[CR] รีวิวทริป(แบบไม่เตรียมตัว) เจจู กับ โซล

สวัสดีครับ วันนี้ผมจะมาเขียนรีวิวการท่องเที่ยวในเจจูและ โซลครับ  สืบเนื่องจากผมต้องไปนำเสนอผลงานที่เจจู  จึงได้มีโอกาสแวะเที่ยว
ต้องบอก่อนว่าทริปนี้ไปแบบไม่เตรียมตัวจริงๆ  เพราะว่าก่อนไปนั้นติดงานที่จะต้องทำจึงไม่มีเวลาว่างในการหาที่เที่ยวที่กินครับ ไปตายเอาดาบหน้าครับ วันที่ผมเดินทางไปช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนครับ  อากาศกำลังหนาวเลย ดูจากเวบ ประมาณ 5-6 องศาเซลเซียส
  
สิ่งแรกที่ต้องเตรียมคือเรื่องสายการบิน  ผมบินKorean air ครับ  ผมว่าสายการบินนี้ดีมากๆเลย  แอร์สวย เอ็กซ์ อึ๋ม  อาหารอร่อยครับ  มีหนังให้ดู  ที่นั่งนั่งสบาย ไม่แคบมาก  เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปให้ดู
  ผมบินไปลงที่สนามบินอินชอนครับ  แล้วก็เปลี่ยนเครื่องเช็คอินโหลดกระเป๋าใหม่  บินลงที่สนามบินเจจูครับ

เมื่อไปถึงสนามบินเจจู  สิ่งที่ผมสัมผัสก็คือ  อากาศที่หนาวครับ  เป็นความรู้สึกที่อยากได้มานาน  เพราะผมไม่เคยได้ประสบภัยหนาวในเมืองไทยเลย  ลงเครื่องมา  ต้องเดินเข้าสถานีซึ่งเป็นที่โล่ง ระหว่างที่เดินออกไป  ได้สัมผัสอากาศแบบนี้ แวบแรกรู้สึกฟิน  โอ้วววว  เย็นชื่นใจ  แต่หลังจากนั้นครับ  หนาวสั่นเลยครับ  ด้วยจากที่เราไม่ได้เตรียมตัว จึงไม่รู้ว่ามันหนาวแค่ไหน  รู้แค่ตัวเลขอุณหภูมิ  จึงคิดวาพอทนได้  แต่เอาเข้าจริง  มือแข็งแทบขยับไม่ได้ครับ  ตอนนั้นที่เจจู สามทุ่ม อุณหภูมิ 7 องศาเซลเซียสครับ  ก่อนไป  แม่บอกให้ซื้อหมวกกับถุงมือไป    ผมไม่เชื่อแม่ครับ  แถมบอกแม่อีกว่า  เวอร์ไปป่าวแม่  ตอนนี้นึกถึงแม่ขึ้นมาทันที่  โชคดีที่ซื้อถุงมือมา  ไม่งั้น ไม่รอดครับ  ต้องเอามือจูงกระเป๋า  
  เมื่อถึงสนามบิน  สิ่งที่จะทำต่อมาก็คือ  หาทางไปที่พักครับตอนนั้นก็ทำอะไรเสร็จเกือบสามทุ่มกว่าๆ  เราจะไปไงดี  ขอเล่าแทรกก่อนว่า  ผมจากที่พักผ่านagoda ครับ  เชื่อถือได้ ได้ที่พักแน่ๆ  ก่อนไปผมก็ไม่มั่นใจกลัวว่าเข้าจะโกงอะไรอย่างเงี่ย  แต่พอไปถึงจริงๆ ก็ง่ายสะดวกดี ที่พักที่ผมจองคือ  Korea condo ครับ  
ราคากลาง  อยู่ข้างๆโรงแรมห้าดาว Lotte  Jejuhttp://www.agoda.com/th-th/corea-condo-jeju/hotel/jeju-do-kr.html?asq=RB2yhAmutiJF9YKJvWeVbfA2vmxg3h7qkOjsYcMNyrGOCtqs2h8McdHW4px0xgC5EP43q3dm5EUApU4Lb%2ftfrBj6cDWbnRsY1FbuRvYCv6WZ2q%2byLo4IolOGEQ1xjIPPIUkbcI%2fJdC1xFqMn4mphjyEDVmrtOpOsnXrebpXHglvlTP%2f9vz6PZaAe%2ftuSHX6gJz9ubvcNadfvQi1isM1k9WkjghwTzq9FDepBAqH8Evmb64Wf7pEA9v90w6Z4f2Wof1hHGyz9LRniZp94mM6BgyirCwP8zk98Qso13U2admU%3dครับ  ผมได้ค้นหาวิธีการเดินทางจาก  google ครับ  มันบอกว่าให้นั่ง limousine bus เบอร์ 600 ผ่านทางเข้าพอดีเลลยครับ  ผมก็เลยทำตาม  ออกมาจากสนามบิน  หาท่ารถ  600 โดยถามยาม  ยามก็ไม่ค่อยรู้ภาษาอังกฤษหรอกครับ  ไปที่นั้นต้องทำใจ  คนที่นั้นพูดอังกฤษไม่ได้เลย  ต้องคุยกับพนังงานต้อนรับอะไรพวกนี้ครับ  ถ้าถามคนตามทางจะพูดไม่ได้เลยซักคน  ก็รอครับ  รอรถมาจอด  รถมาจอดผมก็ขึ้นครับ  ก่อนขึ้นผมเอาแผนที่ แล้วก็ที่อยู่ให้เค้าดูด้วยครับ  ผมบอกว่าจะลงตรงนี้น่ะ korea condo ถึงแล้วยูจอดให้ไอด้วย  เค้าก็โอเคเหมือนจะรู้เรื่อง  เราก็ไว้ใจเค้าครับ  ขึ้นรถ แล้วก็จะมีคนเก็บเงินฉีกตั๋วครับ (เฉพาะขึ้นจากสนามบินครับ ถ้าขึ้นจากที่อื่นเราต้องหยอดตังเอง ไม่กระเป๋ารถเมล์)  ผมก็ถามพนักงานฉีกตั๋วว่า  โคเรีย คอนโด ลงตรงไหน  มันบอกลงสนามกีฬาอะไรก็ไม่รู้ซักอย่างจำไม่ได้  ผมก็เริ่มเอะใจ  ทำไมไม่มีในแผนที่เลย  แต่เชื่อใจเขาเพราะคนนี้พูดอังกฤษได้  ไม่เชื่ออากู๋และมันมั่ว  ชื่อสาวเกาหลีคนพื่นที่ดีกว่า

   และแล้วรถก็ออกครับ รถออกประมาณเกือบสี่ทุ่ม  ผมกังวลมากเพราะมันเริ่มดึกแล้ว  ถ้าหลงคงไม่มีแท็กซี่กลับแน่  บรรยากาศเหมือนเกาะเสม็ด เกาะล้าน ตอนกลางคืนครับ เงียบมาก  และที่สำคัญหนาวมากด้วย  ผมก็นั่งไปเรื่อยๆครับ  ที่พักผมอยู่คนละฝั่งกับสนามบินเลยครับ ไกลมาก นั่งมาเกือบชั่วโมง  รถบัสที่นี่ดีมากเลยครับ เวลาถึงป้ายไหนจะมีเซนเซอร์คอยเตือนว่าถึงป้ายตรงนี้ชื่ออะไรก็พูดไปโดยอัตโนมัติ  คราวนี้รถถึง lotte jeju แล้ว  ผมก็เอะทำไมพนักงานขับรถไม่เรียกผมให้ลง (คือผมดูแผนที่แล้วต้องลงที่ lotte jeju) ใจก็คิดว่าพนักงานให้นั่งไปที่สนามกีฬา  ก็เลยนึกว่ายังไม่ถึง  แต่ปรากฏว่าพอเลยไปซักพัก ผ่าน ICC JEJU ซึ่งเป็นที่ที่ผมจะต้องพรีเซนที่นี้เลยจำได้ว่าที่พักเราจะถึงก่อน  นั้นไงเอาแล้ว ทำไงดี อึ้งไปสองวิ  แล้วก็เลยหันไปถามคนข้างๆ เค้าก็ไม่รู้ภาษาอังกฤษเลยครับ  ตอนนั้นอยากร้องไห้มาก  เลยมาแล้วครับ ไกลด้วย  ไม่มีแทกซี่ซักคัน  แต่ก็ได้ความใจดีของคนเจจูครับเขาพยายามเข้าใจเราดูแผนที่เราเขาก็ส่งสัญญานว่าเลยแล้วผมฟังไม่ออกครับว่าเค้าพูดว่าอะไร  แต่เค้าก็ไปบอกคนขับรถให้จอดครับ  แล้วเขาก็บอกว่ามาเดี๋ยวไปส่ง(เป็นภาษาเกาหลีครับ เค้าพยายามสื่อ) ก็ลงตามเค้าไป ใจตอนนั้นก็กลัวว่าเป็นมิจฉาชีพรึป่าว  แต่เรามีสามคนครับ เราไม่กลัวก็เลยลองตามเขาไป  เขาก็สื่อสารกับคนขับรถว่ามันเลยมาแล้ว  คนขับรถก็เหมือนจะวอไปที่สถานนีควบคุมให้เอารถอีกค้นมารับเราไปส่ง  (เราฟังไม่ออก  แต่คาดการณ์เอา)  ระหว่างที่รอรถมารับเขาก็คุยเกาหลีใส่เราก็ไม่รู้เรื่อง  แต่ที่รู้เรื่องคือเขาต้องการจะสื่อว่าที่พักเราคนแถวนี้ไม่ได้เรียกโคเรียคอนโด  เขาเรียกว่า "คงกุ คอนโด" เต่าเอือม  โชคดีมากที่มารู้ตอนนี้ ไม่งั้นคืนนี้คงไม่ได้นอน  แล้วก็รถก็มารับครับ รถบัสคันใหญ่ว่างๆ มารับเราสามคน  เค้ารับผิดชอบเรามากครับถ้าเป็นบ้านเราปล่อยทิ้งไปแล้ว  และแล้วก็มาถึงครับยังไม่ถึงที่พัก แต่เป็นแค่หน้าปากซอยต้องเดินเข้าไปอีก ขอโทษที่เหตุกาณร์ทั้งหมดไม่มีรูปให้ดู เพราะไม่มีอารมจะถ่ายรูปครับ ทั้งกลัวแล้วมือก็แข็งครับ   รูปนี้คือถ่ายปากซอยทางเข้าตอนเช้าครับ จะเห็นว่าทางเข้าอยู่ข้างๆ Lotte ครับเมื่อเดินเข้าไปในซอยประมาณสามร้อยเมตรก็ถึงแล้วครับ  สวรรค์มากครับ นึกว่าจะต้องนอนหนาวตายข้างนอกซะแล้ว เหตุการร์นี้สอนให้รู้ว่า google เชื่อได้จริงๆ ข้าน้อยคาราวะ  

  พอเข้าไปถึงก็เอาใบจองที่ได้จาก agoda ให้พนักงานต้อนรับเลยครับ เขาก็พาขึ้นไป  พบว่าห้องใหญ่มาก  ตามรูปครับ  (รูปนี้ถ่ายตอนเช็ตเอาท์ ก็เลยรกครับ)

ห้องน้ำ


ห้องครัว


ห้องนอน


  ใน agoda นั้นบอกว่านอนได้สูงสุด 4 คน แต่ความเป็นจริงแอบนอนได้มากกว่านี้ครับ  ถ้ามากันเยอะก็เอาถึงนอนมานอนที่ครับก็ได้ เพราะว่ากว้างมากครับ  จะได้หารกัน จ่ายกันคนละไม่มากถ้ามาหลานคนแนะนำที่พักแห่งนี้

วันที่สองในเจจู
ตื่นเช้ามาผมก็สำรวจเลยครับ เดินสำรวจ ที่พักผมเดินไปข้างหลังก็เป็นชายหาดครับ  ต่ออยู่ที่สูงครับ ลักษณะเหมือนอยู่บนเนินเขาเตี้ยๆ ต้องเดินลงบันไดไปครับ นี่คือบรรยากาศช่วงเช้าข้างหลังที่พัก


บรรยากาศประมาณนี้ครับ  มีวิวสวยอีกเยอะแต่ไม่ได้ถ่ายตอนนั้น  ลมแรง และหนาวมาก มือแข็วถ่ายไม่ไหวครับ
หลังจากนั้นเราก็ไปหาของกิน ที่พักผมเป็นแนวคอนโดครับ ไม่ใช่โรงแรม จึงไม่มีร้านอาหาร ผมก็เลยถามพนักงานว่าของกินใกล้ไปหากินไหนดี  เขาก็บอกมาว่าเดินออกไปนิดเดียก็เจอ แถวนั้นชื่อว่า "ซิวูซังเถ๋า" เราก็เดินหาเลยครับ หาตั้งนานก็หาไม่เจอ  ปรากฏว่าถึงบางอ้อครับ  มันเป็นชื่อภาษาอัวกฤษอ่านว่า "ซีวูซัน ทาวน์  (town)"  (เท่าที่จำได้ครับ เพราะนานแล้วกว่าจะมารีวิว) ซึ่งก็จะมีร้านอาหาร  แล้วก็เซเว่นครับ  ร้านอาหารเปิดตอนกลางคืน เราก็เข้าเซเว่นหาของกินครับ

มือเช้า กลางวันกินแต่แบบนี้ครับ

หลังจากนั้นเราก็เดินสำรวจครับ เดินออกปากซอยเลี้ยวขวาไปเรื่อยๆ ประมาณร้อยเมตร เราจะเจอพิพิธภัณฑ์ Teddy Bear ครับ

ซึ่งผมก็ไม่ได้เข้าไปดู  ก็ไม่รู้ว่าดีหรือไม่ดีครับ

ข้างๆ Teddy Bear museum จะมีร้านให้เช่าจักรยานอยู่ครับ  อยู่ติดกับ Chocolate land


เจ้าของร้านพูดภาษาอังกฤษได้คล่องเลยครับคุยกับเค้าได้  มีรถจักยานธรรมดา  กับไฟฟ้าฟ้าครับ ซึ่งราคาต่างกันเท่าตัวคิดเป็นชั่วโมง  ผมจำราคาไม่ได้แล้วครับเพราะนานไปแล้ว  แต่ถ้าจำไม่ผิด ผมต่อเค้าได้ที่ 2 ชม จ่าย 5000 KRW อันนี้ค่ารถธรรมดา  ส่วนรถไฟฟ้าราคาคูณสองครับ  ด้วยความประหยัด(งก) ก็เลยเอาแบบธรรมดา  ทังๆที่ เจ้าของร้านแนะนำแล้วว่าควรแบบนี้  เราไม่เอา ก็มันแพงใครจะนั่ง  ก็เลยจัดไปครับ  เล้นทางที่ขี่  ได้มาจากเจ้าของร้านแนะนำครับ  ถามเขาได้
ขอบอกว่าวิวที่เจจูสวยมาก เป็นเมืองที่โรแมนติกจริงๆ ขี่จักรยานได้อารมมากครับ สัมผัสสายลมแสงแดดที่สดชื่น







ชื่อสินค้า:   Jeju & seoul
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่