ช่วงนี้สล่ามักจะมีเมนูต้มบ่อยเหลือเกิน ไม่ใช่อะไรครับหน้าหนาวมีแกงจืด ๆ ซดตอนร้อน ๆ
มันช่วยเจริญอาหารได้ดีมาก
มีหัวปลาม้า อยู่ในตู้เย็นตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว นึกอยากลองทำหัวปลาต้มเผือก ความที่ไม่เคยทำ
และเคยกินมาบ้างแต่นานมาแล้ว จนจำรสชาติแทบไม่ได้ ต้องเข้าไปพึ่งพี่กูหาตำรา หยิบนั่นผสมนี่
เอามาลองทำ ตามที่คิดว่าน่าจะอร่อย
ในที่สุดก็ได้มา 1 หม้อย่อม ๆ น่าจะซดได้ประมาณ 2 มื้อ
นี่ไงครับ หัวปลาม้า 2 พ.ศ. ซึ่งตัวจริง ๆ หนัก 5 ก.ก. กว่า ๆ จัดการเคล้าเกลือแล้วล้างด้วย
น้ำส้มสายชู คิดว่าน่าจะเอาอยู่เรื่องกลิ่นคาว
ได้เผือกหอมจากตลาดมา 3 หัว แบ่งมาทำต้มหัวปลา 2 หัว เหลืออีก 1 กะจะทำข้าวเหนียวเปียกเผือก
ส่งการบ้านแม่เลี้ยงจาปาตี
หั่นชิ้นใหญ่พอสมควร จัดการลงทอด แล้วพักไว้
พี่กูว่าไงก็ว่ากันตามนั้น เอาหัวปลาลงทอดต่อ
น้ำซุปกระดูกหมูต้มเตรียมไว้แล้ว ปรุงด้วยเกลือป่น ซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย พริกไทยเม็ด
รากผักชี เอาเผือกลงไปต้มก่อน
อันนี้เป็นสูตรประจำตัว
เห็ดหอมสด มีคนเอามาฝาก ใช้ให้คุ้มกับน้ำใจ ใส่ลงไป
เผือกพอนิ่ม เอาหัวปลาลงต้มด้วย
ตุ๋นไฟอ่อน น้ำแกงหอมมาก น่าจะหวานใช่ย่อย
ทั้งหัวปลาและเผือก เข้าเนื้อเข้าน้ำ นุ่มได้ที่ ใส่ต้นหอมหั่นท่อนที่ลงผัดน้ำมันแค่สะดุ้ง
แล้วปิดท้ายที่ซีอิ๊วขาวและเหล้าจีนปรุงกลิ่น
ตามชื่อกระทู้เลยครับ เป็นเมนูวัดฝีมือจริง ๆ ทำเพราะอยากทำ อย่าถือว่าเป็นสูตร เพราะ
สล่าก็ไปศึกษาเอาจากหลาย ๆ ที่ มาผสมผสานกัน บางอย่างก็เอาใจตัวเองเข้าว่า เพราะมี
วัตถุดิบติดครัวอยู่ เช่น ลำไยอบแห้ง กับเห็ดหอมสด ถ้าถามว่าผิดไหม คงไม่ ถูกไหม
คงไม่ ลอง ๆ กันไป
แต่ผลที่ออกมาน้ำแกงมันทั้งหวานทั้งหอม บอกไม่ถูกเลยครับ น้ำแกงใสครับแต่สีไม่ค่อยสวย
เอามาแบ่งมาแชร์กันครับ คงไม่ใช่กับข้าวทั่ว ๆ ไป เพราะมันจะไปติดขัดที่การหาหัวปลา
นั่นแหละครับ ถ้าไม่ใช่เมืองใหญ่จริง ๆ
ลาที่ภาพนี้ครับ ของอร่อยอย่าเก็บไว้กินคนเดียว เรียกม้าเร็ววานให้เอาไปส่งให้น้องสาวชิม
หาแนวร่วมพิสูจน์ว่าอร่อยจริงหรือเปล่า
สวัสดีครับ
เมนูวัดฝีมือ "หัวปลาม้า 2 พ.ศ. ต้มเผือก"
มันช่วยเจริญอาหารได้ดีมาก
มีหัวปลาม้า อยู่ในตู้เย็นตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว นึกอยากลองทำหัวปลาต้มเผือก ความที่ไม่เคยทำ
และเคยกินมาบ้างแต่นานมาแล้ว จนจำรสชาติแทบไม่ได้ ต้องเข้าไปพึ่งพี่กูหาตำรา หยิบนั่นผสมนี่
เอามาลองทำ ตามที่คิดว่าน่าจะอร่อย
ในที่สุดก็ได้มา 1 หม้อย่อม ๆ น่าจะซดได้ประมาณ 2 มื้อ
นี่ไงครับ หัวปลาม้า 2 พ.ศ. ซึ่งตัวจริง ๆ หนัก 5 ก.ก. กว่า ๆ จัดการเคล้าเกลือแล้วล้างด้วย
น้ำส้มสายชู คิดว่าน่าจะเอาอยู่เรื่องกลิ่นคาว
ได้เผือกหอมจากตลาดมา 3 หัว แบ่งมาทำต้มหัวปลา 2 หัว เหลืออีก 1 กะจะทำข้าวเหนียวเปียกเผือก
ส่งการบ้านแม่เลี้ยงจาปาตี
หั่นชิ้นใหญ่พอสมควร จัดการลงทอด แล้วพักไว้
พี่กูว่าไงก็ว่ากันตามนั้น เอาหัวปลาลงทอดต่อ
น้ำซุปกระดูกหมูต้มเตรียมไว้แล้ว ปรุงด้วยเกลือป่น ซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย พริกไทยเม็ด
รากผักชี เอาเผือกลงไปต้มก่อน
อันนี้เป็นสูตรประจำตัว
เห็ดหอมสด มีคนเอามาฝาก ใช้ให้คุ้มกับน้ำใจ ใส่ลงไป
เผือกพอนิ่ม เอาหัวปลาลงต้มด้วย
ตุ๋นไฟอ่อน น้ำแกงหอมมาก น่าจะหวานใช่ย่อย
ทั้งหัวปลาและเผือก เข้าเนื้อเข้าน้ำ นุ่มได้ที่ ใส่ต้นหอมหั่นท่อนที่ลงผัดน้ำมันแค่สะดุ้ง
แล้วปิดท้ายที่ซีอิ๊วขาวและเหล้าจีนปรุงกลิ่น
ตามชื่อกระทู้เลยครับ เป็นเมนูวัดฝีมือจริง ๆ ทำเพราะอยากทำ อย่าถือว่าเป็นสูตร เพราะ
สล่าก็ไปศึกษาเอาจากหลาย ๆ ที่ มาผสมผสานกัน บางอย่างก็เอาใจตัวเองเข้าว่า เพราะมี
วัตถุดิบติดครัวอยู่ เช่น ลำไยอบแห้ง กับเห็ดหอมสด ถ้าถามว่าผิดไหม คงไม่ ถูกไหม
คงไม่ ลอง ๆ กันไป
แต่ผลที่ออกมาน้ำแกงมันทั้งหวานทั้งหอม บอกไม่ถูกเลยครับ น้ำแกงใสครับแต่สีไม่ค่อยสวย
เอามาแบ่งมาแชร์กันครับ คงไม่ใช่กับข้าวทั่ว ๆ ไป เพราะมันจะไปติดขัดที่การหาหัวปลา
นั่นแหละครับ ถ้าไม่ใช่เมืองใหญ่จริง ๆ
ลาที่ภาพนี้ครับ ของอร่อยอย่าเก็บไว้กินคนเดียว เรียกม้าเร็ววานให้เอาไปส่งให้น้องสาวชิม
หาแนวร่วมพิสูจน์ว่าอร่อยจริงหรือเปล่า
สวัสดีครับ