วันนี้ลูกได้แผลใหญ่และลึกมาก แม่ร้องไห้ ลูกไม่ร้อง ลูกกลับเช็ดน้ำตาให้แม่แล้วถามแม่ว่า “หม่าม๊าเจ็บมั้ย”

เพียงเสี้ยวนาทีที่แม่ไม่ทันได้มอง ลูกพลาดวิ่งสะดุดหกล้มในบ้าน บ้านที่แม่คิดว่าปลอดภัยแล้ว แต่โชคร้ายที่ล้มไปใส่ตะกร้าผ้า ที่ยังมีส่วนที่คมพอจะทำให้ลูกมีแผล พอลูกล้มเสียงดังตุ๊บและโครมเบา ๆ พร้อมกับเสียงแผดร้องดังขึ้น แม่รีบไปถึงตัวลูกคว้ามาใส่อกโดยไม่ทันได้สำรวจดูแผลตรงไหนเลย แม่เปิดเต้าก่อนสิ่งอื่นใด เพราะรู้ดีว่าเต้าอุ่น ๆ ของแม่จะช่วยให้ลูกหายตกใจได้ จำได้ว่าลูกร้องไปแค่ 3 แว๊ก แล้วเงียบเพราะมีบางสิ่งอุดปากน้อย ๆ ได้ทันเวลา ไม่รู้เจ็บหรือไม่เจ็บ รู้แต่ลูกตั้งหน้าตั้งตาดูดนมจ๊วบ ๆ ไม่มีเสียงร้องออกมาอีกซักแอะเดียว
น้ำตาหยดเล็ก ๆ ซึมออกมาเล็กน้อยตรงหางตาลูก พร้อมกับเลือดแดงสดซึมออกมาเป็นทางตรงสันจมูก ตอนนี้แหละที่แม่ได้เห็น แผลที่กว้างประมาณ 1 เซนติเมตรและค่อนข้างลึกมาก แผลเปิดอ้าออกให้เห็นเนื้อข้างใน อยู่ในแนวขวาง คาดระหว่างตาทั้งสองข้าง อีกนิดเดียวก็จะถึงตาแล้ว น้ำตาแม่ไหลออกมาเป็นทางทันที ในใจพร่ำบอกลูกว่าแม่ขอโทษ ๆ แม่ไม่ควรเอาของสิ่งนี้วางไว้ตรงนี้ แม่ไม่ควรปล่อยให้ลูกวิ่งเล่น โดยไม่คอยระวัง เลือดยังคงไหลลงมาช้า ๆ ตรงร่องจมูก แม่ไม่กล้าแม้แต่จะซับเลือด เพราะกลัวลูกเจ็บ น้ำตาของแม่ที่ไหลเป็นทาง ทำให้ลูกยกมือขึ้นมาลูบหน้าแม่
แม่ : “เพชรเจ็บมั้ยลูก”
เพชร : พยักหน้าหงึก ๆ ยังคงดูดนมต่อไม่พูดอะไร
แม่ : “แม่ขอโทษนะลูก”
ปากน้อย ๆ ยอมผละออกจากนมแม่พร้อมกับเอามือน้อย ๆ ลูบน้ำตาบนหน้าแม่
น้ำตาแม่ยิ่งพังเป็นทำนบแตกเมื่อลูกพูดว่า “หม่าม๊าเช็ดน้ำตา”
เพชรเรียกแม่ว่าหม่าม๊า ไม่ยอมเรียกแม่ ไม่ทราบเหตุผล
เพชร : “หม่าม๊าเจ็บมั้ย”
แม่ : “แม่ไม่เจ็บเลยลูกไม่เจ็บซักนิดเลย” น้ำตาแม่ยังคงไหลเป็นทาง
พ่อเดินเอาสำลีมาซับเลือดแดงสดบนผิวขาว ๆ อย่างแผ่วเบา
เพชร : “ป่าป๊า..เพชรเจ็บมาก”
พ่อ : “เจ็บแป๊บเดียวเดี๋ยวก็หายลูก”
เพชร : “เหยอ ๆ”
พ่อ : “ค้าบ เดี๋ยวนอนหลับตื่นขึ้นก็หายนะ”
เพชร : “หม่าม๊าไปนอนกินนมกัน”

เพียง 5 นาทีต่อมา เพชรก็นอนหลับสนิทบนเตียงในห้อง ไม่มีเสียงสะอื้นเพราะไม่ได้ร้องไห้ พ่อตามไปแอบเช็ดแผลหลังลูกหลับ เด็กวัย 2 ขวบกับแผลใหญ่ขนาดนี้ คงเจ็บมากจริง ๆ

คืนนี้มองเห็นแผลลูกอีกกี่ครั้ง แม่ก็ยังคงร้องไห้ ยังคงนอนไม่หลับ นั่งทำงาน พร้อมฟังเสียงหายใจเบา ๆ ของลูก ยังพะวง วนเวียนดูแผลของลูก กลัวลูกเกาแผล กลัวเลือดไหลอีก

วันนี้สิ่งที่ได้รู้คือ
- บทเรียนที่แม่จะต้องระมัดระวังมากกว่านี้ เพราะลูกกำลังอยู่ในวัยซนเผลอไม่ได้จริง ๆ ตั้งแต่เกิดมาลูกไม่เคยได้รับแผลที่ใหญ่ขนาดนี้ และเป็นแผลที่เกิดจากความผิดของแม่จริงๆ
- ความทุ่มเทของแม่ไม่สูญเปล่า เพชรเป็นเด็กที่มีกำลังใจดีมาก เพราะแม่เชื่อมั่นว่าเด็กที่ได้รับความรักความอบอุ่นจากพ่อและแม่อย่างเต็มที่ จะมีจิตใจที่เข้มแข็ง มั่นคง และมีกำลังใจดี
- ความตั้งใจของแม่ที่จะให้ลูกดื่มนมแม่ไปจนกว่าลูกจะขอเลิกเอง ท่ามกลางเสียงคัดค้านมากมายว่ามีข้อเสียต่าง ๆ นา ๆ ก็ไม่สูญเปล่าเช่นกัน แม่ไม่รู้หรอกว่าถูกต้องมั้ย ที่ลูกร้องแล้วแม่ใช้นมแม่เป็นตัวทำให้หยุด แม่รู้แต่ว่าลูกแม่อุ่นใจทุกครั้งที่ได้นอนแนบอกอุ่น ๆ ของแม่ และแม่จะยังคงยึดมั่นในอุดมการณ์ต่อไป เพชรยังคงสามารถไปโรงเรียนได้แม้จะไม่มีเต้าแม่ที่โรงเรียน นั่นก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเพชรไม่ได้ติดเต้าจนออกจากอกแม่ไปเข้าสังคมไม่ได้ เพียงแค่เมื่อกลับบ้านมาเจอหน้าแม่สิ่งแรกที่ทำคือเปิดเสื้อแม่ค้นหานมเท่านั้นเอง สักวันนึงเมื่อถึงเวลาเพชรก็คงจะเป็นคนบอกแม่เองว่าเพชรไม่จำเป็นต้องใช้เต้าแม่ละนะ
- พ่อบอกว่า แผลแค่นี้เอง ลูกผู้ชาย ไม่มีแผลก็แปลกละ มีแผลเป็นบ้างนิดหน่อยจะเป็นไรไป ร้องไห้เกินไปละคุณแม่ เลิกวิตกกังวลอะไรเกินเหตุได้แล้ว

แต่แม่ว่า ยังไงแม่ก็ไม่อยากให้ลูกมีแผล หรือแผลเป็นอยู่ดีนั่นแหละ หรือว่า...แม่นี่แหละที่วิตกจริตจนเกินไป

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่