
จากที่ผ่านมาอากาศเย็นๆมีอาการอยากทานอะไรมีน้ำร้อนๆ
ให้น้ำมูกน้ำตาไหล เรียกเหงื่อพอเป็นกระษัย .. สิ่งแรกที่นึกถึงคือขนมจีนน้ำเงี้ยวครับ
ส่วนตัวเคยทำมาหลายครั้งแล้วกับเมนูเหล่านี้ คือเริ่มทำครั้งแรกด้วยเครื่องตัวหลักที่เหมือนๆกัน
แล้วแต่งเติม เพิ่มนิด นี่หน่อย ทำให้กลายเป็นเมนูอาหารอื่นๆที่ใกล้เคียงกัน ที่บางท่านอาจทราบอยู่บ้างแล้ว
ครั้งนี้เลยอยากบันทึกเหตุการณ์ และวิธีทำคร่าวๆเท่าที่ทำได้ แสดงให้พี่ๆน้องๆได้ดู เผื่อมีใครคิด
อะไรได้มากกว่านี้ ครั้งนี้ตัวเริ่มหลักของเมนูนี้ก็คือ น้ำพริกอ่อง การปรุงของผมไม่ได้ใช้
สูตรตายตัวอะไร ดัดแปลงและทำไปตามเท่าที่อุปกรณ์มีและใช้สอยแบบไม่สิ้นเปลือง
ลองมาดูกันครับว่าผมเริ่มจากน้ำพริกอ่อง มีเพี้ยนๆอะไรไปบ้าง

เมนูที่ได้ทั้งหมดจากการลงทุนครั้งนี้คือ
1. น้ำพริกอ่อง
2. ขนมจีนน้ำเงี้ยว ( ผมทานได้สองมื้อติดกัน )
3. ขนมจีนผัด ราดน้ำพริกอ่อง ( ใช้ผักที่เหลือจากขนมจีนที่ใช้ไม่หมด )
4. Spaghetti หมูสับ ( รสน้ำพริกอ่อง )
5. ไข่ยัดใส้ ( รสน้ำพริกอ่อง )
ตัวหลักที่มีคือ น้ำพริกแกงสำเร็จรูป จากร้านโปรดที่ไปเจอที่เชียงใหม่
แต่ปรากฏว่าน้ำพริกแกงสำหรับทำน้ำเงี้ยว ได้หมดไปนานแล้ว คงเหลือ
แต่น้ำพริกแกงมัสมั่น สำหรับผมไม่แตกต่างกันนัก กลิ่นอาจมีเครื่องแกง
อื่นปนมาบ้าง น่าจะได้อรรถรสไปอีกแบบ ...ไหนๆก็ไหนๆ.........

ไปตลาดหาซื้ออุปกรณ์อื่นๆ ซึ่งมีดังต่อไปนี้ครับ
หมูสับ 400 กรัม
ซี่โครงอ่อน ( ได้เนื้อได้หนังเยอะ กระดูกก็ทานได้หมด ) 300 กรัม
เลือดหมู 1 หลอด ( ซื้อในห้างดอกบัวครับ )
มะเขือเทศสีดา ( ตลาดแถวบ้านขายเป็นถาดๆ ประมาณ 400 กรัม ) 10 บาท
กระหล่ำปลี 1 หัวขนาดกลาง 10 บาท
ถั่วงอก ครึ่งกิโลฯ 5 บาท
ผักชี ต้นหอม มัดละ 5 บาท ได้ผักชี 2 ต้น และต้นหอม 4 ต้น
กระเทียมสดสับแล้ว 400 กรัม 20 บาท
ขนมจีน 1 เข่ง 20 บาท
มันฝรั่ง กองละ 10 บาท มี 4 หัว
อื่นๆ หอมหัวใหญ่ เส้นสปาเก็ตตี้ ข้าวโพด ที่บ้านมีเหลือติดในตู้เย็น
มาดูวิธีทำของผมครับ
ผมเริ่มทำน้ำพริกอ่องก่อน เพราะจากตัวนี้จะเเบ่งไปทำตัวอื่นๆได้อีกครับ
จัดการล้างมะเขือเทศและหั่นผ่าสี่ ผักชีต้นหอม กระดูกหมู และผึ่งให้แห้ง
ตั้งกระทะใส่น้ำมันประมาณ 3 - 4 ช้อนโต๊ะ ใส่กระเทียมลงไปเจียวจนได้สีเหลืองทอง ตักใส่ถ้วยไว้

กระทะใบเดิม เพิ่มน้ำมันอีกเล้กน้อย ใส่พริกแกงลงไปผัด จนหอมดี แล้วใส่หมูสับและกระดูกหมู
ลงไปผัด ( ปกติ สูตรเดิมๆนั้น หมูสับและมะเขือเทศจะนำไปโขลกกับน้ำพริกในครก แต่ด้วยส่วนตัว
ความชอบส่วนตัวคือ ชอบทานรสสัมผัสที่ไม่เละๆ จึงไม่ใช้วิธีนั้นครับ )
เมื่อหมูเริ่มสุก ก็ใส่มะเขือเทศที่ผ่าแล้วลงไปทั้งหมด คน-ผัดให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยเกลือเล็กน้อย
และซอสถั่วเหลืองเล็กน้อย ผัดจนเห็นว่าเริ่มมีน้ำคายออกจากผักท่วมขึ้นมา หรี่ไฟลดลง
เพื่อเคี่ยวให้เนื้อสัตว์และผักเปื่อย พอได้ที่แล้ว ( ประมาณ 15 - 20 นาทีโดยประมาณ )
ก่อนยกลงปรุงรสด้วยน้ำตาล และนำ้ปลา ชิมอย่าให้รสจัดเกินไปนัก เอารสกลางๆไว้ก่อนครับ

ใช้หม้อใบเกือบขนาดกลาง ใส่น้ำเปล่าประมาณเกือบครึ่งหม้อ แล้วแยกกระดูกหมูทั้งหมด
ลงในหม้อนี้ แบ่งส่วนหมูสับและมะเขือในกระทะออกมา เพราะจะเป็นส่วนของน้ำขนมจีน น้ำเงี้ยว
เมื่อแยกกันแล้ว ส่วนหมูสับทั้งหมดที่เหลือ ก็จะเป็นน้ำพริกอ่องครับ
[CR] ``..'[...^...] .. จากน้ำพริกอ่อง ต่อยอดดัดแปลงเป็นหลากเมนู ทั้งไทย และเทศ .. [...^...]'..``
ให้น้ำมูกน้ำตาไหล เรียกเหงื่อพอเป็นกระษัย .. สิ่งแรกที่นึกถึงคือขนมจีนน้ำเงี้ยวครับ
ส่วนตัวเคยทำมาหลายครั้งแล้วกับเมนูเหล่านี้ คือเริ่มทำครั้งแรกด้วยเครื่องตัวหลักที่เหมือนๆกัน
แล้วแต่งเติม เพิ่มนิด นี่หน่อย ทำให้กลายเป็นเมนูอาหารอื่นๆที่ใกล้เคียงกัน ที่บางท่านอาจทราบอยู่บ้างแล้ว
ครั้งนี้เลยอยากบันทึกเหตุการณ์ และวิธีทำคร่าวๆเท่าที่ทำได้ แสดงให้พี่ๆน้องๆได้ดู เผื่อมีใครคิด
อะไรได้มากกว่านี้ ครั้งนี้ตัวเริ่มหลักของเมนูนี้ก็คือ น้ำพริกอ่อง การปรุงของผมไม่ได้ใช้
สูตรตายตัวอะไร ดัดแปลงและทำไปตามเท่าที่อุปกรณ์มีและใช้สอยแบบไม่สิ้นเปลือง
ลองมาดูกันครับว่าผมเริ่มจากน้ำพริกอ่อง มีเพี้ยนๆอะไรไปบ้าง
เมนูที่ได้ทั้งหมดจากการลงทุนครั้งนี้คือ
1. น้ำพริกอ่อง
2. ขนมจีนน้ำเงี้ยว ( ผมทานได้สองมื้อติดกัน )
3. ขนมจีนผัด ราดน้ำพริกอ่อง ( ใช้ผักที่เหลือจากขนมจีนที่ใช้ไม่หมด )
4. Spaghetti หมูสับ ( รสน้ำพริกอ่อง )
5. ไข่ยัดใส้ ( รสน้ำพริกอ่อง )
ตัวหลักที่มีคือ น้ำพริกแกงสำเร็จรูป จากร้านโปรดที่ไปเจอที่เชียงใหม่
แต่ปรากฏว่าน้ำพริกแกงสำหรับทำน้ำเงี้ยว ได้หมดไปนานแล้ว คงเหลือ
แต่น้ำพริกแกงมัสมั่น สำหรับผมไม่แตกต่างกันนัก กลิ่นอาจมีเครื่องแกง
อื่นปนมาบ้าง น่าจะได้อรรถรสไปอีกแบบ ...ไหนๆก็ไหนๆ.........
ไปตลาดหาซื้ออุปกรณ์อื่นๆ ซึ่งมีดังต่อไปนี้ครับ
หมูสับ 400 กรัม
ซี่โครงอ่อน ( ได้เนื้อได้หนังเยอะ กระดูกก็ทานได้หมด ) 300 กรัม
เลือดหมู 1 หลอด ( ซื้อในห้างดอกบัวครับ )
มะเขือเทศสีดา ( ตลาดแถวบ้านขายเป็นถาดๆ ประมาณ 400 กรัม ) 10 บาท
กระหล่ำปลี 1 หัวขนาดกลาง 10 บาท
ถั่วงอก ครึ่งกิโลฯ 5 บาท
ผักชี ต้นหอม มัดละ 5 บาท ได้ผักชี 2 ต้น และต้นหอม 4 ต้น
กระเทียมสดสับแล้ว 400 กรัม 20 บาท
ขนมจีน 1 เข่ง 20 บาท
มันฝรั่ง กองละ 10 บาท มี 4 หัว
อื่นๆ หอมหัวใหญ่ เส้นสปาเก็ตตี้ ข้าวโพด ที่บ้านมีเหลือติดในตู้เย็น
มาดูวิธีทำของผมครับ
ผมเริ่มทำน้ำพริกอ่องก่อน เพราะจากตัวนี้จะเเบ่งไปทำตัวอื่นๆได้อีกครับ
จัดการล้างมะเขือเทศและหั่นผ่าสี่ ผักชีต้นหอม กระดูกหมู และผึ่งให้แห้ง
ตั้งกระทะใส่น้ำมันประมาณ 3 - 4 ช้อนโต๊ะ ใส่กระเทียมลงไปเจียวจนได้สีเหลืองทอง ตักใส่ถ้วยไว้
กระทะใบเดิม เพิ่มน้ำมันอีกเล้กน้อย ใส่พริกแกงลงไปผัด จนหอมดี แล้วใส่หมูสับและกระดูกหมู
ลงไปผัด ( ปกติ สูตรเดิมๆนั้น หมูสับและมะเขือเทศจะนำไปโขลกกับน้ำพริกในครก แต่ด้วยส่วนตัว
ความชอบส่วนตัวคือ ชอบทานรสสัมผัสที่ไม่เละๆ จึงไม่ใช้วิธีนั้นครับ )
เมื่อหมูเริ่มสุก ก็ใส่มะเขือเทศที่ผ่าแล้วลงไปทั้งหมด คน-ผัดให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยเกลือเล็กน้อย
และซอสถั่วเหลืองเล็กน้อย ผัดจนเห็นว่าเริ่มมีน้ำคายออกจากผักท่วมขึ้นมา หรี่ไฟลดลง
เพื่อเคี่ยวให้เนื้อสัตว์และผักเปื่อย พอได้ที่แล้ว ( ประมาณ 15 - 20 นาทีโดยประมาณ )
ก่อนยกลงปรุงรสด้วยน้ำตาล และนำ้ปลา ชิมอย่าให้รสจัดเกินไปนัก เอารสกลางๆไว้ก่อนครับ
ใช้หม้อใบเกือบขนาดกลาง ใส่น้ำเปล่าประมาณเกือบครึ่งหม้อ แล้วแยกกระดูกหมูทั้งหมด
ลงในหม้อนี้ แบ่งส่วนหมูสับและมะเขือในกระทะออกมา เพราะจะเป็นส่วนของน้ำขนมจีน น้ำเงี้ยว
เมื่อแยกกันแล้ว ส่วนหมูสับทั้งหมดที่เหลือ ก็จะเป็นน้ำพริกอ่องครับ