ไปส่งที่หลังสวนจตุจักรนี่เอง ถ้าไปไกลกว่านั้นก็ลองคิดดูว่าค่าแท็กซี่จะแพงขนาดไหน เราบอกว่าแพงอย่างนั้นใครจะไปนั่ง คนขับวินก็บอกว่า ก็นั่นน่ะสิคุณไม่มีทางเลือกต้องนั่งมอไซด์อย่างเดียว
เราไม่ได้เชื่อที่คนขับมอไซด์บอก แต่มันไม่มีรถแท็กซี่เข้ามาในนั้นอีก และเราไม่อยากอยู่ในวงล้อมแบบนั้นนานๆ
เราลังเลเพราะเรากลัวการนั่งมอไซด์ จะเดินกลับออกมาก็ถูกล้อมเอาไว้ ตอนนี้ไม่มีใครอยู่ที่นั่นเลย และก็เริ่มดึกแล้วด้วย ก็เลยถามเขาว่า ค่ามอไซด์ไปต่อรถข้างนอกเท่าไหร่ เขาไม่บอกราคาแต่บอกว่า ก็อยู่ที่ว่าเราจะเรียกรถได้ที่ไหน เราก็ถามต่อว่า แพงมากไหม เขาบอกว่า ไม่แพงหรอกก็ราคาปกติ เราก็เลยตัดสินใจนั่งมอไซด์คันนั้น

มอไซด์พาเราย้อนออกมาเข้าซอยด้านหลัง อ้อมหลังสวนสาธารณะ มาทะลุออกเส้นคู่ขนานของถนนวิภาวดี (ดูแผนที่) ขับตรงมาอีกนิดเดียวก็ถึงจุดตั้งเต้นท์ของม็อบซึ่งตอนนั้นมีคนอยู่ไม่กี่คนเอง เราก็งง ถามมอไซด์ว่า ทำไมไม่พาเราเลี่ยงม็อบแต่กลับมาผ่านม็อบ ไม่กลัวอันตรายเหรอ เพราะปกติม็อบเขาจะขอตรวจคนที่ผ่านเข้าออก ในใจเราก็กลัวว่าจะมีเหตุปะทะและกลัวโดนลูกหลง มอไซด์บอกว่า ม็อบเขาไม่อะไรกับมอไซด์หรอก เขาจะมีปัญหากับแท็กซี่มากกว่า
ซักพักพอผ่านทางแยกสะพานรัชวิภามานิดหนึ่ง มอไซด์ก็จอดรถ ซึ่งตรงนั้นมืดและเปลี่ยวไม่ใช่ที่ที่รถจะจอดเลย เขาบอกว่าจอดเรียกแท็กซี่ตรงนี้ก็แล้วกัน เราก็ถามว่าทำไมจอดที่มืดจัง ไม่ไปจอดที่ป้ายรถเมล์ล่ะ เขาบอกว่า ป้ายรถเมล์คนเยอะเรียกแท็กซี่ยาก เราก็ถามว่าค่ารถเท่าไหร่ เขาไม่ตอบแต่บอกว่าจะเรียกแท็กซี่ให้เราก่อน แล้วก็ยืนรอแท็กซี่กัน

ประมาณ 5 นาทีผ่านไปก็ยังไม่มีแท็กซี่มาเลย วิ่งเส้นในกันหมด (ก็อยู่หน้าม็อบแล้วจะมีรถแท็กซี่ที่ไหนมาวิ่ง เขาเลี่ยงทางกันหมด มอไซด์เอาอะไรคิดวะเนี่ย?) ซักพักคนขับมอไซด์ก็หันมาพูดกับเราว่า ไม่มีรถแท็กซี่เลย รีบไม๊ สงสัยเราคงต้องไปต่อด้วยกันแล้วล่ะมั๊ง เราบอกว่า ไม่เป็นไรเรารอได้คุณกลับไปเถอะเราไม่รีบ
ผ่านไปอีกประมาณ 2 นาทีก็มีแท็กซี่ ป้ายว่างคันหนึ่งเลี้ยวออกมาจากแยกรัชวิภา เรารีบวิ่งออกไปโบกกลางถนนเลย ได้ยินคนขับมอไซด์สบถว่า “ แm’ง ” พอแท็กซี่จอดเราหันมาถามมอไซด์ว่าค่ารถเท่าไหร่ เขาตอบว่า
180 บาท ....
เราอึ้งนะ ไมมันแพงอย่างนี้ แต่ก็ไม่ว่าอะไร ปกติเราจะเตรียมตังค์ค่ารถแท็กซี่ รถเมล์ เป็นแบ็งค์ย่อยเอาไว้ในกระเป๋าเสื้อ กระเป๋ากางเกงหรือกระโปรงข้างนอก เพราะไม่อยากจะเปิดกระเป๋าตังค์ให้ใครเห็น เพราะมันง่ายต่อการฉกชิงเอาไปได้ แต่เมื่อคืนเราเตรียมตังค์เอาไว้แค่ 150 บาทเอง ซึ่งไม่พอ เราก็เลยต้องเปิดกระเป๋าตังค์หยิบแบงค์เพิ่ม
เรากลัวมอไซด์เห็นตังค์ในกระเป๋าตังค์เราซึ่งมีเงินอยู่มากพอสมควร และกลัวโดนฉก เราก็เลยขึ้นไปนั่งในแท็กซี่ก่อนแล้วค่อยเปิดกระเป๋าตังค์หยิบแบงค์100 ให้ 2 ใบ คนขับมอไซด์คว้าเอาตังค์จากมือเราไปและบอกว่า ไม่มีทอนนะถือว่าเป็นค่าทิปก็แล้วกัน แล้วก็ขับรถออกไป


คนขับแท็กซี่เห็นก็ถามเราว่า มาจากไหนทำไมค่ามอไซด์แพงจัง เราบอกว่ามาจากรถสถานีไฟฟ้าหมอชิต ม็อบปิดถนน ไม่มีรถเข้าไป จึงต้องนั่งมอไซด์ออกมาต่อรถข้างนอก คนขับแท็กซี่บอกว่า เราถูกโก่งค่าโดยสารแล้วล่ะ ทำไมตะกี๊เราไม่โวยวาย เราเงียบ แต่ในใจคิดว่า ถ้าเราโวยวายไปคนขับมอไซด์โกรธและทำร้ายเรา คุณจะลงไปช่วยเราไหม และถ้าลงไปช่วยจะช่วยเราทันไหม เราไม่แลกชีวิตเรากับเงินแค่นี้หรอก .... ซักพักก็บอกแท็กซี่ว่า .... ไปรัตนาธิเบศร์ ... ใช้มิเตอร์ !!
ระยะทางของรถมอเตอร์ไซด์
:+ :+ :+ นั่งมอเตอร์ไซด์หลบม็อบแต่ถูกโก่งราคา :+ :+ :+
ปีที่แล้วเราไปทำงานที่ต่างจังหวัด นานๆกลับกรุงเทพที เมื่อวานเรามีนัดทานข้าวกับพี่คนหนึ่งซึ่งสนิทกันแถวสุขุมวิท เรานั่งรถไฟฟ้าไป ตอนไปไม่มีปัญหาเพราะแท็กซี่พาเลี่ยงไปขึ้นที่สถานีอื่น ตอนกลับเรามาลงที่สถานีปลายทางหมอชิต ซึ่งตอนนั้นก็ประมาณสองทุ่มกว่าๆ คอนโดเราอยู่แถวๆรัตนาธิเบศร์
พอลงจากรถไฟฟ้าข้ามสะพานลอยมาฝั่งตรงข้ามเพื่อจะต่อรถกลับบ้าน ตอนลงบันไดเลื่อนมา เห็นวินมอโซด์ชุมนุมกันอยู่เยอะมาก ตอนแรกยังเข้าใจว่าเป็นม็อบวินมอโซด์ซะอีก จะถอยกลับก็ไม่ได้ต้องลงมาให้สุดบันไดเลื่อนก่อนแล้วค่อยหาทางเลี่ยงอีกที เราคิด แต่พอลงมาถึง ก็มีคนขับวินมาห้อมล้อมเราเต็มไปหมด เราตกใจมาก พวกเขาถามเราว่าจะไปไหน ๆ เราพยายามมองหาเพื่อนเห็นมีอยู่ 4-5 คน ซึ่งเขามีเพื่อนหรือแฟนมาด้วย เห็นพวกเขากำลังรีบเดินหนีไป
เราเองก็พยายามเดินหนีและมองหาแท็กซี่ ก็มีวินคนหนึ่งมาจับแขนเรา เราสะบัดแขนออกทันที เขาก็เข้ามาประชิดตัวเราและถามว่าเราจะไปไหน เราบอกว่าเราจะมาต่อรถกลับบ้าน เขาบอกว่า ไม่มีรถหรอกตอนนี้เพราะม็อบปิดถนนรถเข้ามาไม่ได้ ต้องนั่งมอไซด์ออกไปต่อรถข้างนอก เราบอกว่าเราจะเรียกแท็กซี่ เขาก็บอกว่า แท็กซี่ก็ไม่มี แต่เราเห็นแท็กซี่กำลังกลับรถย้อนออกไปอยู่ 2 คัน คนขับมอไซด์บอกว่าแท็กซี่ที่กำลังกลับออกไปน่ะ เขาคิดเที่ยวละ 500 ไปส่งที่หลังสวนจตุจักรนี่เอง ถ้าไปไกลกว่านั้นก็ลองคิดดูว่าค่าแท็กซี่จะแพงขนาดไหน เราบอกว่าแพงอย่างนั้นใครจะไปนั่ง คนขับวินก็บอกว่า ก็นั่นน่ะสิคุณไม่มีทางเลือกต้องนั่งมอไซด์อย่างเดียว
เราไม่ได้เชื่อที่คนขับมอไซด์บอก แต่มันไม่มีรถแท็กซี่เข้ามาในนั้นอีก และเราไม่อยากอยู่ในวงล้อมแบบนั้นนานๆ
เราลังเลเพราะเรากลัวการนั่งมอไซด์ จะเดินกลับออกมาก็ถูกล้อมเอาไว้ ตอนนี้ไม่มีใครอยู่ที่นั่นเลย และก็เริ่มดึกแล้วด้วย ก็เลยถามเขาว่า ค่ามอไซด์ไปต่อรถข้างนอกเท่าไหร่ เขาไม่บอกราคาแต่บอกว่า ก็อยู่ที่ว่าเราจะเรียกรถได้ที่ไหน เราก็ถามต่อว่า แพงมากไหม เขาบอกว่า ไม่แพงหรอกก็ราคาปกติ เราก็เลยตัดสินใจนั่งมอไซด์คันนั้น
มอไซด์พาเราย้อนออกมาเข้าซอยด้านหลัง อ้อมหลังสวนสาธารณะ มาทะลุออกเส้นคู่ขนานของถนนวิภาวดี (ดูแผนที่) ขับตรงมาอีกนิดเดียวก็ถึงจุดตั้งเต้นท์ของม็อบซึ่งตอนนั้นมีคนอยู่ไม่กี่คนเอง เราก็งง ถามมอไซด์ว่า ทำไมไม่พาเราเลี่ยงม็อบแต่กลับมาผ่านม็อบ ไม่กลัวอันตรายเหรอ เพราะปกติม็อบเขาจะขอตรวจคนที่ผ่านเข้าออก ในใจเราก็กลัวว่าจะมีเหตุปะทะและกลัวโดนลูกหลง มอไซด์บอกว่า ม็อบเขาไม่อะไรกับมอไซด์หรอก เขาจะมีปัญหากับแท็กซี่มากกว่า
ซักพักพอผ่านทางแยกสะพานรัชวิภามานิดหนึ่ง มอไซด์ก็จอดรถ ซึ่งตรงนั้นมืดและเปลี่ยวไม่ใช่ที่ที่รถจะจอดเลย เขาบอกว่าจอดเรียกแท็กซี่ตรงนี้ก็แล้วกัน เราก็ถามว่าทำไมจอดที่มืดจัง ไม่ไปจอดที่ป้ายรถเมล์ล่ะ เขาบอกว่า ป้ายรถเมล์คนเยอะเรียกแท็กซี่ยาก เราก็ถามว่าค่ารถเท่าไหร่ เขาไม่ตอบแต่บอกว่าจะเรียกแท็กซี่ให้เราก่อน แล้วก็ยืนรอแท็กซี่กัน
ประมาณ 5 นาทีผ่านไปก็ยังไม่มีแท็กซี่มาเลย วิ่งเส้นในกันหมด (ก็อยู่หน้าม็อบแล้วจะมีรถแท็กซี่ที่ไหนมาวิ่ง เขาเลี่ยงทางกันหมด มอไซด์เอาอะไรคิดวะเนี่ย?) ซักพักคนขับมอไซด์ก็หันมาพูดกับเราว่า ไม่มีรถแท็กซี่เลย รีบไม๊ สงสัยเราคงต้องไปต่อด้วยกันแล้วล่ะมั๊ง เราบอกว่า ไม่เป็นไรเรารอได้คุณกลับไปเถอะเราไม่รีบ
ผ่านไปอีกประมาณ 2 นาทีก็มีแท็กซี่ ป้ายว่างคันหนึ่งเลี้ยวออกมาจากแยกรัชวิภา เรารีบวิ่งออกไปโบกกลางถนนเลย ได้ยินคนขับมอไซด์สบถว่า “ แm’ง ” พอแท็กซี่จอดเราหันมาถามมอไซด์ว่าค่ารถเท่าไหร่ เขาตอบว่า 180 บาท ....
เราอึ้งนะ ไมมันแพงอย่างนี้ แต่ก็ไม่ว่าอะไร ปกติเราจะเตรียมตังค์ค่ารถแท็กซี่ รถเมล์ เป็นแบ็งค์ย่อยเอาไว้ในกระเป๋าเสื้อ กระเป๋ากางเกงหรือกระโปรงข้างนอก เพราะไม่อยากจะเปิดกระเป๋าตังค์ให้ใครเห็น เพราะมันง่ายต่อการฉกชิงเอาไปได้ แต่เมื่อคืนเราเตรียมตังค์เอาไว้แค่ 150 บาทเอง ซึ่งไม่พอ เราก็เลยต้องเปิดกระเป๋าตังค์หยิบแบงค์เพิ่ม
เรากลัวมอไซด์เห็นตังค์ในกระเป๋าตังค์เราซึ่งมีเงินอยู่มากพอสมควร และกลัวโดนฉก เราก็เลยขึ้นไปนั่งในแท็กซี่ก่อนแล้วค่อยเปิดกระเป๋าตังค์หยิบแบงค์100 ให้ 2 ใบ คนขับมอไซด์คว้าเอาตังค์จากมือเราไปและบอกว่า ไม่มีทอนนะถือว่าเป็นค่าทิปก็แล้วกัน แล้วก็ขับรถออกไป
คนขับแท็กซี่เห็นก็ถามเราว่า มาจากไหนทำไมค่ามอไซด์แพงจัง เราบอกว่ามาจากรถสถานีไฟฟ้าหมอชิต ม็อบปิดถนน ไม่มีรถเข้าไป จึงต้องนั่งมอไซด์ออกมาต่อรถข้างนอก คนขับแท็กซี่บอกว่า เราถูกโก่งค่าโดยสารแล้วล่ะ ทำไมตะกี๊เราไม่โวยวาย เราเงียบ แต่ในใจคิดว่า ถ้าเราโวยวายไปคนขับมอไซด์โกรธและทำร้ายเรา คุณจะลงไปช่วยเราไหม และถ้าลงไปช่วยจะช่วยเราทันไหม เราไม่แลกชีวิตเรากับเงินแค่นี้หรอก .... ซักพักก็บอกแท็กซี่ว่า .... ไปรัตนาธิเบศร์ ... ใช้มิเตอร์ !!
ระยะทางของรถมอเตอร์ไซด์