21 มกราคม 2557
เที่ยวรอบโลกของเราครั้งนี้ไม่ได้ไปไหนไกลจากประเทศไทยหรอกนะคะ
เชื่อว่าหลายคนเคยมาเที่ยวที่นี่แล้ว หรือไม่งั้นก็ต้องไปยินชื่อ...'' อุทยานหลวงราชพฤกษ์ ''...มาบ้างหล่ะ
ที่นี่เคยจัดงานพืชสวนโลกมาสองครั้งแล้วค่ะ ซึ่งปีล่าสุดที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดงานก็คือปี 2554...3 ปีผ่านไปไวเหมือนโกหก
แม้ในปัจจุบันความงดงามของดอกไม้จะไม่เยอะและจัดเต็มเหมือนเมื่อครั้งมีงานพืชสวนโลกก็ตามที
แต่สำหรับเรา เราชอบมากเลยค่ะ ก่อนมาก็ลังเลอยู่เหมือนกันว่าจะมาชมดีหรือไม่ เพราะกลัวจะไม่สวยเหมือนตอนมีงาน
แต่พอเข้ามาถึงด้านในแล้ว ประทับใจเกือบทุกจุดเลยค่ะ
Flora Festival 2013
เทศกาลชมสวน สีสันแห่งพรรณไม้
1 ธันวาคม 2556 - 28 กุมภาพันธุ์ 2557
เวลา 08:00 - 20:00 น.
โทร : (053) 114110 - 5
ค่าเข้าชมคนไทย 50 บาท ต่างชาติ 100 บาท
ค่ารถรางคนละ 20 บาท
7 จุดท่องเที่ยวสำคัญ ซึ่งเราไปไม่ครบหรอกนะคะ แบบว่าเดินไปเรื่อยๆอยากชมตรงไหนเราก็หยุดชม อย่างสวนของแต่ละประเทศ เจ้าหน้าที่ แจ้งว่ามีประมาณ 26 ประเทศแต่เราเจอแค่ประมาณ 10 ประเทศเองค่ะ ไม่รู้ประเทศที่เหลืออยู่ตรงไหน นาทีนั้นเริ่มเมื่อยขาแล้วค่ะ และถ่ายรูปไปเยอะมากจนแบ็ตเตอรี่ใกล้จะหมด เราเลยพอก่อนเพราะหลังจากชมสวนเสร็จ เราจะไปเล่น Segway ที่ Night Safari ต่อ ซึ่งสถานที่อยู่ไม่ไกลกันกับอุทยานหลวงราชพฤกษ์เลยค่ะ ใครแพลนมาเที่ยวที่นี่ก็สามารถมาต่อที่ Night Safari ได้สบายเลยนะคะ เอาหล่ะขอกลับเข้าที่จุดสำคัญกันต่อเลยนะคะ มาดูดีกว่าค่ะว่าแต่ละจุดมีอะไรบ้าง
1. สวนเกษตรทฤษฏีใหม่
2. สวนกล้วยไม้
3. ทิวลิปคิงส์ภูมิพล
4. ของดีเจ็ดยอดดอย
5. เรือนร่มไม้
6. หอคำหลวง
7. นิทรรศการแสดงประราชประวัติของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
แนะนำให้นั่งรถรางจนครบรอบซึ่งไกด์จะแนะนำจุดท่องเที่ยวสำคัญทั้ง 7 จุด โดยอย่าเพิ่งลงจนกว่ารถรางจะวนกลับมายังจุดเริ่มต้น หลังจากนั้นเราแนะนำให้เดินชมเอาค่ะ ค่อยๆเดิน เพลินดีค่ะ คราวนี้เราสนใจจุดไหนเป็นพิเศษก็มุ่งไปจุดนั้นได้เลย แต่หากไม่เมื่อยขาและอากาศดี เราก็อยากให้ไปชมให้ครบทุกจุดกันเลยนะคะ หากหิวหรือกระหายหรืออยากพักนั่งบ้าง แต่ละจุดก็จะมีซุ้มขายอาหารและเครื่องดื่มให้ค่ะ
ต่อไปเชิญมาชมรูปคนหลงรักตัวเองอย่างโงหัวไม่ขึ้นของเราได้เลยค่ะ
สถานที่แรกเมื่อนึกถึงอุทยานหลวงราชพฤกษ์ คงเป็นที่ไหนไปไม่ได้ นอกจาก '' หอคำหลวง '' รูปนี้กว่าจะถ่ายได้เนี่ยเราต้องรอให้คนมาก่อนเดินไปให้เห็นตัวลิบๆ ในขณะเดียวกันก็คอยลุ้นขออย่าให้คนมาใหม่อย่าเพิ่งเดินเข้ามาเลย เพี๊ยง ดูแล้วคำขอสัมฤทธิ์ผลดีค่ะ
สำหรับใครที่อยากทำบุญโดยการเขียนชื่อลงบนใบโพธิ์สีทองก็ให้แวะมาที่จุดที่สองนี้ได้นะคะ
สำหรับคนที่ชอบน้ำตกสาย ลำธารใส ดอกไม้สวย ต้องไม่พลาดจุดนี้เลยนะคะ นั่นคือจุดสวนกล้วยไม้นั่นเองค่ะ
ต่อไปเราจะพาไปเที่ยวรอบโลกกันบ้างนะคะ พูดซะเวอร์จริงๆเลยยัยคนนี้ จริงๆแล้วเราเจอสวนแค่ 10 ประเทศนะคะ ยังไม่ถึงครึ่งเลยค่ะ แต่แค่นี้ก็ปลื้มใจมากแล้วค่ะ เพราะเค้าจัดสวนได้สวยและมีเอกลักษณ์ของแต่ละประเทศดีค่ะ มาชมรูปสวยๆของทั้ง 10 ประเทศกันเลยค่ะ
ประเทศแรกที่เราเดินมาเจอคือ...ประเทศภูฏาน
ชอบตั้งแต่ประตูทางเข้าเลยค่ะสวยงามมาก พอไปชมด้านในก็สวยไม่แพ้ด้านนอกเลยค่ะ แต่เราคงจะลงรูปแค่หนึ่งภาพต่อหนึ่งประเทศนะคะ เนื่องจากว่าจะต้องลงรูปที่ไปเล่น Segway และร้านอาหารที่ Night Safari ด้วยค่ะ กลัวจะเยอะเกินไป
ประเทศลำดับที่สองคือ...ประเทศเบลเยี่ยม
ถ้าในความเป็นศิลป์ เราเทใจให้เบลเยี่ยมตั้งแต่วันที่ได้เห็นทางหน้าจอทีวี นิตยสารและจนมาเห็นด้วยสองตาของตัวเอง เต็มสิบไปเลยค่ะ
ประเทศลำดับที่สาม...ประเทศเนปาล
การตกแต่งคล้ายสวนของประเทศจีนในความคิดของเรานะคะ แต่อยากจะบอกว่าเราไม่เจอสวนของประเทศจีนหรอกค่ะ อาศัยดูหนังจีนเยอะเลยจำได้หน่ะค่ะ
ประเทศลำดับที่สี่...ประเทศอินเดีย
สัญลักษณ์ของอินเดียเวลาที่นึกถึงก็นี่เลยค่ะ พระพิฆเณศ กับ สีชมพูแห่งเมืองชัยปุระ
ประเทศลำดับที่ห้า...ประเทศแคนาดา
ตอนแรกก็ไม่แน่ใจว่าใช่แคนาดาหรือไม่เพราะดูแล้วเหมือนเผ่าอะไรซักอย่าง หากไม่ใช่แย้งมาได้นะคะ เราจะได้ทำการแก้ไขในโอกาสต่อไป
ประเทศลำดับที่หก...ประเทศอินโดนีเซีย
การตกแต่งสวนไม่สวยอย่างที่คิดเลยค่ะ ค่อนข้างผิดหวังกับสวนของประเทศนี้ เพราะสวนบาหลีออกจะดังเลยทำให้เราคาดหวังเอาไว้ซะเยอะ
ประเทศลำดับที่เจ็ด...ประเทศตุรกี
สวนที่นี่ก็เน้นไปในส่วนของน้ำพุซึ่งถึงแม้ว่าวันนี้บรรยากาศจะดูแล้วร้างไปบ้างก็พอให้อภัยค่ะ เนื่องจากไม่ได้คาดหวังไว้นั่นเองค่ะ
ประเทศลำดับที่แปด...ประเทศญี่ปุ่น
สวนสวยน่ารักตั้งแต่ประตูยันด้านในอีกหนึ่งประเทศค่ะ เรานั่งพักข้างในชมปลาคาร์พในบ่อเลี้ยงด้วยค่ะ เสียดายไม่มีชาร้อนมาเสิรฟ์
ประเทศลำดับที่เก้า...ประเทศฮอลแลนด์
สัญลักษณ์ของฮอลแลนด์หรือเนเธอร์แลนด์แล้วแต่จะเรียกนะคะ นี่เลยค่ะเจ้ากังหันลมยักษ์สีสดใสกับรองเท้าไม้ของชาวดัตช์เค้าหล่ะ
ประเทศลำดับที่สิบ...ประเทศเวียดนาม
สวนแอบคล้ายสไตล์พี่จีนอีกเช่นเดียวกัน
ขอปิดท้ายกับภาพสุดท้ายในอุทยานหลวงราชพฤกษ์ไปก่อนด้วยภาพนั่งชิลๆกลางสวนสวย หากมีคนสนใจการเล่น Segway เครื่องเล่นอินเทรนด์ที่ Night Safari เราก็จะมาลงรูปกับราคาและรายละเอียดต่างๆให้นะคะ แต่หากไม่มีคนสนใจเราก็จะขอจบที่อุทยานหลวงราชพฤกษ์นะคะ
.......................................................................................................................
Segway ก่อนอื่นมาทำความรู้จักเจ้าเซกเวย์กันก่อนนะคะ เซกเวย์ คือ พาหนะส่วนบุคคล มีสองล้อ ขับเคลื่อนด้วยกำลังไฟฟ้า ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่รู้สึกว่าจะไม่เป็นมิตรกับสตางค์ในกระเปําเท่าไหร่ ตอนแรกเราโทรเช็คราคากับบริษัททัวร์แห่งหนึ่งแล้วสู้ราคาไม่ไหว เลยลองเสิร์ชหาในกูเกิล จนมาเจอราคาที่พอสู้ได้ค่ะ เคาน์เตอร์ทัวร์ที่นี่ตั้งอยู่ด้านหน้า Night Safari บริเวณที่ขายตํวเลยนะคะ เราไม่จำเป็นต้องซึ้อตํวเข้าไปหากเราจะมาเล่นแค่ Segway อย่างเดียว
แพ็คเกจมีอยู่ 3 แบบ ดังนี้ค่ะ
ขี่ในสนาม 4 รอบสนาม ราคา 199 บาท
30 นาที ขี่เข้าไปใน Night Safari ราคา 799 บาท
1 ชั่วโมง ขี่เข้าไปในอุทยานหลวงราชพฤกษ์ ราคา 1,199 บาท
เวลาดำเนินการ 14:00 - 22:00 น.
โทร : (087) 788 - 2788
เราเลือกแบบถูกสุดค่ะ เพราะแค่อยากลองขี่ดูให้รู้กันไปว่าทำไมถึงอินเทรนด์ แบบว่าอยากอินเทรนด์กับเค้าบ้างหน่ะค่ะ
เคาน์เตอร์ทัวร์อยู๋ฝั่งขวามือนะคะ
หน้าตาของเซกเวย์เค้าหล่ะค่ะ
ก่อนเล่นน้องเค้าก็จะสอนให้ก่อนว่าเล่นยังไง และจะตามประกบในสนามก่อนในรอบแรกด้วยค่ะ
หลังจากนั้นก็ลุยโลดโชว์เดี่ยวไปเลยค่ะ
หลังจากเล่นเสร็จก็มาถ่ายรูปกับป้ายเป็นที่ระลึกค่ะ
ถ้าจะให้แนะนำเราว่าแพ็คเกจแบบขี่เข้าไปใน Night Safari น่าสนใจดีค่ะ เพราะพอได้มาลองขี่จริงๆแล้วเราว่ามันเพลินดีจนรู้สึกว่าต้องขี่ในเวลาที่นานกว่านี้ถึงจะเต็มที่กับ Segway
..................................................................................................................
Giraffe Restaurant
ก่อนกลับเราแนะนำให้ลองมาทานอาหารที่อยู่ใกล้กับลานจอดรถชื่อร้าน Giraffe Restaurant ความน่าสนใจคือขณะที่คุณทานอาหารไปคุณก็จะได้เห็นยีราฟกับน้องม้าลายอยู่รายล้อมรอบกระจกของห้องอาหารไปด้วย แถมลูกม้าลายมีดูดนมแม่โชว์ต่อหน้าต่อตาด้วยค่ะ น่ารักซะจริงเชียว ส่วนรสชาติของอาหารเราว่าอร่อยมากเลยค่ะ ลองแวะมาทานกันดูนะคะ
ครบแก๊งค์เค้าหล่ะค่ะ
พี่ใหญ่คงหิวน่าดูเห็นกินตลอดเวลาเลยค่ะ
ลูกม้าลายกำลังดูดนมจากเต้าของแม่ม้าลายอยู่ค่ะ
มาดูอาหารกันบ้างนะคะ จานแรกสเต๊กปลาแซลมอนราดซอสส้ม รสกลมกล่อมกำลังดีค่ะ
จานนี้ของเราเองค่ะ ข้าวผัดปลาเค็ม ตอนแรกเห็นหน้าตาอาหารดูแล้วไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่พอตักชิมอร่อยมากค่ะ หมดในเวลาอันรวดเร็ว
น้ำมัลเบอร์รี่ เปรี้ยวหวานกำลังดี
สรุปให้สามผ่านไปเลยค่ะ ลาไปก่อนนะคะแล้วเจอกันใหม่ในทริปต่อไปค่ะ
[CR] เที่ยวรอบโลกไปกับอุทยานหลวงราชพฤกษ์ แล้วไปต่อกับ Segway เครื่องเล่นสุดอินเทรนด์ที่ Night Safari
เที่ยวรอบโลกของเราครั้งนี้ไม่ได้ไปไหนไกลจากประเทศไทยหรอกนะคะ
เชื่อว่าหลายคนเคยมาเที่ยวที่นี่แล้ว หรือไม่งั้นก็ต้องไปยินชื่อ...'' อุทยานหลวงราชพฤกษ์ ''...มาบ้างหล่ะ
ที่นี่เคยจัดงานพืชสวนโลกมาสองครั้งแล้วค่ะ ซึ่งปีล่าสุดที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดงานก็คือปี 2554...3 ปีผ่านไปไวเหมือนโกหก
แม้ในปัจจุบันความงดงามของดอกไม้จะไม่เยอะและจัดเต็มเหมือนเมื่อครั้งมีงานพืชสวนโลกก็ตามที
แต่สำหรับเรา เราชอบมากเลยค่ะ ก่อนมาก็ลังเลอยู่เหมือนกันว่าจะมาชมดีหรือไม่ เพราะกลัวจะไม่สวยเหมือนตอนมีงาน
แต่พอเข้ามาถึงด้านในแล้ว ประทับใจเกือบทุกจุดเลยค่ะ
Flora Festival 2013
เทศกาลชมสวน สีสันแห่งพรรณไม้
1 ธันวาคม 2556 - 28 กุมภาพันธุ์ 2557
เวลา 08:00 - 20:00 น.
โทร : (053) 114110 - 5
ค่าเข้าชมคนไทย 50 บาท ต่างชาติ 100 บาท
ค่ารถรางคนละ 20 บาท
7 จุดท่องเที่ยวสำคัญ ซึ่งเราไปไม่ครบหรอกนะคะ แบบว่าเดินไปเรื่อยๆอยากชมตรงไหนเราก็หยุดชม อย่างสวนของแต่ละประเทศ เจ้าหน้าที่ แจ้งว่ามีประมาณ 26 ประเทศแต่เราเจอแค่ประมาณ 10 ประเทศเองค่ะ ไม่รู้ประเทศที่เหลืออยู่ตรงไหน นาทีนั้นเริ่มเมื่อยขาแล้วค่ะ และถ่ายรูปไปเยอะมากจนแบ็ตเตอรี่ใกล้จะหมด เราเลยพอก่อนเพราะหลังจากชมสวนเสร็จ เราจะไปเล่น Segway ที่ Night Safari ต่อ ซึ่งสถานที่อยู่ไม่ไกลกันกับอุทยานหลวงราชพฤกษ์เลยค่ะ ใครแพลนมาเที่ยวที่นี่ก็สามารถมาต่อที่ Night Safari ได้สบายเลยนะคะ เอาหล่ะขอกลับเข้าที่จุดสำคัญกันต่อเลยนะคะ มาดูดีกว่าค่ะว่าแต่ละจุดมีอะไรบ้าง
1. สวนเกษตรทฤษฏีใหม่
2. สวนกล้วยไม้
3. ทิวลิปคิงส์ภูมิพล
4. ของดีเจ็ดยอดดอย
5. เรือนร่มไม้
6. หอคำหลวง
7. นิทรรศการแสดงประราชประวัติของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
แนะนำให้นั่งรถรางจนครบรอบซึ่งไกด์จะแนะนำจุดท่องเที่ยวสำคัญทั้ง 7 จุด โดยอย่าเพิ่งลงจนกว่ารถรางจะวนกลับมายังจุดเริ่มต้น หลังจากนั้นเราแนะนำให้เดินชมเอาค่ะ ค่อยๆเดิน เพลินดีค่ะ คราวนี้เราสนใจจุดไหนเป็นพิเศษก็มุ่งไปจุดนั้นได้เลย แต่หากไม่เมื่อยขาและอากาศดี เราก็อยากให้ไปชมให้ครบทุกจุดกันเลยนะคะ หากหิวหรือกระหายหรืออยากพักนั่งบ้าง แต่ละจุดก็จะมีซุ้มขายอาหารและเครื่องดื่มให้ค่ะ
ต่อไปเชิญมาชมรูปคนหลงรักตัวเองอย่างโงหัวไม่ขึ้นของเราได้เลยค่ะ
สถานที่แรกเมื่อนึกถึงอุทยานหลวงราชพฤกษ์ คงเป็นที่ไหนไปไม่ได้ นอกจาก '' หอคำหลวง '' รูปนี้กว่าจะถ่ายได้เนี่ยเราต้องรอให้คนมาก่อนเดินไปให้เห็นตัวลิบๆ ในขณะเดียวกันก็คอยลุ้นขออย่าให้คนมาใหม่อย่าเพิ่งเดินเข้ามาเลย เพี๊ยง ดูแล้วคำขอสัมฤทธิ์ผลดีค่ะ
สำหรับใครที่อยากทำบุญโดยการเขียนชื่อลงบนใบโพธิ์สีทองก็ให้แวะมาที่จุดที่สองนี้ได้นะคะ
สำหรับคนที่ชอบน้ำตกสาย ลำธารใส ดอกไม้สวย ต้องไม่พลาดจุดนี้เลยนะคะ นั่นคือจุดสวนกล้วยไม้นั่นเองค่ะ
ต่อไปเราจะพาไปเที่ยวรอบโลกกันบ้างนะคะ พูดซะเวอร์จริงๆเลยยัยคนนี้ จริงๆแล้วเราเจอสวนแค่ 10 ประเทศนะคะ ยังไม่ถึงครึ่งเลยค่ะ แต่แค่นี้ก็ปลื้มใจมากแล้วค่ะ เพราะเค้าจัดสวนได้สวยและมีเอกลักษณ์ของแต่ละประเทศดีค่ะ มาชมรูปสวยๆของทั้ง 10 ประเทศกันเลยค่ะ
ประเทศแรกที่เราเดินมาเจอคือ...ประเทศภูฏาน
ชอบตั้งแต่ประตูทางเข้าเลยค่ะสวยงามมาก พอไปชมด้านในก็สวยไม่แพ้ด้านนอกเลยค่ะ แต่เราคงจะลงรูปแค่หนึ่งภาพต่อหนึ่งประเทศนะคะ เนื่องจากว่าจะต้องลงรูปที่ไปเล่น Segway และร้านอาหารที่ Night Safari ด้วยค่ะ กลัวจะเยอะเกินไป
ประเทศลำดับที่สองคือ...ประเทศเบลเยี่ยม
ถ้าในความเป็นศิลป์ เราเทใจให้เบลเยี่ยมตั้งแต่วันที่ได้เห็นทางหน้าจอทีวี นิตยสารและจนมาเห็นด้วยสองตาของตัวเอง เต็มสิบไปเลยค่ะ
ประเทศลำดับที่สาม...ประเทศเนปาล
การตกแต่งคล้ายสวนของประเทศจีนในความคิดของเรานะคะ แต่อยากจะบอกว่าเราไม่เจอสวนของประเทศจีนหรอกค่ะ อาศัยดูหนังจีนเยอะเลยจำได้หน่ะค่ะ
ประเทศลำดับที่สี่...ประเทศอินเดีย
สัญลักษณ์ของอินเดียเวลาที่นึกถึงก็นี่เลยค่ะ พระพิฆเณศ กับ สีชมพูแห่งเมืองชัยปุระ
ประเทศลำดับที่ห้า...ประเทศแคนาดา
ตอนแรกก็ไม่แน่ใจว่าใช่แคนาดาหรือไม่เพราะดูแล้วเหมือนเผ่าอะไรซักอย่าง หากไม่ใช่แย้งมาได้นะคะ เราจะได้ทำการแก้ไขในโอกาสต่อไป
ประเทศลำดับที่หก...ประเทศอินโดนีเซีย
การตกแต่งสวนไม่สวยอย่างที่คิดเลยค่ะ ค่อนข้างผิดหวังกับสวนของประเทศนี้ เพราะสวนบาหลีออกจะดังเลยทำให้เราคาดหวังเอาไว้ซะเยอะ
ประเทศลำดับที่เจ็ด...ประเทศตุรกี
สวนที่นี่ก็เน้นไปในส่วนของน้ำพุซึ่งถึงแม้ว่าวันนี้บรรยากาศจะดูแล้วร้างไปบ้างก็พอให้อภัยค่ะ เนื่องจากไม่ได้คาดหวังไว้นั่นเองค่ะ
ประเทศลำดับที่แปด...ประเทศญี่ปุ่น
สวนสวยน่ารักตั้งแต่ประตูยันด้านในอีกหนึ่งประเทศค่ะ เรานั่งพักข้างในชมปลาคาร์พในบ่อเลี้ยงด้วยค่ะ เสียดายไม่มีชาร้อนมาเสิรฟ์
ประเทศลำดับที่เก้า...ประเทศฮอลแลนด์
สัญลักษณ์ของฮอลแลนด์หรือเนเธอร์แลนด์แล้วแต่จะเรียกนะคะ นี่เลยค่ะเจ้ากังหันลมยักษ์สีสดใสกับรองเท้าไม้ของชาวดัตช์เค้าหล่ะ
ประเทศลำดับที่สิบ...ประเทศเวียดนาม
สวนแอบคล้ายสไตล์พี่จีนอีกเช่นเดียวกัน
ขอปิดท้ายกับภาพสุดท้ายในอุทยานหลวงราชพฤกษ์ไปก่อนด้วยภาพนั่งชิลๆกลางสวนสวย หากมีคนสนใจการเล่น Segway เครื่องเล่นอินเทรนด์ที่ Night Safari เราก็จะมาลงรูปกับราคาและรายละเอียดต่างๆให้นะคะ แต่หากไม่มีคนสนใจเราก็จะขอจบที่อุทยานหลวงราชพฤกษ์นะคะ
.......................................................................................................................
Segway ก่อนอื่นมาทำความรู้จักเจ้าเซกเวย์กันก่อนนะคะ เซกเวย์ คือ พาหนะส่วนบุคคล มีสองล้อ ขับเคลื่อนด้วยกำลังไฟฟ้า ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่รู้สึกว่าจะไม่เป็นมิตรกับสตางค์ในกระเปําเท่าไหร่ ตอนแรกเราโทรเช็คราคากับบริษัททัวร์แห่งหนึ่งแล้วสู้ราคาไม่ไหว เลยลองเสิร์ชหาในกูเกิล จนมาเจอราคาที่พอสู้ได้ค่ะ เคาน์เตอร์ทัวร์ที่นี่ตั้งอยู่ด้านหน้า Night Safari บริเวณที่ขายตํวเลยนะคะ เราไม่จำเป็นต้องซึ้อตํวเข้าไปหากเราจะมาเล่นแค่ Segway อย่างเดียว
แพ็คเกจมีอยู่ 3 แบบ ดังนี้ค่ะ
ขี่ในสนาม 4 รอบสนาม ราคา 199 บาท
30 นาที ขี่เข้าไปใน Night Safari ราคา 799 บาท
1 ชั่วโมง ขี่เข้าไปในอุทยานหลวงราชพฤกษ์ ราคา 1,199 บาท
เวลาดำเนินการ 14:00 - 22:00 น.
โทร : (087) 788 - 2788
เราเลือกแบบถูกสุดค่ะ เพราะแค่อยากลองขี่ดูให้รู้กันไปว่าทำไมถึงอินเทรนด์ แบบว่าอยากอินเทรนด์กับเค้าบ้างหน่ะค่ะ
เคาน์เตอร์ทัวร์อยู๋ฝั่งขวามือนะคะ
หน้าตาของเซกเวย์เค้าหล่ะค่ะ
ก่อนเล่นน้องเค้าก็จะสอนให้ก่อนว่าเล่นยังไง และจะตามประกบในสนามก่อนในรอบแรกด้วยค่ะ
หลังจากนั้นก็ลุยโลดโชว์เดี่ยวไปเลยค่ะ
หลังจากเล่นเสร็จก็มาถ่ายรูปกับป้ายเป็นที่ระลึกค่ะ
ถ้าจะให้แนะนำเราว่าแพ็คเกจแบบขี่เข้าไปใน Night Safari น่าสนใจดีค่ะ เพราะพอได้มาลองขี่จริงๆแล้วเราว่ามันเพลินดีจนรู้สึกว่าต้องขี่ในเวลาที่นานกว่านี้ถึงจะเต็มที่กับ Segway
..................................................................................................................
Giraffe Restaurant
ก่อนกลับเราแนะนำให้ลองมาทานอาหารที่อยู่ใกล้กับลานจอดรถชื่อร้าน Giraffe Restaurant ความน่าสนใจคือขณะที่คุณทานอาหารไปคุณก็จะได้เห็นยีราฟกับน้องม้าลายอยู่รายล้อมรอบกระจกของห้องอาหารไปด้วย แถมลูกม้าลายมีดูดนมแม่โชว์ต่อหน้าต่อตาด้วยค่ะ น่ารักซะจริงเชียว ส่วนรสชาติของอาหารเราว่าอร่อยมากเลยค่ะ ลองแวะมาทานกันดูนะคะ
ครบแก๊งค์เค้าหล่ะค่ะ
พี่ใหญ่คงหิวน่าดูเห็นกินตลอดเวลาเลยค่ะ
ลูกม้าลายกำลังดูดนมจากเต้าของแม่ม้าลายอยู่ค่ะ
มาดูอาหารกันบ้างนะคะ จานแรกสเต๊กปลาแซลมอนราดซอสส้ม รสกลมกล่อมกำลังดีค่ะ
จานนี้ของเราเองค่ะ ข้าวผัดปลาเค็ม ตอนแรกเห็นหน้าตาอาหารดูแล้วไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่พอตักชิมอร่อยมากค่ะ หมดในเวลาอันรวดเร็ว
น้ำมัลเบอร์รี่ เปรี้ยวหวานกำลังดี
สรุปให้สามผ่านไปเลยค่ะ ลาไปก่อนนะคะแล้วเจอกันใหม่ในทริปต่อไปค่ะ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น