เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - รัฐบาลอิสราเอลเตรียมจ่ายเงินชดเชยให้กับทหารในกองทัพของตนจำนวน 716 นาย ที่ถูกบังคับให้เข้าร่วมโครงการลับของรัฐบาลยิว ในการทดลอง “วัคซีนแอนแทร็กซ์” กับมนุษย์ หลังจากทหารจำนวน 92 คนที่เข้าร่วมโครงการวิจัยลับสุดยอดดังกล่าวที่สิ้นสุดไปเมื่อปี 2005 ยื่นฟ้องศาล เรียกร้องค่าชดเชย หลังจากที่พวกเขาต้องทนทุกข์ทรมานกับผลข้างเคียงของวัคซีนดังกล่าว
คำแถลงของกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า “เหยื่อการทดลองแอนแทร็กซ์” ระบุว่า กลุ่มของตนต้องต่อสู้มานานหลายปีกับรัฐบาลและกองทัพอิสราเอล ที่บังคับให้ทหารของตนเข้าร่วมโครงการทดลองวัคซีนแอนแทร็กซ์อย่างลับๆ และเงินชดเชยที่คาดว่าจะมีจำนวนทั้งหมดไม่เกิน 6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 197 ล้านบาท) ที่รัฐบาลเตรียมจ่ายให้กับพวกตนนั้น เทียบไม่ได้กับความทุกข์ทรมานและผลข้างเคียงต่างๆ ที่พวกตนได้รับจากการทดลองวัคซีนดังกล่าว
“มันเป็นเรื่องที่น่าละอายยิ่งนัก ที่พวกเราต้องยื่นฟ้องรัฐบาลและกองทัพของเราเอง แต่เราจำเป็นต้องขอให้กระบวนการยุติธรรมเป็นที่พึ่งของเรา เพราะที่ผ่านมารัฐบาลและกองทัพไม่เคยแสดงความรับผิดชอบใดๆต่อสิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกเรา ดูเหมือนพวกเขาจะมองเราเป็นเพียงแค่สัตว์ทดลอง” คำแถลงของกลุ่มเหยื่อวัคซีนแอนแทร็กซ์ระบุ
ทั้งนี้ โครงการทดลองลับสุดยอดดังกล่าวซึ่งใช้ชื่อโครงการว่า “โอเมอร์-2” ถูกดำเนินการระหว่างปี 1999-2005 ภายใต้งบประมาณมากกว่า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6,580 ล้านบาท) โดยโครงการลับสุดยอดนี้ ทางรัฐบาลอิสราเอลได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ และมีวัตถุประสงค์เพื่อนำวัคซีนแอนแทร็กซ์มาทดลองใช้กับ “มนุษย์ตัวเป็นๆ” เพื่อหาวัคซีนสูตรที่มีความเหมาะสมที่สุด สำหรับนำมาใช้งานจริงในอนาคต กรณีที่สหรัฐฯ หรืออิสราเอลถูกโจมตีด้วย “อาวุธเชื้อโรค”
อย่างไรก็ดี โครงการลับดังกล่าวซึ่งในตอนแรกอ้างว่าเปิดรับอาสาสมัครเข้าร่วมการทดลองนั้น กลับกลายเป็นว่า มีการบังคับให้กำลังพลในกองทัพอิสราเอลเข้าร่วมการทดลองอย่างไม่เต็มใจ
และผู้เข้าร่วมการทดลองจำนวนมากต้องทนทุกข์ทรมานกับผลข้างเคียงของวัคซีนทั้งอาการลมชัก การอักเสบของไธรอยด์ อาการปอดบวม อาการแพ้ที่ผิวหนัง รวมถึงประสบภาวะ “ไตล้มเหลว” หลังถูกฉีดวัคซีนแอนแทร็กซ์เข้าสู่ร่างกาย
อิสราเอลเตรียมจ่ายเงินชดเชยเกือบ 200 ล้าน หลังบังคับทหารของตัวเองทดลองลับ “วัคซีนแอนแทร็กซ์”
เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - รัฐบาลอิสราเอลเตรียมจ่ายเงินชดเชยให้กับทหารในกองทัพของตนจำนวน 716 นาย ที่ถูกบังคับให้เข้าร่วมโครงการลับของรัฐบาลยิว ในการทดลอง “วัคซีนแอนแทร็กซ์” กับมนุษย์ หลังจากทหารจำนวน 92 คนที่เข้าร่วมโครงการวิจัยลับสุดยอดดังกล่าวที่สิ้นสุดไปเมื่อปี 2005 ยื่นฟ้องศาล เรียกร้องค่าชดเชย หลังจากที่พวกเขาต้องทนทุกข์ทรมานกับผลข้างเคียงของวัคซีนดังกล่าว
คำแถลงของกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า “เหยื่อการทดลองแอนแทร็กซ์” ระบุว่า กลุ่มของตนต้องต่อสู้มานานหลายปีกับรัฐบาลและกองทัพอิสราเอล ที่บังคับให้ทหารของตนเข้าร่วมโครงการทดลองวัคซีนแอนแทร็กซ์อย่างลับๆ และเงินชดเชยที่คาดว่าจะมีจำนวนทั้งหมดไม่เกิน 6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 197 ล้านบาท) ที่รัฐบาลเตรียมจ่ายให้กับพวกตนนั้น เทียบไม่ได้กับความทุกข์ทรมานและผลข้างเคียงต่างๆ ที่พวกตนได้รับจากการทดลองวัคซีนดังกล่าว
“มันเป็นเรื่องที่น่าละอายยิ่งนัก ที่พวกเราต้องยื่นฟ้องรัฐบาลและกองทัพของเราเอง แต่เราจำเป็นต้องขอให้กระบวนการยุติธรรมเป็นที่พึ่งของเรา เพราะที่ผ่านมารัฐบาลและกองทัพไม่เคยแสดงความรับผิดชอบใดๆต่อสิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกเรา ดูเหมือนพวกเขาจะมองเราเป็นเพียงแค่สัตว์ทดลอง” คำแถลงของกลุ่มเหยื่อวัคซีนแอนแทร็กซ์ระบุ
ทั้งนี้ โครงการทดลองลับสุดยอดดังกล่าวซึ่งใช้ชื่อโครงการว่า “โอเมอร์-2” ถูกดำเนินการระหว่างปี 1999-2005 ภายใต้งบประมาณมากกว่า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6,580 ล้านบาท) โดยโครงการลับสุดยอดนี้ ทางรัฐบาลอิสราเอลได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ และมีวัตถุประสงค์เพื่อนำวัคซีนแอนแทร็กซ์มาทดลองใช้กับ “มนุษย์ตัวเป็นๆ” เพื่อหาวัคซีนสูตรที่มีความเหมาะสมที่สุด สำหรับนำมาใช้งานจริงในอนาคต กรณีที่สหรัฐฯ หรืออิสราเอลถูกโจมตีด้วย “อาวุธเชื้อโรค”
อย่างไรก็ดี โครงการลับดังกล่าวซึ่งในตอนแรกอ้างว่าเปิดรับอาสาสมัครเข้าร่วมการทดลองนั้น กลับกลายเป็นว่า มีการบังคับให้กำลังพลในกองทัพอิสราเอลเข้าร่วมการทดลองอย่างไม่เต็มใจ
และผู้เข้าร่วมการทดลองจำนวนมากต้องทนทุกข์ทรมานกับผลข้างเคียงของวัคซีนทั้งอาการลมชัก การอักเสบของไธรอยด์ อาการปอดบวม อาการแพ้ที่ผิวหนัง รวมถึงประสบภาวะ “ไตล้มเหลว” หลังถูกฉีดวัคซีนแอนแทร็กซ์เข้าสู่ร่างกาย