ก่อนไปดูเรื่องนี้ ไม่ได้ดูตัวอย่างหนังหรือหาอะไรที่จะมา Spoil ตัวเองก่อนดูทั้งสิ้นครับ รู้แค่ว่า Leonardo DiCaprio แสดงเท่านั้น
ไปดูแบบกระทันหันมาก เนื่องจากเย็นวันนี้เพื่อนผมชวนกันว่าจะไปดูหนังสักเรื่อง หลังจากที่ไม่ได้เจอกันมานาน พวกเลยถามผมว่าจะดูเรื่องอะไร ผมก็บอกไป ดู The Wolf of Wall Street กันมั้ย มันก็โอเคกัน เพราะเล็งเรื่องนี้ไว้เหมือนกัน หนังที่เข้าตอนนี้ไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจเท่าไหร่
คือก่อนดู เข้าใจว่าเฮียลีโอนาโดเล่น+เรื่องหุ้น มันคงเป็นเรื่องเครียด ซีเรียสแน่ๆ พาลนึกถึงเรื่องเก่าอย่าง Catch Me If You Can บวกกับบุคลิกขรึมๆที่ติดมาจากเรื่อง Inception เลยหวังเต็มที่ว่าน่าจะได้ความรู้เรื่องหุ้นติดตัวมาบ้างไม่มากก็น้อยหลังจากที่ดูเรื่องนี้จบ
นั่งดูไปๆปรากฎว่าผิดคาด นั่งฮากันเกือบทั้งเรื่อง ฝรั่งที่นั่งข้างๆพวกผมแกระเบิดหัวเราะก่อนซับไทยจะทันขึ้นซะอีก เพื่อนกะผมและคนไทยอื่นๆกำลังนั่งงงๆกันอยู่ คงเป็นมุกฝรั่งเขาโดยเฉพาะ บางทีก็ยากที่จะเข้าใจ แต่มีไม่มากนัก เพราะเรทเรื่องนี้มัน 20+ มุกใต้สะดือมาเพียบพร้อมกับเรื่องบนเตียง เห็นหมดทั้งบนและล่าง
ยาเสพติด และความรุนแรง แจกฟักแจกชิดกันสนั่นทั้งเรื่อง
ดูแล้วเฮียแกสมควรกับรางวัลที่ได้จริงๆ แสดงได้สมจริงเข้ากับบทมากๆ ผมชอบฉากเมายาเก่าที่ชื่อ LEMON 7 อะไรสักอย่าง กินไปแล้วตั้งนานดันพึ่งมาออกฤทธิ์ทีหลัง ท่าคลาน น้ำลายไหลยืด ม้วนหลังลงบันได ขับรถ โคตรฮาสุดๆ กับบทพูดจูงใจคนนี่ฟังแล้วยังเชื่อไปตามตัวละครในเรื่องเลยทีเดียว
ส่วนนาโอมิ (Margot Robbie) ชื่ออย่างกะคนญี่ปุ่น แต่ไม่มีเชื้อเลยงงๆนิดหน่อย อกสวย X มาก...พอเธอปรากฎตัวขึ้นมา ผู้หญิงในเรื่องดับทั้งหมด
ฉากประทับใจอื่นๆ ก็ตอนที่ถามว่าคุณจะขายปากกาให้ผมยังไง ชอบแนวคิดตรงนี้ที่ว่าเวลาจะขายอะไรให้ใคร คุณต้องสร้างแรงจูงใจให้กับลูกค้าว่าต้องการสินค้านี้เสียก่อนตามหลักอุปสงค์และอุปทาน ฉากหลังจากที่จอร์แดนออกคุกมาแล้วผันตัวไปเป็นนักขายที่เอาวิธีนี้มาใช้กับคนที่มานั่งฟังนี่นึกว่าจะมีคนที่ตอบเจ๋งๆได้เหมือนกับแบรดซะอีก อีกอันที่ชอบก็ฉากที่สมัยจอร์แดนยังหนุ่มถูกสอนวิธีการใช้ชีวิตของโบรกเกอร์ ทำให้อยากรู้เลยว่าชีวิตของคนสอนไม่รู้เป็นยังไงแล้วหลังบริษัทล้ม
ที่อยากติ บางฉากก็ตัดภาพช้ากินเวลามากไปหน่อย น่าจะทำให้กระชับกว่านี้ ผมว่ามันไม่น่าจะนานขนาดนั้น แถมเป็นฉากที่ไม่ค่อยสำคัญกับเรื่องเท่าไหร่ หรือเขากะเอาฮา แต่ผมไม่ฮากระมัง
สรุปโดยส่วนตัวแล้วผมชอบนะเรื่องนี้ ปีที่แล้วก่อนหน้านี้ก็ดู American Hustle มา แนวเดียวกันเป๊ะ คุ้มค่าตั๋วครับ ใครยังไม่ได้ดูก็อยากแนะนำให้ไปดูครับ ไม่น่าผิดหวัง
[The Wolf of Wall Street] ดูแล้วโคตรฮา ผิดคาดมากๆ (spoil)
ไปดูแบบกระทันหันมาก เนื่องจากเย็นวันนี้เพื่อนผมชวนกันว่าจะไปดูหนังสักเรื่อง หลังจากที่ไม่ได้เจอกันมานาน พวกเลยถามผมว่าจะดูเรื่องอะไร ผมก็บอกไป ดู The Wolf of Wall Street กันมั้ย มันก็โอเคกัน เพราะเล็งเรื่องนี้ไว้เหมือนกัน หนังที่เข้าตอนนี้ไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจเท่าไหร่
คือก่อนดู เข้าใจว่าเฮียลีโอนาโดเล่น+เรื่องหุ้น มันคงเป็นเรื่องเครียด ซีเรียสแน่ๆ พาลนึกถึงเรื่องเก่าอย่าง Catch Me If You Can บวกกับบุคลิกขรึมๆที่ติดมาจากเรื่อง Inception เลยหวังเต็มที่ว่าน่าจะได้ความรู้เรื่องหุ้นติดตัวมาบ้างไม่มากก็น้อยหลังจากที่ดูเรื่องนี้จบ
นั่งดูไปๆปรากฎว่าผิดคาด นั่งฮากันเกือบทั้งเรื่อง ฝรั่งที่นั่งข้างๆพวกผมแกระเบิดหัวเราะก่อนซับไทยจะทันขึ้นซะอีก เพื่อนกะผมและคนไทยอื่นๆกำลังนั่งงงๆกันอยู่ คงเป็นมุกฝรั่งเขาโดยเฉพาะ บางทีก็ยากที่จะเข้าใจ แต่มีไม่มากนัก เพราะเรทเรื่องนี้มัน 20+ มุกใต้สะดือมาเพียบพร้อมกับเรื่องบนเตียง เห็นหมดทั้งบนและล่าง
ดูแล้วเฮียแกสมควรกับรางวัลที่ได้จริงๆ แสดงได้สมจริงเข้ากับบทมากๆ ผมชอบฉากเมายาเก่าที่ชื่อ LEMON 7 อะไรสักอย่าง กินไปแล้วตั้งนานดันพึ่งมาออกฤทธิ์ทีหลัง ท่าคลาน น้ำลายไหลยืด ม้วนหลังลงบันได ขับรถ โคตรฮาสุดๆ กับบทพูดจูงใจคนนี่ฟังแล้วยังเชื่อไปตามตัวละครในเรื่องเลยทีเดียว
ส่วนนาโอมิ (Margot Robbie) ชื่ออย่างกะคนญี่ปุ่น แต่ไม่มีเชื้อเลยงงๆนิดหน่อย อกสวย X มาก...พอเธอปรากฎตัวขึ้นมา ผู้หญิงในเรื่องดับทั้งหมด
ฉากประทับใจอื่นๆ ก็ตอนที่ถามว่าคุณจะขายปากกาให้ผมยังไง ชอบแนวคิดตรงนี้ที่ว่าเวลาจะขายอะไรให้ใคร คุณต้องสร้างแรงจูงใจให้กับลูกค้าว่าต้องการสินค้านี้เสียก่อนตามหลักอุปสงค์และอุปทาน ฉากหลังจากที่จอร์แดนออกคุกมาแล้วผันตัวไปเป็นนักขายที่เอาวิธีนี้มาใช้กับคนที่มานั่งฟังนี่นึกว่าจะมีคนที่ตอบเจ๋งๆได้เหมือนกับแบรดซะอีก อีกอันที่ชอบก็ฉากที่สมัยจอร์แดนยังหนุ่มถูกสอนวิธีการใช้ชีวิตของโบรกเกอร์ ทำให้อยากรู้เลยว่าชีวิตของคนสอนไม่รู้เป็นยังไงแล้วหลังบริษัทล้ม
ที่อยากติ บางฉากก็ตัดภาพช้ากินเวลามากไปหน่อย น่าจะทำให้กระชับกว่านี้ ผมว่ามันไม่น่าจะนานขนาดนั้น แถมเป็นฉากที่ไม่ค่อยสำคัญกับเรื่องเท่าไหร่ หรือเขากะเอาฮา แต่ผมไม่ฮากระมัง
สรุปโดยส่วนตัวแล้วผมชอบนะเรื่องนี้ ปีที่แล้วก่อนหน้านี้ก็ดู American Hustle มา แนวเดียวกันเป๊ะ คุ้มค่าตั๋วครับ ใครยังไม่ได้ดูก็อยากแนะนำให้ไปดูครับ ไม่น่าผิดหวัง