เมื่ออภิสิทธิ์ชนออกปั่นป่วนกรุงเทพพยายามล้มวัฒนธรรมของสามัญชน เพื่อให้ได้อำนาจเป็นรัฐบาลเท่านั้นเอง

อ.นันทนาบอกว่า ; ,ม้นคือการให้กุญแจรถแก่คนเมา หัวหน้าเท้งบอกว่า ; เพื่อให้อนุทินมายุบสภา เพื่อไทยบอกว่า ; ถ้าไม่บ้าก็เมา ข้อเท็จจริง ; มวลชนหายไปเกือบครึ่งหรือเกินครึ่ง ถ้าเลือกตั้งคราวหน้าได้ สส.

น่าสงสารชนชั้นสูงของเมืองไทย ไม่สามารถอยู่ในสังคมที่มีการเลือกตั้งได้เลยต้องเดินไปเดินมาปิดโน่นปิดนี่รอรัฐประหาร หลงตัวเองว่าสูงส่งกว่าประชาชนคนธรรมดา ประชาชนเขาจะเลือกตั้งผู้แทนไปใช้อำนาจออกกฎหมาย ไ

อยู่ในสวนลุมแล้วยังออกมา Acting โน่นๆนี่ๆ จะล้มรัฐบาลของประชาชน จะล้มการเลือกตั้ง สงสัยประชาชนเราคงผิดเองที่ไปยกย่องพวกเขาซะสูงจนวันหนึ่งเลยกลายเป็นปัญหากับประชาชน เหมือนตามใจเด็กจนเสียคน ฉันใดก

ความขัดแย้งระหว่างชนชั้นสูงและกลางกับชนชั้นประชาชนครั้งนี้เป็นความขัดแย้งที่แสนจะธรรมด๊าธรรมดา มีมาตั้งแต่ยุคโบราณกาลแล้ว จนเมื่อ 24 มิถุนายน พ.ศ.2475 เกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครองมาเป็นระบอบประชาชนเป

เป็นเรื่องน่าเศร้ามากกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับการเมืองไทย วันนี้ 19 กันยา เมื่อปี 2006 เกิดรัฐประหารล้มรัฐบาลทักษิณ เรามาพูดกันแบบตรงไปตรงมา ที่ต้องล้มทักษิณเพราะทักษิณกลายมาเป็นภัยอันดับหนึ่งของพวกฝ่ายอี

ไม่ต้องถึงขั้นล้มรัฐบาลหรอก เอาแค่ให้มันวุ่นวายกันเอง ปั่นป่วนจากภายในกันเอง จนไม่มีเวลามาหาเรื่องไทย อย่าให้การเมืองบ้านมันมีเสถียรภาพมาก แท๊คติกแบบนี้เราทำกับกัมพูชาได้หรือเปล่าครับ

opinion: กลุ่มอำนาจเดิมมีอำนาจล้นฟ้าแต่ไม่ได้ทำเพื่อประชาชนเลย เอาแต่อ้างความจงรักภักดี มีpolitical environment แปลกประหลาดเรื้อรัง จนเป็นเรื่องปกติ (​รัฐประหารทุก6-15ปีโดยเฉลี่ย) ทุกประเทศมีนักการเมื