ตอนนี้ ดูเหมือนกับว่า ฝ่ายสุเทพกำลังรุกหนัก ซึ่ง ถ้าเปรียบเป็นมวย ก็เป็นมวยบุกในยกสุดท้าย จึงอยากจะแนะนำรัฐบาลดังนี้
1). รัฐบาลย้ายสถานที่ทำงาน ไปอยู่ต่างจังหวัด ที่แนะนำก็คือ โคราช โดยนายก ฯ อาจจะเข้าไปพักที่กองทัพภาค 2 ค่ายสุรนารี
เหตุการณ์แบบนี้ เคยเกิดขึ้นสมัย รัฐประหาร ปี 2524 ที่เปรม หนีไปตั้งหลักที่ กองทัพภาค 2 แล้วบอกให้ฝ่ายกบฎมอบตัวเสีย
ประเด็นของข้อเสนอนี้ก็คือ การ "รบ" มันต้องมีที่มั่น ต้องมีศูนย์บัญชาการ ซึ่งใน กทม. มันไม่สะดวก เพราะม็อบมันกระจายตัว แถมทหารยังยึก ๆ ยัก ๆ กองทัพภาค 1 ก็ถือว่าอยู่ใกล้ แถมยังทหารตัวใหญ่ยังไปพักอยู่แถวนั้นด้วย ให้ลองไปกองทัพภาค 2 ดู เพราะเป็นเขตอีสาน แถมกองบิน 1 ก็อยู่โคราชด้วย อาจจะไม่ต้องไปไกลถึงเชียงใหม่ก็ได้ แม้เชียงใหม่จะมีพร้อม แต่มันไกล กทม. ไปหน่อย
2). ฝ่ายม็อบ มันจะสติแตกทันที อาจจะไปบุกยึดสถานีวิทยุโทรทัศน์ หรืออื่น ๆ เพื่อจะเคลมว่าตัวเองเป็นฝ่ายมีชัยชนะ ...วิธีแก้คือปล่อยให้เขายึดไป..ไม่ต้องไปแย่ง สมัยนี้ สื่อเองมีความอดทนต่ำ..ถ้าม็อบไปยึดสักพัก สื่อพวกนี้จะทนไม่ได้ พอประกาศว่ามีชัยชนะ แต่ไม่มีใครไปรับรองพวกเขาแน่นอน
3). นายก ฯ ให้บริหารงานตามปรกติ ไม่ต้องเดือดร้อน ปฏิบัติหน้าที่ตามปรกติ รอการเลือกตั้งอย่างเดียว ใครจะไปฟ้องโมฆะ ก็ให้ฟ้องไป มันไม่ใช่หน้าที่ของรัฐบาล แต่เป็น กกต. ที่ กกต.เขาดิ้นอยู่ทุกวันนี้ เพราะเขากลัวจะติดคุกแบบสมัย พล.ต.อ.วาสนา ไม่ใช่เรื่องอื่นใดเลย
นี่คือเหตุผลหลักอีกอย่างหนึ่งที่ กกต. พยายามเล่นบทชิ่งหนีความรับผิดชอบอยู่
4). สุเทพนั้นไม่ยอมแน่นอน ให้เล่นเจ้าล่อเอาเถิดกับสุเทพให้ดี ไม่ต้องไปสนใจหรอกว่า ใครจะบอกว่ารัฐบาลเล่นการเมือง เพราะทุกคนก็เล่นการเมืองอยู่แล้ว เกมพวกนี้อ่านกันง่าย ๆ ไม่ยากนักหรอก ประเด็นสำคัญก็คือ การ "ตี" เอาแบบขนาบข้าง คือ undermine ไปเรื่อย ๆ ของแบบนี้มันอยู่ที่ยุทธวิธี
5). กลยุทธ์ของรัฐบาลที่ใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหวนั้น...ถือว่าดี..เห็นผลอย่างหนึ่งคือ กระทรวงต่างประเทศสหรัฐออกมาชมรัฐบาลไทย ที่ใช้ความอดทนอดกลั้น ในการแก้ปัญหา ถือว่ามาถูกทางแล้ว
วิธีแบบนี้ หากนึกไม่ออก ให้นึกถึง เวลาเราเล่นกับสุนัข ให้สุนัขคาบผ้าขี้ริ้ว...โดยเราแกว่งผ้าขี้ริ้วไปมาตามพื้น...สุนัขจะมองตาม แล้ววิ่งไปกัด..ผ้า..ทีนี้ตอนกัดผ้า..มันจะไม่ยอมปล่อย..เราก็เล่นชักกะเย่อกับสุนัข ผ่อนแรงบ้าง ให้สุนัขดีใจ ว่าได้กัดผ้า แล้วก็โยนผ้าอีกผืนไปให้สุนัขกัด ทำไปแบบนี้เรื่อย ๆ
6). อย่าลืม...นายก ฯ ต้องรักษากติกาบ้านเมือง...คนพูดไม่ใช่ใคร...เป็นอภิสิทธิ์ที่เคยพูดไว้ สมัยตัวเองเป็นรัฐบาล...ให้ยิ่งลักษณ์บอกผ่านสื่อไปเลยว่า "ดิฉันนำตัวอย่างจากท่านอภิสิทธิ์มาใช้ค่ะ ท่านเคยพูดว่า ..ไม่ยอมให้มากดดัน บ้านเมืองต้องมีกฎหมาย" อะไรก็ว่าไป..
อีกอย่าง มันไม่มีกฎหมายฉบับไหนให้ยิ่งลักษณ์ลาออกได้...ไทยรัฐวิเคราะห์บอกว่า ยิ่งลักษณ์อาจอยากเลิกเต็มทน...ผมก็ฝากไปถามไทยรัฐหน่อย..อยากเลิกแล้วทำไมยังเป็นปาร์ตี้ลิสต์เบอร์หนึ่งของเพื่อไทย.. บางทีไทยรัฐ อาจจะต้องเจอปิดแยกลาดพร้าวสักสิบเดือนก็เป็นได้จากม็อบสุดที่รักของท่าน
ทีนี้ถามสักนิด..สมมติว่ายิ่งลักษณ์บอกว่า ออกก็ได้...แต่จะให้ไปลาออกกับใคร..กับประธานสภา ก็ไม่มีแล้ว..สภายุบไปแล้ว.. เห็นสุเทพบอกว่า ให้ไปขอพระราชทานลาออกจากในหลวง ซึ่งมันทำไม่ได้ จะให้นายก ฯ ไปกราบทูล ฯ อย่างนั้นได้อย่างไร เพราะนายก ฯ ไม่มีอำนาจ
คนพวกนี้ "เคยตัว" กับการลัดคิว.. ลัดคิว ม.7 ก็เจอมาแล้วรอบหนึ่ง...มีแต่บอกว่า ทำได้ ทำได้..แต่เอาเข้าจริง มันทำไม่ได้
ฟังชูวิทย์พูดที่ช่อง NBT ก็พูดชัดเจน พวกอยากดัง...อยากได้ผลประโยชน์ต่างตอบแทน ก็เข้ามา ดาหน้า... ดูอย่างสมัยตั้ง สภานิติบัญญัติแห่งชาติ มีหน้าที่กรองกฎหมาย... เข้าประชุมไม่ครบ แต่สามารถผ่านกฎหมายได้... ใช่มั้ย มีชัย ฤชุพันธ์ พวกนี้ ตัวดีนัก
แถมก็พวกทหารมักใหญ่ใฝ่สูงบางคน... ไม่ต้องไปไกล เอาอย่าง สมเจตน์ บุญถนอม กับ บรรณวิทย์ เก่งเรียน...ผลประโยชน์ตอบแทนหลังรัฐประหารคือ ไปเป็นบอร์ด ที่นั่นที่นี่...สะพรั่ง กัลยาณมิตร ไปเป็นบอร์ดทีโอที กับบอร์ดการท่า ....ทะเลาะกับบรรณวิทย์ เรื่องที่จอดรถสุวรรณภูมิ จำกันได้มั้ย เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด
เพราะฉะนั้น รัฐบาลต้องนิ่ง ๆ พล.อ.เปรม นั่นเป็นคนฉลาด..สมัยที่โดนปฏิวัติ..เขาหาที่ตั้งหลัก.. แล้วก็วางแผน วางกลยุทธ์ ในการตอบโต้กับม็อบ
ม็อบจริง ๆ มันสลายไม่ยาก..แต่อย่าไปสลาย..ใช้กลยุทธ์แบบสุมาอี้ นั่นแหละ..
เมื่อวานตั้งกระทู้ไป ...เห็นในมติชนออนไลน์ เขียนแล้วว่า ให้ตั้งรับแบบสุมาอี้
คนกลาง ๆ เขาดูออกครับว่าอะไรเป็นอะไร ล่อตัวใหญ่ ๆ ให้เปิดหน้าออกมาเรื่อย ๆ ...คนพวกนี้อยากได้อำนาจกันทั้งนั้นแหละ
***ขอแนะนำรัฐบาลถึงวิธีแก้เกมกับม็อบสุเทพ***
1). รัฐบาลย้ายสถานที่ทำงาน ไปอยู่ต่างจังหวัด ที่แนะนำก็คือ โคราช โดยนายก ฯ อาจจะเข้าไปพักที่กองทัพภาค 2 ค่ายสุรนารี
เหตุการณ์แบบนี้ เคยเกิดขึ้นสมัย รัฐประหาร ปี 2524 ที่เปรม หนีไปตั้งหลักที่ กองทัพภาค 2 แล้วบอกให้ฝ่ายกบฎมอบตัวเสีย
ประเด็นของข้อเสนอนี้ก็คือ การ "รบ" มันต้องมีที่มั่น ต้องมีศูนย์บัญชาการ ซึ่งใน กทม. มันไม่สะดวก เพราะม็อบมันกระจายตัว แถมทหารยังยึก ๆ ยัก ๆ กองทัพภาค 1 ก็ถือว่าอยู่ใกล้ แถมยังทหารตัวใหญ่ยังไปพักอยู่แถวนั้นด้วย ให้ลองไปกองทัพภาค 2 ดู เพราะเป็นเขตอีสาน แถมกองบิน 1 ก็อยู่โคราชด้วย อาจจะไม่ต้องไปไกลถึงเชียงใหม่ก็ได้ แม้เชียงใหม่จะมีพร้อม แต่มันไกล กทม. ไปหน่อย
2). ฝ่ายม็อบ มันจะสติแตกทันที อาจจะไปบุกยึดสถานีวิทยุโทรทัศน์ หรืออื่น ๆ เพื่อจะเคลมว่าตัวเองเป็นฝ่ายมีชัยชนะ ...วิธีแก้คือปล่อยให้เขายึดไป..ไม่ต้องไปแย่ง สมัยนี้ สื่อเองมีความอดทนต่ำ..ถ้าม็อบไปยึดสักพัก สื่อพวกนี้จะทนไม่ได้ พอประกาศว่ามีชัยชนะ แต่ไม่มีใครไปรับรองพวกเขาแน่นอน
3). นายก ฯ ให้บริหารงานตามปรกติ ไม่ต้องเดือดร้อน ปฏิบัติหน้าที่ตามปรกติ รอการเลือกตั้งอย่างเดียว ใครจะไปฟ้องโมฆะ ก็ให้ฟ้องไป มันไม่ใช่หน้าที่ของรัฐบาล แต่เป็น กกต. ที่ กกต.เขาดิ้นอยู่ทุกวันนี้ เพราะเขากลัวจะติดคุกแบบสมัย พล.ต.อ.วาสนา ไม่ใช่เรื่องอื่นใดเลย
นี่คือเหตุผลหลักอีกอย่างหนึ่งที่ กกต. พยายามเล่นบทชิ่งหนีความรับผิดชอบอยู่
4). สุเทพนั้นไม่ยอมแน่นอน ให้เล่นเจ้าล่อเอาเถิดกับสุเทพให้ดี ไม่ต้องไปสนใจหรอกว่า ใครจะบอกว่ารัฐบาลเล่นการเมือง เพราะทุกคนก็เล่นการเมืองอยู่แล้ว เกมพวกนี้อ่านกันง่าย ๆ ไม่ยากนักหรอก ประเด็นสำคัญก็คือ การ "ตี" เอาแบบขนาบข้าง คือ undermine ไปเรื่อย ๆ ของแบบนี้มันอยู่ที่ยุทธวิธี
5). กลยุทธ์ของรัฐบาลที่ใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหวนั้น...ถือว่าดี..เห็นผลอย่างหนึ่งคือ กระทรวงต่างประเทศสหรัฐออกมาชมรัฐบาลไทย ที่ใช้ความอดทนอดกลั้น ในการแก้ปัญหา ถือว่ามาถูกทางแล้ว
วิธีแบบนี้ หากนึกไม่ออก ให้นึกถึง เวลาเราเล่นกับสุนัข ให้สุนัขคาบผ้าขี้ริ้ว...โดยเราแกว่งผ้าขี้ริ้วไปมาตามพื้น...สุนัขจะมองตาม แล้ววิ่งไปกัด..ผ้า..ทีนี้ตอนกัดผ้า..มันจะไม่ยอมปล่อย..เราก็เล่นชักกะเย่อกับสุนัข ผ่อนแรงบ้าง ให้สุนัขดีใจ ว่าได้กัดผ้า แล้วก็โยนผ้าอีกผืนไปให้สุนัขกัด ทำไปแบบนี้เรื่อย ๆ
6). อย่าลืม...นายก ฯ ต้องรักษากติกาบ้านเมือง...คนพูดไม่ใช่ใคร...เป็นอภิสิทธิ์ที่เคยพูดไว้ สมัยตัวเองเป็นรัฐบาล...ให้ยิ่งลักษณ์บอกผ่านสื่อไปเลยว่า "ดิฉันนำตัวอย่างจากท่านอภิสิทธิ์มาใช้ค่ะ ท่านเคยพูดว่า ..ไม่ยอมให้มากดดัน บ้านเมืองต้องมีกฎหมาย" อะไรก็ว่าไป..
อีกอย่าง มันไม่มีกฎหมายฉบับไหนให้ยิ่งลักษณ์ลาออกได้...ไทยรัฐวิเคราะห์บอกว่า ยิ่งลักษณ์อาจอยากเลิกเต็มทน...ผมก็ฝากไปถามไทยรัฐหน่อย..อยากเลิกแล้วทำไมยังเป็นปาร์ตี้ลิสต์เบอร์หนึ่งของเพื่อไทย.. บางทีไทยรัฐ อาจจะต้องเจอปิดแยกลาดพร้าวสักสิบเดือนก็เป็นได้จากม็อบสุดที่รักของท่าน
ทีนี้ถามสักนิด..สมมติว่ายิ่งลักษณ์บอกว่า ออกก็ได้...แต่จะให้ไปลาออกกับใคร..กับประธานสภา ก็ไม่มีแล้ว..สภายุบไปแล้ว.. เห็นสุเทพบอกว่า ให้ไปขอพระราชทานลาออกจากในหลวง ซึ่งมันทำไม่ได้ จะให้นายก ฯ ไปกราบทูล ฯ อย่างนั้นได้อย่างไร เพราะนายก ฯ ไม่มีอำนาจ
คนพวกนี้ "เคยตัว" กับการลัดคิว.. ลัดคิว ม.7 ก็เจอมาแล้วรอบหนึ่ง...มีแต่บอกว่า ทำได้ ทำได้..แต่เอาเข้าจริง มันทำไม่ได้
ฟังชูวิทย์พูดที่ช่อง NBT ก็พูดชัดเจน พวกอยากดัง...อยากได้ผลประโยชน์ต่างตอบแทน ก็เข้ามา ดาหน้า... ดูอย่างสมัยตั้ง สภานิติบัญญัติแห่งชาติ มีหน้าที่กรองกฎหมาย... เข้าประชุมไม่ครบ แต่สามารถผ่านกฎหมายได้... ใช่มั้ย มีชัย ฤชุพันธ์ พวกนี้ ตัวดีนัก
แถมก็พวกทหารมักใหญ่ใฝ่สูงบางคน... ไม่ต้องไปไกล เอาอย่าง สมเจตน์ บุญถนอม กับ บรรณวิทย์ เก่งเรียน...ผลประโยชน์ตอบแทนหลังรัฐประหารคือ ไปเป็นบอร์ด ที่นั่นที่นี่...สะพรั่ง กัลยาณมิตร ไปเป็นบอร์ดทีโอที กับบอร์ดการท่า ....ทะเลาะกับบรรณวิทย์ เรื่องที่จอดรถสุวรรณภูมิ จำกันได้มั้ย เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด
เพราะฉะนั้น รัฐบาลต้องนิ่ง ๆ พล.อ.เปรม นั่นเป็นคนฉลาด..สมัยที่โดนปฏิวัติ..เขาหาที่ตั้งหลัก.. แล้วก็วางแผน วางกลยุทธ์ ในการตอบโต้กับม็อบ
ม็อบจริง ๆ มันสลายไม่ยาก..แต่อย่าไปสลาย..ใช้กลยุทธ์แบบสุมาอี้ นั่นแหละ..
เมื่อวานตั้งกระทู้ไป ...เห็นในมติชนออนไลน์ เขียนแล้วว่า ให้ตั้งรับแบบสุมาอี้
คนกลาง ๆ เขาดูออกครับว่าอะไรเป็นอะไร ล่อตัวใหญ่ ๆ ให้เปิดหน้าออกมาเรื่อย ๆ ...คนพวกนี้อยากได้อำนาจกันทั้งนั้นแหละ