ข้าราชการต้องยืนข้างประชาชน จิรพงษ์ เต็มเปี่ยม แนวหน้าออนไลน์
ผมฟันธงว่า คณะของยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จบแบบศพไม่สวย
การที่เธอและพวกประกาศไม่รับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ แก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อพวกพ้อง
รวมทั้งพยายามออกกฎหมายล้างผิดให้คนโกง พยายามกู้เงิน 2 ล้านล้าน ให้คนไทยเป็น
หนี้ตลอดชาติ สิ่งเหล่านี้ถือเป็นจุดจบของคนเหล่านี้
มวลมหาประชาชนทั่วประเทศออกมาขับไล่คณะของยิ่งลักษณ์ ข้าราชการหลายส่วนก็
ออกมายืนข้างประชาชน ทั้งเปิดเผยและไม่เปิดเผยไม่ช้าไม่นานมวลมหาประชาชนจะได้
ฉลองชัยชนะกัน
นายแพทย์ชูชัย ศุภวงศ์ อดีตรองประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ 2550 และ
อดีตประธานชมรมแพทย์ชนบท ออกมาชื่นชมประชาคมสาธารณสุข นำโดย นพ.ณรงค์
สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ที่มีความกล้าหาญทางจริยธรรมใช้เสรีภาพตาม
รัฐธรรมนูญแสดงออกด้วยความบริสุทธิ์ใจ เรียกร้องให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ลาออกจากรักษา
การนายกฯเพื่อเปิดทางให้มีการปฏิรูปประเทศก่อนการเลือกตั้ง
ผมเองก็ชื่นชมคุณหมอและข้าราชการอื่นๆ ทั้งกำนันผู้ใหญ่บ้านพนักงานรัฐวิสาหกิจ ที่ออก
มาปฏิบัติภารกิจกู้ชาติในหนนี้ หากข้าราชการทุกกระทรวง ทบวง กรม ทุกสังกัดทำหน้าที่
ของข้าราชการที่ดี จะเป็นที่พึ่งของบ้านเมืองได้ เพราะที่ผ่านมากว่าหนึ่งทศวรรษ ศักดิ์ศรีของ
ข้าราชการถูกทำลายลงแทบหมดสิ้น ใครอยากได้ตำแหน่งแห่งอำนาจวาสนาต้องไปขอจาก
ผู้มีอำนาจนอกประเทศ
การเคลื่อนไหวของประชาคมสาธารณสุขและชมรมแพทยชนบทที่ผ่านมา และข้าราชการส่วนอื่นๆ
ทั่วประเทศล้วนสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 64 ที่สนับสนุนให้ข้าราชการ
และเจ้าหน้าที่ของรัฐมีเสรีภาพในการรวมตัวกันเช่นเดียวกับบุคคลทั่วไป เพราะการเรียกร้องล้วน
อยู่ในกรอบสันติ อหิงสา เคารพรัฐธรรมนูญ ไม่ได้เรียกร้องให้ทำรัฐประหารหรือสนับสนุนเผด็จการ
รัฐสภาระบอบทุนสามานย์
นอกจากนี้พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มาตรา81 ที่บัญญัติว่า “ข้าราชการพลเรือน
สามัญต้องสนับสนุนการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขด้วยความ
บริสุทธิ์ใจ”
ดังนั้น หน้าที่เพื่อประโยชน์สาธารณะดังกล่าวจึงเป็นหน้าที่อันสำคัญยิ่งที่ข้าราชการพึงแสดงออก
ได้ทุกสถานที่แม้ว่าจะเป็นที่ทำการของราชการและทุกเวลาโดยไม่มีข้อจำกัดตราบเท่าที่ไม่ก่อ
ความเดือดร้อนเสียหายแก่สังคม
อีกทั้งปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนและกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและ
สิทธิทางการเมือง ข้อ 18 และ19 ที่ไทยเป็นภาคี ประกันว่าบุคคลทุกคนมีสิทธิในการแสดง
ความเห็นด้วยมโนสำนึกแห่งตนในความเชื่อเรื่องความถูกต้องดีงาม ต้องไม่ถูกแทรกแซง และ
รัฐไม่สามารถจำกัดยับยั้งสิทธิดังกล่าวได้ และอย่าลืมว่ารัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 82 บัญญัติไว้
ชัดเจนว่า รัฐต้องปฏิบัติตามสนธิสัญญาด้านสิทธิมนุษยชนที่ไทยเป็นภาคี
ข้าราชการท่านใดที่ยังลังเลอยู่รีบตัดสินใจนะครับ อยู่กับประชาชนมีความอบอุ่นปลอดภัย มีเกียรติยศ
มีศักดิ์ศรี ดีกว่าอยู่กับนักการเมืองขี้ฉ้อขี้โกงขี้ข้าระบอบทักษิณ
http://www.naewna.com/politic/columnist/10578
ถึงจะเป็นขี้ข้าระบอบทักษิณ เขาก็เป็นคนเลือกเอง แต่วันนี้ กปปส. เดินข่มขู่
ข้าราชการไม่ให้ทำงาน ปิดสถานที่ทำการ กปปส.กำลังบังคับ ข้าราชการให้เป็น
วงขี้ข้า กปปส. หรือเปล่า เพราะกำลังเรียกร้องขัดขวาง การเลือกตั้ง ????
แนวหน้า ชักชวนข้าราชการ ยืนเคียงข้างประชาชน ..... ประชาชนของกปปส. หรือประชาชนที่อยากเลือกตั้ง ?????
ผมฟันธงว่า คณะของยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จบแบบศพไม่สวย
การที่เธอและพวกประกาศไม่รับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ แก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อพวกพ้อง
รวมทั้งพยายามออกกฎหมายล้างผิดให้คนโกง พยายามกู้เงิน 2 ล้านล้าน ให้คนไทยเป็น
หนี้ตลอดชาติ สิ่งเหล่านี้ถือเป็นจุดจบของคนเหล่านี้
มวลมหาประชาชนทั่วประเทศออกมาขับไล่คณะของยิ่งลักษณ์ ข้าราชการหลายส่วนก็
ออกมายืนข้างประชาชน ทั้งเปิดเผยและไม่เปิดเผยไม่ช้าไม่นานมวลมหาประชาชนจะได้
ฉลองชัยชนะกัน
นายแพทย์ชูชัย ศุภวงศ์ อดีตรองประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ 2550 และ
อดีตประธานชมรมแพทย์ชนบท ออกมาชื่นชมประชาคมสาธารณสุข นำโดย นพ.ณรงค์
สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ที่มีความกล้าหาญทางจริยธรรมใช้เสรีภาพตาม
รัฐธรรมนูญแสดงออกด้วยความบริสุทธิ์ใจ เรียกร้องให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ลาออกจากรักษา
การนายกฯเพื่อเปิดทางให้มีการปฏิรูปประเทศก่อนการเลือกตั้ง
ผมเองก็ชื่นชมคุณหมอและข้าราชการอื่นๆ ทั้งกำนันผู้ใหญ่บ้านพนักงานรัฐวิสาหกิจ ที่ออก
มาปฏิบัติภารกิจกู้ชาติในหนนี้ หากข้าราชการทุกกระทรวง ทบวง กรม ทุกสังกัดทำหน้าที่
ของข้าราชการที่ดี จะเป็นที่พึ่งของบ้านเมืองได้ เพราะที่ผ่านมากว่าหนึ่งทศวรรษ ศักดิ์ศรีของ
ข้าราชการถูกทำลายลงแทบหมดสิ้น ใครอยากได้ตำแหน่งแห่งอำนาจวาสนาต้องไปขอจาก
ผู้มีอำนาจนอกประเทศ
การเคลื่อนไหวของประชาคมสาธารณสุขและชมรมแพทยชนบทที่ผ่านมา และข้าราชการส่วนอื่นๆ
ทั่วประเทศล้วนสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 64 ที่สนับสนุนให้ข้าราชการ
และเจ้าหน้าที่ของรัฐมีเสรีภาพในการรวมตัวกันเช่นเดียวกับบุคคลทั่วไป เพราะการเรียกร้องล้วน
อยู่ในกรอบสันติ อหิงสา เคารพรัฐธรรมนูญ ไม่ได้เรียกร้องให้ทำรัฐประหารหรือสนับสนุนเผด็จการ
รัฐสภาระบอบทุนสามานย์
นอกจากนี้พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มาตรา81 ที่บัญญัติว่า “ข้าราชการพลเรือน
สามัญต้องสนับสนุนการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขด้วยความ
บริสุทธิ์ใจ”
ดังนั้น หน้าที่เพื่อประโยชน์สาธารณะดังกล่าวจึงเป็นหน้าที่อันสำคัญยิ่งที่ข้าราชการพึงแสดงออก
ได้ทุกสถานที่แม้ว่าจะเป็นที่ทำการของราชการและทุกเวลาโดยไม่มีข้อจำกัดตราบเท่าที่ไม่ก่อ
ความเดือดร้อนเสียหายแก่สังคม
อีกทั้งปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนและกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและ
สิทธิทางการเมือง ข้อ 18 และ19 ที่ไทยเป็นภาคี ประกันว่าบุคคลทุกคนมีสิทธิในการแสดง
ความเห็นด้วยมโนสำนึกแห่งตนในความเชื่อเรื่องความถูกต้องดีงาม ต้องไม่ถูกแทรกแซง และ
รัฐไม่สามารถจำกัดยับยั้งสิทธิดังกล่าวได้ และอย่าลืมว่ารัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 82 บัญญัติไว้
ชัดเจนว่า รัฐต้องปฏิบัติตามสนธิสัญญาด้านสิทธิมนุษยชนที่ไทยเป็นภาคี
ข้าราชการท่านใดที่ยังลังเลอยู่รีบตัดสินใจนะครับ อยู่กับประชาชนมีความอบอุ่นปลอดภัย มีเกียรติยศ
มีศักดิ์ศรี ดีกว่าอยู่กับนักการเมืองขี้ฉ้อขี้โกงขี้ข้าระบอบทักษิณ
http://www.naewna.com/politic/columnist/10578
ถึงจะเป็นขี้ข้าระบอบทักษิณ เขาก็เป็นคนเลือกเอง แต่วันนี้ กปปส. เดินข่มขู่
ข้าราชการไม่ให้ทำงาน ปิดสถานที่ทำการ กปปส.กำลังบังคับ ข้าราชการให้เป็น
วงขี้ข้า กปปส. หรือเปล่า เพราะกำลังเรียกร้องขัดขวาง การเลือกตั้ง ????