สาวกชาววินโดวส์โฟนทั้งหลายได้เฮอีกระลอก เมื่อมีแอพฯ ใหม่ๆ มาให้ได้เล่นเหมือนค่ายอื่นบ้างแล้ว และล่าสุดก็ถึงคราวของ Path อีกหนึ่งแอพพลิเคชั่นโซเชียลที่กำลังมาแรงที่ได้ฤกษ์ปล่อยตัวดาวน์โหลดลงวินโดวส์โฟนสโตร์แล้วเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ แอพพลิเคชั่น Path ถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกบน iPhone ในปี 2010 ก่อนจะตามมาแลนด์ดิ้งบน Android เพื่อเป้าหมายในการเป็นพื้นที่แชร์ความทรงจำให้เพื่อนฝูงและครอบครัวได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น แทนที่การเผยแพร่กับบุคคลอื่นบนโซเชียลเน็ตเวิร์ทั้วไปอย่างเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ ส่วนการใช้งาน ผู้ใช้สามารถที่จะแชร์รูปภาพ, สถานะ, สถานที่, อารมณ์ หรือแม้แต่เพลงที่กำลังฟังอยู่บนไทม์ไลน์ก็ได้ รวมถึงการบันทึกเวลาการนอนและตื่น เพื่อจับเวลา
และถึงแม้ว่า Path บนวินโดวส์โฟนจะยังเป็นเวอร์ชั่นเบต้า แต่กระนั้นก็มีการนำเสนอฟีเจอร์ต่างๆ ที่เหมือนกับบนไอโอเอสและแอนดรอยด์ เช่นการใส่ฟิลเตอร์รูปภาพและการสนับสนุนการแชร์ภาพไปยังโซเชียลค่ายอื่น รวมถึง Foursquare และ Tumblr ด้วย
ทีมผู้พัฒนา Path ระบุว่า การอัพเดทในอนาคตจะมาพร้อมกับความสามารถในการสนทนาข้อความ เช่นเดียวกับ Path Shop สำหรับการซื้อสติกเกอร์
ที่มา CNET
เฮ! แอพฯ Path มาแล้วบน Windows Phone
สาวกชาววินโดวส์โฟนทั้งหลายได้เฮอีกระลอก เมื่อมีแอพฯ ใหม่ๆ มาให้ได้เล่นเหมือนค่ายอื่นบ้างแล้ว และล่าสุดก็ถึงคราวของ Path อีกหนึ่งแอพพลิเคชั่นโซเชียลที่กำลังมาแรงที่ได้ฤกษ์ปล่อยตัวดาวน์โหลดลงวินโดวส์โฟนสโตร์แล้วเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ แอพพลิเคชั่น Path ถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกบน iPhone ในปี 2010 ก่อนจะตามมาแลนด์ดิ้งบน Android เพื่อเป้าหมายในการเป็นพื้นที่แชร์ความทรงจำให้เพื่อนฝูงและครอบครัวได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น แทนที่การเผยแพร่กับบุคคลอื่นบนโซเชียลเน็ตเวิร์ทั้วไปอย่างเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ ส่วนการใช้งาน ผู้ใช้สามารถที่จะแชร์รูปภาพ, สถานะ, สถานที่, อารมณ์ หรือแม้แต่เพลงที่กำลังฟังอยู่บนไทม์ไลน์ก็ได้ รวมถึงการบันทึกเวลาการนอนและตื่น เพื่อจับเวลา
และถึงแม้ว่า Path บนวินโดวส์โฟนจะยังเป็นเวอร์ชั่นเบต้า แต่กระนั้นก็มีการนำเสนอฟีเจอร์ต่างๆ ที่เหมือนกับบนไอโอเอสและแอนดรอยด์ เช่นการใส่ฟิลเตอร์รูปภาพและการสนับสนุนการแชร์ภาพไปยังโซเชียลค่ายอื่น รวมถึง Foursquare และ Tumblr ด้วย
ทีมผู้พัฒนา Path ระบุว่า การอัพเดทในอนาคตจะมาพร้อมกับความสามารถในการสนทนาข้อความ เช่นเดียวกับ Path Shop สำหรับการซื้อสติกเกอร์
ที่มา CNET