ที่มาข่าว
http://mcot-web.mcot.net/mcot-testing/site/streaming?id=52e5eb8bbe0470891b8b4590&type=video#.UuZVOBBGzVQ
วันนี้ 27 ม.ค. ทางการพม่าในฐานะประธานอาเชียน แสดงความเป็นห่วงสถานการณ์การชุมนุมของไทยที่อาจรุนแรงขึ้น แม้จะไม่ออกประกาศเตือนการเดินทางเข้าไทยเหมือนกับหลายประเทศ เพราะเชื่อความวุ่นวายจะจบลง
นายพิษณุ สุวรรณชฎ เอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ ระบุว่า พม่าในฐานะประธานอาเซียน เป็นห่วงสถานการณ์การชุมนุมในไทยที่อาจรุนแรงขึ้น แม้จะไม่ออกประกาศเตือนการเดินทางเข้าไทยเหมือนกับหลายประเทศ เพราะเชื่อความวุ่นวายจะจบลง และยังเชื่อว่าหลายโครงการความร่วมมือระหว่างไทยกับพม่าจะยังดำเนินต่อไป และเชื่อว่าการเมืองไทยจะไม่ส่งผลกระทบต่อนักลงทุนต่างชาติ ส่วนการยกเลิกวีซ่าระหว่างกัน ขณะนี้พม่ากำลังพิจารณา แต่เสนอให้ยกเลิกเฉพาะบุคคลที่เดินทางเข้า-ออกโดยเครื่องบิน.-สำนักข่าวไทย
อนึ่งขอเรียนให้ทราบว่า ปัจจุบันพม่าหลังจากกลุ่มเผด็จการทหารทีปกครองประเทศมายาวนาน ใด้ตัดสินใจคืนอำนาจให้ประชาชน โดยให้สิทธิ์ทางการเมืองขั้นพืนฐานแก่ประชาชน ให้ประชาชนลงคะแนนเลือกตั้งรัฐบาลและผู้นำประเทศเองใด้แล้วนั้น
ประชาธิปไตยในพม่าก็เติบโตพัฒนามาเป็นลำดับ จนล่าสุด พล.อ. เต็ง เส่ง ปธน.พม่าคนปัจจุบันก็แถลงการให้รัฐสภาพม่าแก่ใขรัฐธรรมนูญฉบับปี51 เพื่อเปิดทางให้ อองซาน ซูจี ขึ้นเป็นประธานาธิบดีใด้
“ผมเชื่อว่ารัฐธรรมนูญที่ดีต้องได้รับการแก้ไขจากช่วงเวลาหนึ่งสู่ช่วงเวลาหนึ่ง เพื่อสนองตอบความต้องการของชาติ เศรษฐกิจ และสังคมของสังคมเรา” หนังสือพิมพ์นิวไลท์ออฟเมียนมาร์รายงานคำกล่าวของประธานาธิบดีเต็งเส่ง
ผู้นำพม่ายังสนับสนุนให้มีการแก้ไขบทบัญญัติที่ระบุห้ามบุคคลที่มีคู่สมรส หรือบุตรเป็นพลเมืองต่างชาติขึ้นเป็นประธานาธิบดี ซึ่งบทบัญญัตินี้เป็นที่เชื่อกันอย่างกว้างขวางว่ามีเป้าหมายอยู่ที่นางอองซานซูจี ซึ่งมีบุตรชายเป็นชาวอังกฤษ
“ผมไม่ต้องการข้อกำหนดที่จำกัดสิทธิพลเมืองไม่ว่าบุคคลใดก็ตามในการขึ้นเป็นผู้นำประเทศ” เต็งเส่ง กล่าว
ประเทศเพื่อนบ้านเขามีแต่จะพัฒนา ให้เจริญก้าวหน้าต่อๆไป มีแต่ประเทศไทยเราที่พัฒนาแล้วเจริญถอยลง ถ้าวันหนึ่งมีข่าวว่าเกาหลีเหนือ เรียกร้องสนับสนุนให้ มีการเลือกตั้งในไทย ก็อย่างแปลกใจไปยะครับ...
พม่าห่วงใยสถานการณ์ การชุมนุมในไทย
วันนี้ 27 ม.ค. ทางการพม่าในฐานะประธานอาเชียน แสดงความเป็นห่วงสถานการณ์การชุมนุมของไทยที่อาจรุนแรงขึ้น แม้จะไม่ออกประกาศเตือนการเดินทางเข้าไทยเหมือนกับหลายประเทศ เพราะเชื่อความวุ่นวายจะจบลง
นายพิษณุ สุวรรณชฎ เอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ ระบุว่า พม่าในฐานะประธานอาเซียน เป็นห่วงสถานการณ์การชุมนุมในไทยที่อาจรุนแรงขึ้น แม้จะไม่ออกประกาศเตือนการเดินทางเข้าไทยเหมือนกับหลายประเทศ เพราะเชื่อความวุ่นวายจะจบลง และยังเชื่อว่าหลายโครงการความร่วมมือระหว่างไทยกับพม่าจะยังดำเนินต่อไป และเชื่อว่าการเมืองไทยจะไม่ส่งผลกระทบต่อนักลงทุนต่างชาติ ส่วนการยกเลิกวีซ่าระหว่างกัน ขณะนี้พม่ากำลังพิจารณา แต่เสนอให้ยกเลิกเฉพาะบุคคลที่เดินทางเข้า-ออกโดยเครื่องบิน.-สำนักข่าวไทย
อนึ่งขอเรียนให้ทราบว่า ปัจจุบันพม่าหลังจากกลุ่มเผด็จการทหารทีปกครองประเทศมายาวนาน ใด้ตัดสินใจคืนอำนาจให้ประชาชน โดยให้สิทธิ์ทางการเมืองขั้นพืนฐานแก่ประชาชน ให้ประชาชนลงคะแนนเลือกตั้งรัฐบาลและผู้นำประเทศเองใด้แล้วนั้น
ประชาธิปไตยในพม่าก็เติบโตพัฒนามาเป็นลำดับ จนล่าสุด พล.อ. เต็ง เส่ง ปธน.พม่าคนปัจจุบันก็แถลงการให้รัฐสภาพม่าแก่ใขรัฐธรรมนูญฉบับปี51 เพื่อเปิดทางให้ อองซาน ซูจี ขึ้นเป็นประธานาธิบดีใด้
“ผมเชื่อว่ารัฐธรรมนูญที่ดีต้องได้รับการแก้ไขจากช่วงเวลาหนึ่งสู่ช่วงเวลาหนึ่ง เพื่อสนองตอบความต้องการของชาติ เศรษฐกิจ และสังคมของสังคมเรา” หนังสือพิมพ์นิวไลท์ออฟเมียนมาร์รายงานคำกล่าวของประธานาธิบดีเต็งเส่ง
ผู้นำพม่ายังสนับสนุนให้มีการแก้ไขบทบัญญัติที่ระบุห้ามบุคคลที่มีคู่สมรส หรือบุตรเป็นพลเมืองต่างชาติขึ้นเป็นประธานาธิบดี ซึ่งบทบัญญัตินี้เป็นที่เชื่อกันอย่างกว้างขวางว่ามีเป้าหมายอยู่ที่นางอองซานซูจี ซึ่งมีบุตรชายเป็นชาวอังกฤษ
“ผมไม่ต้องการข้อกำหนดที่จำกัดสิทธิพลเมืองไม่ว่าบุคคลใดก็ตามในการขึ้นเป็นผู้นำประเทศ” เต็งเส่ง กล่าว
ประเทศเพื่อนบ้านเขามีแต่จะพัฒนา ให้เจริญก้าวหน้าต่อๆไป มีแต่ประเทศไทยเราที่พัฒนาแล้วเจริญถอยลง ถ้าวันหนึ่งมีข่าวว่าเกาหลีเหนือ เรียกร้องสนับสนุนให้ มีการเลือกตั้งในไทย ก็อย่างแปลกใจไปยะครับ...