หลังการเข่นฆ่าประชาชนกลางถนนอย่างโหดเหี้ยม เมื่อปี 53 ผมซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ไปร่วมเรียกร้องขอสิทธิ์การเลือกตั้งในครั้งนั้นด้วย ซึ่งกว่าจะได้มาต้องมีชีวิตพี่น้องร่วมอุดมการณ์พลีให้ไปหลายสิบชีวิต พิกลพิการ บาดเจ็บ อีกเป็นพัน วันที่ 3กค.2554 เป็นวันที่ผมงดทุกสิ่งทุกอย่างไม่ทำอะไร รีบไปเข้าแถวรอตั้งแต่ยังไม่แปดโมงเช้า ผู้คนที่สิงห์บุรีบ้านผม แม้จะเป็นบ้านนอกคอกนา ชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่จบปริญญาตรี ผู้คนต่างออกมาใช้สิทธิ์กันอย่างล้นหลาม ผมพาแม่ซึ่งจบแค่ ป.4 อายุกว่า 80ปี กระย่องกระแย่ง กึ่งจูงกึ่งอุ้มแกเข้าไปกาเลือกพรรคเพื่อไทย อย่างภาคภูมิใจ ผลออกมาน่าชื่นใจนัก สส.หน้าใหม่ ดร.สุรสาล อดีตเด็กวัด อดีตอาจารย์ อดีตรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ชนะการเลือกตั้งอย่างท่วมท้น เอาชนะอดีตสส.หลานร้านทองใหญ่ ผู้มีทั้งทุน ทั้งฐานเสียงจาก สจ.หนุนเนื่อง แบบขาดลอยไม่เห็นฝุ่น
หลังชื่นชมจากชัยชนะได้ 2 ปีเศษๆ พรรคเพื่อไทยของผม ที่กล้าใช้ตำว่าของผม ทั้งๆที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเลย ไม่ได้เป็นสมาชิก ไม่ได้ทำงานให้ ไม่ได้อะไรด้วยเลย แต่ใช้คำว่าของผม เพราะรู้สึกว่าพรรคนี้เป็นตัวแทนผม ในการต่อสู้กับอำนาจเถื่อน ที่คอยปล้นสิทธิ์ขโมยเสียงผมมาตลอด 20 ปีแห่งการได้สิทธิ์เลือกตั้งของผม ในที่สุดพรรคของผมก็พลาดท่า ต้องยุบสภา ต้องลงเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 2 กพ.57
ปีนี้แม่ผมแก่กว่าครั้งที่แล้วอีก แต่ความทรงจำยังดี เดินไม่ค่อยได้แล้ว แต่แกยังยืนยันจะไปเลือกตั้งให้ได้ วันๆของคนแก่ปูนนี้ได้แต่นั่งๆนอนๆ ดูทีวี เลี้ยงหมา ไปตามเรื่อง วันนี้ตอนกินข้าวเย็น แกถามถึงวันเลือกตั้ง เป็นครั้งแรกในชีวิตแก ปกติผมจะเป็นคนบอกแกว่า แม่ไปเลือกตั้งกัน ในตอนเช้าของวันเลือกตั้ง แกก็จะใช้เวลาเตรียมตัวเพียง 5-10 นาทีเท่านั้น วันนี้แกถาม ผมบอกว่าอีกหลายวัน แกบอกว่าจะได้เตรียมตัวให้พร้อม จัดแจงค้นหาบัตร ปชช.ให้วุ่นวายไปหมด แกกลัวเสียสิทธิ์ครั้งนี้มาก แกบอกว่าแกดูข่าวการปิดกั้นการลงคะแนนใน กทม.และภาคใต้แล้ว แกโกรธมาก แกว่าสมัยจอมพลป. จอมพลส. จอมพล ถ. ว่าเป็นเผด็จการแล้ว ยังไม่กล้าปล้นสิทธิ์เสียงกันขนาดนี้เลย จอมเผด็จการโกง ยังแอบๆโกง ไม่โจ่งแจ้งขนาดนี้
วันที่ 2 กพ.ผมคงต้องตื่นแต่เช้าให้มากกว่าเดิม แม่คงเดินไมไหวแล้ว คงต้องพึ่งรถเข็น คนแก่ใกล้ 90 เรียนแค่ ป.4 ส่งลูกเรียนจบป.ตรีและสูงกว่าได้ถึง 3 คน สิทธิ์เสียงของแก ควรได้รับการเคารพจากคนทั่วไป อย่างน้อยก็ในฐานะมนุษย์คนหนึ่งเหมือนๆกัน แม้แกจะเรียนน้อย แต่แกเข้าใจและเคารพในระบอบประชาธิปไตยมากกว่า

เถื่อนหลายๆตัวที่เห่าหอน ไล่กัดผู้คนที่รักษาแค่สิทธิ์ของตน แม่ครับ 2 กพ. ผมจะพาแม่ไปเลือกตั้งให้ได้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ถ้าลูกคนนี้ยังไม่ตายไปก่อน แม่ได้ใช้สิทธิ์ของแม่แน่นอนครับ ผมสัญญา
เลือกตั้งปี 54 ว่าสำคัญแล้ว เลือกตั้ง2กพ. ยิ่งสำคัญมากกว่านัก
หลังชื่นชมจากชัยชนะได้ 2 ปีเศษๆ พรรคเพื่อไทยของผม ที่กล้าใช้ตำว่าของผม ทั้งๆที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเลย ไม่ได้เป็นสมาชิก ไม่ได้ทำงานให้ ไม่ได้อะไรด้วยเลย แต่ใช้คำว่าของผม เพราะรู้สึกว่าพรรคนี้เป็นตัวแทนผม ในการต่อสู้กับอำนาจเถื่อน ที่คอยปล้นสิทธิ์ขโมยเสียงผมมาตลอด 20 ปีแห่งการได้สิทธิ์เลือกตั้งของผม ในที่สุดพรรคของผมก็พลาดท่า ต้องยุบสภา ต้องลงเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 2 กพ.57
ปีนี้แม่ผมแก่กว่าครั้งที่แล้วอีก แต่ความทรงจำยังดี เดินไม่ค่อยได้แล้ว แต่แกยังยืนยันจะไปเลือกตั้งให้ได้ วันๆของคนแก่ปูนนี้ได้แต่นั่งๆนอนๆ ดูทีวี เลี้ยงหมา ไปตามเรื่อง วันนี้ตอนกินข้าวเย็น แกถามถึงวันเลือกตั้ง เป็นครั้งแรกในชีวิตแก ปกติผมจะเป็นคนบอกแกว่า แม่ไปเลือกตั้งกัน ในตอนเช้าของวันเลือกตั้ง แกก็จะใช้เวลาเตรียมตัวเพียง 5-10 นาทีเท่านั้น วันนี้แกถาม ผมบอกว่าอีกหลายวัน แกบอกว่าจะได้เตรียมตัวให้พร้อม จัดแจงค้นหาบัตร ปชช.ให้วุ่นวายไปหมด แกกลัวเสียสิทธิ์ครั้งนี้มาก แกบอกว่าแกดูข่าวการปิดกั้นการลงคะแนนใน กทม.และภาคใต้แล้ว แกโกรธมาก แกว่าสมัยจอมพลป. จอมพลส. จอมพล ถ. ว่าเป็นเผด็จการแล้ว ยังไม่กล้าปล้นสิทธิ์เสียงกันขนาดนี้เลย จอมเผด็จการโกง ยังแอบๆโกง ไม่โจ่งแจ้งขนาดนี้
วันที่ 2 กพ.ผมคงต้องตื่นแต่เช้าให้มากกว่าเดิม แม่คงเดินไมไหวแล้ว คงต้องพึ่งรถเข็น คนแก่ใกล้ 90 เรียนแค่ ป.4 ส่งลูกเรียนจบป.ตรีและสูงกว่าได้ถึง 3 คน สิทธิ์เสียงของแก ควรได้รับการเคารพจากคนทั่วไป อย่างน้อยก็ในฐานะมนุษย์คนหนึ่งเหมือนๆกัน แม้แกจะเรียนน้อย แต่แกเข้าใจและเคารพในระบอบประชาธิปไตยมากกว่า