สื่อนอกจับตา รบ.พิจารณาประกาศภาวะฉุกเฉิน...... (ตลาดหุ้นจะตอบสนองยังไง?)

ตลาดหุ้นจะเป็นยังไงเมื่อมีสารพัดข่าวร้ายเริ่มทยอยโจมตี ทั้งด้านความมั่นคง และด้านเศรษฐกิจ
ในขณะที่ต่างประเทศเริ่มมีข่าววิตกกับตัวเลขและภาพรวมเศรฐกิจของไทย




สำนักข่าวต่างชาติรายงาน รัฐบาลไทยอาจประกาศภาวะฉุกเฉิน หลังการชุมนุมของกลุ่ม กปปส.มีความรุนแรงมากขึ้น ขณะที่นักวิชาการเชื่อว่า ความรุนแรงที่เกิดขึ้นเป็นแผนยั่วยุทหาร และทำให้ กกต.ปฏิเสธจัดการเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์

สำนักข่าวรอยเตอร์ สำนักข่าวชื่อดังของโลก รายงานว่า รัฐบาลไทยกำลังพิจารณาอย่างจริงจังเกี่ยวกับการประกาศใช้กฎหมายภาวะฉุกเฉิน ซึ่งจะเปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่สามารถบังคับใช้มาตรการเคอร์ฟิว รวมถึงการจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยได้โดยไม่มีการตั้งข้อหา และห้ามการชุมนุมมากกว่า 5 คนขึ้นไป หลังจากในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุปาระเบิดในที่ชุมนุมประท้วงถึง 2 ครั้ง ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บหลายสิบคน

รายงานดังกล่าวอ้างคำพูดของพลโท ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งเผยว่า ขณะนี้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้มีการหยิบยกประเด็นการประกาศภาวะฉุกเฉินขึ้นมาหารือ แต่ยังไม่มีการตกลงที่จะประกาศใช้มาตรการนี้แต่อย่างใด

สำนักข่าวรอยเตอร์ ยังอ้างคำให้สัมภาษณ์ของนายพอล แชมเบอร์ นักวิชาการด้านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษาจากจังหวัดเชียงใหม่ ที่มองว่า ความรุนแรงจากการโจมตีกลุ่มผู้ประท้วงที่เพิ่มขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา คือส่วนหนึ่งของแผนการยั่วยุทหารให้ออกมาแสดงปฏิกิริยาทางการเมือง

ขณะเดียวกันก็คาดว่า ความรุนแรงเช่นนี้จะมีเพิ่มขึ้นอีก โดยหนึ่งในความตั้งใจของผู้ก่อเหตุ อาจรวมถึงการทำให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ปฏิเสธจัดการเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นจุดยืนที่ฝ่ายผู้ประท้วง และพรรคฝ่ายค้านเรียกร้องมาโดยตลอด

นอกจากนี้ รอยเตอร์ยังรายงานถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจ จากการชุมนุมประท้วงที่ยืดเยื้อในไทย โดยระบุว่า ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นจะมีผลคุกคามการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทย และนักเศรษฐศาสตร์กว่าครึ่งของโพลที่รอยเตอร์จัดทำขึ้นก็เชื่อว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย น่าจะประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง .25 ไปอยู่ที่ร้อยละ 2 ในสัปดาห์นี้ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ของธนาคารดีบีเอส ในสิงคโปร์มองว่า มาตรการดังกล่าวอาจมีส่วนสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนได้เพียงเล็กน้อย ขณะที่ประธานบริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ประจำประเทศไทย ยอมรับว่า เขาไม่แน่ใจว่าโตโยต้า จะยังตัดสินใจเพิ่มปริมาณการลงทุนในไทย ท่ามกลางวิกฤตการเมืองที่เกิดขึ้นในปัจจุบันอยู่หรือไม่

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่