ดิฉันพยายามคิดว่าสิ่งที่พวกต้องการให้มีการปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง
พวกเขาต้องการจะปฏิรูปโดยวิธีไหน ดิฉันคิดออกมาได้ 2 วิธี
1. กำหนดการออกเสียงลงคะแนนในรัฐธรรมนูญใหม่
โดยกำหนดให้คนกลุ่มหนึ่ง มีสิทธิออกเสียงลงคะแนนมากกว่าอีกฝ่ายหนึ่ง
เหมือนที่บางคนชอบปราศรัยว่า เสียงของคนกรุงเทพมีคุณภาพมากกว่าเสียงคนต่างจังหวัด
หรือ คนต่างจังหวัดไม่มีความรู้ความเข้าใจประชาธิปไตยดีเพียงพอ
ดิฉันเชื่อว่าวิธีการตามข้อนี้ พวกต่อต้านการเลือกตั้งไม่กล้าทำแน่ คงไม่ใจกล้าหน้าด้านพอที่จะทำ
2. แต่งตั้งบุคคลเข้ามาดำรงตำแหน่งเป็นคณะกรรมการสรรหาตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
(ประมาณว่าเหมือนกับบริษัทมหาชนที่เวลาจะพิจารณาตำแหน่งสำคัญในบริษัท
ก็จะเอาเข้าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทอนุมัติ)
หลังจากเลือกตั้งเสร็จ(ตามรธน.ฉบับปฏิรูป)แต่ละพรรคมีสิทธิเสนอบุคคลในพรรค
หรือบุคคลภายนอกที่ไม่ได้เป็นส.ส. เข้าชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ถึงแม้จะไม่ได้เสียงข้างมากก็ตาม
แล้วคณะกรรมการสรรหาจะเป็นผู้พิจารณา ซึ่งถ้าเป็นวิธีการนี้ก็จะเหมือนองค์กรอิสระแบบทุกวันนี้
ที่ทำได้แบบไม่ต้องสนใจใคร
ดิฉันไม่ได้มีข้อมูลวงในอะไร เพียงแต่พยายามคิดตามว่าจะมีวิธีการอะไรบ้าง
ที่พวกเขาจะทำให้ “พรรคของนายดีแต่พูด” ได้เป็นรัฐบาล
และสามารถป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายได้เป็นรัฐบาล
จริงแล้วพวกเขาอาจมีอีกหลายวิธีการที่แยบยลเกินกว่าที่ดิฉันจะคิดได้
แต่พวกเพื่อนๆ ในพันทิปอาจคิดออก มองออก ก็ลองเสนอกันมาเป็นความรู้
ซึ่งดิฉันมั่นใจว่าพวกต่อต้านการเลือกตั้งต้องมีวิธีการที่จะทำออกมา
เพราะถ้าปล่อยให้มีการเลือกตั้งตามหลักประชาธิปไตย
ฝ่ายประชาธิปไตยก็ต้องได้คะแนนเสียงข้างมาก เป็นผู้ชนะการเลือกตั้งอยู่ดี
คงต้องรณรงค์ให้ผู้ที่รักประชาธิปไตย ต้องช่วยกันให้มีการเลือกตั้งให้ได้
หลังเลือกตั้งแล้วถ้าจะปฏิรูปก็ต้องให้ ส.ส.ในสภาเป็นผู้มีส่วนร่วมในการปฏิรูป
อย่าให้พวกเขามุบมิบปฏิรูปกันเอง ฝ่ายประชาธิปไตยมีตัวอย่างมาแล้วจาก รธน. 50
ที่ฝ่ายหนึ่งแก้ไขได้ แต่อีกฝ่ายหนึ่งแก้ไขไม่ได้
จริงแล้วระบอบทักษิณไม่ได้น่ากลัวอะไร มาจากการเลือกตั้งก็สามารถไปจากการเลือกตั้งได้
แถมยังมีวิธีพิเศษที่ทำให้ไปได้อีกคือ
1. รัฐประหาร
2. องค์กรอิสระ
แต่ระบอบ “พรรคของนายดีแต่พูด” นี่สิ น่ากลัวของแท้ ทำอะไรก็ได้
- เอกสารการเกณฑ์ทหาร
- ปรส. องค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน
-สร้างโรงพักเต็มไปด้วยเสาโด่เด่
- เงินกู้ 900,000 ล้าน ออกเป็น พรก. การออกเป็น พรก. มันง่าย อ้างเหตุฉุกเฉิน เร่งด่วน ออกโดย ครม.
แล้วค่อยให้สภามารับรองทีหลัง ทั้งที่จริงไม่มีอะไรเร่งด่วนหรือฉุกเฉินเลย แถมประชุม ครม. วันสุดท้าย
ยังประชุมกันสิบกว่าชั่วโมงอนุมัติงบกันกว่าห้าแสนล้าน “RESPECT MY TAX”
-ฯลฯ มีอีกเยอะเขียนไม่หมด
แต่ พรบ.สองล้านล้าน รัฐบาลยิ่งลักษณ์ให้ออกเป็น พรบ. ให้มีการอภิปรายอย่างกว้างขวาง
มีการเดินสายชี้แจงให้เข้าใจถึงเหตุผล แล้วค่อยลงมติไม่มามั่ว ออกเป็น พรก. แล้วให้สภามารับรองทีหลัก
สรุปคือ ช่วยกันรักษาการเลือกตั้งให้ได้นะคะ
ขออภัยที่เขียนยาว และ ขอบคุณที่อ่านจนจบ ขอบคุณค่ะ
ปล. ขอยืมล็อกอินเพื่อนมาค่ะ
ต่อต้านการปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง
พวกเขาต้องการจะปฏิรูปโดยวิธีไหน ดิฉันคิดออกมาได้ 2 วิธี
1. กำหนดการออกเสียงลงคะแนนในรัฐธรรมนูญใหม่
โดยกำหนดให้คนกลุ่มหนึ่ง มีสิทธิออกเสียงลงคะแนนมากกว่าอีกฝ่ายหนึ่ง
เหมือนที่บางคนชอบปราศรัยว่า เสียงของคนกรุงเทพมีคุณภาพมากกว่าเสียงคนต่างจังหวัด
หรือ คนต่างจังหวัดไม่มีความรู้ความเข้าใจประชาธิปไตยดีเพียงพอ
ดิฉันเชื่อว่าวิธีการตามข้อนี้ พวกต่อต้านการเลือกตั้งไม่กล้าทำแน่ คงไม่ใจกล้าหน้าด้านพอที่จะทำ
2. แต่งตั้งบุคคลเข้ามาดำรงตำแหน่งเป็นคณะกรรมการสรรหาตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
(ประมาณว่าเหมือนกับบริษัทมหาชนที่เวลาจะพิจารณาตำแหน่งสำคัญในบริษัท
ก็จะเอาเข้าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทอนุมัติ)
หลังจากเลือกตั้งเสร็จ(ตามรธน.ฉบับปฏิรูป)แต่ละพรรคมีสิทธิเสนอบุคคลในพรรค
หรือบุคคลภายนอกที่ไม่ได้เป็นส.ส. เข้าชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ถึงแม้จะไม่ได้เสียงข้างมากก็ตาม
แล้วคณะกรรมการสรรหาจะเป็นผู้พิจารณา ซึ่งถ้าเป็นวิธีการนี้ก็จะเหมือนองค์กรอิสระแบบทุกวันนี้
ที่ทำได้แบบไม่ต้องสนใจใคร
ดิฉันไม่ได้มีข้อมูลวงในอะไร เพียงแต่พยายามคิดตามว่าจะมีวิธีการอะไรบ้าง
ที่พวกเขาจะทำให้ “พรรคของนายดีแต่พูด” ได้เป็นรัฐบาล
และสามารถป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายได้เป็นรัฐบาล
จริงแล้วพวกเขาอาจมีอีกหลายวิธีการที่แยบยลเกินกว่าที่ดิฉันจะคิดได้
แต่พวกเพื่อนๆ ในพันทิปอาจคิดออก มองออก ก็ลองเสนอกันมาเป็นความรู้
ซึ่งดิฉันมั่นใจว่าพวกต่อต้านการเลือกตั้งต้องมีวิธีการที่จะทำออกมา
เพราะถ้าปล่อยให้มีการเลือกตั้งตามหลักประชาธิปไตย
ฝ่ายประชาธิปไตยก็ต้องได้คะแนนเสียงข้างมาก เป็นผู้ชนะการเลือกตั้งอยู่ดี
คงต้องรณรงค์ให้ผู้ที่รักประชาธิปไตย ต้องช่วยกันให้มีการเลือกตั้งให้ได้
หลังเลือกตั้งแล้วถ้าจะปฏิรูปก็ต้องให้ ส.ส.ในสภาเป็นผู้มีส่วนร่วมในการปฏิรูป
อย่าให้พวกเขามุบมิบปฏิรูปกันเอง ฝ่ายประชาธิปไตยมีตัวอย่างมาแล้วจาก รธน. 50
ที่ฝ่ายหนึ่งแก้ไขได้ แต่อีกฝ่ายหนึ่งแก้ไขไม่ได้
จริงแล้วระบอบทักษิณไม่ได้น่ากลัวอะไร มาจากการเลือกตั้งก็สามารถไปจากการเลือกตั้งได้
แถมยังมีวิธีพิเศษที่ทำให้ไปได้อีกคือ
1. รัฐประหาร
2. องค์กรอิสระ
แต่ระบอบ “พรรคของนายดีแต่พูด” นี่สิ น่ากลัวของแท้ ทำอะไรก็ได้
- เอกสารการเกณฑ์ทหาร
- ปรส. องค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน
-สร้างโรงพักเต็มไปด้วยเสาโด่เด่
- เงินกู้ 900,000 ล้าน ออกเป็น พรก. การออกเป็น พรก. มันง่าย อ้างเหตุฉุกเฉิน เร่งด่วน ออกโดย ครม.
แล้วค่อยให้สภามารับรองทีหลัง ทั้งที่จริงไม่มีอะไรเร่งด่วนหรือฉุกเฉินเลย แถมประชุม ครม. วันสุดท้าย
ยังประชุมกันสิบกว่าชั่วโมงอนุมัติงบกันกว่าห้าแสนล้าน “RESPECT MY TAX”
-ฯลฯ มีอีกเยอะเขียนไม่หมด
แต่ พรบ.สองล้านล้าน รัฐบาลยิ่งลักษณ์ให้ออกเป็น พรบ. ให้มีการอภิปรายอย่างกว้างขวาง
มีการเดินสายชี้แจงให้เข้าใจถึงเหตุผล แล้วค่อยลงมติไม่มามั่ว ออกเป็น พรก. แล้วให้สภามารับรองทีหลัก
สรุปคือ ช่วยกันรักษาการเลือกตั้งให้ได้นะคะ
ขออภัยที่เขียนยาว และ ขอบคุณที่อ่านจนจบ ขอบคุณค่ะ
ปล. ขอยืมล็อกอินเพื่อนมาค่ะ