การเมืองในมุมของผม
ผมอดทนมานาน....ด้วยว่าจะไม่ส่งเสียงใดๆเกี่ยวกับประเด็นทางการเมือง ที่ ณ ตอนนี้ หลายๆคนบอกว่าถึงเวลาที่คนไทยต้องเลือกข้าง ที่สำคัญคือถ้าเลือกข้างสุเทพ ก็จะถูก แต่ถ้าเลือกข้างนายกปู ก็จะกลายเป็นคนไม่รู้ผิดชอบชั่วดี และไม่มีการศึกษา หรือไม่ก็การศึกษาน้อย (เท่าที่ได้ยินได้ฟังมา) ผมไม่รู้ล่ะครับว่าใครผิดหรือใครถูก แต่ผมก็ไม่ดูถูก หรือเหยียดหยามใครที่เข้าร่วมชุมนุมกับ กปปส. ไม่ใช่เพราะคนที่ผมรู้จักส่วนใหญ่ไปเข้าร่วมชุมนุมกับกปปส. ไม่ว่าจะเป็น เพื่อนพ้อง น้องพี่ ที่ผมรู้จัก ที่สำคัญคนในครอบครัวของผมเอง พ่อแม่ผม พี่น้องผม สนับสนุน และร่วมชุมนุมกับกปปส.ทั้งสิ้น และท่านคิดว่าผมควรจะตัดเขาเหล่านี้ออกจากความเป็น พ่อ เป็นแม่ เป็นพี่ เป็นเพื่อน เป็นน้อง อย่างนั้นหรือ แต่เพราะผมเชื่อว่าทุกคนสิทธิ์ มีเสียงที่จะสามารถแสดงออกด้วย ตรรกะ หรือเหตุผลของตัวเองอย่างไรก็ได้ ตราบใดที่ยังตั้งอยู่บนกฏหมาย และไม่ไปลิดรอนสิทธิคนอื่นๆที่เขามีเช่นกัน
ขณะเดียวกัน ผมก็คงจะไม่ไปด่า ไปว่า ไปดูถูกใครที่ไม่เข้าร่วมกับคณะกปปส. (เหมือนที่กปปส.ได้ทำอยู่) ว่าเป็นกลุ่มบุคคลที่เห็นผิดเป็นถูก หรือมีการศึกษาน้อย ผมเชื่ออย่างเต็มอกว่า คนเหล่านั้นเขาก็มีสิทธิ์มีเสียงเท่าๆกับคนอื่นๆเหมือนกัน มีสิทธิ์ที่จะรัก มีสิทธิ์ที่จะชอบ มีสิทธิ์ที่จะสนับสนุนใครก็ได้เช่นกัน และก็ไม่เชื่อว่าคนที่จบเพียงแค่ป.4 หรือไม่มีการศึกษาเลย จะเป็นคนที่ฉลาดน้อยกว่าคนที่จบดอกเตอร์ ไม่เชื่อว่าคนที่เป็นชาวนาจะมีความรู้เรื่องการเมืองมากกว่า ศาสตราจารย์ต่างๆในมหาวิทยาลัย
ทุกวันนี้ต่างฝ่ายต่างก็พยายามสุดลิ่มทิ่มประตูที่จะหาคน เชิญชวนคนให้เข้ามาฝั่งตัวเอง ถ้าไปอยู่อีกฝั่งก็จะถูกตราหน้าว่าผิด ผิด แล้วก็ผิด ถ้าเข้ามาอยู่กับตนก็จะถูก ถูก แล้วก็ถูก สังคมไทยกลายเป็นสังคมที่ถูกบังคับให้เลือกข้าง ความร้าวลึกขยายวงกว้างออกไปทุกที ตั้งแต่ระดับครอบครัว เพื่อนร่วมงาน เพื่อนที่เคยรู้จักกันกลายเป็นศัตรูกัน คนรู้จักกลายเป็นมองหน้ากันไม่ติด ด้วยเหตุผลว่าเป็นคนละพวก คนละความคิดกัน ที่สำคัญเด็กๆ อนาคตของชาติ ต้องถูกปลูกฝังให้ต้องเลือกข้าง ถ้าเลือกอย่างนี้ถูก เลือกอีกอย่างผิด ไม่ใช่สังคมที่ปลูกฝังให้รับฟังความคิดเห็นของกันและกันแล้วหรือ ไม่ใช่สังคมที่ต้องหันหน้ามาพูดจากันแล้วหรือ ผมไม่รู้ล่ะครับว่าสถานการณ์อย่างนี้จะใช้เวลาอีกเท่าไหร่ที่จะเยียวยา สมานความแตกแยก สมานสีต่างๆให้เหลือเพียงแค่สีน้ำเงิน สีขาว สีแดง เป็นสีธงชาติของเรา
ทุกวันนี้เกือบทุกเวที เกือบทุกที่ในภาคใต้ แต่ละคนจะพูดถึงและโยงใยประเด็นทางการเมือง เขาจะแสดงตัวอย่างเปิดเผยมากว่า คนส่วนใหญ่เห็นด้วยกับกปปส. คนที่ไม่เห็นด้วยกับกปปส. กลายเป็นคนชายขอบ ที่จะถูกประณามว่าไม่รู้จักประชาธิปไตยอย่างแท้จริง แม้แต่ในรั้วมหาลัย ครูบาอาจารย์มาสอนนักศึกษายังพกนกหวีดห้อยคอมาสอนนักศึกษา ผมไม่รู้ละครับนี่คือการหาเสียง หรือชักจูง ชี้น้ำความคิดของนักศึกษา หรือไม่ และมันเป็นที่ที่เหมาะสมในการแสดงออกหรือไม่ หรือแม้แต่กลุ่มผู้ที่เรียกตัวเองว่ามีการศึกษาสูง หรือกลุ่มคนชนชั้นกลางทั้งหลาย ที่มักขึ้นเวทีของ กปปส. และอ้างว่าคือตัวแทนของสถาบันการศึกษา อ้างว่าคือตัวแทนของคนทั้งจังหวัด ก็ไม่รู้น่ะครับว่านี่คือกระบวนการอย่างหนึ่งในการกินรวบความคิดคนอื่นหรือไม่ นี่คือกระบวนการหนึ่งของการที่จะยิ่งสร้างความร้าวลึกของสังคมไทยหรือไม่ แต่ก็ไม่ผิดล่ะครับที่จะแสดงตัวตนออกมา และผมก็ยังถือว่าเป็นสิทธิของอย่างหนึ่งตามระบอบประชาธิปไตย ก็ทำไปเถอะครับ ตราบใดที่ทุกท่านยังคงไว้ซึ่งสิทธิและเสรีภาพของคนอื่น เมื่อเขาออกมาแสดงความคิดเห็นบ้าง ก็ไม่ผิดอะไรครับ
สำหรับผม ผมไม่ประสงค์จะให้ใครเห็นด้วยกับผมหรอกน่ะครับ ผมแค่อยากจะบอกจุดยืนของผม จุดๆที่ผมสามารถแสดงความคิดความเห็นได้อย่างเสรีเหมือนคนอื่นๆเขา ณ ตอนนี้ผมแค่ไม่ต้องการเห็นประเทศไทยแยกเป็น 2 ฝ่าย ไม่อยากเห็นประเทศไทยแยกเป็นสีแดง สีเหลือง สีขาว หรือสีใดๆก็ตาม ผมไม่ประสงค์จะให้คนที่ไม่เห็นด้วยกับอีกฝ่ายหนึ่งต้องถูกตราหน้าว่าโง่ ไม่ว่าจะฝ่ายไหนก็ตาม ประเทศไทยเราบอบช้ำมาไม่พออีกหรือครับ กี่ปีแล้วครับที่เราย่ำอยู่กับที่อย่างนี้ กี่ปีแล้วครับที่เราผลัดกันประท้วง ผลัดกันขึ้นสู่อำนาจ กี่ศพแล้วครับที่ต้องสูญเสียไป กี่ศพแล้วครับที่แกนนำทั้งสองฝ่ายเอาประชาชนตาดำๆมาตาย สุดท้ายแล้ว สิ่งที่ท่านๆทั้งหลายเรียกร้องเพื่อให้ฝ่ายตัวเองชนะ หรืออำนาจมืดเหล่านั้นมันก็ยังไม่หายไปไหนใช่หรือไม่ครับ ทักษิณก็ยังคงอยู่ ทำยังไงก็ไม่สามารถโค่นระบอบทักษิณที่ท่านทั้งหลายเรียกกันใช่ไหมครับ เพราะอะไรหรือครับ เพราะทักษิณมีเงินอย่างเดียวหรือครับ เพราะทักษิณซื้อได้หมดทุกอย่างหรือครับทำไมคนๆเดียวถึงมีอิทธิพลต่อคนได้มากมายอย่างนี้เลยหรือ ทำไมทักษิณคนเดียวถึงได้กลายเป็นคนที่ถูกตีตราว่าตัวปัญหาของประเทศไทยเลยหรือ .....ผมไม่ตอบล่ะครับ...แต่ผมเชื่ออย่างเต็มหัวใจว่าสิ่งที่คณะกปปส. ทำอยู่นี้จะไม่สามารถล้มล้างระบอบทักษิณได้อย่างแน่นอน และผมคิดว่ามีทางเดียวที่จะเลิกระบอบทักษิณออกไปจากผืนแผ่นดินไทยได้ก็คือฝ่ายคู่แข่งหรือฝ่ายตรงข้ามต้องหานโยบายหรือหาความดีอะไรมาให้พวกเขาโดยเฉพาะชาวรากหญ้าทั้งหลาย และที่สำคัญเลิกด่าคู่แข่งครับ หรือไม่อีกทางก็คือหันหน้ามาคุยกันและร่วมมือกันปฏิรูปร่วมกัน
ผมไม่ปฏิเสธครับถ้าจะมีคนแย้งว่า ก็แสดงว่าคนรากหญ้าเหล่านั้น เขาเลือกทักษิณเพราะว่าเขาได้ประโยชน์ใช่หรือไม่ ใช่ครับ ไม่เช่นนั้นแล้วเราจะมาแข่งขัน หาเสียง เลือกตั้งกันไปทำไมล่ะครับ ถ้าเราไม่คิดว่าเราจะได้อะไร ที่สำคัญประเทศชาติของเราจะได้อะไร จะให้เขาไปเลือกคนที่สุดท้ายแล้วเขาไม่ได้ให้ประโยชน์อะไรเลยหรือยังไง...แล้วจะแข่งขันหาเสียงกันไปทำไม จะให้พรรคต่างๆชูนโยบาย คิดนโยบายขึ้นมาทำไม หลายคนก็จะแย้งต่อว่าเป็นนโยบายประชานิยมบ้างอะไรบ้าง แล้วมันผิดตรงไหนล่ะครับ หากนโยบายเหล่านั้นมันทำให้คนรากหญ้าเขาได้ประโยชน์และสามารถลืมตาอ้าปากได้จริงๆ ถ้าอย่าบอกเลยครับว่าพรรคคู่แข่งอย่างประชาธิปัตย์ไม่เคยมีนโยบายประชานิยม
ท่านที่เรียกตัวเองว่าชนชั้นกลาง หรือคนที่มีการศึกษาเยอะๆ จบสูงๆ รู้ไหมครับว่าคนจนๆ เวลาเขาไม่มีกิน เมื่อมีใครสักคนมาหยิบยื่นอะไรให้เขาจะจงรักภักดิ์ดีต่อสิ่งนั้นมากแค่ไหน ท่านรู้ไหมว่าคนจนๆเวลามีใครสักคนมาทำให้เขาลืมตาอ้าปากได้เขาจะรักและปลื้มต่อคนๆนั้นมากแค่ไหน แม้ว่าสุดท้ายแล้วเขาจะรู้ทั้งรู้อยู่เต็มอกว่าคนๆนั้นมันจะไม่ดี หรือเลวมากแค่ไหนก็ตาม แล้วอย่างนี้จะเรียกว่าความกตัญญูหรือความภักดีบนความเลวหรือครับ ถ้าจะเปรียบเป็นพ่อเป็นแม่ ถ้าหากลูกของตัวเองเลวอย่างไร ชั่วอย่างไร สุดท้ายพ่อกับแม่ก็ยังรัก ยังตัดลูกไม่ขาดอยู่ดี กรณีนี้ก็อาจจะทำนองเดียวกัน ทักษิณให้อะไรกับพวกเขา (คนรากหญ้า) ไว้เยอะ หรือบางคนอาจจะบอกว่าทักษิณหลอกไว้เยอะก็ช่าง แต่สิ่งที่ทักษิณทำมาตลอดช่วงที่เป็นนายก 2 สมัยผมคิดว่าคนรากหญ้าเหล่านั้นเขาได้ประโยชน์ เขาสัมผัสได้ เขาเห็นเป็นรูปธรรม นี่ละมั้งครับ ที่เป็นเหตุผลว่าทำไมเวลาล่วงเลยมาจนถึงบัดนี้ คนจำนวนหนึ่งที่บอกว่าทักษิณชั่ว ทักษิณเลว ทักษิณโกงกิน ถึงโค่นล้มอำนาจที่อยู่เหนือการควบคุมเหล่านี้ไม่ได้ซักที ใช่อำนาจของประชาชนเหล่านั้นที่เขาได้ประโยชน์หรือไม่ครับ และถ้ายิ่งเป็นอยู่อย่างทุกวันนี้ที่ คณะกปปส.พยายามเรียกร้องในสิ่งที่พวกเขาอยากได้ โดยไม่ฟังเสียงคนรากหญ้าเหล่านั้นเลย คิดหรือครับว่าระบอบทักษิณจะหายไปจากประเทศไทย ผมยืนยันว่ามันจะยิ่งทำให้ระบอบทักษิณแข็งแกร่ง ทะนง และจะยิ่งถอนระบอบนี้ออกไปจากประเทศไทยยากมากขึ้นเท่านั้น
ผมชื่นชมส่วนหนึ่งกับการเรียกร้องของกปปส. เรื่องการออก พรบ.นิรโทษกรรม ผมคิดว่าแม้แต่เสื้อแดงหลายๆคนก็ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ แต่สุดท้ายเมื่อรัฐบาลยอมถอน (แม้หลายคนจะบอกว่าถอนไม่จริงก็ตาม) สุดท้ายรัฐบาลก็คืนอำนาจให้ประชาชนโดยการยุบสภา (แม้ใครหลายคนจะบอกว่ารัฐบาลจะขอคืนความชอบธรรมเพื่อฟอกตัวเองให้กลับมาใหม่ผ่านการเลือกตั้ง ด้วยการไปซื้อสิทธิ์เข้ามาก็ตาม) ผมถามว่าภาคใต้ไม่มีการขายสิทธิ์ขายเสียงกันหรือครับ เอาแค่ว่าการเลือกผู้ใหญ่บ้าน กำนัน เลือกนายกอบต. ก็ยังมีการซื้อสิทธิ์ขายเสียงกันเลยครับไม่เว้นภาคใต้บ้านผม แล้วจะนับประสาอะไรกับการเลือกตั้งระดับประเทศล่ะครับที่มีสิ่งเดิมพันสูงกว่าหลายเท่ากับผลประโยชน์ที่นักการเมืองจะได้รับ
แต่กรณีการเลือกตั้งสส. ในภาคใต้อาจจะมีข้อยกเว้นน่ะครับ เพราะโดยส่วนใหญ่แล้วการเลือกสส. ในภาคใต้ไม่ต้องซื้อเสียงครับ ถ้ามีก็คงน้อยเต็มที เพราะอะไรหรือครับ อันนี้ต้องถามคนใต้ จะรู้ดีที่สุด ไม่ว่าจะเลือกตั้งกี่ครั้ง ประชาธิปัตย์ก็ชนะมาตลอด บางครั้งผมหรือใครหลายๆคนคิดว่าไปเอาใครมาก็ได้ ตาสีตาสาที่ไหนก็ได้ให้มาใส่เสื้อประชาธิปัตย์ ยังไงก็ชนะแบบสบายๆ เพราะฉะนั้นถึงคราวเลือกสส. แต่ละทีคงไม่แปลกครับที่หลายๆพื้นที่ หลายๆจังหวัดในภาคใต้อัตราการซื้อเสียงอาจจะน้อยเมื่อเทียบกับภาคอื่น (ยกเว้นบางเขตที่พอจะมีคู่แข่งที่สูสีบ้าง) ผมก็เลยเกิดคำถามขึ้นมาว่าแล้วอย่างนี้จะเรียกว่า “ระบอบประชาธิปัตย์” ผูกขาดในภาคใต้ได้หรือไม่
ผมเองก็ไม่รู้หรอกน่ะครับว่าเหตุผลคืออะไร ที่ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ผูกขาดในภาคใต้มาตลอด เพราะเท่าที่จำความได้ผมเติบโตมาอยู่ในภาคใต้จนอายุผมเริ่มขึ้นเลข 2 นำหน้า ผมก็ยังเชียร์ประชาธิปัตย์มาตลอด และคิดว่าคนอื่นๆในภาคใต้ก็คงเหมือนกับผมนั่นแหละครับ ผมเชียร์ทุกครั้งเวลาคุณสุเทพพูดปราศรัย ทั้งในสภา และนอกสภาเมื่อมีการหาเสียง (ว่าโอ้โหพูดได้แรงอกจริงๆ = แปลว่าพูดได้ถูกใจจริงๆ) ทำไมเวลาท่าน ดร.ไตรรงค์ พูดแล้วมันสนุกมาก ยิ่งกว่าได้ฟังตลกคณะม๊กจ๊กทั้งหลายอีก ฟังแล้วชอบจริงๆ ทำไมเวลาท่านชวน (นายกบ้านผมเอง) พูดแล้ว ดูสุขุม ลุ่มลึกจริงๆ เหมือนฉายาที่คนเขาตั้งให้ว่า มีดโกนอาบน้ำผึ้ง (แม้จะพูดสนุกสู้คนอื่นไม่ได้) ทำไมตอนนั้นผมถึงชื่นชมคุณอภิสิทธิ์มากๆ (ตั้งแต่สมัยนานมาแล้วที่หน้าตาหล่อกว่านี้ ดูเด็กกว่านี้ และดูไม่อวบเท่าทุกวันนี้) ที่เวลาพูดในสภา ดูเยือกเย็น สุขุม (ไม่แพ้ท่านชวน) และดูดีมีเหตุมีผล มีน้ำหนัก จริงๆ หลายๆคนตอนนั้นบอกว่าคนนี้แหละว่าที่นายกในอนาคต (สุดท้ายก็ได้เป็นจริงๆ แม้จะไม่ค่อยสวยงาม เพราะไม่ได้มาจากการเลือกตั้งจากประชาชนมาโดยตรงก็ตาม) เหล่านี้คงเป็นเหตุผลนึงล่ะครับที่ทำให้คนใต้ถึงผูกขาดกับพรรคประชาธิปัตย์มาโดยตลอด แม้ว่าผลงาน และนโยบายของประชาธิปัตย์จะไม่เป็นโล้เป็นพายมากนักก็ตาม แต่คนเขาก็ยินยอมพร้อมใจที่จะเลือกเข้ามา และเลือกตั้งทีไรสส.ประชาธิปัตย์ก็เลยไม่ต้องเปลืองเงินเปลืองทองกับการซื้อเสียงมากเท่ากับพื้นที่ภาคอื่น
ย้อนมาดูพรรคคู่แข่งตลอดกาลของพรรคประชาธิปัตย์ ณ เวลานี้บ้างสิครับ (ที่ช่วงหลังผูกขาดการพ่ายแพ้ให้กับพรรคนี้มาตลอดนับสิบปี) และจะเป็นคู่แข่งตลอดไปหรือเปล่าผมไม่รู้ พร้อมภาวนาอย่าให้เป็นอย่างนั้นเลย ผมไม่แน่ใจว่ามีใครสงสัยเหมือนผมบ้างหรือไม่ว่าหลังสี่ปีแรกของการเข้ามาทำงานเป็นนายกของทักษิณ (ปี44-48) เมื่อหมดวาระก็เลือกตั้งใหม่ แล้วทำไมการเลือกตั้งครั้งนั้น ปี48 ทักษิณชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย จนตอนนั้นคุณบรรหาร ศิลปะอาชา ถึงกับออกมาอุทานดังๆเลยว่า เป็นการแข่งขันที่สู้ได้ยากจริงๆ ตั้งแต่เคยเป็นสส.มา จึงทำให้พรรคไทยรักไทยสามารถจัดตั้งรัฐบาลแบบพรรคเดียวแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด....ด้วยเสียงที่มากกว่าพรรคประชาธิปัตย์ เกือบ 4 เท่าตัว ใช่เขาซื้อเสียงมาหรือครับ หรือว่าใช่เขาซื้อตัวสส. มาหรือครับ ผมก็ตอบได้เลยว่าใช่ และอีกส่วนหนึ่งก็จะถามต่อว่าหรือว่าตอนนั้นจะบอกว่าประชาชนคนไทยมันโง่ขนาดนั้นเลยหรือครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนรากหญ้าไม่มีสมองกันเลยหรือครับ หรือจะเป็นเพราะว่าทักษิณเข้าไปทำประโยชน์ให้ประเทศชาติจริงๆ หรือเพราะว่าทักษิณทำประโยชน์ให้กับคนรากหญ้าเหล่านั้นจริงๆ....???
ต่อ
http://pantip.com/forum/new_topic 
จุดยืนที่แทบไม่มีที่จะยืน1
ผมอดทนมานาน....ด้วยว่าจะไม่ส่งเสียงใดๆเกี่ยวกับประเด็นทางการเมือง ที่ ณ ตอนนี้ หลายๆคนบอกว่าถึงเวลาที่คนไทยต้องเลือกข้าง ที่สำคัญคือถ้าเลือกข้างสุเทพ ก็จะถูก แต่ถ้าเลือกข้างนายกปู ก็จะกลายเป็นคนไม่รู้ผิดชอบชั่วดี และไม่มีการศึกษา หรือไม่ก็การศึกษาน้อย (เท่าที่ได้ยินได้ฟังมา) ผมไม่รู้ล่ะครับว่าใครผิดหรือใครถูก แต่ผมก็ไม่ดูถูก หรือเหยียดหยามใครที่เข้าร่วมชุมนุมกับ กปปส. ไม่ใช่เพราะคนที่ผมรู้จักส่วนใหญ่ไปเข้าร่วมชุมนุมกับกปปส. ไม่ว่าจะเป็น เพื่อนพ้อง น้องพี่ ที่ผมรู้จัก ที่สำคัญคนในครอบครัวของผมเอง พ่อแม่ผม พี่น้องผม สนับสนุน และร่วมชุมนุมกับกปปส.ทั้งสิ้น และท่านคิดว่าผมควรจะตัดเขาเหล่านี้ออกจากความเป็น พ่อ เป็นแม่ เป็นพี่ เป็นเพื่อน เป็นน้อง อย่างนั้นหรือ แต่เพราะผมเชื่อว่าทุกคนสิทธิ์ มีเสียงที่จะสามารถแสดงออกด้วย ตรรกะ หรือเหตุผลของตัวเองอย่างไรก็ได้ ตราบใดที่ยังตั้งอยู่บนกฏหมาย และไม่ไปลิดรอนสิทธิคนอื่นๆที่เขามีเช่นกัน
ขณะเดียวกัน ผมก็คงจะไม่ไปด่า ไปว่า ไปดูถูกใครที่ไม่เข้าร่วมกับคณะกปปส. (เหมือนที่กปปส.ได้ทำอยู่) ว่าเป็นกลุ่มบุคคลที่เห็นผิดเป็นถูก หรือมีการศึกษาน้อย ผมเชื่ออย่างเต็มอกว่า คนเหล่านั้นเขาก็มีสิทธิ์มีเสียงเท่าๆกับคนอื่นๆเหมือนกัน มีสิทธิ์ที่จะรัก มีสิทธิ์ที่จะชอบ มีสิทธิ์ที่จะสนับสนุนใครก็ได้เช่นกัน และก็ไม่เชื่อว่าคนที่จบเพียงแค่ป.4 หรือไม่มีการศึกษาเลย จะเป็นคนที่ฉลาดน้อยกว่าคนที่จบดอกเตอร์ ไม่เชื่อว่าคนที่เป็นชาวนาจะมีความรู้เรื่องการเมืองมากกว่า ศาสตราจารย์ต่างๆในมหาวิทยาลัย
ทุกวันนี้ต่างฝ่ายต่างก็พยายามสุดลิ่มทิ่มประตูที่จะหาคน เชิญชวนคนให้เข้ามาฝั่งตัวเอง ถ้าไปอยู่อีกฝั่งก็จะถูกตราหน้าว่าผิด ผิด แล้วก็ผิด ถ้าเข้ามาอยู่กับตนก็จะถูก ถูก แล้วก็ถูก สังคมไทยกลายเป็นสังคมที่ถูกบังคับให้เลือกข้าง ความร้าวลึกขยายวงกว้างออกไปทุกที ตั้งแต่ระดับครอบครัว เพื่อนร่วมงาน เพื่อนที่เคยรู้จักกันกลายเป็นศัตรูกัน คนรู้จักกลายเป็นมองหน้ากันไม่ติด ด้วยเหตุผลว่าเป็นคนละพวก คนละความคิดกัน ที่สำคัญเด็กๆ อนาคตของชาติ ต้องถูกปลูกฝังให้ต้องเลือกข้าง ถ้าเลือกอย่างนี้ถูก เลือกอีกอย่างผิด ไม่ใช่สังคมที่ปลูกฝังให้รับฟังความคิดเห็นของกันและกันแล้วหรือ ไม่ใช่สังคมที่ต้องหันหน้ามาพูดจากันแล้วหรือ ผมไม่รู้ล่ะครับว่าสถานการณ์อย่างนี้จะใช้เวลาอีกเท่าไหร่ที่จะเยียวยา สมานความแตกแยก สมานสีต่างๆให้เหลือเพียงแค่สีน้ำเงิน สีขาว สีแดง เป็นสีธงชาติของเรา
ทุกวันนี้เกือบทุกเวที เกือบทุกที่ในภาคใต้ แต่ละคนจะพูดถึงและโยงใยประเด็นทางการเมือง เขาจะแสดงตัวอย่างเปิดเผยมากว่า คนส่วนใหญ่เห็นด้วยกับกปปส. คนที่ไม่เห็นด้วยกับกปปส. กลายเป็นคนชายขอบ ที่จะถูกประณามว่าไม่รู้จักประชาธิปไตยอย่างแท้จริง แม้แต่ในรั้วมหาลัย ครูบาอาจารย์มาสอนนักศึกษายังพกนกหวีดห้อยคอมาสอนนักศึกษา ผมไม่รู้ละครับนี่คือการหาเสียง หรือชักจูง ชี้น้ำความคิดของนักศึกษา หรือไม่ และมันเป็นที่ที่เหมาะสมในการแสดงออกหรือไม่ หรือแม้แต่กลุ่มผู้ที่เรียกตัวเองว่ามีการศึกษาสูง หรือกลุ่มคนชนชั้นกลางทั้งหลาย ที่มักขึ้นเวทีของ กปปส. และอ้างว่าคือตัวแทนของสถาบันการศึกษา อ้างว่าคือตัวแทนของคนทั้งจังหวัด ก็ไม่รู้น่ะครับว่านี่คือกระบวนการอย่างหนึ่งในการกินรวบความคิดคนอื่นหรือไม่ นี่คือกระบวนการหนึ่งของการที่จะยิ่งสร้างความร้าวลึกของสังคมไทยหรือไม่ แต่ก็ไม่ผิดล่ะครับที่จะแสดงตัวตนออกมา และผมก็ยังถือว่าเป็นสิทธิของอย่างหนึ่งตามระบอบประชาธิปไตย ก็ทำไปเถอะครับ ตราบใดที่ทุกท่านยังคงไว้ซึ่งสิทธิและเสรีภาพของคนอื่น เมื่อเขาออกมาแสดงความคิดเห็นบ้าง ก็ไม่ผิดอะไรครับ
สำหรับผม ผมไม่ประสงค์จะให้ใครเห็นด้วยกับผมหรอกน่ะครับ ผมแค่อยากจะบอกจุดยืนของผม จุดๆที่ผมสามารถแสดงความคิดความเห็นได้อย่างเสรีเหมือนคนอื่นๆเขา ณ ตอนนี้ผมแค่ไม่ต้องการเห็นประเทศไทยแยกเป็น 2 ฝ่าย ไม่อยากเห็นประเทศไทยแยกเป็นสีแดง สีเหลือง สีขาว หรือสีใดๆก็ตาม ผมไม่ประสงค์จะให้คนที่ไม่เห็นด้วยกับอีกฝ่ายหนึ่งต้องถูกตราหน้าว่าโง่ ไม่ว่าจะฝ่ายไหนก็ตาม ประเทศไทยเราบอบช้ำมาไม่พออีกหรือครับ กี่ปีแล้วครับที่เราย่ำอยู่กับที่อย่างนี้ กี่ปีแล้วครับที่เราผลัดกันประท้วง ผลัดกันขึ้นสู่อำนาจ กี่ศพแล้วครับที่ต้องสูญเสียไป กี่ศพแล้วครับที่แกนนำทั้งสองฝ่ายเอาประชาชนตาดำๆมาตาย สุดท้ายแล้ว สิ่งที่ท่านๆทั้งหลายเรียกร้องเพื่อให้ฝ่ายตัวเองชนะ หรืออำนาจมืดเหล่านั้นมันก็ยังไม่หายไปไหนใช่หรือไม่ครับ ทักษิณก็ยังคงอยู่ ทำยังไงก็ไม่สามารถโค่นระบอบทักษิณที่ท่านทั้งหลายเรียกกันใช่ไหมครับ เพราะอะไรหรือครับ เพราะทักษิณมีเงินอย่างเดียวหรือครับ เพราะทักษิณซื้อได้หมดทุกอย่างหรือครับทำไมคนๆเดียวถึงมีอิทธิพลต่อคนได้มากมายอย่างนี้เลยหรือ ทำไมทักษิณคนเดียวถึงได้กลายเป็นคนที่ถูกตีตราว่าตัวปัญหาของประเทศไทยเลยหรือ .....ผมไม่ตอบล่ะครับ...แต่ผมเชื่ออย่างเต็มหัวใจว่าสิ่งที่คณะกปปส. ทำอยู่นี้จะไม่สามารถล้มล้างระบอบทักษิณได้อย่างแน่นอน และผมคิดว่ามีทางเดียวที่จะเลิกระบอบทักษิณออกไปจากผืนแผ่นดินไทยได้ก็คือฝ่ายคู่แข่งหรือฝ่ายตรงข้ามต้องหานโยบายหรือหาความดีอะไรมาให้พวกเขาโดยเฉพาะชาวรากหญ้าทั้งหลาย และที่สำคัญเลิกด่าคู่แข่งครับ หรือไม่อีกทางก็คือหันหน้ามาคุยกันและร่วมมือกันปฏิรูปร่วมกัน
ผมไม่ปฏิเสธครับถ้าจะมีคนแย้งว่า ก็แสดงว่าคนรากหญ้าเหล่านั้น เขาเลือกทักษิณเพราะว่าเขาได้ประโยชน์ใช่หรือไม่ ใช่ครับ ไม่เช่นนั้นแล้วเราจะมาแข่งขัน หาเสียง เลือกตั้งกันไปทำไมล่ะครับ ถ้าเราไม่คิดว่าเราจะได้อะไร ที่สำคัญประเทศชาติของเราจะได้อะไร จะให้เขาไปเลือกคนที่สุดท้ายแล้วเขาไม่ได้ให้ประโยชน์อะไรเลยหรือยังไง...แล้วจะแข่งขันหาเสียงกันไปทำไม จะให้พรรคต่างๆชูนโยบาย คิดนโยบายขึ้นมาทำไม หลายคนก็จะแย้งต่อว่าเป็นนโยบายประชานิยมบ้างอะไรบ้าง แล้วมันผิดตรงไหนล่ะครับ หากนโยบายเหล่านั้นมันทำให้คนรากหญ้าเขาได้ประโยชน์และสามารถลืมตาอ้าปากได้จริงๆ ถ้าอย่าบอกเลยครับว่าพรรคคู่แข่งอย่างประชาธิปัตย์ไม่เคยมีนโยบายประชานิยม
ท่านที่เรียกตัวเองว่าชนชั้นกลาง หรือคนที่มีการศึกษาเยอะๆ จบสูงๆ รู้ไหมครับว่าคนจนๆ เวลาเขาไม่มีกิน เมื่อมีใครสักคนมาหยิบยื่นอะไรให้เขาจะจงรักภักดิ์ดีต่อสิ่งนั้นมากแค่ไหน ท่านรู้ไหมว่าคนจนๆเวลามีใครสักคนมาทำให้เขาลืมตาอ้าปากได้เขาจะรักและปลื้มต่อคนๆนั้นมากแค่ไหน แม้ว่าสุดท้ายแล้วเขาจะรู้ทั้งรู้อยู่เต็มอกว่าคนๆนั้นมันจะไม่ดี หรือเลวมากแค่ไหนก็ตาม แล้วอย่างนี้จะเรียกว่าความกตัญญูหรือความภักดีบนความเลวหรือครับ ถ้าจะเปรียบเป็นพ่อเป็นแม่ ถ้าหากลูกของตัวเองเลวอย่างไร ชั่วอย่างไร สุดท้ายพ่อกับแม่ก็ยังรัก ยังตัดลูกไม่ขาดอยู่ดี กรณีนี้ก็อาจจะทำนองเดียวกัน ทักษิณให้อะไรกับพวกเขา (คนรากหญ้า) ไว้เยอะ หรือบางคนอาจจะบอกว่าทักษิณหลอกไว้เยอะก็ช่าง แต่สิ่งที่ทักษิณทำมาตลอดช่วงที่เป็นนายก 2 สมัยผมคิดว่าคนรากหญ้าเหล่านั้นเขาได้ประโยชน์ เขาสัมผัสได้ เขาเห็นเป็นรูปธรรม นี่ละมั้งครับ ที่เป็นเหตุผลว่าทำไมเวลาล่วงเลยมาจนถึงบัดนี้ คนจำนวนหนึ่งที่บอกว่าทักษิณชั่ว ทักษิณเลว ทักษิณโกงกิน ถึงโค่นล้มอำนาจที่อยู่เหนือการควบคุมเหล่านี้ไม่ได้ซักที ใช่อำนาจของประชาชนเหล่านั้นที่เขาได้ประโยชน์หรือไม่ครับ และถ้ายิ่งเป็นอยู่อย่างทุกวันนี้ที่ คณะกปปส.พยายามเรียกร้องในสิ่งที่พวกเขาอยากได้ โดยไม่ฟังเสียงคนรากหญ้าเหล่านั้นเลย คิดหรือครับว่าระบอบทักษิณจะหายไปจากประเทศไทย ผมยืนยันว่ามันจะยิ่งทำให้ระบอบทักษิณแข็งแกร่ง ทะนง และจะยิ่งถอนระบอบนี้ออกไปจากประเทศไทยยากมากขึ้นเท่านั้น
ผมชื่นชมส่วนหนึ่งกับการเรียกร้องของกปปส. เรื่องการออก พรบ.นิรโทษกรรม ผมคิดว่าแม้แต่เสื้อแดงหลายๆคนก็ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ แต่สุดท้ายเมื่อรัฐบาลยอมถอน (แม้หลายคนจะบอกว่าถอนไม่จริงก็ตาม) สุดท้ายรัฐบาลก็คืนอำนาจให้ประชาชนโดยการยุบสภา (แม้ใครหลายคนจะบอกว่ารัฐบาลจะขอคืนความชอบธรรมเพื่อฟอกตัวเองให้กลับมาใหม่ผ่านการเลือกตั้ง ด้วยการไปซื้อสิทธิ์เข้ามาก็ตาม) ผมถามว่าภาคใต้ไม่มีการขายสิทธิ์ขายเสียงกันหรือครับ เอาแค่ว่าการเลือกผู้ใหญ่บ้าน กำนัน เลือกนายกอบต. ก็ยังมีการซื้อสิทธิ์ขายเสียงกันเลยครับไม่เว้นภาคใต้บ้านผม แล้วจะนับประสาอะไรกับการเลือกตั้งระดับประเทศล่ะครับที่มีสิ่งเดิมพันสูงกว่าหลายเท่ากับผลประโยชน์ที่นักการเมืองจะได้รับ
แต่กรณีการเลือกตั้งสส. ในภาคใต้อาจจะมีข้อยกเว้นน่ะครับ เพราะโดยส่วนใหญ่แล้วการเลือกสส. ในภาคใต้ไม่ต้องซื้อเสียงครับ ถ้ามีก็คงน้อยเต็มที เพราะอะไรหรือครับ อันนี้ต้องถามคนใต้ จะรู้ดีที่สุด ไม่ว่าจะเลือกตั้งกี่ครั้ง ประชาธิปัตย์ก็ชนะมาตลอด บางครั้งผมหรือใครหลายๆคนคิดว่าไปเอาใครมาก็ได้ ตาสีตาสาที่ไหนก็ได้ให้มาใส่เสื้อประชาธิปัตย์ ยังไงก็ชนะแบบสบายๆ เพราะฉะนั้นถึงคราวเลือกสส. แต่ละทีคงไม่แปลกครับที่หลายๆพื้นที่ หลายๆจังหวัดในภาคใต้อัตราการซื้อเสียงอาจจะน้อยเมื่อเทียบกับภาคอื่น (ยกเว้นบางเขตที่พอจะมีคู่แข่งที่สูสีบ้าง) ผมก็เลยเกิดคำถามขึ้นมาว่าแล้วอย่างนี้จะเรียกว่า “ระบอบประชาธิปัตย์” ผูกขาดในภาคใต้ได้หรือไม่
ผมเองก็ไม่รู้หรอกน่ะครับว่าเหตุผลคืออะไร ที่ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ผูกขาดในภาคใต้มาตลอด เพราะเท่าที่จำความได้ผมเติบโตมาอยู่ในภาคใต้จนอายุผมเริ่มขึ้นเลข 2 นำหน้า ผมก็ยังเชียร์ประชาธิปัตย์มาตลอด และคิดว่าคนอื่นๆในภาคใต้ก็คงเหมือนกับผมนั่นแหละครับ ผมเชียร์ทุกครั้งเวลาคุณสุเทพพูดปราศรัย ทั้งในสภา และนอกสภาเมื่อมีการหาเสียง (ว่าโอ้โหพูดได้แรงอกจริงๆ = แปลว่าพูดได้ถูกใจจริงๆ) ทำไมเวลาท่าน ดร.ไตรรงค์ พูดแล้วมันสนุกมาก ยิ่งกว่าได้ฟังตลกคณะม๊กจ๊กทั้งหลายอีก ฟังแล้วชอบจริงๆ ทำไมเวลาท่านชวน (นายกบ้านผมเอง) พูดแล้ว ดูสุขุม ลุ่มลึกจริงๆ เหมือนฉายาที่คนเขาตั้งให้ว่า มีดโกนอาบน้ำผึ้ง (แม้จะพูดสนุกสู้คนอื่นไม่ได้) ทำไมตอนนั้นผมถึงชื่นชมคุณอภิสิทธิ์มากๆ (ตั้งแต่สมัยนานมาแล้วที่หน้าตาหล่อกว่านี้ ดูเด็กกว่านี้ และดูไม่อวบเท่าทุกวันนี้) ที่เวลาพูดในสภา ดูเยือกเย็น สุขุม (ไม่แพ้ท่านชวน) และดูดีมีเหตุมีผล มีน้ำหนัก จริงๆ หลายๆคนตอนนั้นบอกว่าคนนี้แหละว่าที่นายกในอนาคต (สุดท้ายก็ได้เป็นจริงๆ แม้จะไม่ค่อยสวยงาม เพราะไม่ได้มาจากการเลือกตั้งจากประชาชนมาโดยตรงก็ตาม) เหล่านี้คงเป็นเหตุผลนึงล่ะครับที่ทำให้คนใต้ถึงผูกขาดกับพรรคประชาธิปัตย์มาโดยตลอด แม้ว่าผลงาน และนโยบายของประชาธิปัตย์จะไม่เป็นโล้เป็นพายมากนักก็ตาม แต่คนเขาก็ยินยอมพร้อมใจที่จะเลือกเข้ามา และเลือกตั้งทีไรสส.ประชาธิปัตย์ก็เลยไม่ต้องเปลืองเงินเปลืองทองกับการซื้อเสียงมากเท่ากับพื้นที่ภาคอื่น
ย้อนมาดูพรรคคู่แข่งตลอดกาลของพรรคประชาธิปัตย์ ณ เวลานี้บ้างสิครับ (ที่ช่วงหลังผูกขาดการพ่ายแพ้ให้กับพรรคนี้มาตลอดนับสิบปี) และจะเป็นคู่แข่งตลอดไปหรือเปล่าผมไม่รู้ พร้อมภาวนาอย่าให้เป็นอย่างนั้นเลย ผมไม่แน่ใจว่ามีใครสงสัยเหมือนผมบ้างหรือไม่ว่าหลังสี่ปีแรกของการเข้ามาทำงานเป็นนายกของทักษิณ (ปี44-48) เมื่อหมดวาระก็เลือกตั้งใหม่ แล้วทำไมการเลือกตั้งครั้งนั้น ปี48 ทักษิณชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย จนตอนนั้นคุณบรรหาร ศิลปะอาชา ถึงกับออกมาอุทานดังๆเลยว่า เป็นการแข่งขันที่สู้ได้ยากจริงๆ ตั้งแต่เคยเป็นสส.มา จึงทำให้พรรคไทยรักไทยสามารถจัดตั้งรัฐบาลแบบพรรคเดียวแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด....ด้วยเสียงที่มากกว่าพรรคประชาธิปัตย์ เกือบ 4 เท่าตัว ใช่เขาซื้อเสียงมาหรือครับ หรือว่าใช่เขาซื้อตัวสส. มาหรือครับ ผมก็ตอบได้เลยว่าใช่ และอีกส่วนหนึ่งก็จะถามต่อว่าหรือว่าตอนนั้นจะบอกว่าประชาชนคนไทยมันโง่ขนาดนั้นเลยหรือครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนรากหญ้าไม่มีสมองกันเลยหรือครับ หรือจะเป็นเพราะว่าทักษิณเข้าไปทำประโยชน์ให้ประเทศชาติจริงๆ หรือเพราะว่าทักษิณทำประโยชน์ให้กับคนรากหญ้าเหล่านั้นจริงๆ....???
ต่อ http://pantip.com/forum/new_topic