สื่อนอก 'อีโคโนมิสต์' จับตาไทย เสี่ยงแยกประเทศ

lคลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

นิตยสารอีโคโนมิสต์จับปฏิกิริยาขบวนการเสื้อแดง ชี้นโยบายพรรคทักษิณช่วยคนหายจน เรียกศรัทธาทั่วภาคเหนือ-อีสาน หากชนชั้นนำใช้ศาลโค่นรัฐบาลยิ่งลักษณ์ พร้อมแยกตัวจากกรุงเทพและภาคใต้

ดิ อีโคโนมิสต์ ฉบับล่าสุด ตีพิมพ์รายงานสถานการณ์การเมืองไทย เรื่อง "You go your way, I'll go mine" หรือ "ทางใคร ทางมัน" มีใจความระบุว่า การประท้วงในกรุงเทพ ซึ่งนำโดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นภาพสะท้อนของการต่อสู้ทางการเมืองระหว่างพวกคลั่งเจ้า (ultraroyalists) กับคนเสื้อแดง

คนเสื้อแดงมองว่า กองทัพกับศาลเป็นเครื่องมือของพลังอำนาจดั้งเดิมในกรุงเทพ หากทหารยึดอำนาจหรือศาลใช้ตุลาการภิวัตน์ โค่นรัฐบาลยิ่งลักษณ์ คนเสื้อแดงพร้อมต้อนรับรัฐบาลพลัดถิ่น และพร้อมแยกตัวจากกรุงเทพและภาคใต้



รายงานของอีโคโนมิสต์ เริ่มด้วยบทสัมภาษณ์นางคำสี อุดมสี แม่ค้ากล้วยปิ้งในตลาดสันกำแพง บ้านเกิดของอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ผู้ถูกทำรัฐประหารเมื่อปี 2549  แม่ค้าบอกว่า นโยบายของทักษิณยกฐานะครอบครัวของนาง กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษาทำให้ลูกชายกับลูกสาวได้เรียนถึงขั้นมหาวิทยาลัย นับเป็นครั้งแรกของคนในตระกูล  อาชีพการงานที่ได้ค่าตอบแทนสูงของลูกๆช่วยให้แม่มีเงินใช้รักษาตัว เธอจึงรักทักษิณ และกลายเป็นผู้ก่อตั้งกลุ่มคนเสื้อแดง

อีโนโนมิสต์ ระบุว่า เรื่องราวทำนองนี้พบเห็นได้ทั่วทั้งภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นโยบายทางสังคมของทักษิณ ซึ่งฝ่ายตรงข้ามดูแคลนว่าเป็นแค่ประชานิยม ช่วยให้ผู้คนหลีกหนีจากความยากจน เชียงใหม่และ 16 จังหวัดภาคเหนือแทบจะเป็นดินแดนของคนเสื้อแดง และอีก 20 จังหวัดในภาคอีสาน ยิ่งแดงกว่า เมื่อพิจารณาจากผลการเลือกตั้งส.ส.เมื่อปี 2554

รายงานบอกว่า นางคำสีกับพรรคพวกเสื้อแดง กำลังรอคอยที่จะใช้สิทธิ์เลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ คนเหล่านี้จะยืนยันสิทธิ์เสียงของพวกเขาเช่นเดิม และแสดงให้เห็นอีกครั้งถึงพลังของคนเสื้อแดงและผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทย  พรรคของทักษิณชนะการเลือกตั้งทุกครั้งนับแต่ปี 2544 ด้วยการกวาดคะแนนในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

"เพราะเหตุนี้ ฝ่ายต่อต้านทักษิณจึงบอยคอตการเลือกตั้ง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ออกมานำการประท้วงในกรุงเทพ ด้วยความหวังที่จะขับไล่นางสาวยิ่งลักษณ์" รายงานกล่าว และที่ นายสุเทพกับพรรคประชาธิปัตย์ โจมตีว่า ทักษิณใช้เงินซื้อเสียง พวกตนจะลงเลือกตั้งหลังจากมีการปฏิรูประบบการเมืองแล้ว กลยุทธ์สร้างความปั่นป่วนของคนเหล่านี้ อาจทำให้ต้องเลื่อน หรือยกเลิกการเลือกตั้งไปเลย


@  ผู้สนับสนุน เตรียมบริจาคเงินแก่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำการประท้วงต่อต้านรัฐบาล เมื่อ 21 มกราคม 2557

อีโคโนมิสต์ ชี้ว่า การประท้วงของนายสุเทพเป็นการต่อสู้ฟาดฟันกันรอบล่าสุดในการช่วงชิงอำนาจ ระหว่างคนเสื้อแดงกับกลุ่มอำนาจดั้งเดิมที่คลั่งเจ้า ซึ่งควบคุมเขตเมืองหลวงและจังหวัดทางภาคใต้  การต่อสู้กำลังเปลี่ยนไปสู่ฉากเลวร้ายอีกครั้ง ด้วยความเสี่ยงที่ประเทศไทยจะแตกเป็นสองเสี่ยง

คนเสื้อแดงจะออกมาใช้สิทธิ์ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ตามหน้าที่อย่างแน่นอน ยิ่งกว่านั้น พวกเขามุ่งปกป้องรัฐบาล และนางสาวยิ่งลักษณ์ ไม่ให้ถูกโค่นอำนาจตามที่คาดกันว่าจะเกิดขึ้น การยึดอำนาจอาจทำโดยกองทัพ ด้วยข้ออ้างเพื่อยุติเหตุรุนแรงในกรุงเทพ หรืออาจเป็นการยึดอำนาจโดยตุลาการ ศาลอาจห้ามไม่ให้นักการเมืองพรรคเพื่อไทยเข้ารับตำแหน่ง ด้วยข้อหากระทำการขัดรัฐธรรมนูญ


@  ผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาล จุมพิตมือของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำการประท้วง ระหว่างเดินขบวนในกรุงเทพ เมื่อ 23 มกราคม 2557

"การยึดอำนาจทั้งสองรูปแบบ เคยเกิดขึ้นมาแล้ว คนเสื้อแดงมองว่า กองทัพกับศาลเป็นเครื่องมือของกลุ่มอำนาจดั้งเดิมในกรุงเทพ"  รายงานระบุ

"ถ้าน.ส.ยิ่งลักษณ์ ซึ่งชนะเลือกตั้งอย่างถล่มทลายเมื่อปี 2554 ถูกขับออกจากกรุงเทพ เธอจะได้รับการต้อนรับในเชียงใหม่ ที่ซึ่งเธอจะได้รับแรงสนับสนุนให้ปกครองประเทศต่อไป ในฐานะคู่แข่งที่มีความชอบธรรมของใครก็ตามที่ยึดอำนาจในเมืองหลวง สถานการณ์เช่นนั้นจะจุดชนวนการแยกประเทศระหว่างภาคเหนือกับภาคใต้"

อีโคโนมิสต์รายงานด้วยว่า อันที่จริงแล้ว คนเสื้อแดงจำนวนมากรู้สึกว่า รัฐบาลสูญเสียกรุงเทพไปแล้ว นายสุเทพจะทำอะไรก็ได้ ตำรวจไม่จับ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินก็ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น

ดังนั้น คนเสื้อแดงในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กำลังคิด และถึงขั้นเตรียมพร้อม ที่จะแยกตัวออกจากกรุงเทพและภาคใต้

"ท่านนายกฯมาเลย พวกเราจะดูแล ถ้าเราต้องสู้ เราจะสู้ เราต้องการแยกประเทศ คนเสื้อแดงส่วนใหญ่จะยินดี" อดีตเพื่อนร่วมชั้นเรียนของทักษิณคนหนึ่งในเชียงใหม่ กล่าวกับอีโคโนมิสต์.

ที่มา : The Economist และ http://news.voicetv.co.th/thailand/95082.html
          24 มกราคม 2557
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่