[CR] [CR]เที่ยวเหนือ 9 วันแห่งความสุข ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ (กำแพงเพชร-ตาก-แม่ฮ่องสอน-เชียงใหม่) Part 2

สวัสดีครับเพื่อนเพื่อน หลังจากรีวิวแรก (http://pantip.com/topic/31545621) ได้พาไปเที่ยวและนอนกางเต็นท์ที่ "อุทยานแห่งชาติคลองวังเจ้า" สำหรับวันแรกของการเดินทางในทริปนี้  วันนี้จะมารีวิวต่อสำหรับวันที่ 2 และวันต่อต่อไป(อันนี้แล้วแต่ความอดทนว่าจะนั่งพิมพ์นั่งจิ้มได้นานแค่ไหน)

วันที่ 2 (วันจันทร์ที่ 30 ธันวาคม 2556)  กำแพงเพชร (อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร) - ตาก (อุทยานแห่งชาติแม่เมย)  หลังจากออกจาก"อุทยานแห่งชาติคลองวังเจ้า"  พวกเราก็เดินทางเข้าสู่ตัวเมืองกำแพงเพชรอีกครั้งโดยตั้งใจที่จะไปเที่ยวแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญของจังหวัดกำแพงเพชรและของประเทศไทยนั่นก็คือ "อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร"นั่นเอง  หลังจากเดินชม"อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร"แล้วก็เดินทางต่อไปยัง"อุทยานแห่งชาติแม่เมย" ผ่านทางอำเภอแม่สอด-แม่ระมาด-ท่าสองยาง (ถนนสาย 105) จนถึง"อุทยานแห่งชาติแม่เมย" จุดพักค้างแรมสำหรับคืนที่ 2 นี้

เส้นทางสวยระหว่างทางจาก"อุทยานแห่งชาติคลองวังเจ้า"มุ่งหน้าไปยังตัวเมืองกำแพงเพชร


ใช้เวลาเดินทางถึง"อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร"ประมาณสี่สิบนาที  ชำระค่าเข้าชมอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชรสำหรับคนไทยคนละ 20 บาท รถยนต์คันละ 50 บาท


ที่อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชรแห่งนี้มีสถานที่สำคัญให้ได้ชมมากมายหลายแห่ง  ถ้าจะไปเที่ยวชมให้หมดคงจะเสียเวลาเกือบทั้งวันอีกทั้งวันนี้พวกเรายังตั้งโปรแกรมจะไปนอนพักค้างแรมกันที่"อุทยานแห่งชาติแม่เมย"จ.ตาก ซึ่งจะต้องเดินทางไกลพอสมควร  ดังนั้นหลังจากดูแผนที่แหล่งท่องเที่ยวในอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชรกันแล้ว  พวกเราก็เลือกที่จะเที่ยวในที่ที่น่าสนใจและอยากไปแค่นั้น  เริ่มต้นด้วย"วัดพระสี่อิริยาบท"


วัดนี้มีสิ่งสำคัญอยู่ที่"มณฑปจตุรมุข แต่ละทิศประดิษฐานพระพุทธรูป 4 ปาง คือ เดิน นั่ง ยืน นอน อยู่โดยรอบทั้ง 4 ทิศตามลำดับ ปัจจุบันเหลือเพียงพระยืนขนาดใหญ่ที่สวยงาม"






ติดกันกับ"วัดพระสี่อิริยาบท"ก็คือ"วัดสิงห์"เป็นอีกวัดที่น่าสนใจและสวยงาม








วัดถัดไปที่เดินทางไปเยี่ยมชมนั่นก็คือ"วัดช้างรอบ"  "วัดช้างรอบ" เป็นวัดที่สร้างบนยอดเนินเตี้ยเตี้ย  มีพระเจดีย์ทรงลังกา ซึ่งยอดหักพังหมดแล้ว มีบันไดทางขึ้นทั้งสี่ด้าน  ที่ชั้นฐานลานประทักษิณประดับด้วยช้างทรงเครื่องครึ่งตัว จำนวน 68 เชือก  ระหว่างช้างแต่ละเชือกมีภาพปั้นรูปลายพรรณพฤกษาในพระพุทธศาสนา เช่น ต้นโพธิ์ และต้นสาละ เป็นต้น














เกือบลืมบอกไป วัดที่กล่าวไปข้างต้นเป็นโบราณสถานที่อยู่นอกกำแพงเมืองหรือที่เรียกว่าเขต"อรัญญิก"  จากนั้นพวกผมก็ขับรถมาเที่ยวโบราณสถานที่อยู่ภายในกำแพงเมือง  วัดแรกคือ"วัดพระแก้ว" เป็นวัดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร  เป็นวัดที่มีความสำคัญมากในสมัยโบราณ  เพราะอยู่ติดกับบริเวณวังเช่นเดียวกับวัดพระศรีสรรเพชญ์ ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หรือวัดมหาธาตุกลางเมืองสุโขทัย  ภายในวัดมีโบราณสถานที่สำคัญประกอบด้วย  พระอุโบสถ  พระเจดีย์สิงล้อม  พระประธาน  พระเจดีย์ช้างเผือก ฯลฯ








อีกหนึ่งวัดที่อยู่ใกล้ใกล้กับ"วัดพระแก้ว"นั่นก็คือ"วัดพระธาตุ"  เป็นวัดหลวงโบราณประจำเมืองกำแพงเพชร อยู่ด้านทิศตะวันออกของวัดพระแก้ว รูปแบบสถาปัตยกรรมสกุลช่างเมืองกำแพงเพชร สิ่งปลูกสร้างก่อด้วยอิฐและศิลาแลงซึ่งแตกต่างจากวัดพระแก้วซึ่งใช้ศิลาแลงเป็นหลัก สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นภายหลังวัดพระแก้ว มีพระเจดีย์ฐานสี่เหลี่ยมเป็นประธาน ล้อมรอบด้วยระเบียบคดที่เชื่อมต่อกับวิหารด้านทิศตะวันออก  ที่สองข้างวิหารมีเจดีย์รายอยู่ข้างละ  1 องค์ มีกำแพงแก้วล้อมรอบ








เดินเพลินเพลินชมโบราณสถานไปได้สักพัก  ขยับข้อมือดูเวลาบ่งบอกว่าควรจะต้องเดินทางไปกันได้แล้ว  พวกเราก็เลยลาจาก"อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร"ด้วยความเสียดาย  เพราะยังมีอีกหลายที่ที่น่าสนใจและสวยงาม  ไว้โอกาสหน้าค่อยหาเวลามายลเมืองโบราณแห่งนี้ใหม่ก็แล้วกัน  หลังจากนั้นก็ขับรถออกจากตัวเมืองกำแพงเพชรมุ่งหน้าสู่ จ.ตาก แล้วเลี้ยวซ้ายไปตามถนนสาย 105 ผ่าน อ.แม่สอด-แม่ระมาด-ท่าสองยาง  ถึงปากทางขึ้น"อุทยานแห่งชาติแม่เมย"ในเวลาประมาณเกือบหกโมงเย็น  ระหว่างขับรถขึ้นเขาผ่าน"จุดชมวิวแม่น้ำเมย"หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า"ม่อนกระทิง" ซึ่งเป็นจุดชมวิวชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามของ อช.แม่เมย  ก็เลยแวะถ่ายรูปกันสักหน่อย










ชมความงามจนพระอาทิตย์ลาลับเหลี่ยมเขาแล้วก็เดินทางต่อ  ขับรถไต่ระดับความสูงขึ้นไปเรื่อยเรื่อยประมาณยี่สิบนาทีก็ถึงด่านเก็บเงิน  ชำระเงินค่าเข้าและค่าขอพักค้างคืนรวมเป็นเงิน 140 บาทแล้วก็จอดรถเพื่อไปหาทำเลเหมาะเหมาะกางเต็นท์  กว่าจะหาที่กางเต็นท์ได้ก็เดินวนอยู่หลายรอบจนในที่สุดก็ได้ซอกเล็กเล็กอยู่ริมลำธารเป็นที่นอนในคืนนี้  กว่าจะกางเต็นท์เสร็จอากาศก็เริ่มเย็นขึ้นเรื่อยเรื่อย รีบไปอาบน้ำแล้วก็มานั่งกินข้าวที่ซื้อไว้ที่ตลาดแม่ระมาด  จากนั้นก็ชิลชิลกับบรรยากาศเงียบเงียบเป็นอันจบไปอีกหนึ่งวัน