เกริ่นก่อนว่าได้มีโอกาศไปเรียนโหราศาสตร์มาตัวต่อตัว ช่วงแรกๆเป็นเรื่องพื้นๆพอตรวจทานความถูกต้องของอาจารย์ผู้สอนได้จากตำราและเว็บทั่วไป แต่ตอนนี้เริ่มเข้าโหมดยากจึงขอนำเรื่องราวหรือเกร็ดที่ค่อนข้าง ไม่แน่ใจมาสอบถาม หรือตรวจทานกับบรรดาผู้รู้อีกที ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ได้เป็นการลบหลู่อาจารย์แต่อย่างใด แต่เพื่อให้มั่นใจว่าเราเข้าใจถูกเท่านั้น
==========================================================================
วันนี้อาจารย์แบ่งว่า โหราศาสตร์ไทย(ที่สืบมาจากอินเดีย)ในปัจจุบันมีแนวคิกที่แบ่งกันชัดคือ
1.เรื่องดาวและภพ เป็นสัญลักษณ์ เมื่อเก็บสถิติได้แล้วจึงนำมาสร้างเป็น Symbol ต่างๆ เพื่อผูกเรื่อง
2.เรื่องดาวเป็นการสังเกตุพลังงาน และแสงเงาที่สร้างพลังงานฉาบเราเวลาเกิด และแต่ละๆครั้งที่ดาวโคจร ดังนั้นดาวและภพต่างๆจึงเกิดขึ้นจริงๆ พลังงานนั้นเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ท่านว่าถ้านึกไม่ออกให้นึกถึงพลังงานของดวงจันทร์ที่มีต่อคนและพืช ดาวอื่นๆก็เช่นกันที่เราเห็นๆฤดูกาลที่เปลี่ยนไปนั้นหาใช่เป็นจากเพียงอากาศเท่านั้นแต่มาจากพลังงานการเคลื่อนของดวงดาว หรือกลุ่มดาวด้วย
"ทั้งนี้ทั้งนั้นบางครั้งอาจเกิดการประสมได้เช่นว่า โหราศาสตร์ไทยตอนนี้นำเรื่อง การทำสถิติและสังเกตุมาร่วมกัน เอาลัคนามาตั้งเป็นราศี แล้วทายว่าราศีอยู่ที่ใหนเลย อย่างนี้ไม่ถูกตามโบราณนัก เพราะเรื่องลัคนาเป็นเรื่องของดาวและแสง แต่เรื่องราศีเป็นเรื่องของสถิติ ดังนั้นหากจะทำนายด้วยโหราศาสตร์ไทแล้วไม่ควรนำราศีมาเกี่ยวเนื่อง แต่เมื่อต้องการนำราศีเข้ามาร่วมทำนายจริงๆ ให้ใช้ลักษณะร่วมจากช่วงวันเกิด คล้ายที่เขาทายกันว่าเกิดวันที่เท่าไหร่ถึงวันที่เท่าไหร่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งที่เกิดการนำมาปนกันนั้น เนื่องจากโหราศาสตร์ไทยมีการขยับของราศีหรือพิกัดหมู่ดาว(ฤกษ์)เช่นกัน แต่ใช้ไปคนละอย่าง และการนำมารวมกันอาจเกิดผลเสียมากกว่าผลดีได้" <== อันนี้สงสับสุดครับ เหมือนจะขัดกับตำราหลายๆเล่ม ยกเว้นกรณีหมอลัคน์ ฟันธง เหมือนจะใช้คล้ายๆกันนี่
เริ่มเรียนโหราศาสตร์วันที่ 7
==========================================================================
วันนี้อาจารย์แบ่งว่า โหราศาสตร์ไทย(ที่สืบมาจากอินเดีย)ในปัจจุบันมีแนวคิกที่แบ่งกันชัดคือ
1.เรื่องดาวและภพ เป็นสัญลักษณ์ เมื่อเก็บสถิติได้แล้วจึงนำมาสร้างเป็น Symbol ต่างๆ เพื่อผูกเรื่อง
2.เรื่องดาวเป็นการสังเกตุพลังงาน และแสงเงาที่สร้างพลังงานฉาบเราเวลาเกิด และแต่ละๆครั้งที่ดาวโคจร ดังนั้นดาวและภพต่างๆจึงเกิดขึ้นจริงๆ พลังงานนั้นเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ท่านว่าถ้านึกไม่ออกให้นึกถึงพลังงานของดวงจันทร์ที่มีต่อคนและพืช ดาวอื่นๆก็เช่นกันที่เราเห็นๆฤดูกาลที่เปลี่ยนไปนั้นหาใช่เป็นจากเพียงอากาศเท่านั้นแต่มาจากพลังงานการเคลื่อนของดวงดาว หรือกลุ่มดาวด้วย
"ทั้งนี้ทั้งนั้นบางครั้งอาจเกิดการประสมได้เช่นว่า โหราศาสตร์ไทยตอนนี้นำเรื่อง การทำสถิติและสังเกตุมาร่วมกัน เอาลัคนามาตั้งเป็นราศี แล้วทายว่าราศีอยู่ที่ใหนเลย อย่างนี้ไม่ถูกตามโบราณนัก เพราะเรื่องลัคนาเป็นเรื่องของดาวและแสง แต่เรื่องราศีเป็นเรื่องของสถิติ ดังนั้นหากจะทำนายด้วยโหราศาสตร์ไทแล้วไม่ควรนำราศีมาเกี่ยวเนื่อง แต่เมื่อต้องการนำราศีเข้ามาร่วมทำนายจริงๆ ให้ใช้ลักษณะร่วมจากช่วงวันเกิด คล้ายที่เขาทายกันว่าเกิดวันที่เท่าไหร่ถึงวันที่เท่าไหร่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งที่เกิดการนำมาปนกันนั้น เนื่องจากโหราศาสตร์ไทยมีการขยับของราศีหรือพิกัดหมู่ดาว(ฤกษ์)เช่นกัน แต่ใช้ไปคนละอย่าง และการนำมารวมกันอาจเกิดผลเสียมากกว่าผลดีได้" <== อันนี้สงสับสุดครับ เหมือนจะขัดกับตำราหลายๆเล่ม ยกเว้นกรณีหมอลัคน์ ฟันธง เหมือนจะใช้คล้ายๆกันนี่