วันนี้ขอพูดเรื่องยาวๆเกี่ยวกับการเมืองทั่วไปสักนิดนึงนะครับ เป็นความเห็นส่วนตัว เห็นด้วยไม่เห็นด้วยอย่างไร คุยอย่างมีเหตุมีผลกันได้ครับ ขออย่างเดียว อ่านให้จบก่อนครับ ผมเชื่อว่าคนไทยอ่านหนังสือเกิน ๕ บรรทัด ^^
เอกสารรัฐธรรมนูญ ๒๕๕๐ :
http://www.tamanoon.com/tamanoon50/
-----------------------------------------------------------------------------------------
๑. ผมไม่เคยสนับสนุนนโยบายของพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะเรื่องจำนำข้าวซึ่งเป็นนโยบายแทรกแซงตลาดสุดโต่ง และสร้างความเสียหายให้กับรัฐบาลอยู่ในขณะนี้ ผมยังเคยไปชุมนุมประท้วงเรื่องเขื่อนแม่วงก์ เพราะทนไม่ได้ที่ท่านรัฐมนตรีบอกว่านี้คือป่าเสื่อมโทรมซึ่งไม่จริงและบอกว่าเขื่อนนี้มีประโยชน์สารพัดซึ่งมีนักวิชาการได้ออกความเห็นแล้วว่าไม่จริงอีกเช่นเดียวกัน จนบดนี้ยังไม่รู้เลยว่าจุดประสงค์ในการสร้างเขื่อนแม่วงก์คืออะไร หรือการออกกฎหมายนิรโทษแบบเหมาเข่ง ผมก็ไม่เห็ยด้วย แล้วการกระทำที่เกิดขึ้นในสภา ที่ไม่ให้ฝ่ายค้านพูดเลย ผมก็ไม่เห็นด้วย ผมยังพอเห็นใจอยู่บ้าง เพราะนโยบายประกันสังคม บัตรทอง สามสิบบาท และ การสร้างสนามบินสุวรรณภูมิที่สามารถสร้างเสร็จได้ในยุคของพี่ชาย ส่วนประชาธิปัตย์ ผมนึกผลงานเด่นๆไม่ออก แต่ผมจำตอม่อในตำนานได้ แล้วก็ป้อมตำรวจในตำนานได้อีกอย่างหนึ่ง ^^
๒. ผมไม่เคยเห็นด้วยกับ กปปส.
๓. กปปส. ไม่เห็นด้วยกับการเลือกตั้ง นั้นเป็นเรื่องของคุณครับ ไม่มีใครห้าม แต่การจำกัดสิทธิ์คนอื่นไม่ให้เลือกตั้งด้วย นั้นเป็นการรุกรานสิทธิส่วนบุคคล คุณไม่มีสิทธิทำแบบนั้น
๔. กปปส. อ้างว่าการชุมนุมนี้เกิดขึ้นเพื่อล้มระบอบทักษิณ แต่คุณไม่เคยให้คำนิยามระบอบทักษิณ แล้วคุณจะแก้ปัญหาได้อย่างไร การแก้ปัญหาทุกอย่าง เราต้องนิยามปัญหาก่อน เพื่อใช้เป็นหลักเกณฑ์และเป้าหมายในการดำเนินงาน และ เป็นเครื่องมือวัดว่าเราได้แก้ปัญหานั้นได้หมดสิ้นหรือยัง ตัวอย่างเช่น การแก้ปัญหาความยากจน ทาง WorldBank หรือธนาคารโลก ได้กำหนดนิยามและวิธีการวัดว่าประเทศใดบ้างที่ยังยากจนและประเทศใดที่ไม่ยากจน ดู :
http://goo.gl/AbpQ0V
๕. กปปส. อ้างว่าจะปฎิรูปก่อนการเลือกตั้ง คำถามคือ ต่อให้นายกรัฐมนตรีลาออก(ถ้าลาออกได้นะ ดูมาตรา ๑๘๑ กฎหมายรัฐธรรมนูญ) แล้วคุณหาคนมาแทนได้ด้วยวิธีการใดก็ตาม รัฐบาลจะยังคงเป็นรัฐบาลรักษาการ สภาผู้แทนราษฎรถูกยุบไปแล้วทำให้ออกกฎหมายหรือแก้ไขกฎหมายไม่ได้ คำถามคือคุณจะปฏิรูปได้อย่างไร ถ้าคุณพยายามตั้งรัฐบาลใหม่ หรือ สร้างสภาใหม่ กฏหมายรัฐธรรมนูญก็กำหนดเอาไว้ว่าสภาผู้แทนราษฎรต้องมาจากการเลือกตั้ง แล้วสภาค่อยตั้งรัฐบาลขึ้นมาอีกทีหนึ่ง แต่ กปปส.บอกว่าไม่ต้องการเลือกตั้ง ถ้าไม่เลือกตั้ง จะไม่มีสภาและไม่มีรัฐบาล คุณจะแก้กฎหมายไม่ได้ แล้วคุณจะปฎิรูปได้อย่างไร
๖. ตอนนี้ทั้งรัฐบาลและกปปส. ต่างเล่นประเด็นกฏหมายซึ่งเป็นปัญหา นั้นคือมาตรา ๙๓ วรรคหก กับ มาตรา ๑๒๗ มาตรา ๙๓ วรรคหกบอกว่าถ้ามีสมาชิกสภาไม่ถึง ๕๐๐ แต่เกิน ๙๕ เปอร์เซนต์ (๔๗๕ คน) ถือว่าสภาทำงานได้ ส่วน ๒๕ คนที่ตกหล่น ก็ให้ กกต. เลือกตั้งให้เต็มภายในร้อยแปดสิบวัน ส่วนมาตรา ๑๒๗ บอกไว้ว่า ภายในสามสิบวันนับแต่วันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ให้มีการเรียกประชุมรัฐสภาเพื่อให้สมาชิกได้มาประชุมเป็นครั้งแรก ปัญหาคือถ้าสมาชิกไม่ถึง ๙๕ เปอร์เซนต์ จะไม่ถือว่าเป็นสภา และเมื่อไม่เป็นสภาก็ไม่สามารถเรียกประชุมสภาได้ กปปส. เรียกปรากฎการณ์นี้ว่าสูญญากาศทางการเมือง บ้านเมืองไปต่อไม่ได้ ทางฝั่งรัฐบาลบอกว่าถ้าไม่ครบ กกต.ก็ต้องเลือกตั้งจัดให้ครบภายในร้อยแปดสิบวัน แต่ก็อีกนั้นแหละมันติดมาตรา ๑๒๗ ต้องประชุมภายใน ๓๐ วันนับแต่วันเลือกตั้ง
๗. จากข้อ ๖ นี้คือสาเหตุว่าทำไม กปปส. ถึงพยายามเลือกเกินที่จะไม่ให้มีการสมัคร สส. เท่าที่ทราบข่าวมา มี ๒๘ เขต ที่ไม่มีผู้สมัคร ซึ่งทำให้เลือกตั้งแล้ว สส. ไม่ถึง ๙๕ เปอร์เซนต์ สภาเกิดไม่ได้ ดู :
http://goo.gl/5F8ToH
๘. ถ้าเช่นนั้นจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป มาตรา ๑๘๑ บอกว่า รัฐบาลรักษาการต้องปฏิบัติหน้าที่ต่อจนกว่าจะมีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นมา แล้วคณะรัฐมนตรีจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมือมีสภา ซึ่งสภาจะมาจากการเลือกตั้งเท่านั้น คุ้นๆไหมครับ มันวนลูปกลับมาหาการเลือกตั้งครับ
๙. ถ้าคุณสุเทพอยากปฏิรูปจริง มีอยู่สามทาง ทางแรก ตั้งพรรคการเมืองขึ้นมา ประกาศนโยบายปฏิรูป สภาประชาชนหรืออะไรก็ว่าไป ถ้าคนเห็นด้วย คุณจะได้รับเลือก ตั้งสภาได้ แก้กฎหมายอย่างที่คุณสุเทพต้องการ ทางที่สอง ปล่อยให้มีการเลือกตั้ง ใครได้เป็นรัฐบาลไม่ต้องสนใจ จากนั้นใช้ช่องทางสื่อสารรทุกทางให้เป็นประโยชน์ นำเสนอข้อมูลเอาแบบละเอียด คุณจะปฏิรูปอย่างไร ขั้นตอนแบบไหน ทำไมต้องปฏิรูป แล้วค่อยเดินประท้วง ทำแบบอาจารย์ศศินตอนประท้วงเขื่อนแม่วงก์ ไม่ต้องล้มรัฐ ไม่ต้องปิดถนน แค่ประกาศเจตนารมณ์ แล้วก็จากลา แล้วประท้วงใหม่อีกในโอกาสหน้า ทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าคนจะเห็นถึงความจำเป็น จนกว่ารัฐบาลจะเห็น ถ้ามีคนมากพอ ไม่ว่ารัฐบาลไหนๆก็ต้องมองครับเพราะมันคือฐานเสียงของพวกเขา ทางที่สามคือฉีกรัฐธรรมนูญทิ้ง การเลือกตั้งไม่ต้อง สองวิธีแรกเป็นวิธีที่สวย ถูกต้องตามกติกา สร้างความเดือดร้อนน้อย ส่วนวิธีที่สามคือวิธีที่แย่ที่สุด ผมเชื่อว่าคนฉลาดอย่างคุณสุเทพคงไม่ทำ
๑๐. การเลือกตั้งไม่ได้แก้ปัญหา ถูกต้องครับ เพราะการเลือกตั้งเป็นแค่กระบวนวิธี มันแก้ปัญหาให้ใครไม่ได้ รัฐบาลต่างหากที่ต้องแก้ปัญหาให้ผู้คน รัฐบาลที่ดีจะแก้ปัญหาของผู้คนในประเทศได้ รัฐบาลที่ดีจะต้องมีผลงาน ตรวจสอบได้ ไม่ใช่แค่วาทะดี
๑๑. ระบอบทุกระบอบมีจุดอ่อนหมดครับ แต่ประชาธิปไตยมันมี Fail-Save ในตัวของมัน มันให้อำนาจคุณแค่ ๔ ปี ถ้า๔ ปีคุณทำได้ดี คุณก็ได้รับเลือกต่อ ถ้าคุณทำได้ไม่ดี ก็ต้องเอาคนอื่นเข้ามาแทน จำประธานาธิบดีจอห์จ ดับบลิว บุชได้ไหมครับ เขาทำเรื่องแย่ๆเอาไว้มา ไม่ยอมเข้าประชุม ส่งทหารไปตาย เศรษฐกิจตกต่ำ แต่คนอเมริกาเค้าเคารพกฎนี้ พวกเขาไม่เคยบีบบังคับผู้อื่นคิดให้เหมือนตน การประท้วงมีบ้างแต่ก็เพื่อให้รัฐบาลเห็นปัญหาแล้วช่วยแก้ไข ไม่ใช่ประท้วงล้มรัฐบาล พอถึงเวลาไปคุณก็ต้องไป ความผิดพลาดไม่ได้มีอยู่ตลอดไป ทำดีก็ ๔ ปี ทำเลวก็ ๔ ปี แล้วค่อยมาว่ากันอีกที
๑๒. จริงๆรัฐบาลยิ่งลักษณ์ดำเนินนโยบายผิดพลาดหลายครั้ง ไม่จำเป็นต้องมีประท้วงล้มรัฐบาล รัฐบาลก็เซอยู่แล้ว ก่อนมีประท้วง เสื้อแดงแตกออกเป็นหลายกลุ่ม ทะเลาะกันเองออกข่าวก็บ่อย ถ้ารัฐบาลหมดสมัย เธออาจได้รับเลือกอีกสมัย แต่ผมเชื่อว่าคะแนนจะต้องน้อยลงกว่าเดิมแน่นอน (ข้อดีอีกข้อหนึ่งของการเลือกตั้ง คะแนนเสียงคือคะแนนความพึงพอใจที่สามารถวัดได้) พอจบสมัยที่สอง ถ้ายังบริหารเหมือนสมัยแรก ผมมั่นใจว่า เธอจะไม่ได้รับเลือกในสมัยที่สาม ถึงตอนน้น ถ้าประชาธิปัตย์ปฎิรูปตัวเองแล้ว ก็มีสิทธิที่จะชิงการเป็นรัฐบาลจากเพื่อไทยได้แน่ๆ น่าเสียดายที่เหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้น เสื้อแดงรวมตัวกันได้แล้ว การเลือกตั้งครั้งนี้ เพื่อไทยจะได้คะแนนเสียงที่ไม่ใช่จากผลงานเพียงอย่างเดียว แต่เป็นคะแนนเสียงจากการไม่เห็นด้วยกับ กปปส. ด้วย
๑๓. เป็นความจริงที่คนทุกคนไม่เท่ากัน เพราะถ้าเท่ากัน เราทุกคนต้องทำอาชีพเดียวกัน เงินเดือนเท่ากันไปแล้ว ถ้างั้นเราควรให้คน"ฉลาด" หรือ คน"ดี" มีเสียงมากกว่าคนทั่วไปหรือไม่ ผมก็อยากถามกลับว่า คุณใช้อะไรวัดความฉลาดหรือความดี หรือความเหนือกว่าคนทั่วไป ถ้าคุณใช้ใบประกาศนียบัตร ถ้าเช่นนั้นบิตเกตต์หรือสตีฟจ๊อบควรได้แค่หนึ่งเสียง ไม่ใช่สองเพราะพวกเขาไม่จบปริญญา งั้นเปลี่ยนใหม่ ดูจากการประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ถ้าเช่นนั้นทักษิณก็ควรจะมีสองคะแนนในการเลือกตั้ง? แล้วความดีหน้าตาเป็นอย่างไร กิจกรรมใดที่เราเรียกว่าความดี สำหรับผมความดีเป็นเรื่องปัจเจก เป็นมุมมองของแต่ละบุคคล ซึ่งการกระทำเดียวกัน คนหนึ่งอาจมองว่าดี คนหนึ่งอาจมองว่าเลว มันวัดไม่ได้ หลายครั้งในประวัติศาสตร์ ความเห็นที่เปลี่ยนโลกก็มาจากคนบ้านๆ อย่างอัลเบิร์ต ไอย์สไตน์ ตอนเสนอทฤษฎีสัมพัทธภาพ เขาเป็นแค่เสมียนในสำนักงานสิทธิบัตรเท่านั้นเอง ถ้าทุกคนตัดสินเขาจากสิ่งที่เขาเป็น ไม่ใช่สิ่งที่เขาพูด วงการวิทยาศาสตร์คงไม่ได้มีโฉมหน้าอย่างทุกวันนี้
๑๔. ฉะนั้น ๑ เสียงที่ทุกคนได้ ไม่ได้หมายถึง น้ำหนักหรือบทบาทของบุคคล แต่หมายถึง โอกาสในการแสดงความคิดเห็น ทุกคนมีโอกาส เสนอ แย้ง เท่าๆกัน ไม่มีใครได้โอกาสมากกว่า เฮ้ย แกรวย พูดได้เยอะหน่อย เฮ้ย แกบ้านๆ ไม่ให้พูด อย่างที่ผมบอกในข้อ ๑๓ บางครั้งความเห็นดีๆ ก็มาจากคนบ้านๆ
๑๕. หลายคนบอก กปปส. ประท้วงเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายจากพรรคเพื่อไทยอีก ผมอยากจะบอกว่า ๑. เรามีปปช. เรามีศาล เรามีฝ่ายค้าน ความเสียหายใดๆที่เกิดขึ้น เราฟ้องได้ ไม่จำเป็นต้องออกมาประท้วงล้มรัฐ เราล้มได้โดยเอาหลักฐานไปฟ้อง ๒. ความเสียหายใดๆที่เกิดขึ้นมันปรากฎขึ้นจริง มันเห็นหลักฐาน อย่างการจำนำข้าว หลักฐานปรากฎเป็นเม็ดเงิน แต่ใครจะรู้รัฐบาลสมัยหน้าเขาอาจจะดีก็ได้ ที่ผมต้องการจะบอกก็คือ เรากล่าวหาสิ่งที่เขายังไม่ได้กระทำไม่ได้ คุณเอาสิ่งที่เป็นอดีตมาคาดการณ์"แนวโน้ม"ในอนาคตได้ แต่คำว่า"แนวโน้ม" ไม่ได้เป็นหลักประกันว่ามันเกิดขึ้นจริง คุณเอา"แนวโน้ม"ไปใช้เป็นหลักฐานว่ามันจะเกิดขึนจริงไม่ได้ คนคุกพอออกมาก็กลับตัวเป็นคนดีก็มีหลายคนมิใช่ฤา ในทางตรงกันข้ามก็เช่นเดียวกัน
๑๖. ชาวนาออกมาประท้วง ผมเห็นใจ เพราะพวกเขาเดือดร้อนจริง พวกเขาต้องการให้ภาครัฐดูแลและแก้ปัญหา พวกเขาไม่ได้มาเพราะต้องการล้มรัฐหรือมีเป้าหมายทางการเมือง ฉะนั้นผมว่าเขาไม่ผิด แต่ กปปส. เป็นการประท้วงทางการเมืองคือล้มรัฐ ผมเห็นใจผู้เข้าร่วมประท้วง แต่ผมไม่เห็นใจแกนนำ
๑๗. ใครอ่านมาถึงจุดนี้ ผมต้องขอคาราวะ มันเป็นความอัดอั้นตันใจที่อยากระบาย ผมโดนข้อกล่าวหาหลายอย่าง เสื้อแดง เสื้อขาว ไทยเฉย กบฎ ไม่รักชาติ ในบทความนี้ได้ระบายทุกอย่างที่ผมคิด เหตุผล อุดมการณ์ที่ผมยึดมั่นไว้หมดแล้ว ส่วนใครจะเห็นอย่างไร เชิญตามสบายครับ
ขอบคุณจากใจ
ขอเชิญคนทุกสี มาฟังความในใจของคนไทยคนนี้หน่อยครับ ขอบคุณล่วงหน้า
เอกสารรัฐธรรมนูญ ๒๕๕๐ : http://www.tamanoon.com/tamanoon50/
-----------------------------------------------------------------------------------------
๑. ผมไม่เคยสนับสนุนนโยบายของพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะเรื่องจำนำข้าวซึ่งเป็นนโยบายแทรกแซงตลาดสุดโต่ง และสร้างความเสียหายให้กับรัฐบาลอยู่ในขณะนี้ ผมยังเคยไปชุมนุมประท้วงเรื่องเขื่อนแม่วงก์ เพราะทนไม่ได้ที่ท่านรัฐมนตรีบอกว่านี้คือป่าเสื่อมโทรมซึ่งไม่จริงและบอกว่าเขื่อนนี้มีประโยชน์สารพัดซึ่งมีนักวิชาการได้ออกความเห็นแล้วว่าไม่จริงอีกเช่นเดียวกัน จนบดนี้ยังไม่รู้เลยว่าจุดประสงค์ในการสร้างเขื่อนแม่วงก์คืออะไร หรือการออกกฎหมายนิรโทษแบบเหมาเข่ง ผมก็ไม่เห็ยด้วย แล้วการกระทำที่เกิดขึ้นในสภา ที่ไม่ให้ฝ่ายค้านพูดเลย ผมก็ไม่เห็นด้วย ผมยังพอเห็นใจอยู่บ้าง เพราะนโยบายประกันสังคม บัตรทอง สามสิบบาท และ การสร้างสนามบินสุวรรณภูมิที่สามารถสร้างเสร็จได้ในยุคของพี่ชาย ส่วนประชาธิปัตย์ ผมนึกผลงานเด่นๆไม่ออก แต่ผมจำตอม่อในตำนานได้ แล้วก็ป้อมตำรวจในตำนานได้อีกอย่างหนึ่ง ^^
๒. ผมไม่เคยเห็นด้วยกับ กปปส.
๓. กปปส. ไม่เห็นด้วยกับการเลือกตั้ง นั้นเป็นเรื่องของคุณครับ ไม่มีใครห้าม แต่การจำกัดสิทธิ์คนอื่นไม่ให้เลือกตั้งด้วย นั้นเป็นการรุกรานสิทธิส่วนบุคคล คุณไม่มีสิทธิทำแบบนั้น
๔. กปปส. อ้างว่าการชุมนุมนี้เกิดขึ้นเพื่อล้มระบอบทักษิณ แต่คุณไม่เคยให้คำนิยามระบอบทักษิณ แล้วคุณจะแก้ปัญหาได้อย่างไร การแก้ปัญหาทุกอย่าง เราต้องนิยามปัญหาก่อน เพื่อใช้เป็นหลักเกณฑ์และเป้าหมายในการดำเนินงาน และ เป็นเครื่องมือวัดว่าเราได้แก้ปัญหานั้นได้หมดสิ้นหรือยัง ตัวอย่างเช่น การแก้ปัญหาความยากจน ทาง WorldBank หรือธนาคารโลก ได้กำหนดนิยามและวิธีการวัดว่าประเทศใดบ้างที่ยังยากจนและประเทศใดที่ไม่ยากจน ดู : http://goo.gl/AbpQ0V
๕. กปปส. อ้างว่าจะปฎิรูปก่อนการเลือกตั้ง คำถามคือ ต่อให้นายกรัฐมนตรีลาออก(ถ้าลาออกได้นะ ดูมาตรา ๑๘๑ กฎหมายรัฐธรรมนูญ) แล้วคุณหาคนมาแทนได้ด้วยวิธีการใดก็ตาม รัฐบาลจะยังคงเป็นรัฐบาลรักษาการ สภาผู้แทนราษฎรถูกยุบไปแล้วทำให้ออกกฎหมายหรือแก้ไขกฎหมายไม่ได้ คำถามคือคุณจะปฏิรูปได้อย่างไร ถ้าคุณพยายามตั้งรัฐบาลใหม่ หรือ สร้างสภาใหม่ กฏหมายรัฐธรรมนูญก็กำหนดเอาไว้ว่าสภาผู้แทนราษฎรต้องมาจากการเลือกตั้ง แล้วสภาค่อยตั้งรัฐบาลขึ้นมาอีกทีหนึ่ง แต่ กปปส.บอกว่าไม่ต้องการเลือกตั้ง ถ้าไม่เลือกตั้ง จะไม่มีสภาและไม่มีรัฐบาล คุณจะแก้กฎหมายไม่ได้ แล้วคุณจะปฎิรูปได้อย่างไร
๖. ตอนนี้ทั้งรัฐบาลและกปปส. ต่างเล่นประเด็นกฏหมายซึ่งเป็นปัญหา นั้นคือมาตรา ๙๓ วรรคหก กับ มาตรา ๑๒๗ มาตรา ๙๓ วรรคหกบอกว่าถ้ามีสมาชิกสภาไม่ถึง ๕๐๐ แต่เกิน ๙๕ เปอร์เซนต์ (๔๗๕ คน) ถือว่าสภาทำงานได้ ส่วน ๒๕ คนที่ตกหล่น ก็ให้ กกต. เลือกตั้งให้เต็มภายในร้อยแปดสิบวัน ส่วนมาตรา ๑๒๗ บอกไว้ว่า ภายในสามสิบวันนับแต่วันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ให้มีการเรียกประชุมรัฐสภาเพื่อให้สมาชิกได้มาประชุมเป็นครั้งแรก ปัญหาคือถ้าสมาชิกไม่ถึง ๙๕ เปอร์เซนต์ จะไม่ถือว่าเป็นสภา และเมื่อไม่เป็นสภาก็ไม่สามารถเรียกประชุมสภาได้ กปปส. เรียกปรากฎการณ์นี้ว่าสูญญากาศทางการเมือง บ้านเมืองไปต่อไม่ได้ ทางฝั่งรัฐบาลบอกว่าถ้าไม่ครบ กกต.ก็ต้องเลือกตั้งจัดให้ครบภายในร้อยแปดสิบวัน แต่ก็อีกนั้นแหละมันติดมาตรา ๑๒๗ ต้องประชุมภายใน ๓๐ วันนับแต่วันเลือกตั้ง
๗. จากข้อ ๖ นี้คือสาเหตุว่าทำไม กปปส. ถึงพยายามเลือกเกินที่จะไม่ให้มีการสมัคร สส. เท่าที่ทราบข่าวมา มี ๒๘ เขต ที่ไม่มีผู้สมัคร ซึ่งทำให้เลือกตั้งแล้ว สส. ไม่ถึง ๙๕ เปอร์เซนต์ สภาเกิดไม่ได้ ดู : http://goo.gl/5F8ToH
๘. ถ้าเช่นนั้นจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป มาตรา ๑๘๑ บอกว่า รัฐบาลรักษาการต้องปฏิบัติหน้าที่ต่อจนกว่าจะมีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นมา แล้วคณะรัฐมนตรีจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมือมีสภา ซึ่งสภาจะมาจากการเลือกตั้งเท่านั้น คุ้นๆไหมครับ มันวนลูปกลับมาหาการเลือกตั้งครับ
๙. ถ้าคุณสุเทพอยากปฏิรูปจริง มีอยู่สามทาง ทางแรก ตั้งพรรคการเมืองขึ้นมา ประกาศนโยบายปฏิรูป สภาประชาชนหรืออะไรก็ว่าไป ถ้าคนเห็นด้วย คุณจะได้รับเลือก ตั้งสภาได้ แก้กฎหมายอย่างที่คุณสุเทพต้องการ ทางที่สอง ปล่อยให้มีการเลือกตั้ง ใครได้เป็นรัฐบาลไม่ต้องสนใจ จากนั้นใช้ช่องทางสื่อสารรทุกทางให้เป็นประโยชน์ นำเสนอข้อมูลเอาแบบละเอียด คุณจะปฏิรูปอย่างไร ขั้นตอนแบบไหน ทำไมต้องปฏิรูป แล้วค่อยเดินประท้วง ทำแบบอาจารย์ศศินตอนประท้วงเขื่อนแม่วงก์ ไม่ต้องล้มรัฐ ไม่ต้องปิดถนน แค่ประกาศเจตนารมณ์ แล้วก็จากลา แล้วประท้วงใหม่อีกในโอกาสหน้า ทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าคนจะเห็นถึงความจำเป็น จนกว่ารัฐบาลจะเห็น ถ้ามีคนมากพอ ไม่ว่ารัฐบาลไหนๆก็ต้องมองครับเพราะมันคือฐานเสียงของพวกเขา ทางที่สามคือฉีกรัฐธรรมนูญทิ้ง การเลือกตั้งไม่ต้อง สองวิธีแรกเป็นวิธีที่สวย ถูกต้องตามกติกา สร้างความเดือดร้อนน้อย ส่วนวิธีที่สามคือวิธีที่แย่ที่สุด ผมเชื่อว่าคนฉลาดอย่างคุณสุเทพคงไม่ทำ
๑๐. การเลือกตั้งไม่ได้แก้ปัญหา ถูกต้องครับ เพราะการเลือกตั้งเป็นแค่กระบวนวิธี มันแก้ปัญหาให้ใครไม่ได้ รัฐบาลต่างหากที่ต้องแก้ปัญหาให้ผู้คน รัฐบาลที่ดีจะแก้ปัญหาของผู้คนในประเทศได้ รัฐบาลที่ดีจะต้องมีผลงาน ตรวจสอบได้ ไม่ใช่แค่วาทะดี
๑๑. ระบอบทุกระบอบมีจุดอ่อนหมดครับ แต่ประชาธิปไตยมันมี Fail-Save ในตัวของมัน มันให้อำนาจคุณแค่ ๔ ปี ถ้า๔ ปีคุณทำได้ดี คุณก็ได้รับเลือกต่อ ถ้าคุณทำได้ไม่ดี ก็ต้องเอาคนอื่นเข้ามาแทน จำประธานาธิบดีจอห์จ ดับบลิว บุชได้ไหมครับ เขาทำเรื่องแย่ๆเอาไว้มา ไม่ยอมเข้าประชุม ส่งทหารไปตาย เศรษฐกิจตกต่ำ แต่คนอเมริกาเค้าเคารพกฎนี้ พวกเขาไม่เคยบีบบังคับผู้อื่นคิดให้เหมือนตน การประท้วงมีบ้างแต่ก็เพื่อให้รัฐบาลเห็นปัญหาแล้วช่วยแก้ไข ไม่ใช่ประท้วงล้มรัฐบาล พอถึงเวลาไปคุณก็ต้องไป ความผิดพลาดไม่ได้มีอยู่ตลอดไป ทำดีก็ ๔ ปี ทำเลวก็ ๔ ปี แล้วค่อยมาว่ากันอีกที
๑๒. จริงๆรัฐบาลยิ่งลักษณ์ดำเนินนโยบายผิดพลาดหลายครั้ง ไม่จำเป็นต้องมีประท้วงล้มรัฐบาล รัฐบาลก็เซอยู่แล้ว ก่อนมีประท้วง เสื้อแดงแตกออกเป็นหลายกลุ่ม ทะเลาะกันเองออกข่าวก็บ่อย ถ้ารัฐบาลหมดสมัย เธออาจได้รับเลือกอีกสมัย แต่ผมเชื่อว่าคะแนนจะต้องน้อยลงกว่าเดิมแน่นอน (ข้อดีอีกข้อหนึ่งของการเลือกตั้ง คะแนนเสียงคือคะแนนความพึงพอใจที่สามารถวัดได้) พอจบสมัยที่สอง ถ้ายังบริหารเหมือนสมัยแรก ผมมั่นใจว่า เธอจะไม่ได้รับเลือกในสมัยที่สาม ถึงตอนน้น ถ้าประชาธิปัตย์ปฎิรูปตัวเองแล้ว ก็มีสิทธิที่จะชิงการเป็นรัฐบาลจากเพื่อไทยได้แน่ๆ น่าเสียดายที่เหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้น เสื้อแดงรวมตัวกันได้แล้ว การเลือกตั้งครั้งนี้ เพื่อไทยจะได้คะแนนเสียงที่ไม่ใช่จากผลงานเพียงอย่างเดียว แต่เป็นคะแนนเสียงจากการไม่เห็นด้วยกับ กปปส. ด้วย
๑๓. เป็นความจริงที่คนทุกคนไม่เท่ากัน เพราะถ้าเท่ากัน เราทุกคนต้องทำอาชีพเดียวกัน เงินเดือนเท่ากันไปแล้ว ถ้างั้นเราควรให้คน"ฉลาด" หรือ คน"ดี" มีเสียงมากกว่าคนทั่วไปหรือไม่ ผมก็อยากถามกลับว่า คุณใช้อะไรวัดความฉลาดหรือความดี หรือความเหนือกว่าคนทั่วไป ถ้าคุณใช้ใบประกาศนียบัตร ถ้าเช่นนั้นบิตเกตต์หรือสตีฟจ๊อบควรได้แค่หนึ่งเสียง ไม่ใช่สองเพราะพวกเขาไม่จบปริญญา งั้นเปลี่ยนใหม่ ดูจากการประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ถ้าเช่นนั้นทักษิณก็ควรจะมีสองคะแนนในการเลือกตั้ง? แล้วความดีหน้าตาเป็นอย่างไร กิจกรรมใดที่เราเรียกว่าความดี สำหรับผมความดีเป็นเรื่องปัจเจก เป็นมุมมองของแต่ละบุคคล ซึ่งการกระทำเดียวกัน คนหนึ่งอาจมองว่าดี คนหนึ่งอาจมองว่าเลว มันวัดไม่ได้ หลายครั้งในประวัติศาสตร์ ความเห็นที่เปลี่ยนโลกก็มาจากคนบ้านๆ อย่างอัลเบิร์ต ไอย์สไตน์ ตอนเสนอทฤษฎีสัมพัทธภาพ เขาเป็นแค่เสมียนในสำนักงานสิทธิบัตรเท่านั้นเอง ถ้าทุกคนตัดสินเขาจากสิ่งที่เขาเป็น ไม่ใช่สิ่งที่เขาพูด วงการวิทยาศาสตร์คงไม่ได้มีโฉมหน้าอย่างทุกวันนี้
๑๔. ฉะนั้น ๑ เสียงที่ทุกคนได้ ไม่ได้หมายถึง น้ำหนักหรือบทบาทของบุคคล แต่หมายถึง โอกาสในการแสดงความคิดเห็น ทุกคนมีโอกาส เสนอ แย้ง เท่าๆกัน ไม่มีใครได้โอกาสมากกว่า เฮ้ย แกรวย พูดได้เยอะหน่อย เฮ้ย แกบ้านๆ ไม่ให้พูด อย่างที่ผมบอกในข้อ ๑๓ บางครั้งความเห็นดีๆ ก็มาจากคนบ้านๆ
๑๕. หลายคนบอก กปปส. ประท้วงเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายจากพรรคเพื่อไทยอีก ผมอยากจะบอกว่า ๑. เรามีปปช. เรามีศาล เรามีฝ่ายค้าน ความเสียหายใดๆที่เกิดขึ้น เราฟ้องได้ ไม่จำเป็นต้องออกมาประท้วงล้มรัฐ เราล้มได้โดยเอาหลักฐานไปฟ้อง ๒. ความเสียหายใดๆที่เกิดขึ้นมันปรากฎขึ้นจริง มันเห็นหลักฐาน อย่างการจำนำข้าว หลักฐานปรากฎเป็นเม็ดเงิน แต่ใครจะรู้รัฐบาลสมัยหน้าเขาอาจจะดีก็ได้ ที่ผมต้องการจะบอกก็คือ เรากล่าวหาสิ่งที่เขายังไม่ได้กระทำไม่ได้ คุณเอาสิ่งที่เป็นอดีตมาคาดการณ์"แนวโน้ม"ในอนาคตได้ แต่คำว่า"แนวโน้ม" ไม่ได้เป็นหลักประกันว่ามันเกิดขึ้นจริง คุณเอา"แนวโน้ม"ไปใช้เป็นหลักฐานว่ามันจะเกิดขึนจริงไม่ได้ คนคุกพอออกมาก็กลับตัวเป็นคนดีก็มีหลายคนมิใช่ฤา ในทางตรงกันข้ามก็เช่นเดียวกัน
๑๖. ชาวนาออกมาประท้วง ผมเห็นใจ เพราะพวกเขาเดือดร้อนจริง พวกเขาต้องการให้ภาครัฐดูแลและแก้ปัญหา พวกเขาไม่ได้มาเพราะต้องการล้มรัฐหรือมีเป้าหมายทางการเมือง ฉะนั้นผมว่าเขาไม่ผิด แต่ กปปส. เป็นการประท้วงทางการเมืองคือล้มรัฐ ผมเห็นใจผู้เข้าร่วมประท้วง แต่ผมไม่เห็นใจแกนนำ
๑๗. ใครอ่านมาถึงจุดนี้ ผมต้องขอคาราวะ มันเป็นความอัดอั้นตันใจที่อยากระบาย ผมโดนข้อกล่าวหาหลายอย่าง เสื้อแดง เสื้อขาว ไทยเฉย กบฎ ไม่รักชาติ ในบทความนี้ได้ระบายทุกอย่างที่ผมคิด เหตุผล อุดมการณ์ที่ผมยึดมั่นไว้หมดแล้ว ส่วนใครจะเห็นอย่างไร เชิญตามสบายครับ
ขอบคุณจากใจ