ไปอ่านเจอมา ก็เลยคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย (หรือไม่มีเลย อิอิ) 10 เคล็ดลับวิธีการคิดนอกกรอบต่อไปนี้ อาจช่วยให้หลายคนได้พบว่าเรื่องราวของความคิดสร้างสรรค์ นั้นเป็นสิ่งที่เรียนรู้และฝึกฝนได้สำหรับทุกคน
1. สลัดความคิดครอบงำ ไม่จำกัดความคิดไว้กับไว้กับความเคยชินเก่าๆ ไม่ตีกรอบความคิดผู้อื่นหรือคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้
2. ฝึกความคิดอย่างรอบด้าน ไม่ยึดติดแนวความคิดด้านเดียว พยายามใช้ความคิดรอบด้าน ฝึกตั้งคำถามและหาเหตุผลคิดอย่างเป็นระบบและหาเหตุผลเปรีบเทียบมมองหลายมิติเพื่อค้นหาความจริง
3. คิดแง่บวก
4. พยายามสร้างโอกาสแห่งความบังเอิญ คือบางสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกันเลยอาจจะเป็นคำตอบต่อปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นได้ ซึ่งอาจเป็นการจุดประกายใหม่ๆที่ผิดแผกแตกต่างจากเดิม ก่อให้เกิดความคิดสร้างสรรค์
5. การตั้งคำถาม อะไรที่ทำให้คนอื่นทำแล้วแต่เรายังไม่ได้ทำ เราทำได้ไหม ทำอย่างไร หรือต้องเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง
6. ฝึกความเป็นคนช่างสังเกตจดจำ การสั่งสมประสบการณ์และกระตุ้นให้เกิดความคิดใหม่ พยายามเรียนรู้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับเรื่องที่สนใจนั้นให้มากที่สุด
7. ฝึกการระดมพลังสมอง โดยยึดมั่นในหัวใจนักปราชญ์ ได้แก่ ฟัง คิด ถาม เขียน
8. บ่มฟัก เมื่อใดที่มีปัญหาหรือยังหาคำตอบไม่ได้ หลังจากที่ได้พยายามคิดหนักสุดๆ จึงค่อยหยุดคิดแล้วปล่อยวาง จากนั้น 2-3 วันค่อยกลับมาคิดปัญหานั้นใหม่
9. ตัดแต่ง ทบทวนความคิดและคัดสิ่งที่ไม่ได้ผลออกมาแก้ไขเพิ่มเติม ปรับเปลี่ยนจนได้ความคิดที่ดีที่สุด
10. ไม่ย้ำรอยอยู่แต่ความสำเร็จเดิม เช่น การกระทำทุกอย่างเมื่อเห็นว่าดี ประสบความสำเร็จแล้ว ต่อไปควรจะพัฒนาให้ดีขึ้นกว่าเดิมด้วยวิธีการใหม่ ขึ้นอยู่กับความพยายาม
แม้ต้นไม้ยัง....
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้บทความโดย : Annkuri ที่มา : วิชาการ.คอม http://www.vcharkarn.com
Post ครั้งแรกในวิชาการ.คอม เมื่อ 8 พฤษภาคม 2552
ป.ล.ไม่รู้จะ Tag ของไหนดี ใครรู้บอกด้วยนะ ถ้า Tag ผิดห้อง ต้องขออภัยด้วยครับ อิอิ
<<ช่วง สาระมีอยู่จริง>> 10 เคล็ดลับวิธีการคิดนอกกรอบ
1. สลัดความคิดครอบงำ ไม่จำกัดความคิดไว้กับไว้กับความเคยชินเก่าๆ ไม่ตีกรอบความคิดผู้อื่นหรือคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้
2. ฝึกความคิดอย่างรอบด้าน ไม่ยึดติดแนวความคิดด้านเดียว พยายามใช้ความคิดรอบด้าน ฝึกตั้งคำถามและหาเหตุผลคิดอย่างเป็นระบบและหาเหตุผลเปรีบเทียบมมองหลายมิติเพื่อค้นหาความจริง
3. คิดแง่บวก
4. พยายามสร้างโอกาสแห่งความบังเอิญ คือบางสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกันเลยอาจจะเป็นคำตอบต่อปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นได้ ซึ่งอาจเป็นการจุดประกายใหม่ๆที่ผิดแผกแตกต่างจากเดิม ก่อให้เกิดความคิดสร้างสรรค์
5. การตั้งคำถาม อะไรที่ทำให้คนอื่นทำแล้วแต่เรายังไม่ได้ทำ เราทำได้ไหม ทำอย่างไร หรือต้องเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง
6. ฝึกความเป็นคนช่างสังเกตจดจำ การสั่งสมประสบการณ์และกระตุ้นให้เกิดความคิดใหม่ พยายามเรียนรู้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับเรื่องที่สนใจนั้นให้มากที่สุด
7. ฝึกการระดมพลังสมอง โดยยึดมั่นในหัวใจนักปราชญ์ ได้แก่ ฟัง คิด ถาม เขียน
8. บ่มฟัก เมื่อใดที่มีปัญหาหรือยังหาคำตอบไม่ได้ หลังจากที่ได้พยายามคิดหนักสุดๆ จึงค่อยหยุดคิดแล้วปล่อยวาง จากนั้น 2-3 วันค่อยกลับมาคิดปัญหานั้นใหม่
9. ตัดแต่ง ทบทวนความคิดและคัดสิ่งที่ไม่ได้ผลออกมาแก้ไขเพิ่มเติม ปรับเปลี่ยนจนได้ความคิดที่ดีที่สุด
10. ไม่ย้ำรอยอยู่แต่ความสำเร็จเดิม เช่น การกระทำทุกอย่างเมื่อเห็นว่าดี ประสบความสำเร็จแล้ว ต่อไปควรจะพัฒนาให้ดีขึ้นกว่าเดิมด้วยวิธีการใหม่ ขึ้นอยู่กับความพยายาม
แม้ต้นไม้ยัง....
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ป.ล.ไม่รู้จะ Tag ของไหนดี ใครรู้บอกด้วยนะ ถ้า Tag ผิดห้อง ต้องขออภัยด้วยครับ อิอิ