"สดศรี" สอนกกต.รุ่นน้อง
วางบทบาทเป็นกลาง ไม่เป็นคู่กรณีกับฝ่ายการเมือง
วัน ที่ 17 ม.ค. นางสดศรี สัตยธรม อดีตกกต.ด้านกิจการพรรคการเมืองกล่าวถึงกรณีที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์การทำ หน้าที่ของกกต.ในขณะนี้ ว่า ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 230 ได้กำหนดคุณสมบัติของผู้ที่ดำรงตำแหน่งเป็น กกต. ไว้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะการทำหน้าที่องค์กรอิสระที่รับผิดชอบเรื่องการจัดการเลือกตั้ง ซึ่งกระบวนการสรรหากกต. ต้องเป็นผู้ได้รับความไว้วางใจจากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาและ 7 องค์กรอิสระ และยังต้องผ่านการตรวจสอบจากรัฐสภาอย่างเข้มงวดกว่าจะได้มาเป็น กกต. ดังนั้น
กกต.จึงถือว่าเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ มีลักษณะพิเศษไม่ยุ่งทางการเมืองและมีความเป็นกลาง ซึ่งตั้งแต่มีองค์กร กกต.มา 15 ปี แทบไม่มีกกต.ชุดไหนไปเคยทะเลาะหรือพูดจามีปัญหากับฝ่ายการเมือง เพราะกกต.ต้องรู้ตัวเองว่าการวางตัวถือเป็นเรื่องสำคัญ
ต้องไม่กระทำการใดๆที่จะทำให้เกิดปัญหาทางสังคม รวมทั้งต้องระมัดระวังอย่างยิ่งที่จะไม่ทำให้องค์กรตกเป็นที่วิพากษ์ วิจารณ์
ส่วน กรณีที่กกต.เหมือนกลายเป็นคู่กรณีกับรัฐบาล นางสดศรีกล่าวว่า กรณีนี้น่าจะเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล เพราะพื้นฐานและพื้นเพทางจิตใจของแต่ละบุคคลไม่เหมือนกัน ซึ่ง
ตนในฐานะที่เป็นกกต.เก่า รู้สึกไม่ค่อยสบายใจในการทำงานของกกต.ชุดนี้ เนื่องจากทุกวันนี้บ้านเมืองมีความขัดแย้งแบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย
กกต.ต้องคำนึงว่าจะทำอย่างไรให้อยู่ตรงกลางมากที่สุด ต้องพิจารณาว่าสิ่งใดควรพูดและสิ่งใดไม่ควรพูด กกต.ชุดที่ตนยังดำรงตำแหน่งรู้ว่าอะไรที่ทำแล้วจะเสียหายก็ไม่ทำ เราจึงผ่านวิกฤติมาได้ อยู่ดำรงตำแหน่งจนครบวาระ 7 ปี ทั้งๆ ที่เราก็ทำงานท่ามกลางสถานการณ์ทางการเมืองหน้าสิ่วหน้าขวานมาตลอด
"
ในอนาคตข้างหน้ายังถือว่าน่ากลัวมาก ถ้าหากกกต.ยังถูกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ หรือทำตัวไม่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการหยิบยกเรื่องเลื่อนการเลือกตั้งหรือประเด็นอื่นๆที่จะให้ถูกโจมตี ถ้าหากฝ่ายต่างๆยังเห็นว่ากกต.ไม่สามารถทำหน้าที่ได้ ไม่แน่ถ้าหากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งต่อไป เขาอาจแก้ไขกฎหมายยุบองค์กรกกต. แล้วคืนอำนาจการเลือกตั้งกลับไปให้กระทรวงมหาดไทยก็ได้" อดีตกกต.กล่าว
ชี้กกต.ทำงานเป็นทีมไม่ใช่วันแมนโชว์
นาง สดศรีกล่าวอีกว่า การทำงานของกกต. เป็นรูปแบบของคณะกรรมการ แม้ว่ากกต.จะแบ่งความรับผิดชอบในแต่ละด้าน แต่สุดท้ายก็ต้องมีการประชุมหารือเพื่อลงมติ
ทั้ง 5 คนต้องทำงานกันเป็นทีม จะมาวันแมนโชว์ไม่ได้ เพราะหาก กกต.คนใดคนหนึ่งไปทำอะไรที่เสียหายต่อองค์กร กกต.ที่เหลือก็จะโดนไปด้วย ซึ่ง
ในเมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ตนเห็นแล้วเหนื่อยใจ เป็นกังวลว่าต่อไปอาจไม่มีกกต. เพราะตนก็ยังได้รับฟังคำบ่นจากเจ้าหน้าที่ กกต.ว่าไม่ค่อยสบายใจ หากกกต.ลองไปหยั่งเสียงทำแบบสอบถามจากเจ้าหน้าที่กกต.ดู ก็จะรู้ว่าขณะนี้เขารู้สึกอะไร อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ตนอยากเห็นกกต.ทั้ง 5 คนออกมาแถลงร่วมกันเพื่อแสดงถึงความเป็นเอกภาพในการทำงาน เพราะประชาชนแยกไม่ออกแล้วว่าตอนนี้ใครเป็นประธานกกต. และที่ผ่านมาเป็นการทำงานร่วมกันในนามกกต.ทั้งหมดหรือไม่
ยันยื่นศาลรธน.ตีความปมขัดแย้งระหว่างองค์กรไม่ได้-รัฐบาลไม่ได้แย่งอำนาจกกต.มาเลือกตั้ง
เมื่อ ถามว่าตามข้อกฎหมายแล้วสามารถเลื่อนการเลือกตั้งครั้งนี้ออกไปได้หรือไม่ นางสดศรีกล่าวว่า
ขณะนี้กระบวนการเลือกตั้งได้เริ่มไปแล้วกว่า 70 เปอร์เซนต์ ถ้าหากไม่มีการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ. นี้ แล้วงบประมาณที่ได้ใช้จ่ายไป ทั้งในเรื่องการรับสัคร การพิมพ์บัตรเลือกตั้ง การเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ ส่วนเรื่องข้อเสนอที่ กกต.อาจมีการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความในกรณีความขัดแย้งระหว่างองค์กร ระหว่างกกต.กับรัฐบาลนั้น ตนเห็นว่าการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความในกรณนี้ มันต้องเกิดข้อปัญหาเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของ 2 องค์กร และ
ในการเลือกตั้งครั้งนี้ รัฐบาลไม่ได้แย่งอำนาจมาจากกกต.แต่อย่างใด เพราะรัฐบาลก็ยอมรับแล้วว่าหน้าที่ในการจัดเลือกตั้งเป็นอำนาจของกกต.
ส่วนเรื่องการออกพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้งใหม่นั้น ยังเห็นว่ารัฐบาลไม่มีอำนาจในการออกพระราชกฤษฎีกาได้อีกแล้ว เพราะตามรัฐธรรมนูญมาตรา 181 ได้จำกัดอำนาจของรัฐบาลรักษาการ รวมทั้งไม่ได้ให้อำนาจรัฐบาลรักษาการในการออกพระราชกฤษฎีกาได้ใหม่
ข่าวสดออนไลน์ วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2557 เวลา 18:36 น.
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNNE9UazFPRFl6Tnc9PQ==&subcatid=
???????????????????????????????????????????
"...
ตนในฐานะที่เป็นกกต.เก่า รู้สึกไม่ค่อยสบายใจในการทำงานของกกต.ชุดนี้ ..."
"...ในเมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้
ตนเห็นแล้วเหนื่อยใจ เป็นกังวลว่าต่อไปอาจไม่มีกกต. เพราะตนก็ยังได้รับฟังคำบ่นจากเจ้าหน้าที่ กกต.ว่าไม่ค่อยสบายใจ หากกกต.ลองไปหยั่งเสียงทำแบบสอบถามจากเจ้าหน้าที่กกต.ดู ก็จะรู้ว่าขณะนี้เขารู้สึกอะไร ..."
"...
ในการเลือกตั้งครั้งนี้ รัฐบาลไม่ได้แย่งอำนาจมาจากกกต.แต่อย่างใด...ส่วนเรื่อง
การออกพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้งใหม่นั้น ยังเห็นว่ารัฐบาลไม่มีอำนาจในการออกพระราชกฤษฎีกาได้อีกแล้ว..."
อะไรจะประจานกันได้ชัดเจนและได้น้ำได้เนื้อถึงเพียงนี้
งามไส้นักนะ กกต.อดีตพิธีกรช่องบลูสกาย
เอียงกระเท่เร่มาตั้งแต่ปากซอยแบบนี้ผ่านขั้นตอนเฮงซวยมาได้ด้วยเหตุผลใดมิทราบ....
นี่ประเทศไทยจริงๆ ซึ่งเป็นประเทศของผู้ทรงคุณธรรมทั้งแผ่นดิน
หรือผมฝันไป....ฝันว่าอยู่บ้านป่าเมืองเถื่อนแถวทะเลทรายซาฮาร่า..???
"สดศรี" สอนกกต.รุ่นน้อง วางบทบาทเป็นกลาง ไม่เป็นคู่กรณีกับฝ่ายการเมือง...แม้แต่ปลาข้องเดียวกันยังทนเหม็นไม่ไหว เน่าจริงๆ
วัน ที่ 17 ม.ค. นางสดศรี สัตยธรม อดีตกกต.ด้านกิจการพรรคการเมืองกล่าวถึงกรณีที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์การทำ หน้าที่ของกกต.ในขณะนี้ ว่า ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 230 ได้กำหนดคุณสมบัติของผู้ที่ดำรงตำแหน่งเป็น กกต. ไว้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะการทำหน้าที่องค์กรอิสระที่รับผิดชอบเรื่องการจัดการเลือกตั้ง ซึ่งกระบวนการสรรหากกต. ต้องเป็นผู้ได้รับความไว้วางใจจากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาและ 7 องค์กรอิสระ และยังต้องผ่านการตรวจสอบจากรัฐสภาอย่างเข้มงวดกว่าจะได้มาเป็น กกต. ดังนั้น กกต.จึงถือว่าเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ มีลักษณะพิเศษไม่ยุ่งทางการเมืองและมีความเป็นกลาง ซึ่งตั้งแต่มีองค์กร กกต.มา 15 ปี แทบไม่มีกกต.ชุดไหนไปเคยทะเลาะหรือพูดจามีปัญหากับฝ่ายการเมือง เพราะกกต.ต้องรู้ตัวเองว่าการวางตัวถือเป็นเรื่องสำคัญ ต้องไม่กระทำการใดๆที่จะทำให้เกิดปัญหาทางสังคม รวมทั้งต้องระมัดระวังอย่างยิ่งที่จะไม่ทำให้องค์กรตกเป็นที่วิพากษ์ วิจารณ์
ส่วน กรณีที่กกต.เหมือนกลายเป็นคู่กรณีกับรัฐบาล นางสดศรีกล่าวว่า กรณีนี้น่าจะเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล เพราะพื้นฐานและพื้นเพทางจิตใจของแต่ละบุคคลไม่เหมือนกัน ซึ่งตนในฐานะที่เป็นกกต.เก่า รู้สึกไม่ค่อยสบายใจในการทำงานของกกต.ชุดนี้ เนื่องจากทุกวันนี้บ้านเมืองมีความขัดแย้งแบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย กกต.ต้องคำนึงว่าจะทำอย่างไรให้อยู่ตรงกลางมากที่สุด ต้องพิจารณาว่าสิ่งใดควรพูดและสิ่งใดไม่ควรพูด กกต.ชุดที่ตนยังดำรงตำแหน่งรู้ว่าอะไรที่ทำแล้วจะเสียหายก็ไม่ทำ เราจึงผ่านวิกฤติมาได้ อยู่ดำรงตำแหน่งจนครบวาระ 7 ปี ทั้งๆ ที่เราก็ทำงานท่ามกลางสถานการณ์ทางการเมืองหน้าสิ่วหน้าขวานมาตลอด
"ในอนาคตข้างหน้ายังถือว่าน่ากลัวมาก ถ้าหากกกต.ยังถูกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ หรือทำตัวไม่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการหยิบยกเรื่องเลื่อนการเลือกตั้งหรือประเด็นอื่นๆที่จะให้ถูกโจมตี ถ้าหากฝ่ายต่างๆยังเห็นว่ากกต.ไม่สามารถทำหน้าที่ได้ ไม่แน่ถ้าหากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งต่อไป เขาอาจแก้ไขกฎหมายยุบองค์กรกกต. แล้วคืนอำนาจการเลือกตั้งกลับไปให้กระทรวงมหาดไทยก็ได้" อดีตกกต.กล่าว
ชี้กกต.ทำงานเป็นทีมไม่ใช่วันแมนโชว์
นาง สดศรีกล่าวอีกว่า การทำงานของกกต. เป็นรูปแบบของคณะกรรมการ แม้ว่ากกต.จะแบ่งความรับผิดชอบในแต่ละด้าน แต่สุดท้ายก็ต้องมีการประชุมหารือเพื่อลงมติ ทั้ง 5 คนต้องทำงานกันเป็นทีม จะมาวันแมนโชว์ไม่ได้ เพราะหาก กกต.คนใดคนหนึ่งไปทำอะไรที่เสียหายต่อองค์กร กกต.ที่เหลือก็จะโดนไปด้วย ซึ่งในเมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ตนเห็นแล้วเหนื่อยใจ เป็นกังวลว่าต่อไปอาจไม่มีกกต. เพราะตนก็ยังได้รับฟังคำบ่นจากเจ้าหน้าที่ กกต.ว่าไม่ค่อยสบายใจ หากกกต.ลองไปหยั่งเสียงทำแบบสอบถามจากเจ้าหน้าที่กกต.ดู ก็จะรู้ว่าขณะนี้เขารู้สึกอะไร อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ตนอยากเห็นกกต.ทั้ง 5 คนออกมาแถลงร่วมกันเพื่อแสดงถึงความเป็นเอกภาพในการทำงาน เพราะประชาชนแยกไม่ออกแล้วว่าตอนนี้ใครเป็นประธานกกต. และที่ผ่านมาเป็นการทำงานร่วมกันในนามกกต.ทั้งหมดหรือไม่
ยันยื่นศาลรธน.ตีความปมขัดแย้งระหว่างองค์กรไม่ได้-รัฐบาลไม่ได้แย่งอำนาจกกต.มาเลือกตั้ง
เมื่อ ถามว่าตามข้อกฎหมายแล้วสามารถเลื่อนการเลือกตั้งครั้งนี้ออกไปได้หรือไม่ นางสดศรีกล่าวว่า ขณะนี้กระบวนการเลือกตั้งได้เริ่มไปแล้วกว่า 70 เปอร์เซนต์ ถ้าหากไม่มีการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ. นี้ แล้วงบประมาณที่ได้ใช้จ่ายไป ทั้งในเรื่องการรับสัคร การพิมพ์บัตรเลือกตั้ง การเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ ส่วนเรื่องข้อเสนอที่ กกต.อาจมีการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความในกรณีความขัดแย้งระหว่างองค์กร ระหว่างกกต.กับรัฐบาลนั้น ตนเห็นว่าการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความในกรณนี้ มันต้องเกิดข้อปัญหาเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของ 2 องค์กร และในการเลือกตั้งครั้งนี้ รัฐบาลไม่ได้แย่งอำนาจมาจากกกต.แต่อย่างใด เพราะรัฐบาลก็ยอมรับแล้วว่าหน้าที่ในการจัดเลือกตั้งเป็นอำนาจของกกต. ส่วนเรื่องการออกพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้งใหม่นั้น ยังเห็นว่ารัฐบาลไม่มีอำนาจในการออกพระราชกฤษฎีกาได้อีกแล้ว เพราะตามรัฐธรรมนูญมาตรา 181 ได้จำกัดอำนาจของรัฐบาลรักษาการ รวมทั้งไม่ได้ให้อำนาจรัฐบาลรักษาการในการออกพระราชกฤษฎีกาได้ใหม่
ข่าวสดออนไลน์ วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2557 เวลา 18:36 น.
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNNE9UazFPRFl6Tnc9PQ==&subcatid=
???????????????????????????????????????????
"...ตนในฐานะที่เป็นกกต.เก่า รู้สึกไม่ค่อยสบายใจในการทำงานของกกต.ชุดนี้ ..."
"...ในเมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ตนเห็นแล้วเหนื่อยใจ เป็นกังวลว่าต่อไปอาจไม่มีกกต. เพราะตนก็ยังได้รับฟังคำบ่นจากเจ้าหน้าที่ กกต.ว่าไม่ค่อยสบายใจ หากกกต.ลองไปหยั่งเสียงทำแบบสอบถามจากเจ้าหน้าที่กกต.ดู ก็จะรู้ว่าขณะนี้เขารู้สึกอะไร ..."
"...ในการเลือกตั้งครั้งนี้ รัฐบาลไม่ได้แย่งอำนาจมาจากกกต.แต่อย่างใด...ส่วนเรื่องการออกพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้งใหม่นั้น ยังเห็นว่ารัฐบาลไม่มีอำนาจในการออกพระราชกฤษฎีกาได้อีกแล้ว..."
อะไรจะประจานกันได้ชัดเจนและได้น้ำได้เนื้อถึงเพียงนี้
งามไส้นักนะ กกต.อดีตพิธีกรช่องบลูสกาย
เอียงกระเท่เร่มาตั้งแต่ปากซอยแบบนี้ผ่านขั้นตอนเฮงซวยมาได้ด้วยเหตุผลใดมิทราบ....
นี่ประเทศไทยจริงๆ ซึ่งเป็นประเทศของผู้ทรงคุณธรรมทั้งแผ่นดิน
หรือผมฝันไป....ฝันว่าอยู่บ้านป่าเมืองเถื่อนแถวทะเลทรายซาฮาร่า..???