ปีใหม่ที่ผ่านมา จขกท.และเพื่อนๆได้มีโอกาสไปเคาวดาวน์กันที่โตเกียวมาค่ะ
แต่เพิ่งจะมีเวลาว่างมาทำรีวิว ยังไงจะทยอยอัพเดทอยู่เรื่อยๆนะคะ ฝากติดตามกันด้วยน้าา
*รูปในกระทู้นี้ทั้งหมด ถ่ายจากกล้อง iphone เพราะฉะนั้นอาจจะไม่คมเปรี๊ยะ และมี noise เยอะนิดนึงนะคะ
เช้าวันที่ 2 ของทริปหลังจากที่ไปวัดอาซากุสะและโตเกียวสกายทรีกันมาแล้ว
เราก็มาต่อกันที่เกาะโอไดบะค่ะ ซึ่งเป้าหมายก็คือการมาออนเซ็นเท้า
เพื่อผ่อนคลายความเมื่อยล้าจากการเดินทั้งวัน ทั้งจากวันแรกและช่วงเช้าของวันนี้
เมื่อมาถึงโอไดบะแล้ว ก็มาลงที่สถานี telecom center ค่ะ เดินมานิดหน่อยก็จะเจอ
Ooedo-Onsen Monogatari จุดมุ่งหมายของเรานั่นเอง
ค่าเข้าถ้าจำไม่ผิด ผู้ใหญ่ประมาณ 2xxx เยนๆค่ะ (เป็นมนุษย์ความจำสั้นเรื่องเกี่ยวกับตัวเลขค่ะ TTT)
คนเยอะมากค่ะ เนื่องจากเป็นช่วงหยุดยาวปีใหม่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนญี่ปุ่นค่ะ (ถ่ายแบบรีบๆ)
มาถึง ทุกคนก็ต้องเข้าไปเก็บรองเท้าในล็อคเกอร์ทางด้านซ้ายมือค่ะ เลือกได้ตามใจชอบ
และเนื่องจากทุกคนต้องถอดรองเท้า จึงเป็นที่มาของ "สุดยอดกลิ่นเท้า" ของผู้คนนับร้อยที่รวมกันอยู่โดยมิได้นัดหมาย
จขกท.และเพื่อนๆ เวียนหัวมากค่ะ ณ จุดนี้ ต้องพยายามเงยหน้าขึ้นสูง รับอากาศบริสุทธิ์อยู่เป็นระยะ TT
ยิ่งตอนขากลับออกมา ถึงขั้นขอวิ่งมาใส่รองเท้าข้างนอกเลย เพราะไม่ไหวแล้วจริงๆ 5555
(ทางออนเซนก็มีการฉีดน้ำหอมปรับอากาศเป็นระยะนะคะ แต่เราคงเจอช่วงน้ำหอมสลายตัวแล้ว TT)
ระหว่างรอในแถว(ตามรูปที่ 1) เราก็หยิบโบวชัวร์มาดูเล่นค่ะ
ในออนเซนก็จะมีทั้งบ่อแช่เท้า บ่อแช่ตัว บริการสปา นวด รวมถึงที่พักค้างคืนด้วย
(เห็นคนญี่ปุ่นหลายคน แบกกระเป๋าลากกันมาเป็นครอบครัวกันเลยทีเดียว)
มีโซนเมืองจำลองสมัยก่อน ซึ่งจะเป็นร้านค้า ร้านอาหารต่างๆมากมาย
นอกจากนี้ยังมีใบปลิวคำอธิบายการใช้ออนเซนและแผนที่ภายในอาคารให้ด้วยค่ะ
หลังจากต่อแถวแล้ว เมื่อไปที่เคาเตอร์ พนักงานก็จะถามจำนวนคน
และมอบปลอกแขนที่มีกุญแจล็อกเกอร์ รวมถึงใช้ในการซื้อของและบริการอื่นๆในออนเซน
(ซึ่งจะนำมาคิดเงินทีหลังครั้งเดียว ตอนออกจากออนเซนนั้นเองค่ะ)
จากนั้นเราก็ไปเลือกชุดยูกาตะกันค่ะ ซึ่งจะมี 5 ลายให้เลือกตามใจชอบ
และเข้าไปเปลี่ยนในห้องแต่งตัวค่ะ (ห้ามถ่ายรูป)
แต่ไม่ใช่ห้องแต่งตัวมิดชิดแยกเป็นส่วนๆอย่างที่คิดค่ะ
เป็นแบบลอกเกอร์เรียงกันยาวๆ แล้วก็ถอดมันตรงนั้นเลยค่ะ
เหมือนในการ์ตูนญี่ปุ่นเป๊ะ สาวๆญี่ปุ่นก็ยืนหน้าลอกเกอร์ แล้วถอดเสื้อผ้ากันไปจนเหลือแต่ชุดวันเกิด
ในโซนแต่งตัว จะมีพร้อมทุกอย่างค่ะ ทั้งโต๊ะแต่งหน้า ไดร์เป่าผม หวี(อยู่ในตู้ฆ่าเชื้อด้วยแสงยูวีด้วย เริ่ดสุดๆ)
ระหว่างที่เราเดินออกมาก็จะเจอสาวๆที่แช่ออนเซนเสร็จแล้ว นั่งแต่งหน้าทำผมกันอยู่
และเนื่องจากเราไม่มีเวลาและไม่มั่นพอ (ฮา) เราจึงเลือกออนเซนเท้าอย่างเดียวค่ะ
โซนออนเซนเท้าเป็นกลางแจ้ง และเราไปช่วงกลางคืน อากาศก็ยิ่งเย็นค่ะ
ทางออนเซนก็มีเสื้อคลุมสีส้มให้ใส่ เพื่อไม่ต้องนั่งหนาวอยู่กลางแจ้งค่ะ
น้ำในบ่อร้อนมากค่ะ แช่เท้าได้ผ่อนคลายมากจริงๆ บรรยากาศก็ย้อนยุค น่านั่งมากๆ
หลังจากแช่เท้าเสร็จแล้ว เราก็ออกมาเดินเล่นด้านนอกค่ะ ซึ่งจัดเป็นเมืองจำลองสมัยเอโดะ
มีทั้งร้านอาหาร นั่งทาน ร้านขายของที่ระลึก ร้านเล่นเกมส์ เหมือนงานวัดญี่ปุ่นเลยค่ะ
แอบถ่ายเด็กน้อยเล่นเกมส์ตักของ
ถ่ายพาโนรามา (ด้านในไม่กว้างมากค่ะ แต่ก็ถือว่าได้บรรยากาศทีเดียว)
เสร็จจากออนเซนแล้ว เราก็มากันขึ้นชิงช้าสวรรค์กันค่ะ ค่าขึ้น 900 เยน
วิวจากชิงช้าสวรรค์สวยมากค่ะ เห็นทั้งเมืองเลยจริงๆ
จากชิงช้าสวรรค์เราก็เข้ามาที่โซนเกมส์เซ็นเตอร์ ที่อยู่ข้างๆกันค่ะ
ขอบอกว่า อยู่นานมากก เพราะติดกับดักของตู้หนีบละลายทรัพย์
รีวิวเฉพาะตู้หนีบค่ะ >>
http://pantip.com/topic/31537716
จบทริปโอไดบะวันนี้ด้วยการถ่ายวิวสะพานเรนโบว์และเทพีเสรีภาพค่ะ
[Tokyo Backpacker] Ooedo-Onsen Monogatari แช่ออนเซ็น ต่อด้วยขึ้นชิงช้าสวรรค์ที่โอไดบะ
แต่เพิ่งจะมีเวลาว่างมาทำรีวิว ยังไงจะทยอยอัพเดทอยู่เรื่อยๆนะคะ ฝากติดตามกันด้วยน้าา
*รูปในกระทู้นี้ทั้งหมด ถ่ายจากกล้อง iphone เพราะฉะนั้นอาจจะไม่คมเปรี๊ยะ และมี noise เยอะนิดนึงนะคะ
เช้าวันที่ 2 ของทริปหลังจากที่ไปวัดอาซากุสะและโตเกียวสกายทรีกันมาแล้ว
เราก็มาต่อกันที่เกาะโอไดบะค่ะ ซึ่งเป้าหมายก็คือการมาออนเซ็นเท้า
เพื่อผ่อนคลายความเมื่อยล้าจากการเดินทั้งวัน ทั้งจากวันแรกและช่วงเช้าของวันนี้
เมื่อมาถึงโอไดบะแล้ว ก็มาลงที่สถานี telecom center ค่ะ เดินมานิดหน่อยก็จะเจอ
Ooedo-Onsen Monogatari จุดมุ่งหมายของเรานั่นเอง
ค่าเข้าถ้าจำไม่ผิด ผู้ใหญ่ประมาณ 2xxx เยนๆค่ะ (เป็นมนุษย์ความจำสั้นเรื่องเกี่ยวกับตัวเลขค่ะ TTT)
คนเยอะมากค่ะ เนื่องจากเป็นช่วงหยุดยาวปีใหม่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนญี่ปุ่นค่ะ (ถ่ายแบบรีบๆ)
มาถึง ทุกคนก็ต้องเข้าไปเก็บรองเท้าในล็อคเกอร์ทางด้านซ้ายมือค่ะ เลือกได้ตามใจชอบ
และเนื่องจากทุกคนต้องถอดรองเท้า จึงเป็นที่มาของ "สุดยอดกลิ่นเท้า" ของผู้คนนับร้อยที่รวมกันอยู่โดยมิได้นัดหมาย
จขกท.และเพื่อนๆ เวียนหัวมากค่ะ ณ จุดนี้ ต้องพยายามเงยหน้าขึ้นสูง รับอากาศบริสุทธิ์อยู่เป็นระยะ TT
ยิ่งตอนขากลับออกมา ถึงขั้นขอวิ่งมาใส่รองเท้าข้างนอกเลย เพราะไม่ไหวแล้วจริงๆ 5555
(ทางออนเซนก็มีการฉีดน้ำหอมปรับอากาศเป็นระยะนะคะ แต่เราคงเจอช่วงน้ำหอมสลายตัวแล้ว TT)
ระหว่างรอในแถว(ตามรูปที่ 1) เราก็หยิบโบวชัวร์มาดูเล่นค่ะ
ในออนเซนก็จะมีทั้งบ่อแช่เท้า บ่อแช่ตัว บริการสปา นวด รวมถึงที่พักค้างคืนด้วย
(เห็นคนญี่ปุ่นหลายคน แบกกระเป๋าลากกันมาเป็นครอบครัวกันเลยทีเดียว)
มีโซนเมืองจำลองสมัยก่อน ซึ่งจะเป็นร้านค้า ร้านอาหารต่างๆมากมาย
นอกจากนี้ยังมีใบปลิวคำอธิบายการใช้ออนเซนและแผนที่ภายในอาคารให้ด้วยค่ะ
หลังจากต่อแถวแล้ว เมื่อไปที่เคาเตอร์ พนักงานก็จะถามจำนวนคน
และมอบปลอกแขนที่มีกุญแจล็อกเกอร์ รวมถึงใช้ในการซื้อของและบริการอื่นๆในออนเซน
(ซึ่งจะนำมาคิดเงินทีหลังครั้งเดียว ตอนออกจากออนเซนนั้นเองค่ะ)
จากนั้นเราก็ไปเลือกชุดยูกาตะกันค่ะ ซึ่งจะมี 5 ลายให้เลือกตามใจชอบ
และเข้าไปเปลี่ยนในห้องแต่งตัวค่ะ (ห้ามถ่ายรูป)
แต่ไม่ใช่ห้องแต่งตัวมิดชิดแยกเป็นส่วนๆอย่างที่คิดค่ะ
เป็นแบบลอกเกอร์เรียงกันยาวๆ แล้วก็ถอดมันตรงนั้นเลยค่ะ
เหมือนในการ์ตูนญี่ปุ่นเป๊ะ สาวๆญี่ปุ่นก็ยืนหน้าลอกเกอร์ แล้วถอดเสื้อผ้ากันไปจนเหลือแต่ชุดวันเกิด
ในโซนแต่งตัว จะมีพร้อมทุกอย่างค่ะ ทั้งโต๊ะแต่งหน้า ไดร์เป่าผม หวี(อยู่ในตู้ฆ่าเชื้อด้วยแสงยูวีด้วย เริ่ดสุดๆ)
ระหว่างที่เราเดินออกมาก็จะเจอสาวๆที่แช่ออนเซนเสร็จแล้ว นั่งแต่งหน้าทำผมกันอยู่
และเนื่องจากเราไม่มีเวลาและไม่มั่นพอ (ฮา) เราจึงเลือกออนเซนเท้าอย่างเดียวค่ะ
โซนออนเซนเท้าเป็นกลางแจ้ง และเราไปช่วงกลางคืน อากาศก็ยิ่งเย็นค่ะ
ทางออนเซนก็มีเสื้อคลุมสีส้มให้ใส่ เพื่อไม่ต้องนั่งหนาวอยู่กลางแจ้งค่ะ
น้ำในบ่อร้อนมากค่ะ แช่เท้าได้ผ่อนคลายมากจริงๆ บรรยากาศก็ย้อนยุค น่านั่งมากๆ
หลังจากแช่เท้าเสร็จแล้ว เราก็ออกมาเดินเล่นด้านนอกค่ะ ซึ่งจัดเป็นเมืองจำลองสมัยเอโดะ
มีทั้งร้านอาหาร นั่งทาน ร้านขายของที่ระลึก ร้านเล่นเกมส์ เหมือนงานวัดญี่ปุ่นเลยค่ะ
แอบถ่ายเด็กน้อยเล่นเกมส์ตักของ
ถ่ายพาโนรามา (ด้านในไม่กว้างมากค่ะ แต่ก็ถือว่าได้บรรยากาศทีเดียว)
เสร็จจากออนเซนแล้ว เราก็มากันขึ้นชิงช้าสวรรค์กันค่ะ ค่าขึ้น 900 เยน
วิวจากชิงช้าสวรรค์สวยมากค่ะ เห็นทั้งเมืองเลยจริงๆ
จากชิงช้าสวรรค์เราก็เข้ามาที่โซนเกมส์เซ็นเตอร์ ที่อยู่ข้างๆกันค่ะ
ขอบอกว่า อยู่นานมากก เพราะติดกับดักของตู้หนีบละลายทรัพย์
รีวิวเฉพาะตู้หนีบค่ะ >> http://pantip.com/topic/31537716
จบทริปโอไดบะวันนี้ด้วยการถ่ายวิวสะพานเรนโบว์และเทพีเสรีภาพค่ะ