รีวิว เรียน MBA ที่มหาวิทยาลัยปักกิ่ง (Beijing International MBA)

你好!

กระทู้นี้เป็นกระทู้แรก หากมีอไรก็แนะนำติชมได้เลยนะคะ

อยากจะแชร์ประสบการณืที่ไปเรียนMBA ที่มหาวิทยาลัยปักกิ่ง  เพราะตอนหาข้อมูลโปรแกรมMBAในจีน หาได้น้อยมากเลยอยากจะมาแชร์กันค่ะ

ไปเรียนมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2012 จนเพิ่งเรียนจบเมื่อปลายเดือนธันวาคม 2013 ที่ผ่านมา


มหาวิทยาลัยปักกิ่งมีMBAที่สอนเป็นภาษาอังกฤษ สองที่ คือ Guanghua Management School และ BiMBA  (Beijing International MBA) ที่ไปเรียนมาคือที่ที่สองค่ะ ถ้าเปรียบเทียบ Guanghua เป็นของมหาลัยปักกิ่งโดยตรง  ส่วน BiMBA มี co กับ Vlerick Business School ของเบลเยี่ยมก็คงเป็นเหมือน MBA อินเตอร์ของจุฬากับศศิน

ข้อมูลเพิ่มเติมดูในเว็บได้เลยค่ะ
http://en.bimba.edu.cn

สาเหตุที่ไปเรียนที่นี่เพราะต้องการได้ภาษาจีนและเพราะมหาวิทยาลัยปักกิ่งก็ดังมาก อีกเหตุผลก็คืออยากเรียนจบเร็วๆ เพราะ BiMBA เป็นโปรแกรมที่เรียนเพียงหนึ่งปีครึ่ง ในขณะที่ Guanghua ต้องเรียนสองปี

การเรียนการสอน

การเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษ วิช่าที่เรียนเป็นวิชา MBA ทั่วไป เช่น marketing, human resource, finance etc. อาจารย์เป็นชาวต่างชาติส่วนมาก มีอาจารย์คนจีนส่วนน้อย ส่วนตัวคิดว่าอาจารย์ต่างชาติสอนดีกว่า ถ้าเป็น Guanghua เพื่อนบางว่าอาจารย์ส่วนใหญ่เป็นคนจีน เรื่องหลักสูตรสอนพวก soft skill มากกว่า \ส่วนมากเรียนแค่ครึ่งวันเช้า (9-12.30am) ช่วงบ่ายก็ทำงานกลุ่ม หรือไม่ก็เรียนภาษาจีน


ข้อดี

ตัวแคมปัสของมหาวิทยาลัยปักกิ่งสวยมากค่ะ มีทะเลสาบ มีต้นไม้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่คนจีนจากต่างเมืองจะเดินทางมาดูด้วย ตึกที่เราเรียนก็สวย เป็นแบบจีนๆ ตอนเราเรียนจบเค้าเพิ่งทาสีใหม่ แดงเขียวสดมากกกกก


ได้เที่ยวเยอะดี จิงๆก็ไม่เกี่ยวกับการมาเรียนที่นี่แต่เหมือนเป็นผลพลอยได้ว่า ได้ไปโน่นนี่ต่างเมือง ที่เราชอบสุดก็คือได้เล่นสกี แต่ว่าก็แล้วแต่คนด้วย บางครั้งเพื่อนคนจีนก็เป็นไกด์พาไปเที่ยวโน่นนี่ด้วย

ได้เรียนภาษาจีนควบคู่ไปด้วย โดยแถวๆมหาวิทยาลัยก็มีโรงเรียนสอนพิเศษภาษาจีน หรือจะเรียนตัวต่อตัวกับคนจีนเลยก็ได้ เพราะจริงๆ เรียนภาษาจีนที่ปักกิ่งนี่แหละสำเนียงได้มาตราฐานสุด ซึ่งเรื่องภาษานี่ได้มากน้อยก็ขึ้นอยู่กับความขยันของแต่ละคนด้วย เพราะบางคนเรียนจนจบภาษาไม่ได้เลยก็มี

เพื่อนในห้องเป็นคนจีน ประมาณ 60% และคนต่างชาติ 40% (แต่ 40% นี่นับคนจีนที่ถือพาสปอร์ตประเทศอื่นด้วย ซึ่งจริงๆ เด็กอินเตอร์ประมาณซัก 30%  เท่านั้น) ทำให้ได้เรียนรู้การทำงานร่วมกันกับทั้งคนจีนและอินเตอร์ด้วย ซึ่งต่างกับ Guanghua ที่นักเรียนต่างชาติเยอะกว่ามาก ถ้าอยากเรียนรู้จากเพื่อนคนจีนหรืออยากได้คอนเนคชั่นที่เป็นคนจีนจริงๆก็เข้าที่นี่ดีกว่า แล้วคนจีนที่มาเรียนส่วนมากก็ฐานะดีถึงดีมากเกือบทุกคน

ถ้าคนชอบกีฬา ที่คณะมี แข่งแบต แข่งบาส แข่งบอล แข่งเทนนิสทุกปี (เค้าจัดกันแบบจริงจังมีได้ถ้วยรางวัลไรงี้ด้วย ตอนเราแข่งเททนิสนักกีฬาทุกคนจะได้ เตาไฟฟ้าไปใช้คนละอัน) แล้วก็เล่นกับเพื่อนๆในห้องได้ ก่อนเราไปเรียน ไม่เล่นกีฬาเลย พอไปแล้วได้เล่นกีฬาเยอะขึ้นมาก สนุกดี ร่างกายแข็งแรงขึ้นด้วย


ข้อเสีย

ทุกคนคงเคยได้ยิน เมืองปักกิ่งเป็นเมืองที่มลพิษแย่มากๆ ก็มีวันที่ดี และวันที่ไม่ดี คือวันที่ pollution สูงๆมากๆก็อาจทำให้จิตใจหม่นหมองไปด้วยเลย แต่วันที่ฟ้าใสอากาศดีก็ดีจริงๆค่ะ ถ้ามีpollution ก็ต้องใส่หน้ากากเพื่อกรอง ซึ่งหน้ากากบางแบบใส่แล้วเหมือนเป็นมนุษย์ต่างดาวไม่ก็นินจาโหดๆอ่ะ 5555 ซึ่งจริงๆข้อนี้สำคัญมาก อาจจะคิดว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่แต่จริงๆเป็นเรื่องใหญ่มากเพราะมันปั่นทอนสุขภาพทั้งกายและจิตของเรา

เรื่องการเรียนการสอน เราว่าก็ยังสู้ MBA ในอเมริกาไม่ได้ ในด้านอาจารย์ และความintense ของเนื้อหา ถ้าใครที่เรียนจบด้านบริหารหรือเศรษฐศาสตร์ตอนปริญญาตรี บางวิชาก็จะเรียนซ้ำ (แต่ก็ลืมไปแล้วหลังจากจบตรี ก็เหมือนมาทบทวน) แต่ก็มีบางวิชาที่เป็นความรู้ใหม่เลย

การเดินทาง

มหาลัยปักกิ่งคอนข้างสะดวก มี subway สถานี East Gate of Peking University subway ของปักกิ่งสะดวกก็จริงแต่ตอนชั่วโมงเร่งด่วนก็อัดกันเป็นปลากระป๋องเลย

ส่วนเราตอนไปเรียน ปั่นจักรยานไป ซึ่งสะดวกเหมือนกัน แต่ต้องระวังจักรยานหาย เพื่อนเราที่มีจักรยานแทบทุกคนจะต้องโดนขโมย (แต่เราไม่โดน สงสัยเพราะจักรยานโทรมเกิน 555) ตึกเรียนของคณะเราไกลจากประตูทางเข้าเยอะเหมือนกัน เพราะฉะนั้นมีจักรยานนี่แหละสะดวกสุด ยกเว้นว่าถ้ามีรถก็จะสะดวกยิ่งกว่า


การสอบเข้า

ใช้คะแนน GMAT และสอบภาษาอังกฤษ (เราใช้ IELT) ประสบการณ์ทำงาน 3 ปีขึ้นไป (แต่มีบางคนที่เข้ามาประสบการณ์ทำงานก็ไม่ถึง) ยื่นแล้วก็สอบสัมภาษณ์ ทางมหาวิทยาลัยมีทุนให้ด้วย ลองศึกษารายละเอียดจากในเว็บไซด์ดูค่ะ

ที่พัก

ทางมหาวิทยาลัยแทบจะไม่ช่วยเรื่องหาห้องพักเลย ตอนไปก็ไปหาที่พักเองกับเพื่อนคนไทยอีกคน อยู่แถวWudaokou ซึ่งเป็นย่านนักเรียนเกาหลีเยอะ (อาหารเกาหลีก็เยอะเผื่อไครชอบ) 5555  ราคาค่าห้องแพงกว่าที่คิดไว้ตอนแรก ซึ่งราคาบ้าน ทั้งเช่าและซื้อแพงมาก และขึ้นทุกปี ค่าเช่าของบ้านเรา 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ประมาณ 10500 หยวน ซึ่งเนื่องจากหาผ่ายเอเจนซี่ก็ต้องจ่ายค่าเอเจนซี่อีกหนึ่งเดือน แต่ถ้าไม่ได้พักย่าน Wudaokou ไปพักย่านอื่นก็จะถูกลงกว่านี้


ตอนนี้ที่นึกออกก็ประมาณนี้ค่ะ ถ้ามีอะไรจะสอบถามเพิ่มเติมก็ทิ้งคอมเม้นไว้ได้เลยค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่