เป็นหนองในเมื่อเดือนก่อนรักษาคิดว่าหายแล้วแต่กลับเป็นอีกเพราะอะไรครับ

เมื่อต้นเดือนที่แล้วผมเป็นหนองในและได้ไปรักษาที่คลินิคนิรนาม หมอให้ยามา3อย่างคือยาหนองในแท้(2เม็ด) ยาหนองในเทียม(2เม็ด) แล้วก็ยาอะไรสักอย่างกินเช้า-เย็น7วัน กินมาได้ประมาณวันที่5-6อาการก็เริ่มดีขึ้น และคิดว่าหายแล้ว และหลังจากนั้นไม่กี่วันมีอาการคันที่มือมีตุ่มใสๆขึ้นที่มือและปลายอวัยวะเพศคันมากๆจึงกลับไปที่คลีนิคนิรนามหมอบอกว่าเป็นเชื้อราให้ยาทามาหลอดนึง(กับให้ตรวจซิฟิลิสเพิ่ม) ทายาทาได้1สัปดาห์อาการที่มือก็ดีขึ้นเม็ดเม็ดที่ปลายอวัยวะเพศลดน้อยลงก็ยังทาอยู่ จนกระทั่ง2สัปดาห์ที่ผ่านมาเริ่มมาคันที่ง่ามขา ก้น และอัณฑะ มีตุ่มแดงขึ้นที่บริเวณอัณฑะขนาดไม่ถึงกับใหญ่มาก คล้ายยุงกัด หลายตุ่มติดๆกันจนดูบวมขึ้นมา ไปหาหมออีกครั้งแต่เป็น รพ.ปกติ หมอบอกว่าเป็นหิดจึงให้ยากินแก้คัน กับยาทาแก้หิดมาอีกขวดนึงตอนนี้ทามาได้2วันอาการคันน้อยลงนิดหน่อย
แต่
วันนี้กลับพบหนองไหลออกมาจากปลายอวัยวะเพศอีกครั้ง แต่อาการระคายเคืองในท่อปัสสาวะแทบจะไม่มี
แต่มีหนองไหลออกมาแล้ว(ไม่มาก) มั่นใจว่าไม่ใช่น้ำอสุจิแน่ๆ นั่งๆอยู่ก็ไหล
ผมสงสัยว่ามันมีโอกาสจะกลับมาเป็นอีกได้ไหมทั้งๆที่ระหว่างรักษาไม่ได้มีเพศสัมพันธุ์กับใครเลย
หรือว่าเชื้อมันยังอยู่ รบกวนผู้รู้แนะนำทีครับ
ขอบคุณมากๆครับ