กลุ่มแรก เชื่อว่า ความยากจน เกิดจากการถูกเอาเปรียบ ไม่เท่าเทียม ซึ่งมันก็จริงบางส่วนจากอำมาตย์เลว
กลุ่มสอง เชื่อว่า ความร่ำรวยเกิดจาก ความขยันหมั่นเพียร คนขี้เกียจคือคนยากจนและส่วนใหญ่เป็นเครื่องมือของนักการเมืองเลว
คนสองกลุ่มจึงไม่มีวันที่จะเข้าใจกัน...
คนกลุ่มแรกจึงอยากให้เลือกตั้งก่อนแล้วจึงปฏิรูป เพื่อไม่ให้อำมาตย์มีอำนาจมากเกินไป
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ไม่อยากให้มีสว.แต่งตั้ง
คนกลุ่มที่สองอยากปฏิรูปก่อนแล้วจึงเลือกตั้ง เพื่อไม่ให้นักการเมืองมีอำนาจมากเกินไป
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ไม่อยากให้สว.มาจากการเลือกตั้งที่เป็นพ่อ แม่ พี่ น้อง ของสส.เพราะการตรวจสอบสส. จะด้อยลง กลายเป็นสภาผัวเมีย
แต่สิ่งที่คนสองกลุ่มเห็นตรงกันคือ...
1.ต้องมีการเลือกตั้ง (ไม่เอาเผด็จการอำมาตย์ ทุกคนต้องเท่าเทียม)
2.ต้องมีการปฏิรูป (ไม่ให้นักการเมืองโกงจนชาติพัง เอาเงินภาษีจ่ายให้คนจน แล้วสามารถทำโครงการข้าวเน่าต่อไปได้)
3.มีในหลวงทรงเป็นประมุขในการปกครอง
ดังนั้น...ควรจะมีการปฏิรูปในช่วงสั้นๆ (3เดือน)ก่อนการเลือกตั้ง จากคนกลางที่ไม่ใช่นักการเมือง(คนกลางจากพระราชทาน) จะได้มีกติกาใหม่ ที่ทุกฝ่ายยอมรับ แล้วให้ประชาชนตัดสินในวันเลือกตั้ง
คนสองกลุ่ม
กลุ่มสอง เชื่อว่า ความร่ำรวยเกิดจาก ความขยันหมั่นเพียร คนขี้เกียจคือคนยากจนและส่วนใหญ่เป็นเครื่องมือของนักการเมืองเลว
คนสองกลุ่มจึงไม่มีวันที่จะเข้าใจกัน...
คนกลุ่มแรกจึงอยากให้เลือกตั้งก่อนแล้วจึงปฏิรูป เพื่อไม่ให้อำมาตย์มีอำนาจมากเกินไป [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
คนกลุ่มที่สองอยากปฏิรูปก่อนแล้วจึงเลือกตั้ง เพื่อไม่ให้นักการเมืองมีอำนาจมากเกินไป[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แต่สิ่งที่คนสองกลุ่มเห็นตรงกันคือ...
1.ต้องมีการเลือกตั้ง (ไม่เอาเผด็จการอำมาตย์ ทุกคนต้องเท่าเทียม)
2.ต้องมีการปฏิรูป (ไม่ให้นักการเมืองโกงจนชาติพัง เอาเงินภาษีจ่ายให้คนจน แล้วสามารถทำโครงการข้าวเน่าต่อไปได้)
3.มีในหลวงทรงเป็นประมุขในการปกครอง
ดังนั้น...ควรจะมีการปฏิรูปในช่วงสั้นๆ (3เดือน)ก่อนการเลือกตั้ง จากคนกลางที่ไม่ใช่นักการเมือง(คนกลางจากพระราชทาน) จะได้มีกติกาใหม่ ที่ทุกฝ่ายยอมรับ แล้วให้ประชาชนตัดสินในวันเลือกตั้ง