หมายเหตุ : ที่บอกในหัวกระทู้ว่าเป็น "กระทู้พูดถึงเฉยๆ" เพราะที่ผมเขียนถึงนี้
จะว่ารีวิวก็ไม่ใช่ จะอวยก็ไม่เชิง แค่พูดถึงว่าส่วนตัวผมนั้นเห็นดีเห็นงามอะไร
กะไอซีรีย์ไรเดอร์วิตามินซีเรื่องนี้นัก?




ติดตามคาเมนไรเดอร์ไกมุมา 10 กว่าตอนแล้ว จากที่ตอนแรกรู้สึกว่า เราคงจะตาม
แบบตอนตามโฟร์เสะกับวิซาร์ด คือตามไปงั้นตามประสาแฟนไรเดอร์ เพราะส่วนตัว
ผมว่าสองซีรีย์ที่ผ่านมานั้นเนื้อหาธรรมดามากๆ ไม่ค่อยมีความเข้มข้นให้น่าติดตาม
แบบไรเดอร์ยุคเฮย์เซย์เรื่องก่อนๆ ทำให้ผมคิดว่า หรือเพราะเราอายุมากขึ้นเลยทำให้
ดูไม่สนุกเท่ากับตอนที่ดูริวคิ ไฟซ์ หรืออากิโตะ ...แต่พอไปถามเพื่อนๆมันก็พูดแบบ
เดียวกันว่า โฟร์เสะกับวิซาร์ดเนื้อเรื่องอ่อนลงมากจริงๆ ถ้าเทียบกับเรื่องก่อนๆ จนพอ
มาถึงไกมุผมก็แทบจะไม่หวังเรื่องบทแล้วครับ ดูด้วยความคิดว่า "อยากรู้ว่ามันจะเล่นอะไร"
แบบนี้ (ขออภัยสำหรับท่านที่ชอบโฟร์เสะกับวิซาร์ดด้วยนะครับ ^ ^'') แต่พอลองดู
ไกมุจริงๆประมาณ 2-3 ตอน จากตอนแรกที่คิดว่าจะดูแบบงั้นๆ แต่ไปๆมาๆก็หันหลับ
มาติดตามดูแบบจริงๆจังๆจนได้




ความประทับใจแรกของผมนั้น ไม่ต่างจากคนอื่นๆหรอกครับคือ "ดีไซน์อะไรของมันฟะ?"
ดีไซน์ลิเก สีสันแสบทรวง ต้นแบบมาจากผลไม้ มันดูเลอะเทอะมากกว่าจะเห็นว่ามันสร้าง
สรรค์นะครับในตอนแรก XD แถมเนื้อหาก็เป็นส่วนผสมของสิ่งที่มันต่างกันมากๆ (เซ็นโกคุ
+ นักรบชุดเกราะ + ทีมเต้น + ผมไม้) ไม่กล้าเดาจริงๆว่าไรเดอร์ผลไม้กลุ่มนี้จะออกมา
แบบไหน ...แต่คิดไปคิดมาแล้วเราก็ไม่ควรจะไปตั้งแง่กับมันตั้งแต่แรก ะเพราะในอดีตเรา
ก็ยี้กับไซน์ของไรเดอร์มาเสมอ แต่เอาเข้าจริงๆก็ติดตามอย่างสนุกสนานมาตลอด ครั้งนี้
ก็น่าจะเหมือนกัน ...พอได้ติดตามจริงๆแล้วเนื้อหากับธีมแปลกๆอันนี้มันก็เข้ากันดีมาก
เพราะไกมุก็ไม่ใช่ซีรีย์แนวผดุงความยุติธรรมเหมือนดับเบิ้ล โอส หรือที่ผ่านๆมา 2-3 เรื่อง
ก่อน แต่เป็นสงครามระหว่างไรเดอร์ด้วยกันแบบริวคิเลย ฉะนั้นถ้าจะมีอะไรแปลกๆมาผมก็
รับได้ทั้งนั้นแล้ว ...ทีนี้พอเปิดใจยอมรับเรื่องดีไซน์ปุ๊บ มันเลยทำให้สังเกตว่า ดีไซน์มันมี
ความละเอียดและซ่อนรายละเอียดเฉพาะตัวของแต่ละชุดเกราะเอาไว้เยอะ ไม่ใช่สักแต่ว่า
จะออกมาเป็นผลไม้อย่างเดียว เช่น ไกมุที่เป็นซามูไรญีปุ่น, บารอนเป็นชุดเกราะของนักรบ
ยุโรป, ริวเง็นเป็นชุดนักรบจีน, ซีเกิร์ดเป็นชุดแนวไวกิ้งมีขนๆ อะไรแบบนี้ แถมทีมงานยังแอบ
ใส่อะไรเล็กๆน้อยๆ บ่งบอกคาแรคเตอร์ของไรเดอร์คนนั้นๆลงไปด้วย เหมือนกับเอารูปแบบ
ชุดเกราะนักรบทั่วโลกมาใส่ความเป็นผลไม้ลงไปมากกว่า จากที่ตะหงิดๆในตอนแรก เลย
กลายเป็นว่าผมกลับชอบดีไซน์ของไกมุมากที่สุดเลยในบรรดาไรเดอร์ยุคนีโอเฮย์เซย์
ดูดีไซน์มันลงตัวและมีความเฉพาะตัว ไม่เหมือนใครดีครับ




พูดเรื่องดีไซน์ไปยาวๆแล้ว ขอวกกลับมาที่เนื้อเรื่องบ้าง ...หลังจากดูไกมุตอนแรกไป ก็เห็น
ได้ชัดว่ามันก็เป็นอย่างที่คิดเลย คือเป็นไรเดอร์แนวเบาสมองตามประสาไรเดอร์ยุคนีโอเฮย์เซย์
ที่เรื่องง่ายๆ เนื้อหาแนวตลกขบขัน (มีตลกปัญญาอ่อนแทรกบ้างประปราย) พระเอกทำตัวเงอะๆ
งะๆบ้าๆบอๆ บวกกับสไตส์การเดินเรื่องบ้าๆฮาๆ ไม่ต่างจากเรื่องก่อนๆเลย ทำให้ผมฟันธงลง
ไปแทบจะทันทีว่า มันก็คงเหมือนๆกับไรเดอร์นีโอเฮย์เซย์ที่ผ่านมาที่เน้นความสนุกแบบง่ายๆ
ไม่ได้ซับซ้อนอะไรหรอก...




แต่พอดูมาเรื่อยๆ กลับพบว่ามันไม่ได้ตั้งหน้าตั้งตาฮาอย่างที่เราเคยฟันธงไปตั้งแต่แรก
ซึ่งก็ต้องขอตบหน้าตัวเองแรงๆซักทีครับ คงเพราะด้วยคอนเซปต์ผลไม้ เลยทำให้ผมสรุปไป
เองว่ามันคงจะอยู่ในโทนขำๆฟีลกู้ดไปตลอดทั้งเรื่อง ...เพราะภายในความสดใสขำขันที่เปลือก
นอกนั้น เนื้อในของซีรีย์ไรเดอร์เรื่องนี้กลับแฝงไปด้วยประเด็นดราม่าหนักๆ และความมืดหม่น
อย่างคาดไม่ถึงเลย ...จนดูไปจนถึงคราวที่เรื่องมันเดินไปถึงจุดเข้มข้น (เร็วมากเลยครับ ยังไม่ถึง
20 ตอนเลยนะเนี่ย เป็นซีรีย์ที่อะไรต่อมิอะไรมันไปไวมาก ...ซึ่งดีแล้วครับ > <) ก็พบกับสิ่งที่
มันทั้งน่าสนใจ ทั้งเซอร์ไพรส์ และปวดตับมากขึ้นเรื่อยๆ (โดยเฉพาะตอนที่ 14 ที่เฉลยว่า
...นั่นแหละ = = เพื่อนๆที่ดูแล้วคงเข้าใจดี) จนยิ่งดูไปยิ่งกระหายที่จะรู้ "ความจริง" ของสิ่งต่างๆ
ที่เกิดขึ้นเร็วๆ เหมือนกับตอนที่ผมดูอากิโตะหรือไฟส์เด๊ะเลย เป็นอารมณ์การดูซีรีย์ไรเดอร์ที่
ผมไม่ได้สำผัสมานานมาก เพราะซีรีย์ระยะหลังๆนี้ ปมมันก็น่าติดตาม แต่มันไม่ได้เป็นปริศนา
หรือสร้างความแคลงใจอะไรเลย เป็นความน่าติดตามที่เรารู้อยู่แล้วว่ามันจะเป็นยังไงน่ะครับ
แต่กับไกมุนี่ฉีกแนวจาก 2-3 เรื่องที่แล้วไปเลย คือ อะไรๆมันก็เป็นปริศนาไปหมด เช่น..


- ป่าเฮลไฮม์คืออะไร?
- ทำไมถึงมีอินเบสออกมาทำร้ายผู้คน?
- อิกดราชิลจะพัฒนาเซ็นโงคุไดรฟ์เวอร์ไปเพื่ออะไร?
- ผู้หญิงปริศนาคนนั้นเป็นใคร?
- จุดประสงค์จริงๆของพวกตัวละครที่ทำตัวลับๆล่อคืออะไร?
- ทำไมเหล่าไรเดอร์ต้องสู้กัน แล้วสุดท้ายเรื่องมันจะลงเอยยังไง?




มีแต่คำถาม คำถาม คำถาม เยอะแยะมากมายเต็มไปหมด ...ไม่ได้เจอภาวะดูไรเดอร์แล้ว
โคจรรอบตัวเองแบบนี้มานานมากแล้วครับ ...ไม่น่าเชื่อว่าไอ้ไรเดอร์ส้มดีไซน์ลิเกตัวนี้มัน
จะทำเป็นเอามากขนาดนี้ได้ XD อันนี้ต้องขอคารวะ เก็นซัง คนเขียนบทแกมากๆครับ เพราะ
สิ่งที่คนดูบางคนเช่นผมนี้ฟันธงไปต่างๆนาๆว่ามันน่าจะเป็นแบบนี้แบบนั้น ล้วนเป็นกับดัก
ที่วางเอาไว้ทั้งสิ้น ไม่ต่างจากผลไม้ในป่าเฮลไฮม์เลย คืออย่าไปตัดสินมันจากภายนอกเพียง
เพราะมันเป็นแค่ผลไม้เท่านั้น... มันอาจจะซ่อนอะไรบ้าๆและคาดไม่ถึงเอาไว้ก็ได้


(ไม่ต้องอะไรมากครับ แค่รู้ว่าเจเนซิสไดรฟ์เวอร์ต้องคั้น "เลือด" ของคนใช้ไปเป็น
พลังงานให้เข็มขัดก็ทำให้ผมมึนตึ้บแล้ว ...นี่มันหนังเด็กจริงๆเหรอวะ?)




ทีนี้พอย้อนมาดูประเด็นหลักๆที่เก็นซังพยายามจะนำเสนอในไกมุออกมานั้น ...มันก็ได้
ซ่อนประเด็นความลึกลับซับซ้อน เข้มข้นเอาไว้มากมาย ที่ผมกรี๊ดจริงๆเลยก็คือ นี่เป็น
ซีรีย์ที่สร้างตัวละครในแบบที่ผมชอบคือ ตัวละครที่มีความลึกทางมิติที่จับต้องได้ ไรเดอร์
ไม่ได้ทำตัวเป็นฮีโร่ไปซะทุกคน เป็นการเอาแนวคิดอย่างที่เก็นซัง เคยว่าไว้ว่า "จริงๆไรเดอร์
ก็คือปีศาจขององค์กรช็อคเกอร์เหมือนแหละ" มาใช้อีกครั้ง เพราะจริงๆแล้วจุดประสงค์ใน
การดัดแปลง ฮอนโก ทาเคชิ ตั้งแต่แรกก็คือการสร้างปีศาจตั๊กแตนผู้แข็งแกร่งออกมานั่นเอง
ฉะนั้นไรเดอร์ก็คือปีศาจที่เลือกที่จะเป็นฮีโร่ ไม่ได้ถูกฟ้าลิขิตให้เป็นฮีโร่ซักหน่อย ตัวละครใน
ไกมุจึงมาพร้อมกับ "อะไรบางอย่าง" ที่ขัดกับลุคภายนอก เช่น โคตะ พระเอกติ๊งต๊อง
แต่อุดมการณ์ยิ่งใหญ่, ไคโตะ คนดีที่ต้องสู้เพราะมีอดีตที่ไม่ดีค้ำคออยู่, มิจจี้ ที่เป็นหนุ่มน่ารัก
ใสๆ แต่บรรยากาศมาคุของเรื่องทั้งหมดจะเปลี่ยนให้เขาพลิกบทไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้...




ฉะนั้นตัวละครในไกมุ เลยทำให้คนดูบางคน ตั้งคำถามที่ไม่ได้ถามตัวเองมานานว่า
"ถ้าเราเป็นคาเมนไรเดอร์จริงๆ เราจะเอาพลังของเรามาช่วยคน มาปกป้องโลกจริงๆเหรอ?"
ขนาดเจ้าโคตะยังถามตัวเองอยู่ตลอดว่า เราจะสู้กับอินเบสและอาร์มเมิร์ดไรเดอร์คนอื่นๆ
ไปทำไม? แต่เขาก็ทำเพราะ เขาคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ถูกต้อง... พอมาถึงตรงนี้ ทำให้นึกถึงริวคิ
นะครับ เป็นการเปลี่ยนนิยามของคำว่า "คาเมนไรเดอร์" ว่ามันไม่ใช่สัญลักษณ์ของความดี
หรือฮีโร่ แต่มันเป็นเครื่องมือชนิดหนึ่ง ที่ใครจะเอาไปใช้ในทางดีหรือร้ายมันก็แล้วแต่เขา
พอสำผัสความลึกที่มีในเรื่องแล้วผมเลยค่อยๆเข้าใจไปทีละเรื่องว่า ทำไมต้องเป็นเซ็นโงคุ
ทำไมต้องมีทีมเต้น แล้วทำไมต้องเป็นผลไม้ ...ทุกอย่างๆอย่างมันมีเหตุผลรองรับทั้งนั้น
ทีนี้จะบอกว่า เลอะเทอะ ไม่ได้แล้ว แต่เป็นการสร้างสรรค์ไม่เบาเลยต่างหาก




ตอนนี้ไกมุเดินทางมาถึงตอนที่ 14 แล้ว จากที่เคยคิดว่ามันก็แค่ซีรีย์ขายของเล่นเรื่องหนึ่ง
ที่ไม่ต้องไปใส่ใจกับมันมาก ...ซึ่งก็จริงครับ ยังไงซีรีย์ไรเดอร์ก็ต้องขายของเล่นเป็นเรื่องปกติ
แต่เก็นซังก็เก่งฉกาจมากๆที่แม้จะมีโจทย์เรื่องขายของเล่นตั้งเป็นกำแพงเอาไว้ แต่ก็มันก็
ไม่สามารถปิดกั้นความสามารถของแกได้จริงๆ เพราะยิ่งเรื่องเดินหน้าไปเท่าไหร่ เนื้อหาก็ยิ่ง
เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ จนท้ายที่สุดเรื่องมันจะจบลงยังไง ใครจะอยู่ใครจะไป ไม่มีทางเดาออกได้จริงๆ

ขอจบการเล่าสู่กันฟังแต่เพียงเท่านี้นะครับ ^ ^ ขอย้ำอีกทีว่านี่เป็นความคิดเห็นส่วนตัว
ของผมเท่านั้น แต่ส่วนตัวนั้น ตอนนี้ผมขอยกให้ คาเมนไรเดอร์ไกมุ เป็นหนึ่งในซีรีย์ไรเดอร์
ที่ดีและชวนติดตามมากๆเรื่องหนึ่งไปเลยครับ ถ้าไกมุจะกำหนดแนวแนวทางที่จะเกิดขึ้นใน
ซีรีย์ไรเดอร์เรื่องต่อๆไปล่ะก็ ผมก็พร้อมที่จะยอมรับและรอคอยที่จะชมอย่างใจจดใจจ่อไปแล้วครับ