สวัสดีครับ
หลายท่านคงกำลังกังวลว่า Liverpool กำลังทำอะไรอยู่กันแน่ ทำไมผ่านมา 2 อาทิตย์แล้วไม่เห็นมีนักเตะใหม่เข้ามาอย่างที่เป็นข่าวเลย แล้วดีล Salah ไปถึงไหนแล้ว เราจะได้ตัว M'Vila หรือปล่าว ต้องย้ำกันอีกครั้งนึงว่า ข่าวที่ผมเอามาลงนั้นมันเป็นเหตุการณ์ของช่วงนั้นๆนะครับ ซึ่งมันก็อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ หรือแม้แต่บางครั้งอาจจะเป็นเพียงข่าวลือก็เป็นได้
ในกรณีนี้ผมคิดว่าทางสโมสร คงกำลังพยายามเจรจาหลายๆดีลให้อยู่ในขอบเขตของงบประมาณที่ตั้งเอาไว้ เนื่องจาก FSG นั้นยึดมั่นในนโยบายของตนเองที่จะไม่ทุ่มเงินไปสำหรับค่าตัวของใครคนใดคนนึงมากกว่าจำนวนที่พวกเขาคิดว่าเหมาะสม
สิ่งที่เราได้เรียนรู้จากช่วงตลาดซื้อขาย 2 ปีที่ผ่านมานับตั้งแต่ FSG มาเทคโอเวอร์ก็คือ ตัวเลขในบัญชีต้องสมดุลย์กัน ก่อนจะซื้อใคร ก็ต้องขายคนที่ไม่ต้องการออกไปก่อน หรือถ้าใครที่ได้ค่าเหนื่อยสูงๆแต่เล่นไม่คุ้มกับที่จ่ายให้ ก็จะถูกปล่อยเพื่อเอาเงินก้อนนั้นไปจ่ายให้คนใหม่ที่เชื่อว่าจะเล่นได้ดีกว่า เมื่อมองจากข้อเท็จจริงที่ว่านั้นแล้ว เป็นไปได้หรือไม่ที่ตลาดเดือนนี้ Liverpool กำลังรอที่จะปล่อยใครไปก่อน ก่อนที่จะนำตัวใหม่เข้ามา? หรืออย่างน้อยก็หาทีมมาซื้อคนที่พวกเขาต้องการจะปล่อยให้ได้เสียก่อน?
ผมเชื่อว่าหลายๆดีลนั้นเป็นไปในลัษณะการเจรจาเพื่อแสดงเจตจำนงค์ว่าสนใจ และต้องการซื้อ แต่ยังไม่รีบถึงขั้นที่ต้องเดินหน้าคว้าตัวมาให้ได้ แต่กำลังรอเวลา และรอการเจรจาอีกหลายๆดีลที่เชื่อมโยงกันให้ประสบความสำเร็จเสียก่อน ยกตัวอย่างเช่น ข่าวเรื่องการขอซื้อตัว M’Vila ซึ่งเป็นนักเตะฝีเท้าดี และราคาที่ Rubin Kazan ตั้งไว้ก็ไม่แพงครับ 12 ลป โดยประมาณเท่านั้น แต่ทำไม Liverpool กลับไม่รีบคว้าตัวเข้ามาทั้งๆที่สามารถจ่ายค่าตัวระดับนี้ได้สบาย ผมเชื่อว่าเหตุผลหนึ่งก็คือ Liverpool อาจจะมีตัวเป้าหมายอื่นที่เป็นที่ต้องการมากกว่า ซึ่งอาจจะเป็น Fernando Reges จึงยังพยายามเจรจาให้ได้ ซึ่งถ้าหากได้ตัว Reges มา ก็อาจจะเลิกสนใจ M’Vila ก็เป็นได้
ในเคสนี้ ถึงแม้ว่า Reges จะต่อสัญญาไปแล้ว แต่ความสนใจของ LFC ก็ยังมีอยู่ และในสัญญาใหม่ ดูเหมือนว่าเขาจะมีค่าฉีกสัญญาอยู่ที่ 15 ลป ครับ แต่ปัญหานั้นคือค่าเหนื่อยที่เขาต้องการสูงมากๆ และ LFC ก็ต้องการให้ Porto ลดค่าตัวลงมาอีกเช่นกัน ดังนั้นก็ยังถือว่าดีลนี้มีความเป็นไปได้อยู่ ขึ้นอยู่กับว่า จะเจรจาได้ตามเป้าที่วางไว้หรือไม่
ส่วน M’Vila นั้น ดูเหมือนแผนแรกคือการขอยืมตัวพร้อม option to buy ตอนปิดฤดูกาล (คงเพราะต้องการประหยัดงบประมาณในเดือนนี้ เพื่อใช้งบที่มีให้เป็นประโยชน์มากที่สุด) แต่ Rubin Kazan ไม่เอาด้วย ต้องการขายขาดเท่านั้น จึงทำให้ Liverpool ต้องกลับมาทบทวนแผนกันใหม่ และต้องดูว่าจะจัดสรรงบกันอย่างไรต่อไป ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าจุดหมายปลายทางที่ M’Vila ต้องการคืออังกฤษ และ LFC ก็เป็นทีมที่มีภาษีมากที่สุดที่จะได้ตัวไปครอง ถ้าพวกเขายอมทุ่มเงินและบรรลุข้อตกลงกับ Rubin Kazan ได้ แต่อย่างว่า ดีลนี้อาจจะต้องรอไปถึงช่วงท้ายๆก็เป็นได้ครับ
สำหรับดีลของ Salah นั้น แตกต่างออกไป เพราะดีลนี้ยังไม่มีคู่แข่งในตำแหน่งนี้ และ LFC แสดงออกอย่างชัดเจนว่าต้องการได้ตัวเขามาร่วมทีม มีการดำเนินการเจรจาไปตั้งแต่ช่วงก่อนตลาดเปิด จนกระทั่งตกลงสัญญาส่วนตัวกับ Salah ได้แล้ว ดังนั้นดีลนี้จึงอยู่ที่ว่าจะต่อรองค่าตัวได้เมื่อไหร่มากกว่าครับ
เกมการต่อราคาก็เป็นวิธีการเดิมๆที่ใช้กันมาเสมอคือ ฝ่ายไหนอดทนได้นานกว่ากันก็ชนะไป Basel อยากได้เงินมาปรับปรุงทีม LFC อยากได้ตัวมาเสริมความแข็งแกร่ง ถ้า Basel ไม่ลดราคา จะมีใครมาซื้อในราคานี้มั๊ย ถ้า LFC ไม่เพิ่มเงินให้ แล้วจะมีคู่แข่งมาแย่งตัวมั๊ย ก็ต้องคอยจับตากันให้ดี ซึ่งนั่นคือเรื่องของบุคคลที่ 3 แต่กลยุทธที่ LFC เอามาใช้ ก็คือ ปล่อยข่าวว่า พวกเขาหันไปหา Yarmolenko บ้างหละ หรือพร้อมจะรอจนปิดฤดูกาลเพื่อกลับมาเจรจาค่าตัวใหม่บ้างหละ แต่ผมเชื่อว่าถ้าปิดฤดูกาลและเราได้ไป UCL เราคงมองคนอื่นที่ดีกว่า Salah แล้วหละครับ
ถ้าเรามองเกมโดยยึดเอาความเป็นจริงเป็นที่ตั้ง เราก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าในฤดูกาลนี้โอกาสของ LFC ที่จะคว้าตั๋วไป UCL นั้นเปิดกว้างมากๆ ถ้ายังรักษาผลงานให้ดีได้ต่อเนื่องไปแบบนี้ โอกาสท่ีจะได้อันดับ 1-4 ยังเป็นไปได้ทั้งหมด ซึ่ง Rodgers เองก็รู้ดีถึงข้อนี้ ถ้าเลือกได้และมีงบไม่จำกัด เขาคงทำทุกวิถีทางเพื่อให้ทีมได้แชมป์แน่ๆ แต่ในเมื่อเรามีงบจำกัด การซื้อตัวย่อมต้องเป็นไปตามกฎเกณฑ์ที่ถูกกำหนดไว้
Rodgers รู้ดีว่าจุดแข็งที่สุดของ Liverpool ชุดนี้คือเกมรุก ต่อให้เกมรับอ่อนปวกเปียกแค่ไหน แต่ถ้ายิงได้มากกว่าเสีย ก็ย่อมต้องได้คะแนนกลับมาเป็นแน่แท้ เพียงแต่เกมรุกของเรานั้นยังไม่สมบูรณ์ การเลือก Salah เข้ามานั้น ก็เพื่อเข้ามายกระดับประสิทธิภาพให้มากขึ้นอีกสเตปนึง มีทั้งความเร็ว และการทำประตูที่ดีย่อมต้องทำให้เกมโต้กลับของ Liverpool นั้นน่ากลัวขึ้นอีกมากมาย และเพิ่มโอกาสที่เราจะชนะให้มากขึ้นได้ด้วย แต่ถ้าเราได้ไป UCL ตัวเลือกที่ดีกว่านี้มีหรือไม่? แน่นอนครับ มีมากมาย และเราก็คงมีงบมากขึ้น นักเตะดังๆก็อยากมาร่วมทีมมากขึ้นเช่นกัน Liverpool ในตอนนี้ เลือกใครไม่ได้มาก แต่ Liverpool ตอนปิดฤดูกาลจะแตกต่างออกไป ผมจึงเชื่อว่าเมื่อถึงเวลานั้นเราอาจจะไม่ย้อนกลับไปมอง Salah อีก
กลับกัน ถ้าเราได้ Salah มาในตอนนี้ เมื่อปิดฤดูกาล เราก็มีโอกาสเสริมทีมในตำแหน่งอื่นๆที่จำเป็นมากกว่าในช่วงนั้น หรือแม้แต่เสริมในตำแหน่งปีกให้ดีขึ้นก็ได้ ซึ่งก็เป็นได้เช่นกัน และเราก็จะมีขนาดทีมและความแข็งแกร่งที่มากขึ้นไปด้วย ดังนั้นเมื่อมองจากข้อดีและข้อเสียของทั้ง 2 ทางเลือกแล้ว ผมคิดว่าการที่เราจะได้ตัว Salah มาในเดือนนี้ น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าครับ
ตอนนี้แผนการของทีมจากข่าวที่ออกมาค่อนข้างสับสนมากๆ เพราะในช่วงปีที่ผ่านมา FSG ได้ปรับปรุงระบบใหม่ เพื่อปิดข่าวไม่ให้รั่วออกมาอีก ดังนั้นจึงแทบไม่มีข่าวหลุดออกมาเลย แม้กระทั่งสื่ออย่าง Echo ที่มีความใกล้ชิดสนิทสนมกับทางสโมสรก็ยังเงียบไม่มีข่าวรายงานเช่นกัน
ถ้าเป็นไปตามทฤษฏีที่ว่า ขายก่อนซื้อ ก็น่าสนใจว่าใครจะเป็นคนออกไป หรือจะเป็นการลงทุนซื้อก่อน แล้วไปขายช่วงซัมเมอร์แทน?
ที่น่าสนใจมากกว่านั้นก็คือ FSG จะยอมเปลี่ยนกติกาของตนเองโดยยอมลงทุนเพิ่มเพื่อคว้าโอกาสไป UCL ให้ได้หรือไม่ (แต่เชื่อว่าเป็นไปได้ยาก)
ยังเหลือเวลาอีกร่วมๆ 2 อาทิตย์ครับ ผมเชื่อว่าจะมีตัวใหม่เข้ามาแน่ๆ อยากให้ทุกท่านรอคอยกันอย่างอดทน และลุ้นกันว่าเราจะได้ใครเข้ามาดีกว่าครับ ในตอนนี้มองไปตรงไหนก็เจอแต่แผลเต็มทีมไปหมด เราคงต้องไล่รักษากันแทบจะทุกตำแหน่งตั้งแต่กลางลงไปหลังเลยทีเดียว แต่สำหรับผม ถ้าเลือกได้ในเดือนนี้ผมอยากให้เสริม fullback แบบเจ๋งๆทั้ง 2 ข้างมากที่สุด เพราะนอกจากช่วยเกมรับให้ดีขึ้นแล้ว ยังสามารถสนับสนุนเกมรุกได้อีกด้วย นอกนั้นก็คงเป็น DM อีกตำแหน่งครับ ถ้ามากกว่านี้ คงฝันมากกว่า top 4 แล้วกระมัง
ขอบคุณครับ
ที่มา // Legend_7
< < < < [ ลับ - ลวง - พราง ] ตลาดซื้อขายนักเตะ LFC ล่าสุด By Legend_7 + ข่าวล่าสุดของ LFC > > > >
หลายท่านคงกำลังกังวลว่า Liverpool กำลังทำอะไรอยู่กันแน่ ทำไมผ่านมา 2 อาทิตย์แล้วไม่เห็นมีนักเตะใหม่เข้ามาอย่างที่เป็นข่าวเลย แล้วดีล Salah ไปถึงไหนแล้ว เราจะได้ตัว M'Vila หรือปล่าว ต้องย้ำกันอีกครั้งนึงว่า ข่าวที่ผมเอามาลงนั้นมันเป็นเหตุการณ์ของช่วงนั้นๆนะครับ ซึ่งมันก็อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ หรือแม้แต่บางครั้งอาจจะเป็นเพียงข่าวลือก็เป็นได้
ในกรณีนี้ผมคิดว่าทางสโมสร คงกำลังพยายามเจรจาหลายๆดีลให้อยู่ในขอบเขตของงบประมาณที่ตั้งเอาไว้ เนื่องจาก FSG นั้นยึดมั่นในนโยบายของตนเองที่จะไม่ทุ่มเงินไปสำหรับค่าตัวของใครคนใดคนนึงมากกว่าจำนวนที่พวกเขาคิดว่าเหมาะสม
สิ่งที่เราได้เรียนรู้จากช่วงตลาดซื้อขาย 2 ปีที่ผ่านมานับตั้งแต่ FSG มาเทคโอเวอร์ก็คือ ตัวเลขในบัญชีต้องสมดุลย์กัน ก่อนจะซื้อใคร ก็ต้องขายคนที่ไม่ต้องการออกไปก่อน หรือถ้าใครที่ได้ค่าเหนื่อยสูงๆแต่เล่นไม่คุ้มกับที่จ่ายให้ ก็จะถูกปล่อยเพื่อเอาเงินก้อนนั้นไปจ่ายให้คนใหม่ที่เชื่อว่าจะเล่นได้ดีกว่า เมื่อมองจากข้อเท็จจริงที่ว่านั้นแล้ว เป็นไปได้หรือไม่ที่ตลาดเดือนนี้ Liverpool กำลังรอที่จะปล่อยใครไปก่อน ก่อนที่จะนำตัวใหม่เข้ามา? หรืออย่างน้อยก็หาทีมมาซื้อคนที่พวกเขาต้องการจะปล่อยให้ได้เสียก่อน?
ผมเชื่อว่าหลายๆดีลนั้นเป็นไปในลัษณะการเจรจาเพื่อแสดงเจตจำนงค์ว่าสนใจ และต้องการซื้อ แต่ยังไม่รีบถึงขั้นที่ต้องเดินหน้าคว้าตัวมาให้ได้ แต่กำลังรอเวลา และรอการเจรจาอีกหลายๆดีลที่เชื่อมโยงกันให้ประสบความสำเร็จเสียก่อน ยกตัวอย่างเช่น ข่าวเรื่องการขอซื้อตัว M’Vila ซึ่งเป็นนักเตะฝีเท้าดี และราคาที่ Rubin Kazan ตั้งไว้ก็ไม่แพงครับ 12 ลป โดยประมาณเท่านั้น แต่ทำไม Liverpool กลับไม่รีบคว้าตัวเข้ามาทั้งๆที่สามารถจ่ายค่าตัวระดับนี้ได้สบาย ผมเชื่อว่าเหตุผลหนึ่งก็คือ Liverpool อาจจะมีตัวเป้าหมายอื่นที่เป็นที่ต้องการมากกว่า ซึ่งอาจจะเป็น Fernando Reges จึงยังพยายามเจรจาให้ได้ ซึ่งถ้าหากได้ตัว Reges มา ก็อาจจะเลิกสนใจ M’Vila ก็เป็นได้
ในเคสนี้ ถึงแม้ว่า Reges จะต่อสัญญาไปแล้ว แต่ความสนใจของ LFC ก็ยังมีอยู่ และในสัญญาใหม่ ดูเหมือนว่าเขาจะมีค่าฉีกสัญญาอยู่ที่ 15 ลป ครับ แต่ปัญหานั้นคือค่าเหนื่อยที่เขาต้องการสูงมากๆ และ LFC ก็ต้องการให้ Porto ลดค่าตัวลงมาอีกเช่นกัน ดังนั้นก็ยังถือว่าดีลนี้มีความเป็นไปได้อยู่ ขึ้นอยู่กับว่า จะเจรจาได้ตามเป้าที่วางไว้หรือไม่
ส่วน M’Vila นั้น ดูเหมือนแผนแรกคือการขอยืมตัวพร้อม option to buy ตอนปิดฤดูกาล (คงเพราะต้องการประหยัดงบประมาณในเดือนนี้ เพื่อใช้งบที่มีให้เป็นประโยชน์มากที่สุด) แต่ Rubin Kazan ไม่เอาด้วย ต้องการขายขาดเท่านั้น จึงทำให้ Liverpool ต้องกลับมาทบทวนแผนกันใหม่ และต้องดูว่าจะจัดสรรงบกันอย่างไรต่อไป ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าจุดหมายปลายทางที่ M’Vila ต้องการคืออังกฤษ และ LFC ก็เป็นทีมที่มีภาษีมากที่สุดที่จะได้ตัวไปครอง ถ้าพวกเขายอมทุ่มเงินและบรรลุข้อตกลงกับ Rubin Kazan ได้ แต่อย่างว่า ดีลนี้อาจจะต้องรอไปถึงช่วงท้ายๆก็เป็นได้ครับ
สำหรับดีลของ Salah นั้น แตกต่างออกไป เพราะดีลนี้ยังไม่มีคู่แข่งในตำแหน่งนี้ และ LFC แสดงออกอย่างชัดเจนว่าต้องการได้ตัวเขามาร่วมทีม มีการดำเนินการเจรจาไปตั้งแต่ช่วงก่อนตลาดเปิด จนกระทั่งตกลงสัญญาส่วนตัวกับ Salah ได้แล้ว ดังนั้นดีลนี้จึงอยู่ที่ว่าจะต่อรองค่าตัวได้เมื่อไหร่มากกว่าครับ
เกมการต่อราคาก็เป็นวิธีการเดิมๆที่ใช้กันมาเสมอคือ ฝ่ายไหนอดทนได้นานกว่ากันก็ชนะไป Basel อยากได้เงินมาปรับปรุงทีม LFC อยากได้ตัวมาเสริมความแข็งแกร่ง ถ้า Basel ไม่ลดราคา จะมีใครมาซื้อในราคานี้มั๊ย ถ้า LFC ไม่เพิ่มเงินให้ แล้วจะมีคู่แข่งมาแย่งตัวมั๊ย ก็ต้องคอยจับตากันให้ดี ซึ่งนั่นคือเรื่องของบุคคลที่ 3 แต่กลยุทธที่ LFC เอามาใช้ ก็คือ ปล่อยข่าวว่า พวกเขาหันไปหา Yarmolenko บ้างหละ หรือพร้อมจะรอจนปิดฤดูกาลเพื่อกลับมาเจรจาค่าตัวใหม่บ้างหละ แต่ผมเชื่อว่าถ้าปิดฤดูกาลและเราได้ไป UCL เราคงมองคนอื่นที่ดีกว่า Salah แล้วหละครับ
ถ้าเรามองเกมโดยยึดเอาความเป็นจริงเป็นที่ตั้ง เราก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าในฤดูกาลนี้โอกาสของ LFC ที่จะคว้าตั๋วไป UCL นั้นเปิดกว้างมากๆ ถ้ายังรักษาผลงานให้ดีได้ต่อเนื่องไปแบบนี้ โอกาสท่ีจะได้อันดับ 1-4 ยังเป็นไปได้ทั้งหมด ซึ่ง Rodgers เองก็รู้ดีถึงข้อนี้ ถ้าเลือกได้และมีงบไม่จำกัด เขาคงทำทุกวิถีทางเพื่อให้ทีมได้แชมป์แน่ๆ แต่ในเมื่อเรามีงบจำกัด การซื้อตัวย่อมต้องเป็นไปตามกฎเกณฑ์ที่ถูกกำหนดไว้
Rodgers รู้ดีว่าจุดแข็งที่สุดของ Liverpool ชุดนี้คือเกมรุก ต่อให้เกมรับอ่อนปวกเปียกแค่ไหน แต่ถ้ายิงได้มากกว่าเสีย ก็ย่อมต้องได้คะแนนกลับมาเป็นแน่แท้ เพียงแต่เกมรุกของเรานั้นยังไม่สมบูรณ์ การเลือก Salah เข้ามานั้น ก็เพื่อเข้ามายกระดับประสิทธิภาพให้มากขึ้นอีกสเตปนึง มีทั้งความเร็ว และการทำประตูที่ดีย่อมต้องทำให้เกมโต้กลับของ Liverpool นั้นน่ากลัวขึ้นอีกมากมาย และเพิ่มโอกาสที่เราจะชนะให้มากขึ้นได้ด้วย แต่ถ้าเราได้ไป UCL ตัวเลือกที่ดีกว่านี้มีหรือไม่? แน่นอนครับ มีมากมาย และเราก็คงมีงบมากขึ้น นักเตะดังๆก็อยากมาร่วมทีมมากขึ้นเช่นกัน Liverpool ในตอนนี้ เลือกใครไม่ได้มาก แต่ Liverpool ตอนปิดฤดูกาลจะแตกต่างออกไป ผมจึงเชื่อว่าเมื่อถึงเวลานั้นเราอาจจะไม่ย้อนกลับไปมอง Salah อีก
กลับกัน ถ้าเราได้ Salah มาในตอนนี้ เมื่อปิดฤดูกาล เราก็มีโอกาสเสริมทีมในตำแหน่งอื่นๆที่จำเป็นมากกว่าในช่วงนั้น หรือแม้แต่เสริมในตำแหน่งปีกให้ดีขึ้นก็ได้ ซึ่งก็เป็นได้เช่นกัน และเราก็จะมีขนาดทีมและความแข็งแกร่งที่มากขึ้นไปด้วย ดังนั้นเมื่อมองจากข้อดีและข้อเสียของทั้ง 2 ทางเลือกแล้ว ผมคิดว่าการที่เราจะได้ตัว Salah มาในเดือนนี้ น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าครับ
ตอนนี้แผนการของทีมจากข่าวที่ออกมาค่อนข้างสับสนมากๆ เพราะในช่วงปีที่ผ่านมา FSG ได้ปรับปรุงระบบใหม่ เพื่อปิดข่าวไม่ให้รั่วออกมาอีก ดังนั้นจึงแทบไม่มีข่าวหลุดออกมาเลย แม้กระทั่งสื่ออย่าง Echo ที่มีความใกล้ชิดสนิทสนมกับทางสโมสรก็ยังเงียบไม่มีข่าวรายงานเช่นกัน
ถ้าเป็นไปตามทฤษฏีที่ว่า ขายก่อนซื้อ ก็น่าสนใจว่าใครจะเป็นคนออกไป หรือจะเป็นการลงทุนซื้อก่อน แล้วไปขายช่วงซัมเมอร์แทน?
ยังเหลือเวลาอีกร่วมๆ 2 อาทิตย์ครับ ผมเชื่อว่าจะมีตัวใหม่เข้ามาแน่ๆ อยากให้ทุกท่านรอคอยกันอย่างอดทน และลุ้นกันว่าเราจะได้ใครเข้ามาดีกว่าครับ ในตอนนี้มองไปตรงไหนก็เจอแต่แผลเต็มทีมไปหมด เราคงต้องไล่รักษากันแทบจะทุกตำแหน่งตั้งแต่กลางลงไปหลังเลยทีเดียว แต่สำหรับผม ถ้าเลือกได้ในเดือนนี้ผมอยากให้เสริม fullback แบบเจ๋งๆทั้ง 2 ข้างมากที่สุด เพราะนอกจากช่วยเกมรับให้ดีขึ้นแล้ว ยังสามารถสนับสนุนเกมรุกได้อีกด้วย นอกนั้นก็คงเป็น DM อีกตำแหน่งครับ ถ้ามากกว่านี้ คงฝันมากกว่า top 4 แล้วกระมัง
ขอบคุณครับ
ที่มา // Legend_7