เป็นคำถามที่คลาสิคอยู่ประมาณนึงครับน้อง
ว่ากันว่า ชีวิตจะเปลี่ยน หรือ คือ จะดี ก็ต่อเมื่อตั้งคำถามได้ถูกต้อง เฉกเช่นเดียวกับ กูกเกิล สตาร์บัค หรือ ใครอต่อใคร ที่ประสบความสำเร็จทำ
กล่าวคือ asking the right question เช่น
เป้าหมายของน้องคืออะไร (Objective) ซึ่งหมายถึง ระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว นะครับ
ตัวอย่าง กรณีของน้อง การตั้งคำถามดังกล่าวประมาณว่า rely base on การศึกษา การทำงาน ชีวิต ถูกเชื่ี่อมโยงกันแบบแพะชนแกะ
เป็นต้น ว่า "ระหว่างรอรับปริญญา9เดือน จะไปเรียนภาษาที่สาม ที่ตปท. ซัก8-9เดือน
เพราะเกรดไม่ค่อยดี ไม่ถึง3.00 เลยอยากได้Profileด้านภาษามาเสริม"
เสมือนหนึ่ง เชื่อเสียสนิทว่า ภาษาที่สามจะทำให้หางานได้ด้วยเชื่อว่ามันจะทำให้ profile ดี ก็ไม่ผิดนะครับ
3.00 อันนี้ พี่ has no comment นะครับ มันดีสำหรับการก้าวเข้าสู่อะไรบางอย่าง
ในขณะเดียวกัน มัน nothihng สำหรับบางอย่าง
"เพื่อน(ที่เกรดดีๆ) แนะนำว่า น่าจะหางานทำเลย เพราะจบก่อนเพื่อน มีโอกาสหางานมากกว่าคนอื่น
ไปเรียนภาษากลับมา ก็ใช่ว่าจะได้ใช้งาน หรือช่วยให้ได้งานดีกว่าคนอื่นๆ สู้พวกเกรดดีไม่ได้หรอก (ฟังละเงิบ)
ผมเลยสับสนอยู่ว่าควรหางานทำเลย หรือเรียนภาษาก่อนดีดีครับ"
แต่ ตั้งสติ แล้ว โฟกัสนิด ว่า ตัวเองมีเป้าหมาย หรือ เป้าประสงค์ ว่าอย่างไร
พระพุทธเจ้า สอนว่า (ขออภัย พอดีพี่เป็นพุทธ )
1. อย่าเชื่อโดยคนอื่นบอกท่าน
2. ตนเป็นที่พี่แห่งตน
If this is the case, อย่างกรณที่น้องบอกว่า น้องอยากเป็นสจ๊วต ลองบอกพี่ทีซิว่า ทำไมน้องจะเป็นไม่ได้
อีกอย่าง ที่น้องบอกว่า แล้วค่อยเรียน ป โท สาขาที่ชอบ
น้องเห็นมั้ยว่าสิ่งที่ชอบ (ซึ่งก็น่าจะเป็น Objective ของน้อง) ถูกเลื่อนออกไปหลายปีด้วยเหตุผลที่เป็น good excuse เช่น จะทำงานก่อน หรือ ต่าง ๆ นานา ซึ่งมันก็ไม่ผิด แต่มันจะผิดประเด็นก็ตรงที่ว่าคุณต้องการอะไ แล้วทำไมไม่มุ่งมั่นทำสิ่งนั้นให้ดี
แล้วมันก็ผิดอะไรหากระหว่างทางน้องมีแรงบันดาลในใหม่ ๆ หรือ ได้ค้นพบว่าอะไรเหมาะกับเรา เพราะมันก็เป็น process หรือกระบวนการโดยธรรมชาติอยู่แล้ว
ที่สำคัญ อย่าให้คนอื่นมาใช้ชีวิตเรา เราเป็นเจ้าของชีวิตเรา
อยากทำอะไรทำ อย่าให้ใครมาดับฝันของเรา
เอาใจช่วย
ตอบคคำถามน้องคนนึง
ว่ากันว่า ชีวิตจะเปลี่ยน หรือ คือ จะดี ก็ต่อเมื่อตั้งคำถามได้ถูกต้อง เฉกเช่นเดียวกับ กูกเกิล สตาร์บัค หรือ ใครอต่อใคร ที่ประสบความสำเร็จทำ
กล่าวคือ asking the right question เช่น
เป้าหมายของน้องคืออะไร (Objective) ซึ่งหมายถึง ระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว นะครับ
ตัวอย่าง กรณีของน้อง การตั้งคำถามดังกล่าวประมาณว่า rely base on การศึกษา การทำงาน ชีวิต ถูกเชื่ี่อมโยงกันแบบแพะชนแกะ
เป็นต้น ว่า "ระหว่างรอรับปริญญา9เดือน จะไปเรียนภาษาที่สาม ที่ตปท. ซัก8-9เดือน
เพราะเกรดไม่ค่อยดี ไม่ถึง3.00 เลยอยากได้Profileด้านภาษามาเสริม"
เสมือนหนึ่ง เชื่อเสียสนิทว่า ภาษาที่สามจะทำให้หางานได้ด้วยเชื่อว่ามันจะทำให้ profile ดี ก็ไม่ผิดนะครับ
3.00 อันนี้ พี่ has no comment นะครับ มันดีสำหรับการก้าวเข้าสู่อะไรบางอย่าง
ในขณะเดียวกัน มัน nothihng สำหรับบางอย่าง
"เพื่อน(ที่เกรดดีๆ) แนะนำว่า น่าจะหางานทำเลย เพราะจบก่อนเพื่อน มีโอกาสหางานมากกว่าคนอื่น
ไปเรียนภาษากลับมา ก็ใช่ว่าจะได้ใช้งาน หรือช่วยให้ได้งานดีกว่าคนอื่นๆ สู้พวกเกรดดีไม่ได้หรอก (ฟังละเงิบ)
ผมเลยสับสนอยู่ว่าควรหางานทำเลย หรือเรียนภาษาก่อนดีดีครับ"
แต่ ตั้งสติ แล้ว โฟกัสนิด ว่า ตัวเองมีเป้าหมาย หรือ เป้าประสงค์ ว่าอย่างไร
พระพุทธเจ้า สอนว่า (ขออภัย พอดีพี่เป็นพุทธ )
1. อย่าเชื่อโดยคนอื่นบอกท่าน
2. ตนเป็นที่พี่แห่งตน
If this is the case, อย่างกรณที่น้องบอกว่า น้องอยากเป็นสจ๊วต ลองบอกพี่ทีซิว่า ทำไมน้องจะเป็นไม่ได้
อีกอย่าง ที่น้องบอกว่า แล้วค่อยเรียน ป โท สาขาที่ชอบ
น้องเห็นมั้ยว่าสิ่งที่ชอบ (ซึ่งก็น่าจะเป็น Objective ของน้อง) ถูกเลื่อนออกไปหลายปีด้วยเหตุผลที่เป็น good excuse เช่น จะทำงานก่อน หรือ ต่าง ๆ นานา ซึ่งมันก็ไม่ผิด แต่มันจะผิดประเด็นก็ตรงที่ว่าคุณต้องการอะไ แล้วทำไมไม่มุ่งมั่นทำสิ่งนั้นให้ดี
แล้วมันก็ผิดอะไรหากระหว่างทางน้องมีแรงบันดาลในใหม่ ๆ หรือ ได้ค้นพบว่าอะไรเหมาะกับเรา เพราะมันก็เป็น process หรือกระบวนการโดยธรรมชาติอยู่แล้ว
ที่สำคัญ อย่าให้คนอื่นมาใช้ชีวิตเรา เราเป็นเจ้าของชีวิตเรา
อยากทำอะไรทำ อย่าให้ใครมาดับฝันของเรา
เอาใจช่วย