ตอนแรกเขียนเรื่องนี้ลงเฟสบุ๊คตัวเอง แต่ญาติมาทะเลาะกันโหวกเหวกโวยวายจนสุดท้ายต้องลบโพสต์ไป
เลยตัดสินใจมาโพสต์ลงพันทิปเพื่อแชร์ประสบการณ์แทนค่ะ
>>>เมื่อวันอาทิตย์แม่ไปหาหมอมาค่ะ เนื่องจากยังเจ็บหน้าอกอยู่ พบคุณหมอสาวสวยที่โรงพยาบาลปลาสลิดคนหนึ่งค่ะ แม่บอกว่าเจอหมอคนนี้เป็นครั้งที่สองแล้วค่ะ ครั้งแรกไม่ประทับใจยังไง ครั้งนี้ก็ไม่ประทับจิตเช่นกัน
>>>คุณหมอสาวสวยใจกระด้างถามว่า "ยังไม่หายอีกเหรอ กินยามากก็กัดกระเพาะ เจ็บก็ต้องให้เจ็บบ้าง" >>> คือตอนแรกก็เข้าใจว่าหมอเป็นห่วง ไม่อยากให้กินยามากเพราะไม่ดีต่อสุขภาพ แต่มาคิดหนักๆอีกรอบ เอิ่มมม...คุณหมอคะ?? คนรถตกเหวมาแค่สองอาทิตย์คุณหมอจะให้หายป่วยแล้วหรือคะ แล้วเห็นแม่ฉันเป็นเด็กวัย 16 เหรอคะ ร่างกายมันฟื้นตัวเร็วขนาดนั้นเลย แถมพอแม่เอายาให้ดูก็ไม่ดูไม่สน นี่ฉันก็สงสัยว่าคุณได้ซักถามประวัติคนไข้หรือว่าเปล่าเป็นอะไรมา จะไม่ตรวจอะไรเพิ่มอีกหน่อยหรือคะ ถามให้จบๆแล้วก็เชิญไปรับยา...แค่นี้พอหรือคะ??
>>>สุดท้าย วันนี้แม่ไปหาหมอที่โรงพยาบาลเอกชนอื่นเพราะเจ็บหน้าอก ไอแล้วเจ็บมากๆ หมอส่งเอ๊กซเรย์พบว่ากระดูกอกด้านหน้าหักค่ะ คุณหมอใบประกอบโรคศิลป์ ณ โรงพยาบาลปลาสลิดคะ จะไม่ดีเอานะคะ คุณจะรับผิดชอบคำพูดและการกระทำของตัวเองยังไงคะ คุณไม่คิดจะแปลงความสงสัยว่าทำไมคนไข้ไม่หายเสียทีเป็นการกระทำด้วยการตรวจเพิ่มเติมหน่อยหรือคะ แถมยังมาพูดแย่ๆกับคนที่เจ็บช้ำมาทั่วทั้งร่างกาย คุณยังมาทำให้เจ็บช้ำทางด้านจิตใจด้วยนี่ไม่ทราบว่าเรียนกันมายังไงคะ
>>>คุณหมอคะ ถ้าทำได้แค่เป็นหมอที่มีเวรมีกรรมเข้าเวรเอาเงินไปวันๆก็เลิกเถอะค่ะ ชีวิตคนอื่นมีค่า กรุณาให้ความสำคัญและใส่ใจด้วยค่ะ
>>>จริงๆเรื่องที่ทางบ้านประสบอุบัติเหตุฉันไม่เคยอยากจะเล่าหรือเอามาเผยแพร่เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องส่วนตัว แต่เจอแบบนี้แล้วอดไม่ได้ค่ะ
นึกถึงคนที่ขวัญหายรถตกหน้าผากว่า 50 เมตร ลูกชายไม่ได้สติเลือดออกมากมาย สามียังพอรู้สึกตัวได้แต่ออกจากรถไม่ได้ ตัวเองปีนเขาขึ้นมาขอความช่วยเหลือทั้งๆที่เป็นผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่ง รองเท้าก็ไม่ได้ใส่ กิ่งไม้เกี่ยวตามตัวเต็มไปหมด พอกลับบ้านได้กลับมาเจอหมอที่แต่งตัวดูดีแต่ปากร้ายแถมไม่ใส่ใจแบบนี้ จิตใจคุณทำด้วยอะไรหรือคะ อย่าบอกว่าไม่รู้เรื่องราวค่ะ ถึงคุณจะไม่รู้อะไร คุณก็ควรจะปฏิบัติกับคนไข้อย่างใส่ใจ เข้าใจคำว่าใส่ใจไหมคะ ใส่ "หัวใจ" ของคุณลงไปไงคะ
สภาพรถค่ะ...โชคดีจริงๆที่ทุกคนปลอดภัย
>>>ที่เอามาแบ่งปันก็ได้แต่หวังว่าข้อความนี้จะส่งไปถึงบุคลากรของโรงพยาบาลบ้านเกิดของฉันแห่งนั้น รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์ท่านอื่นๆด้วย อยากให้คุณ "ใส่ใจ" กับคนไข้ให้มากๆ ปฏิบัติกับพวกเขาเสมือนเป็นญาติของตัวเองคนหนึ่ง เพราะเชื่อเถอะว่าสักวันหนึ่งที่ครอบครัวคุณต้องรับการรักษา คุณก็คงอยากให้คนที่ดูแลครอบครัวของคุณปฏิบัติกับท่านเหมือนเป็นญาติของตนเองเหมือนกัน
>>>ขอให้ทุกท่านเดินทางโดยสวัสดิภาพค่ะ<<<
ความเจ็บช้ำของลูกสาวที่พ่อแม่ประสบอุบัติเหตุรถตกเหว
เลยตัดสินใจมาโพสต์ลงพันทิปเพื่อแชร์ประสบการณ์แทนค่ะ
>>>เมื่อวันอาทิตย์แม่ไปหาหมอมาค่ะ เนื่องจากยังเจ็บหน้าอกอยู่ พบคุณหมอสาวสวยที่โรงพยาบาลปลาสลิดคนหนึ่งค่ะ แม่บอกว่าเจอหมอคนนี้เป็นครั้งที่สองแล้วค่ะ ครั้งแรกไม่ประทับใจยังไง ครั้งนี้ก็ไม่ประทับจิตเช่นกัน
>>>คุณหมอสาวสวยใจกระด้างถามว่า "ยังไม่หายอีกเหรอ กินยามากก็กัดกระเพาะ เจ็บก็ต้องให้เจ็บบ้าง" >>> คือตอนแรกก็เข้าใจว่าหมอเป็นห่วง ไม่อยากให้กินยามากเพราะไม่ดีต่อสุขภาพ แต่มาคิดหนักๆอีกรอบ เอิ่มมม...คุณหมอคะ?? คนรถตกเหวมาแค่สองอาทิตย์คุณหมอจะให้หายป่วยแล้วหรือคะ แล้วเห็นแม่ฉันเป็นเด็กวัย 16 เหรอคะ ร่างกายมันฟื้นตัวเร็วขนาดนั้นเลย แถมพอแม่เอายาให้ดูก็ไม่ดูไม่สน นี่ฉันก็สงสัยว่าคุณได้ซักถามประวัติคนไข้หรือว่าเปล่าเป็นอะไรมา จะไม่ตรวจอะไรเพิ่มอีกหน่อยหรือคะ ถามให้จบๆแล้วก็เชิญไปรับยา...แค่นี้พอหรือคะ??
>>>สุดท้าย วันนี้แม่ไปหาหมอที่โรงพยาบาลเอกชนอื่นเพราะเจ็บหน้าอก ไอแล้วเจ็บมากๆ หมอส่งเอ๊กซเรย์พบว่ากระดูกอกด้านหน้าหักค่ะ คุณหมอใบประกอบโรคศิลป์ ณ โรงพยาบาลปลาสลิดคะ จะไม่ดีเอานะคะ คุณจะรับผิดชอบคำพูดและการกระทำของตัวเองยังไงคะ คุณไม่คิดจะแปลงความสงสัยว่าทำไมคนไข้ไม่หายเสียทีเป็นการกระทำด้วยการตรวจเพิ่มเติมหน่อยหรือคะ แถมยังมาพูดแย่ๆกับคนที่เจ็บช้ำมาทั่วทั้งร่างกาย คุณยังมาทำให้เจ็บช้ำทางด้านจิตใจด้วยนี่ไม่ทราบว่าเรียนกันมายังไงคะ
>>>คุณหมอคะ ถ้าทำได้แค่เป็นหมอที่มีเวรมีกรรมเข้าเวรเอาเงินไปวันๆก็เลิกเถอะค่ะ ชีวิตคนอื่นมีค่า กรุณาให้ความสำคัญและใส่ใจด้วยค่ะ
>>>จริงๆเรื่องที่ทางบ้านประสบอุบัติเหตุฉันไม่เคยอยากจะเล่าหรือเอามาเผยแพร่เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องส่วนตัว แต่เจอแบบนี้แล้วอดไม่ได้ค่ะ
นึกถึงคนที่ขวัญหายรถตกหน้าผากว่า 50 เมตร ลูกชายไม่ได้สติเลือดออกมากมาย สามียังพอรู้สึกตัวได้แต่ออกจากรถไม่ได้ ตัวเองปีนเขาขึ้นมาขอความช่วยเหลือทั้งๆที่เป็นผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่ง รองเท้าก็ไม่ได้ใส่ กิ่งไม้เกี่ยวตามตัวเต็มไปหมด พอกลับบ้านได้กลับมาเจอหมอที่แต่งตัวดูดีแต่ปากร้ายแถมไม่ใส่ใจแบบนี้ จิตใจคุณทำด้วยอะไรหรือคะ อย่าบอกว่าไม่รู้เรื่องราวค่ะ ถึงคุณจะไม่รู้อะไร คุณก็ควรจะปฏิบัติกับคนไข้อย่างใส่ใจ เข้าใจคำว่าใส่ใจไหมคะ ใส่ "หัวใจ" ของคุณลงไปไงคะ
สภาพรถค่ะ...โชคดีจริงๆที่ทุกคนปลอดภัย
>>>ที่เอามาแบ่งปันก็ได้แต่หวังว่าข้อความนี้จะส่งไปถึงบุคลากรของโรงพยาบาลบ้านเกิดของฉันแห่งนั้น รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์ท่านอื่นๆด้วย อยากให้คุณ "ใส่ใจ" กับคนไข้ให้มากๆ ปฏิบัติกับพวกเขาเสมือนเป็นญาติของตัวเองคนหนึ่ง เพราะเชื่อเถอะว่าสักวันหนึ่งที่ครอบครัวคุณต้องรับการรักษา คุณก็คงอยากให้คนที่ดูแลครอบครัวของคุณปฏิบัติกับท่านเหมือนเป็นญาติของตนเองเหมือนกัน
>>>ขอให้ทุกท่านเดินทางโดยสวัสดิภาพค่ะ<<<