ร้าน Teppen นั้นเป็นร้านที่เบนอยากกินมานานหลายเดือน แต่ก็ไม่ได้มีโอกาศไปกินสักทีจนกระทั้งวันที่ 24 มกราคม ที่ผ่านมา ร้านนี้อยู่ด้านหลัง Parklane เอกมัย ไม่มีที่จอดรถ ต้องจอดที่ Parklane ร้านเปิดเฉพาะตอนเย็น ตั้งแต่ 18:00-24:00 น เป็นร้าน style ญี่ปุ่นจ๋า ที่มีคนเสิร์ฟครึ่งร้านเป็นคนญี่ปุ่น
วันที่ไปอากาศเย็นนิดหน่อย ทั้งร้านไม่มีส่วนไหนเปิดแอร์ ก็ไม่แน่ใจว่าปกติจะเปิดแอร์รึเปล่า แต่นั่งระเบียงด้านนอก เค้าจุดยากันยุง มันเหม็นรบกวนอาหารไม่ต่างจากกลิ่นบุหรี่เท่าไหรนัก
พนักงานให้การต้อนรับและแนะนำเมนูอย่างดี แต่เมนูเองจริงๆก็ดูง่าย เพราะมีเป็นภาษาไทยพร้อมภาพให้อย่างละเอียด ว่าเมนูไหนแนะนำ อันไหนไม่ควรพลาด เบนก็จัดสั่งแทบทุกอย่างที่ “ไม่ควรพลาด” และ “แนะนำ” ด้วยความอยากกินและมีเพื่อนหลายคนบอกว่าอร่อย ก็จัดเต็ม สั่งเต็มที่แบบเกินอิ่มนิดนึง
อยากแรกที่มาถึง คือ ราชาครีมชีส ที่มีเขียนกำกับไว้ว่า “พลาดไม่ได้” ราคา 160 บาท

มาพร้อมกับขนมปังกรอบ แต่ที่แปลกคือ ครีมชีสนั้นไม่ได้มีรสเปรี้ยว แต่ออกเป็นครีมๆมัน ที่แปลกกว่านั้นคือ เบนคิดว่าเค้าใส่น้ำผึ้งมากับครีมชีสด้วย มันเลยกลายเป็นเหมือนของหวานไป เบนและเพื่อนคาดหวังไว้ว่าจะได้กินครีมชีสอีกแบบหนึ่ง ทำให้จานนี้หลังจากลองไปคนละชิ้นก็เหลือวางอยู่บนโต๊ะ
ต่อไปที่มาเป็นสิ่งที่ไม่ได้สั่ง ก็เลยถามเค้าว่าเป็น complimentary หรอค่ะ เค้าบอกว่าเปล่าค่ะ อันนี้ flight บังคับ ต้องจ่ายหัวละร้อย (ก็คิดสะว่าเหมือนที่อิตาลี ต้องมีค่า coperto) ซอสเป็นคล้ายมายองเนสกับทูน่า ออกเผ็ดๆเล็กน้อย เข้าได้บ้างเข้าไม่ได้บ้างกับผักที่มาให้มาด้วยกัน แต่รวมๆแล้ว 100 บาทนี้ก็ไม่ขี้เหล่มากนัก
“ทุน่าย่างฟางทรงพลัง” อยู่หน้าแรกสุดของเมนู เป็นอาหาร “ขึ้นชื่อ” ราคา 430 บาท

โอเค ได้กลิ่นการเผ่าที่ไม่ได้เกิดจากการพ่นไฟ ลองมากินแบบปล่าวๆ ก็โอเค ไม่ได้รู้สึกว่าโดดเด่นอะไร แต่เค้าให้กินพร้อม เกลือ มะนาว วาซาบิ และกระเทียม กินแล้วก็อร่อยไปอีกหน่อย แต่คงคาดหวังไว้สูง เพราะดูเหมือนเป็นเมนูเด็ดสุดของร้าน แต่ก็ไม่ได้ว้าวอะไร
จานนี้ตอนสั่งคนเสิร์ฟได้เตือนไว้แล้ว ว่ามันไม่เหมือนกับที่คนไทยส่วนใหญ่เข้าใจนะคะ มีหลายคนที่สั่งแล้วไม่ชอบ แต่ไม่เชื่อ ต้องลองเอง นั้นก็คือ ต้มเครื่องใน style teppen “ขึ้นชื่อ” ราคา 180 บาท

นั้นไงโจ๊ะเลย หลายคนคงทราบว่าเบนเป็นคนชอบทานเนื้อมาก และชอบกินอาหารมันๆด้วย ถ้วยนี้เป็นเครื่องในเนื้อ เค้าเตือนแล้วว่ามันไม่เหมือนเครื่องในที่บ้านเรากิน มันจะมันกว่า แต่เบนไม่คิดว่าคนชอบทานมันอย่างเบน จะพูดว่า “มันเกิน กินไม่ไหว” ความเลี้ยนมันไม่ได้หยุดแค่ที่เนื้อ แต่ลงไปถึงน้ำซุป เป็นอีกจานที่กินหมดไม่ไหวจริงๆ แต่ก็เข้าใจนะคะว่าญี่ปุ่นบางทีเค้าก็กินกันมันมากๆจริงๆ เพราะขนาด (หมูทอด) ทงคัสสึ เค้ายังมีแบบมันล้วนทอดเลย แค่นี้จิ๊บจ้อย
สลัดโซบะกรอบ “ยอดนิยม” ราคา 230 บาท ให้เส้นโซบะมาเยอะไปหน่อย มันค่อนข้างอมน้ำมัน ก็เลยเลี้ยน ส่วนน้ำสลัดก็เป็นแบบมายองเนสรสชาติอ่อนๆช่วยตัดเลี้ยนไม่ได้เท่าไหร
จานสุดท้ายที่มา คือ ข้าวไข่ปลา+ปลาหม้อดิน “ขึ้นชื่อ” ราคา 340 บาท เป็นหนึ่งในไม่กี่จานที่กินหมด เพราะว่า basic จะกินข้าวแบบนี้เฉยๆ หรือว่าจะเติมน้ำซุปก็อร่อยดี
สรุป : ร้านนี้กินแล้วน่าจะตกที่ประมาณหัวละ 750-900 บาท (ถ้าสั่งชา แก้วละ 85 บาท ไม่ refill นะคะ ดูให้ดีดี จะแพงได้ก็ตรงนี้)
ร้านนี้มีเพื่อนเบนหลายคนที่ชอบและกลับไปอีก บรรยากาศร้านน่ารักและแปลกใหม่ดี พนังงานก็ดีค่ะ ส่วนที่เบนบรรยายอาหารแต่ละจานนั้นเป็นความเห็นส่วนบุคคล โปรดใช้วิจรณญาณในการอ่านและตัดสินใจนะคะ เพราะว่าเบนก็ไปกินแค่ครั้งเดียว และก็คงจะไม่ได้ไปเป็นรอบที่สอง ส่วนอาหารก็ได้กินเท่าที่นำมาเขียน
[CR] รีวิวร้านอาหารญี่ปุ่น Teppen ย่านเอกมัย
วันที่ไปอากาศเย็นนิดหน่อย ทั้งร้านไม่มีส่วนไหนเปิดแอร์ ก็ไม่แน่ใจว่าปกติจะเปิดแอร์รึเปล่า แต่นั่งระเบียงด้านนอก เค้าจุดยากันยุง มันเหม็นรบกวนอาหารไม่ต่างจากกลิ่นบุหรี่เท่าไหรนัก
พนักงานให้การต้อนรับและแนะนำเมนูอย่างดี แต่เมนูเองจริงๆก็ดูง่าย เพราะมีเป็นภาษาไทยพร้อมภาพให้อย่างละเอียด ว่าเมนูไหนแนะนำ อันไหนไม่ควรพลาด เบนก็จัดสั่งแทบทุกอย่างที่ “ไม่ควรพลาด” และ “แนะนำ” ด้วยความอยากกินและมีเพื่อนหลายคนบอกว่าอร่อย ก็จัดเต็ม สั่งเต็มที่แบบเกินอิ่มนิดนึง
อยากแรกที่มาถึง คือ ราชาครีมชีส ที่มีเขียนกำกับไว้ว่า “พลาดไม่ได้” ราคา 160 บาท
มาพร้อมกับขนมปังกรอบ แต่ที่แปลกคือ ครีมชีสนั้นไม่ได้มีรสเปรี้ยว แต่ออกเป็นครีมๆมัน ที่แปลกกว่านั้นคือ เบนคิดว่าเค้าใส่น้ำผึ้งมากับครีมชีสด้วย มันเลยกลายเป็นเหมือนของหวานไป เบนและเพื่อนคาดหวังไว้ว่าจะได้กินครีมชีสอีกแบบหนึ่ง ทำให้จานนี้หลังจากลองไปคนละชิ้นก็เหลือวางอยู่บนโต๊ะ
ต่อไปที่มาเป็นสิ่งที่ไม่ได้สั่ง ก็เลยถามเค้าว่าเป็น complimentary หรอค่ะ เค้าบอกว่าเปล่าค่ะ อันนี้ flight บังคับ ต้องจ่ายหัวละร้อย (ก็คิดสะว่าเหมือนที่อิตาลี ต้องมีค่า coperto) ซอสเป็นคล้ายมายองเนสกับทูน่า ออกเผ็ดๆเล็กน้อย เข้าได้บ้างเข้าไม่ได้บ้างกับผักที่มาให้มาด้วยกัน แต่รวมๆแล้ว 100 บาทนี้ก็ไม่ขี้เหล่มากนัก
“ทุน่าย่างฟางทรงพลัง” อยู่หน้าแรกสุดของเมนู เป็นอาหาร “ขึ้นชื่อ” ราคา 430 บาท
โอเค ได้กลิ่นการเผ่าที่ไม่ได้เกิดจากการพ่นไฟ ลองมากินแบบปล่าวๆ ก็โอเค ไม่ได้รู้สึกว่าโดดเด่นอะไร แต่เค้าให้กินพร้อม เกลือ มะนาว วาซาบิ และกระเทียม กินแล้วก็อร่อยไปอีกหน่อย แต่คงคาดหวังไว้สูง เพราะดูเหมือนเป็นเมนูเด็ดสุดของร้าน แต่ก็ไม่ได้ว้าวอะไร
จานนี้ตอนสั่งคนเสิร์ฟได้เตือนไว้แล้ว ว่ามันไม่เหมือนกับที่คนไทยส่วนใหญ่เข้าใจนะคะ มีหลายคนที่สั่งแล้วไม่ชอบ แต่ไม่เชื่อ ต้องลองเอง นั้นก็คือ ต้มเครื่องใน style teppen “ขึ้นชื่อ” ราคา 180 บาท
นั้นไงโจ๊ะเลย หลายคนคงทราบว่าเบนเป็นคนชอบทานเนื้อมาก และชอบกินอาหารมันๆด้วย ถ้วยนี้เป็นเครื่องในเนื้อ เค้าเตือนแล้วว่ามันไม่เหมือนเครื่องในที่บ้านเรากิน มันจะมันกว่า แต่เบนไม่คิดว่าคนชอบทานมันอย่างเบน จะพูดว่า “มันเกิน กินไม่ไหว” ความเลี้ยนมันไม่ได้หยุดแค่ที่เนื้อ แต่ลงไปถึงน้ำซุป เป็นอีกจานที่กินหมดไม่ไหวจริงๆ แต่ก็เข้าใจนะคะว่าญี่ปุ่นบางทีเค้าก็กินกันมันมากๆจริงๆ เพราะขนาด (หมูทอด) ทงคัสสึ เค้ายังมีแบบมันล้วนทอดเลย แค่นี้จิ๊บจ้อย
สลัดโซบะกรอบ “ยอดนิยม” ราคา 230 บาท ให้เส้นโซบะมาเยอะไปหน่อย มันค่อนข้างอมน้ำมัน ก็เลยเลี้ยน ส่วนน้ำสลัดก็เป็นแบบมายองเนสรสชาติอ่อนๆช่วยตัดเลี้ยนไม่ได้เท่าไหร
จานสุดท้ายที่มา คือ ข้าวไข่ปลา+ปลาหม้อดิน “ขึ้นชื่อ” ราคา 340 บาท เป็นหนึ่งในไม่กี่จานที่กินหมด เพราะว่า basic จะกินข้าวแบบนี้เฉยๆ หรือว่าจะเติมน้ำซุปก็อร่อยดี
สรุป : ร้านนี้กินแล้วน่าจะตกที่ประมาณหัวละ 750-900 บาท (ถ้าสั่งชา แก้วละ 85 บาท ไม่ refill นะคะ ดูให้ดีดี จะแพงได้ก็ตรงนี้)
ร้านนี้มีเพื่อนเบนหลายคนที่ชอบและกลับไปอีก บรรยากาศร้านน่ารักและแปลกใหม่ดี พนังงานก็ดีค่ะ ส่วนที่เบนบรรยายอาหารแต่ละจานนั้นเป็นความเห็นส่วนบุคคล โปรดใช้วิจรณญาณในการอ่านและตัดสินใจนะคะ เพราะว่าเบนก็ไปกินแค่ครั้งเดียว และก็คงจะไม่ได้ไปเป็นรอบที่สอง ส่วนอาหารก็ได้กินเท่าที่นำมาเขียน
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น