[CR] ตีสามคืนสาม : เรื่องเล่าสยองขวัญ บทเรียนรักจากเด็กแว้น (สปอยล์เล็กน้อย)





       เคยดู "ตีสาม" ภาคแรก ก็รู้สึกเฉยๆ  ถือว่าเป็นหนังสยองขวัญที่พอดูได้เพลินๆเรื่องหนึ่ง  เมื่อมีข่าวว่าจะมีการต่อยอดสร้างขึ้นมาอีกภาค (จริงๆมันก็ไม่ใช่ภาคต่อหรอก  แค่เป็นคอนเซปต์หนังที่ว่าด้วยเวลาตีสาม แบ่งเป็นสามตอน) ก็รู้สึกแปลกใจเหมือนกัน  

      หลังจากดูจบคิดว่า "ตีสามคืนสาม" ทำได้ลงตัวกว่าเดิม  ในภาคแรก เรื่องราวทั้งสามตอนไม่เชื่อมโยงกันจนดูแล้วแปลกแยก  แต่มาครั้งนี้ ทั้งสามตอนมีจุดเชื่อมโยงกันเล็กๆน้อยๆ แต่ชอบเป็นพิเศษตรงที่มีแกนหลักเป็นเรื่องเดียวกัน  คือ "ความรัก-โลภ-โกรธ-หลงที่นำไปสู่ความตาย"
  
      แม้สุดท้ายแล้ว  จะรู้สึกว่า "ตีสามคืนสาม" ก็คือหนังผีไทยอีกเรื่องหนึ่งที่ดูแล้วไม่มีอะไรน่าประทับใจเป็นพิเศษเหมือนเช่นภาคแรก  แต่ต้องถือว่าหนังตอบโจทย์การเป็นหนัง "เพื่อความบันเทิง" ได้ค่อนข้างดี    และอยากจะชื่นชมในหลายๆเรื่อง  เช่น งานสร้างและงานด้านภาพที่ดูพิถีพิถัน  บทภาพยนตร์ที่กลมกล่อมน่าติดตาม  ความสนุกสนานบันเทิงครบรสทั้งหลอน ดราม่า ตลก  การแสดงที่ดี  จังหวะผีที่ชวนสะดุ้งตกใจอย่างได้ผลในหลายฉาก   บางฉากก็ดูแปลกใหม่น่าสนใจ
       
      
    

      ความคิดเห็นในแต่ละตอน

        - คืนสาม   โดย  พุฒิพงศ์ สายศรีแก้ว เป็นตอนเปิดเรื่องที่ใช้ได้ ด้วยเรื่องราวแบบหนังฟิล์มนัวร์-ตลกร้าย    หนังดูเรื่อยๆไปบ้าง  แต่ก็มีพลิกแพลง  จังหวะหนังทำได้ดี  

                




        - คอนแวนต์ โดย กิรติ นาคอินทนนท์    เป็นตอนที่น่าสนใจมากๆ ด้วยการคุมบรรยากาศของเรื่องอย่างได้ผล  เมื่อนึกถึงผลงานก่อนหน้านี้ของ กิรติ นาคอินทนนท์ คือตอน "เรือนหอคนตาย" ในตีสามภาคแรก   คิดว่าเขาคือผู้กำกับที่มีลายเซ็น  ในการทำหนังผีที่มีบรรยากาศฟุ้งฝันและหลอน ตัวละครที่ลุ่มหลงในรัก เขาน่าจะพัฒนาทำหนังแนวนี้มากกว่าหนังโรแมนติกคอมเมดี้อย่าง "รักสุดท้ายป้ายหน้า" ที่ดูเชยไปหน่อย


                       


        -กงเต๊ก   เป็นตอนที่ตลกมากๆ  อิสรา นาดี ก็เป็นผู้กำกับที่มีลายเซ็นอีกคน ด้วยการทำหนังผีตลกได้อย่างสนุกสนาน ทั้งจาก 407 เที่ยวบินผี (ถ้ามองในแง่หนังผีตลก มันสนุกจริงๆนะ)  และ ตอน O.T. จากตีสามภาคแรก
      

                  

           ทั้งสามตอนมีแกนหลักเดียวกันคือ "รัก โลภ โกรธ หลง"  

          และไม่รู้ว่าบังเอิญหรือจงใจ  "กงเต๊ก" ในตอนท้ายเรื่องยังแฝงความหมายถึง "สิ่งปลอมๆ"   "การยึดติด" เช่นเดียวกับความรัก ชีวิต ความตาย  ไม่มีอะไรยั่งยืน  แม้สุดท้าย ตัวละครจะได้ใช้กงเต๊กนั้นจริงๆในโลกหลังความตาย  แต่หนังก็นำเสนอออกมาด้วยท่าทีล้อเลียน น่าขบขัน

           ตีสามคืนสาม  จึงดูเผินๆ เหมือนหนังผีเพื่อความบันเทิงทั่วไป  แต่ก็ไม่ว่างเปล่าซะทีเดียว หากแฝงข้อคิดได้อย่างน่าประทับใจ  

           และค่ายไฟว์สตาร์  ถือว่าสอบผ่าน สำหรับหนังสยองขวัญแนวบันเทิงเช่นนี้   ด้วยงานสร้างที่ดีและเรื่องราวที่สนุกสนาน    “ตีสามคืนสาม” น่าจะถูกใจคนไทยพอสมควร  และน่าจะไปได้ดีในตลาดต่างประเทศเช่นเดียวกับภาคแรก


           คะแนน    6/10


          +++ ผู้เขียนดูระบบธรรมดา จึงไม่มีความเห็นเกี่ยวกับภาพ 3D +++
ชื่อสินค้า:   ตีสาม คืนสาม
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่