มูลค่าไม่แพงเลยค่ะ แค่ 40 บาท เป็นไฟเบอร์ 2 ซอง ซองละ 20 บาทแค่นั้น แต่เรารู้สึกว่า คนขายของแบบนี้
ควรจะรอบคอบกว่านี้ไม่ใข่เหรอ แล้วถ้าเกิดเป็นยาอย่างอื่น หรือถ้าเกิดคนไม่ทันเช็คให้ละเอียด กินเข้าไปแล้วล่ะ
เกิดอะไรขึ้น เค้ารับผิดชอบไหวมั๊ย???

คือร้านที่ว่านี้ เข้าไปก็ไม่มีเภสัชกรประจำนะคะ เป็นลุงกับป้าแก่ๆ ขายกันสองคน
เรามีอาการท้องผูกเนื่องจากลำไส้แปรปรวณค่ะ รักษาอยู่ที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง
อาการดีขึ้นบ้างแล้ว หมอก็เลยไม่ได้จ่ายยาเพิ่ม แนะนำแค่ว่าถ้าเกิดกินผักผลไม้น้อย
หรือรู้สึกว่าถ่ายยากกว่าปกติ ก็ให้ไปซื้อไฟเบอร์ตามร้านขายยาก็ได้ จะถูกกว่าหมอจ่ายให้

พอดีช่วงนี้เราเครียดๆ ก็เลยถ่ายค่อนข้างยาก แม้จะกินมะละกอวันละเกือบครึ่งลูกก็ตาม
ก็เลยไปหาซื้อไฟเบอร์มาเผื่อไว้ค่ะ เมื่อวานเรากลับค่ำ กลัวร้านขายยาใกล้บ้านปิดก่อน
ก็เลยแวะซื้อร้านขายยาข้างทางที่ผ่านประมาณ 2 ทุ่มค่ะ ร้านนี้เหมือนมีสาขานะคะ
เพราะเค้าเขียนชื่อร้าน ต่อด้วยเลข 2 เข้าไปเป็นลุงกับป้าแก่ๆ ขายแพมเพิร์สให้ลูกค้าอยู่

เราก็ไปบอกว่ามีไฟเบอร์มั๊ยคะ ลุงก็ทำหน้างง เราก็เลยบอกว่า ไฟเบอร์เป็นซองๆ ช่วยระบายค่ะ
เค้าก็เลยหยิบยี่ห้อนึงมาให้ บอกซองละ 20 บาท (แพงนะ เราว่า) แต่คนละยี่ห้อกับที่หมอจ่ายให้เรา
เราก็เลยเอามาแค่ 2 ซอง กะว่าจะลองมาหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตดูว่า ยี่ห้อนี้มีปัญหาอะไรหรือเปล่า

มาถึงบ้านเราก็มาอ่านๆ วิธีใช้ ก็เลยเพิ่งมาสะดุดกับวันหมดอายุ 07/01/14
อ่าววววว มันหมดแล้วนี่ (วันที่เราซื้อคือ วันที่ 19 มค. 2014 ค่ะ
พอดูวันผลิต 08/01/11 โอ้ววว ผ่านมา 3 ปีแล้ว ตอนลุงหยิบกล่องออกมา มันก็ยังเหลืออีกหลายซองมากเลยนะ
ลุงไม่เช็คบ้างเหรอ ว่าของที่ลุงขายหมดอายุหรือยัง แล้วถ้ามันเสียหรืออันตรายจะทำยังไงล่ะ

เงิน 40 บาทมันก็น้อยจริงๆ แหละค่ะ แต่เราก็คิดว่า เค้าก็มีโอกาสทำแบบนี้กับยาชนิดอื่นเช่นกัน
ถ้าคนกินไม่ทันเช็คก็อาจเกิดอันตรายได้ ซึ่งเราก็ไม่ละเอียดตอนซื้อ แต่ก็ดีที่ยังมาเช็คก่อนกิน (ถ้ากินไปอาจจะท้องเสียไปเลยก็ได้ อิอิ)
แล้วเค้ามีสิทธิ์ขายยาได้มั๊ย แล้วเภสัชกรที่รับผิดชอบร้านอยู่ที่ไหน เราก็ไม่อยากปล่อยเรื่องแบบนี้ผ่านไปค่ะ
เราควรทำยังไงดีคะ แจ้ง อย. สคบ. หรือองค์กรเภสัชกรรม หรือตำรวจ หรือสุดท้าย แค่ทำใจ ^^