คือดิฉันได้ซื้อบ้านหลังหนึ่ง เป็นโครงการเล็ก ๆ
บ้านเดี่ยวชั้นเดียว 70 ตารางวา
เจ้าของโครงการ รู้จักกัน ก็เลยตัดสินใจซื้อ
เพราะคิดว่า ถ้าเกิดมีปัญหาอะไร น่าจะคุยกันได้
ทางเจ้าของที่ดิน ได้แจ้งว่า
1.ราคาที่ตกลงกันเท่านี้นะ
2.ในการโอนนั้น ให้ผู้ซื้อเป็นคนโอนฝ่ายเดียว
3.ให้ทำการซื้อแยกที่ดิน จาก ตัวบ้าน คือ ดิฉันซื้อที่ดินจากเขา และ เขาบอกว่า จะรับเหมาทำบ้านให้ดิฉัน
ดิฉัน ตกลงตามนั้น โดยไม่ได้มีรายละเอียดอะไร เพิ่มเติมในสัญญา เพราะมองว่าเป็นคนรู้จักกัน
เวลาผ่านไป
การทำบ้านก็มีปัญหาอุปสรรค ตลอดมา
ด้วย มีการเปลี่ยนช่างทำบ้าน หลายทีมมาก
อาจจะด้วยค่าแรงที่ถูก หรืออย่างไรไม่ทราบ
ด้วยความที่เป็นผู้หญิง บางครั้งก็อ่านแบบไม่ออก
ดูไม่ออกว่า ส่วนไหน ทางโครงการจัดให้ ส่วนใหญ่เราต้องจ้างคนงานเอง
ถูกคนงาน หลอกเอาเงินไปก็เยอะ แถมคนงาน พอได้เงินแล้ว ก็ทิ้งงานก็มี
เจ้าของโครงการไม่เคยเข้ามาดูแลเลย
แถมมาต่อว่า ดิฉันอีกว่า ควรที่จะเข้ามาคุมงานบ้าง
ดิฉันมีภาระกิจหลายทาง ไหนจะงานที่ต้องรับผิดชอบ
เรื่องงาน จะแอบไปคุมบ้านก็ไม่ได้
ไหนจะเรื่องที่กำลังเรียนต่อ ป.โท
และด้วยความไว้วางใจว่า คนรู้จักกัน นิสัยดี
ชอบเข้าวัด เข้าวา
น่าจะไว้วางใจได้
ลืมบอกไปว่า ดิฉัน และ เพื่อนที่เป็นสาวโสด 3 คน ซื้อ บ้านสามหลังติดกัน คนละหลัง
เจ้าของบ้านจะกำหนด ราคาวัสดุมาให้
ถ้าไม่พอใจ จะสั่งในราคาที่เกินก็ได้ แต่ต้องจ่ายส่วนที่เกินเอง
ดิฉันมองว่า วัสดุที่ให้ ไม่สวย ก็เลยเลือกเอง เพราะคิดว่า ตอนจ่ายเงินซื้อบ้าน เขาน่าจะหักส่วนต่างให้ดิฉัน
เช่น กระเบื้องปูพื้น
วันหนึ่ง
เพื่อนดิฉันมาบอกว่า
มีผู้ชายคนหนึ่ง บอกว่า เป็นช่างไฟ ได้ไปติดต่อกับ เจ้าของโครงการแล้ว
มาอาสาขอทำไฟ ด้วยระบบเดินสายใต้ดินให้
โครงการ ให้เงิน 10,000 บาท แต่เขาจะคิดหลังละ 50,000 บาท จะเอามั้ย
ดิฉันก็คิดว่า ในเมื่อเขาได้ไปติดต่อกับเจ้าของโครงการแล้ว
แสดงว่า น่าจะไว้ใจได้ ก็เลยตกลงให้ทำ ทั้ง 3 หลังเลย
( แต่ในใจ ตะหงิด ๆ ว่า แพงจัง )
ก็ให้ช่างทำไป
เวลาผ่านไป
ช่างทำหลังคา
ดิฉันมองว่า
เอ๊ะ มันดูเอียง ๆ ไม่ค่อยจะสมบูรณ์
ก็เลยถามช่าง
ช่างก็บอกว่า
มันก็เป็นแบบนี้แหละครับ
แต่ในความรู้สึกไม่แล้วใจ
เป็นห่วงกลัว ถ้าหลังคา ไม่ดี อาจจะรั่วได้
เลยแจ้งทางโครงการ
โครงการก็ดี มาแก้ไขให้
ผ่านไป เรื่องหลังคา
งานปูนผ่านไป
งานกระเบื้อง
เริ่มต้นที่กระเบื้องห้องน้ำ
ดิฉันเลือกกระเบื้ององน้ำ ( เพิ่มเงินตามเคย )
และทางร้านได้จัดส่งให้
โดย ระบุข้างกล่องกระเบื้องว่า สีไหน ไว้ข้างบน และ สีไหนไว้ข้างล่าง ( หมายถึง กระเบื้องติดผนังนะคะ )
ปรากฏว่า ช่างทำผิด สลับกัน
ไม่เป็นไร ให้อภัย หยวน ๆ
ครั้นพอ เทพื้นห้องน้ำ
ด้วยความไว้วางใจ
ไม่ได้เข้ามาดู
ปรากฏว่า พื้นห้องน้ำส่วนที่ใกล้ประตู ต่ำกว่า ส่วนที่อาบน้ำ
เอ้า ทุบทิ้งเอาใหม่
ค่าวัสดุ ดิฉันออก ค่าแรงดิฉันออก
ไม่เป็นไร หยวน ๆ กันไป
ในระหว่างนี้ หัวหน้าคนงาน มีปัญหากับเจ้าของโครงการ ลาออกไป
ตลอดเวลาที่ผ่านมา เจ้าของโครงการที่บอกว่า จะรับเหมาทำบ้านให้ดิฉันไม่เคยเข้ามาดูเลย
พอแจ้งปัญหา ก็จะบอกว่า ให้บอกช่างคนนั้น คนนี้ให้ทำ สองตาไม่เคยมาแลเลย
หลังจากหัวหน้าคนงาน คนน้นลาออก
ปล่อยเวลาให้ช่างทำงาน ทำยถากรรมไป ประมาณ 2-3 เดือน
งานปูพื้นแย่มาก ๆ
คือ มองดูก็รู้ว่ามันไม่ใช่ ( ในสายตา ผู้หญิงทีไม่มีความรู้เรื่องช่างแบบดิฉัน )
พอทักท้วง ช่างก็บอกว่า มันเป็นแบบนี้แหล่ะครับ
อ้อ ลืมบอกไป ว่า ตอนแรก ดิฉันวางมัดจำไป ห้าหมื่นบาท
หลังจากนั้น ก็เอาไปให้เขาอีก โดยที่เขาไม่ได้ร้องขอ สองแสนบาท
ราคาบ้านที่ตกลงกัน 1,800,000 บาท
ก่อนที่จะเอาเงินไปให้สองแสนบาทนั้น
ช่วงนั้น อยู่ในอาการไม่อยากได้บ้าน
ถึงขนาดประกาศขายดาวน์
แต่ด้วยความสงสารเจ้าของโครงการ
ก็เลยคิดว่า เอาก็เอา
ก็เลยอยู่ต่อ
หลังจาก หัวหน้าคนงานเก่าลาออกไปได้ประมาณ 2-3 เดือน
ก็ได้เสมียนคนใหม่มา เป็นผู้หญิง คน ๆ นี้ อ้างว่า ตัวเองมีความรู้ทางช่างเหมือนกัน
พอมี เสมียนมาปุ๊บ
ไม่ว่าจะมีปัญหาอะไรก็ตาม หรือ เรื่องอะไรก็ตาม เจ้าของโครงการ จะบอกว่า ให้บอกเสมียน ทุกเรื่อง ร้อยเปอร์เซนต์
การทำบ้านก็ยังคงมีปัญหา อะไร ต่อมิอะไร จุกจิกตลอด เพราะว่าช่าง คิดแค่ว่า ไม่เป็นไรหรอกครับ
แล้วทุกอย่าง ดิฉัน ต้องจ่ายเพิ่มทุกอย่าง
เช่น เรื่องสี เสมียนคนนี้ จะรีบทาสี โดยที่ดิฉันยังไม่ได้บอกเลยว่า จะเอาสีนี้นะ ( เจ้าของโครงการ อนุญาตให้เลือกสีได้เอง )
โดยก่อนจะทาสี ดิฉันจะบอกว่า ดิฉันชอบโทนนี้นะ แต่อย่าเพิ่งทา ขอดิฉันระบุ ไปก่อนว่า เอาสีรหัสนี้นะ
เพราะว่า ถ้าบอกว่า ชอบสีเขียว ก็ต้องระบุ ไปให้ชัดเจนว่า เขียวไหน บอกรหัสสีไปเลย
แต่ เธอ ก็จะรีบบอกคนงานให้ทา ใช่มันเป็นสีเขียว แต่ไม่ใช่เขียวที่ดิฉันต้องการ
เอาล่ะ ก็ต้องทาใหม่ คนจ่ายเงินคือ ดิฉันอีกแล้ว
มีวันหนึ่ง
เพื่อนดิฉัน ได้พาคนดูฮวงจุ้ยบ้าน มาดู
เสมียนคนนี้นั่งอยู่ด้วย
หมอดูบอกว่า รั้วบ้าน ให้ทำเป็นรูปคลื่น ซึ่งปรกติรั้วบ้าน จะเป็นเส้นตรง
ดิฉันก็ถามเสมียนคนนี้ว่า สั่งทำรั้วหรือยัง เธอตอบว่า ยังค่ะ
ดิฉันก็เลยบอกว่า ถ้าอย่างนั้น ก็ทำตามแบบที่หมอดูบอกแล้วกัน เพราะว่ายังไม่ได้ทำ
เธอก็รับปากว่าค่ะ
เวลาผ่านไป ประมาณ 1 อาทิตย์
เธอบอกว่า ช่างทำรั้ว เอามาติดตั้งให้โดยที่ไม่ได้บอก
ซึ่งเป็นรูปทรง ตรง ไม่ตรงกับที่ดิฉันต้องการ
เสมียนคนนี้บอกว่า ไม่เป็นไร เดี๋ยวจะสั่งให้เขาทำเป็นรูปคลื่นตามที่ต้องการ ดิฉันก็เสียเงินเพิ่มอีก
หมอดูบอกว่า หลังบ้านควรที่จะต่อเติมครัวหน่อยนะ
ดิฉัน เห็นว่า บ้านที่โครงการ กำลังทำนั้น ครัวเล็กและแคบจริง ๆ เหมือนออกแบบมาเพื่อให้เราต่อเติม
เสมียนคนนั้น ก็ถามดิฉันว่า จะต่อครัวไหมคะ ดิฉันเห็นว่า ไหน ๆ ก็กำลังทำบ้านอยู่ ต่อเติมให้แล้วเสร็จแล้วกัน
ก็เลยตกลงไป โดยคิดว่า เจ้าของโครงการน่าจะให้มาถาม เพราะไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร เจ้าของของโครงการมักจะบอกว่า
ให้คุยกับเสมียน ดิฉันก็เลยตกลง โดยไม่ได้ไปคุยกับเจ้าของโครงการ เสมียนคนนั้นเสนอราคามา ดิฉันก็เอามาดูคร่าว ๆ
เพราะเธอบอกว่า เป็นการรับเหมา ซึ่งทราบมาว่า เป็นราคาที่แพงมากกกกกกกกก
ก่อนหน้าที่จะเสมียนคนนี้จะมารับงาน
มีงานที่พวกคนงานก่อไว้ ให้ปวดหัวคือ
ดิฉันแจ้งทางโครงการว่า ต้องการหน้าต่างมีขอบเป็นไม้ ไม่ต้องการอลูมีเนียม ( ทางเจ้าของโครงการ ก็บอกอีกเช่นเคยว่า ถ้าต้องการไม้ ดิฉันก็ต้องจ่ายค่าไม้เอง ดิฉันก็ตกลง ด้วยความที่บ้านคุณพ่อ คุณแม่ เป็นบ้านไม้ ก็เลยอยากได้แบบนั้นบ้าง )
เมื่อช่างติดต่างวงกบหน้าต่าง ปรากฏว่า มันไม่แนบสนิท คือ มีช่องว่างระหว่าง ขอบวงกบหน้าต่างด้านบน กับช่องขอบด้านบนเป็นรูชัดเจน
ประมาณเกือบครึ่งนิ้ว และไม้ก็เนื้ออ่อนมาก ดิฉันก็ต่อว่า กับเจ้าของโครงการ ทางเจ้าของโครงการก็บอกว่า ถ้าอยากได้ไม้ จะราคาแพงมาก ( ดิฉันก็คิดในใจว่า แล้วทำไม่ถามดิฉัน ราคาไม้ที่แพง จะจ่ายส่วนต่างมั้ย ) สุดท้าย ดิฉันก็ต้องกลับไปทำอลูมิเนียมเหมือนเดิน ส่วนไม้หน้าต่าง วงกบ ดิฉันก็ต้องจ่าย เพราะว่า มันอยู่นอกเหนือโครงการ ทุกวันนี้ ยังไม่รู้จะเอาวงกบพวกนี้ ไปทำอะไรเลย
จากหน้าต่าง คราวนี้ มาถึงเหล็กดัด ( โครงการไม่มีให้ ต้องจ่ายเอง ) ด้วยความที่อยากทำบ้านให้เรียบร้อยไปเลย ก็ว่าจะใส่เหล็กดัด เสมียนคนนี้ เสนองานมาอีกแล้ว ดิฉันบอกว่า ดิฉันมีช่างประจำอยู่แล้ว ซึ่งระดับความเชื่อถือช่างประจำรายนี้คือ เคยทำงานให้ศาลากลางจังหวัดมาแล้ว เสมียนคนนี้ พยายามตื้อดิฉัน ดิฉันก็ให้เธอดูตัวอย่างที่ช่างคนนี้ ทำให้บ้านที่ดิฉันพักอาศัยอยู่ในปัจจุบัน เธอบอกว่า เหล็กไม่เท่ากัน เหล็กที่บ้านดิฉันเป็นเหล็ก สาม แต่ที่จะทำให้ดิฉันนี้เป็นเหล็กสี่ ดิฉันก็ไม่ได้ว่าอะไร แล้วเธอก็เอาแบบมาให้ดิฉันดู ถามว่าชอบลายอะไร ดิฉันก็เลือกไป ในใจ ไม่เคยคิดว่า ดิฉันถามเธอว่า ช่างทำเหล็กเขาตัดเหล็กหรือยัง เพราะว่าจะได้ ไปเอาเจ้าที่ดิฉันหมายตา เธอตอบว่า ตัดแล้ว แต่ว่าเวลาผ่านไปนานมาก เกือบจะเป็นเดือน เหล็กถึงได้มาติดตั้งให้ เหล็กบางมาก เขย่าก็จะหักแล้ว แถมมีการโกงเหล็กดิฉันอีก นอกจากจะลดขนาดเหล็กลงแล้ว ยังลดปริมาณเหล็กของดิฉันไปอีก คือ ขยายความกว้างของช่องไฟเหล็กดัดให้กว้างมากขึ้น ลดจำนวนแถวของเหล็กดัดลง
กว้างขนาดไหนคิดดูก็แล้วกัน เด็กอายุ 7-8 ขวบที่ตัวเล็ก ๆ ผอม ๆ หน่อย สามารถลอดเข้าไปได้ ดิฉันก็ถามกับเธอว่า ร้านเหล็กอยู่ตรงไหน ดิฉันจะแจ้งความจับ ฐานะโกงเหล็กดิฉัน เธอมีท่ามีตกใจ ( ลืมบอกไปว่า ทางเจ้าของโครงการจะไว้วางใจเธอมาก ให้เธอจัดการแทนทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงิน บัญชีต่าง ๆ การสั่งซื้อของ ซึ่งเป็นสาเหตุให้ดิฉัน ไม่ได้คุยกับเจ้าของโครงการ เพราะไม่ว่าจะแจ้งเรืองอะไร เขาจะบอกว่า คุยกับเสมียน แต่เขาก็มาดูบ้านดิฉันบ้าง แต่น้อยมาก และตัวของดิฉันเอง แทบจะไม่ได้ดูบ้านเลย ) บ้านหลังนี้ นอกจากโครงบ้านแล้ว ดิฉนออกเงินเองแทบจะทั้งหลัง
กลับมาเรื่องต่อเติมหลังบ้าน ในการต่อเติมหลังบ้านไม่ได้มีการทำเป็นสัญญาที่เป็นลายลักษณ์อักษร สิ่งที่ทำมีดังนี้
1. เนื้อที่ ประมาณ 30 ตารางเมตร
2. ถมดิน ประมาณ 6 คนรถ
3.ทำหลังคาโครงเหล็ก กระเบื้องลอนคู่ ใส่แผงกันความร้อน
4.ทำเคาเตอร์ล้างจาน + ประกอบอาหาร เคาเตอร์ล้างจานนี้ ประตูเคาเตอร์ดิฉันก็ต้องเป็นคนซื้อเอง เธอบอกว่าให้ดิฉันไปซื้อประตู โดยที่เธอไปด้วย ดิฉันไม่รู้แบบของเคาเตอร์ ก็ซื้อประตูมาบานเดียว ครั้นพอทำไป พบว่า มันต้องมีประตู 2-3 บาน เนื่องจากเคาเตอร์ยาวมาก แต่เธอให้ช่างก่อปูนปิดหมด จะเอาของไว้ หรือ เอาของออก ก็ลำบาก ต้องมุด หรือเรียกว่าคลานเข้าไปเอาของเลยก็ว่าได้ พอดิฉันต่อว่า ทำไมถึงทำประตูให้ดิฉันแค่บานเดียว จะเอาของอย่างไร เธอก็พูดแบบหน้าตาเฉยว่า ก็ดิฉันซื้อแค่บานเดียว แต่เธอเป็นคนออกแบบ น่าจะบอกดิฉันบ้าง
5.ทำเคาเตอร์สำหรับซักล้าง ( ชุดชั้นใน / ผ้าถูบ้าน ) เพราะเกรงว่า เมื่อแก่ตัวไป การก้ม ๆ เงย ๆ จะลำบาก
6.ปูพื้นกระเบื้อง
8.เดินสายไฟ
9.งานประปา
10.เจาะหน้าต่างบานเกร็ด 7 ช่อง
11.ใส่มุ้งลวดเหล็กดัด ( ปัจจุบันยังไม่ได้ใส่ เพราะดิฉันให้ถอดออกไปแก้งาน )
ประมาณนี้นะคะ เธอเรียกมาที่ราคา 350,000 บาท
12. งานสี ส่วนนี้ดิฉันก็ต้องจ่ายเองอีก
อ้อ ลืมบอกไปว่า
บรรดาอ่างล่างหน้า ก็น้ำ ฝักบัว ต่าง ๆ เหล่านี้ ดิฉันซื้อมาเองหมด กระจกล้างหน้า ชักโครกดิฉันซื้อมาเองหมด
เพราะอยากให้บ้านได้ใช้ของดี ๆ
แล้วเธอก็ถามดิฉันว่า ไม่ปูกระเบื้องรอบบ้านหรือคะ ใจดิฉันไม่อยากปูหรอกค่ะ อยากจะแค่ราดปูนก็พอ และส่วนที่เป็นพื้นที่หน้าบ้านเล็ก ก็อยากจะทำเป็นส่วนหย่อม เผลอแป๊บเดียว เธอเอาคนงานปูกระเบื้องแล้วค่ะ อี้ง ค่ะ อึ้ง พูดไม่ออก งานนี้ จ่ายเป็นแสนอีกแล้ว ซึ่งงานกระเบื้องนี้ ดิฉันตั้งใจจะเอาเศษกระเบื้องที่เหลือ ๆ มาประติดประต่อกัน ที่ไหนได้ ต้องซื้อใหม่อีก ทั้ง ๆ ที่ไม่มีเงินเหลือติดตัวเลย ต้องใช้บัตรเครดิต
ที่ตัดสินใจ กดบัตรเครดิต เพราะเธอบอกว่า ใช่เวลาในการยื่นเรื่องไม่นาน ประมาณ สองสัปดาห์
พอบ้านใกล้จะเสร็จ เป็นเวลายื่นกู้ใช่มั้ยคะ
เธอก็จะบอกว่า ต้องมีเงินจำนวนหนึ่ง ประมาณ 10,000 บาท ไปให้ใต้โต๊ะธนาคาร เพื่อให้เดินเรื่องเร็ว
ดิฉันก็อยากที่ให้การกู้เรียบร้อยโดยเร็ว เพราะว่า ออกเงินล่วงหน้าไปเยอะมาก จึงจ่ายเธอไป แต่เวลาผ่านไป กว่าจะได้เงินก็เกือบ ๆ จะเดือนครึ่ง
และที่ได้รับการอนุมัติไม่ใช่ฝีมือเธอหรอกค่ะ บังเอิญ รุ่นพี่โรงเรียนเก่าสมัยประถม เขาทำหน้าที่นี้ เขาเห็นดิฉันพอดี และจำดิฉันได้ เขาเลยเร่งเรื่องให้
เรื่องทะเบียนบ้าน ไฟฟ้า ประปา เธอก็บอกว่า ต้องมีใต้โต๊ะ ก็จ่ายเฉพาะค่าใต้โต๊ะอีก 10,000 บาท
ครั้นเวลาธนาคารเรียกไปทำสัญญา
สิ่งแรกที่จะต้องทำ คือ ไปทำการซื้อขาย โอน ที่ดินกันที่ทำการที่ดิน
เธอจะเป็นคนจัดการหมด ( อ้อ...ลืมบอกไปว่า เธอมีกิ๊กเป็นเจ้าพนักงานที่ดิน ซึ่ง ผู้ชายคนนี้ ในตอนแรก ๆ ที่เริ่มมาดูบ้านให้ดิฉัน เธอพยายามที่จะ ยุคน ๆ นี้ให้ดิฉัน เนื่องจากว่า ดิฉัน ประกาศว่า อยู่ตัวคนเดียว เธอพยายามบอกว่า คน ๆ นี้เป็นพี่ชายเธอ ดีอย่างนั้นดีอย่างนี้ มีหลายอย่างที่ตรงกับดิฉัน ตอนแรก ๆ ก็ผิดสังเกตว่า เอ๊ย..
แบบเข้าข่ายฉ้อโกง แจ้งความได้ไหมคะ
บ้านเดี่ยวชั้นเดียว 70 ตารางวา
เจ้าของโครงการ รู้จักกัน ก็เลยตัดสินใจซื้อ
เพราะคิดว่า ถ้าเกิดมีปัญหาอะไร น่าจะคุยกันได้
ทางเจ้าของที่ดิน ได้แจ้งว่า
1.ราคาที่ตกลงกันเท่านี้นะ
2.ในการโอนนั้น ให้ผู้ซื้อเป็นคนโอนฝ่ายเดียว
3.ให้ทำการซื้อแยกที่ดิน จาก ตัวบ้าน คือ ดิฉันซื้อที่ดินจากเขา และ เขาบอกว่า จะรับเหมาทำบ้านให้ดิฉัน
ดิฉัน ตกลงตามนั้น โดยไม่ได้มีรายละเอียดอะไร เพิ่มเติมในสัญญา เพราะมองว่าเป็นคนรู้จักกัน
เวลาผ่านไป
การทำบ้านก็มีปัญหาอุปสรรค ตลอดมา
ด้วย มีการเปลี่ยนช่างทำบ้าน หลายทีมมาก
อาจจะด้วยค่าแรงที่ถูก หรืออย่างไรไม่ทราบ
ด้วยความที่เป็นผู้หญิง บางครั้งก็อ่านแบบไม่ออก
ดูไม่ออกว่า ส่วนไหน ทางโครงการจัดให้ ส่วนใหญ่เราต้องจ้างคนงานเอง
ถูกคนงาน หลอกเอาเงินไปก็เยอะ แถมคนงาน พอได้เงินแล้ว ก็ทิ้งงานก็มี
เจ้าของโครงการไม่เคยเข้ามาดูแลเลย
แถมมาต่อว่า ดิฉันอีกว่า ควรที่จะเข้ามาคุมงานบ้าง
ดิฉันมีภาระกิจหลายทาง ไหนจะงานที่ต้องรับผิดชอบ
เรื่องงาน จะแอบไปคุมบ้านก็ไม่ได้
ไหนจะเรื่องที่กำลังเรียนต่อ ป.โท
และด้วยความไว้วางใจว่า คนรู้จักกัน นิสัยดี
ชอบเข้าวัด เข้าวา
น่าจะไว้วางใจได้
ลืมบอกไปว่า ดิฉัน และ เพื่อนที่เป็นสาวโสด 3 คน ซื้อ บ้านสามหลังติดกัน คนละหลัง
เจ้าของบ้านจะกำหนด ราคาวัสดุมาให้
ถ้าไม่พอใจ จะสั่งในราคาที่เกินก็ได้ แต่ต้องจ่ายส่วนที่เกินเอง
ดิฉันมองว่า วัสดุที่ให้ ไม่สวย ก็เลยเลือกเอง เพราะคิดว่า ตอนจ่ายเงินซื้อบ้าน เขาน่าจะหักส่วนต่างให้ดิฉัน
เช่น กระเบื้องปูพื้น
วันหนึ่ง
เพื่อนดิฉันมาบอกว่า
มีผู้ชายคนหนึ่ง บอกว่า เป็นช่างไฟ ได้ไปติดต่อกับ เจ้าของโครงการแล้ว
มาอาสาขอทำไฟ ด้วยระบบเดินสายใต้ดินให้
โครงการ ให้เงิน 10,000 บาท แต่เขาจะคิดหลังละ 50,000 บาท จะเอามั้ย
ดิฉันก็คิดว่า ในเมื่อเขาได้ไปติดต่อกับเจ้าของโครงการแล้ว
แสดงว่า น่าจะไว้ใจได้ ก็เลยตกลงให้ทำ ทั้ง 3 หลังเลย
( แต่ในใจ ตะหงิด ๆ ว่า แพงจัง )
ก็ให้ช่างทำไป
เวลาผ่านไป
ช่างทำหลังคา
ดิฉันมองว่า
เอ๊ะ มันดูเอียง ๆ ไม่ค่อยจะสมบูรณ์
ก็เลยถามช่าง
ช่างก็บอกว่า
มันก็เป็นแบบนี้แหละครับ
แต่ในความรู้สึกไม่แล้วใจ
เป็นห่วงกลัว ถ้าหลังคา ไม่ดี อาจจะรั่วได้
เลยแจ้งทางโครงการ
โครงการก็ดี มาแก้ไขให้
ผ่านไป เรื่องหลังคา
งานปูนผ่านไป
งานกระเบื้อง
เริ่มต้นที่กระเบื้องห้องน้ำ
ดิฉันเลือกกระเบื้ององน้ำ ( เพิ่มเงินตามเคย )
และทางร้านได้จัดส่งให้
โดย ระบุข้างกล่องกระเบื้องว่า สีไหน ไว้ข้างบน และ สีไหนไว้ข้างล่าง ( หมายถึง กระเบื้องติดผนังนะคะ )
ปรากฏว่า ช่างทำผิด สลับกัน
ไม่เป็นไร ให้อภัย หยวน ๆ
ครั้นพอ เทพื้นห้องน้ำ
ด้วยความไว้วางใจ
ไม่ได้เข้ามาดู
ปรากฏว่า พื้นห้องน้ำส่วนที่ใกล้ประตู ต่ำกว่า ส่วนที่อาบน้ำ
เอ้า ทุบทิ้งเอาใหม่
ค่าวัสดุ ดิฉันออก ค่าแรงดิฉันออก
ไม่เป็นไร หยวน ๆ กันไป
ในระหว่างนี้ หัวหน้าคนงาน มีปัญหากับเจ้าของโครงการ ลาออกไป
ตลอดเวลาที่ผ่านมา เจ้าของโครงการที่บอกว่า จะรับเหมาทำบ้านให้ดิฉันไม่เคยเข้ามาดูเลย
พอแจ้งปัญหา ก็จะบอกว่า ให้บอกช่างคนนั้น คนนี้ให้ทำ สองตาไม่เคยมาแลเลย
หลังจากหัวหน้าคนงาน คนน้นลาออก
ปล่อยเวลาให้ช่างทำงาน ทำยถากรรมไป ประมาณ 2-3 เดือน
งานปูพื้นแย่มาก ๆ
คือ มองดูก็รู้ว่ามันไม่ใช่ ( ในสายตา ผู้หญิงทีไม่มีความรู้เรื่องช่างแบบดิฉัน )
พอทักท้วง ช่างก็บอกว่า มันเป็นแบบนี้แหล่ะครับ
อ้อ ลืมบอกไป ว่า ตอนแรก ดิฉันวางมัดจำไป ห้าหมื่นบาท
หลังจากนั้น ก็เอาไปให้เขาอีก โดยที่เขาไม่ได้ร้องขอ สองแสนบาท
ราคาบ้านที่ตกลงกัน 1,800,000 บาท
ก่อนที่จะเอาเงินไปให้สองแสนบาทนั้น
ช่วงนั้น อยู่ในอาการไม่อยากได้บ้าน
ถึงขนาดประกาศขายดาวน์
แต่ด้วยความสงสารเจ้าของโครงการ
ก็เลยคิดว่า เอาก็เอา
ก็เลยอยู่ต่อ
หลังจาก หัวหน้าคนงานเก่าลาออกไปได้ประมาณ 2-3 เดือน
ก็ได้เสมียนคนใหม่มา เป็นผู้หญิง คน ๆ นี้ อ้างว่า ตัวเองมีความรู้ทางช่างเหมือนกัน
พอมี เสมียนมาปุ๊บ
ไม่ว่าจะมีปัญหาอะไรก็ตาม หรือ เรื่องอะไรก็ตาม เจ้าของโครงการ จะบอกว่า ให้บอกเสมียน ทุกเรื่อง ร้อยเปอร์เซนต์
การทำบ้านก็ยังคงมีปัญหา อะไร ต่อมิอะไร จุกจิกตลอด เพราะว่าช่าง คิดแค่ว่า ไม่เป็นไรหรอกครับ
แล้วทุกอย่าง ดิฉัน ต้องจ่ายเพิ่มทุกอย่าง
เช่น เรื่องสี เสมียนคนนี้ จะรีบทาสี โดยที่ดิฉันยังไม่ได้บอกเลยว่า จะเอาสีนี้นะ ( เจ้าของโครงการ อนุญาตให้เลือกสีได้เอง )
โดยก่อนจะทาสี ดิฉันจะบอกว่า ดิฉันชอบโทนนี้นะ แต่อย่าเพิ่งทา ขอดิฉันระบุ ไปก่อนว่า เอาสีรหัสนี้นะ
เพราะว่า ถ้าบอกว่า ชอบสีเขียว ก็ต้องระบุ ไปให้ชัดเจนว่า เขียวไหน บอกรหัสสีไปเลย
แต่ เธอ ก็จะรีบบอกคนงานให้ทา ใช่มันเป็นสีเขียว แต่ไม่ใช่เขียวที่ดิฉันต้องการ
เอาล่ะ ก็ต้องทาใหม่ คนจ่ายเงินคือ ดิฉันอีกแล้ว
มีวันหนึ่ง
เพื่อนดิฉัน ได้พาคนดูฮวงจุ้ยบ้าน มาดู
เสมียนคนนี้นั่งอยู่ด้วย
หมอดูบอกว่า รั้วบ้าน ให้ทำเป็นรูปคลื่น ซึ่งปรกติรั้วบ้าน จะเป็นเส้นตรง
ดิฉันก็ถามเสมียนคนนี้ว่า สั่งทำรั้วหรือยัง เธอตอบว่า ยังค่ะ
ดิฉันก็เลยบอกว่า ถ้าอย่างนั้น ก็ทำตามแบบที่หมอดูบอกแล้วกัน เพราะว่ายังไม่ได้ทำ
เธอก็รับปากว่าค่ะ
เวลาผ่านไป ประมาณ 1 อาทิตย์
เธอบอกว่า ช่างทำรั้ว เอามาติดตั้งให้โดยที่ไม่ได้บอก
ซึ่งเป็นรูปทรง ตรง ไม่ตรงกับที่ดิฉันต้องการ
เสมียนคนนี้บอกว่า ไม่เป็นไร เดี๋ยวจะสั่งให้เขาทำเป็นรูปคลื่นตามที่ต้องการ ดิฉันก็เสียเงินเพิ่มอีก
หมอดูบอกว่า หลังบ้านควรที่จะต่อเติมครัวหน่อยนะ
ดิฉัน เห็นว่า บ้านที่โครงการ กำลังทำนั้น ครัวเล็กและแคบจริง ๆ เหมือนออกแบบมาเพื่อให้เราต่อเติม
เสมียนคนนั้น ก็ถามดิฉันว่า จะต่อครัวไหมคะ ดิฉันเห็นว่า ไหน ๆ ก็กำลังทำบ้านอยู่ ต่อเติมให้แล้วเสร็จแล้วกัน
ก็เลยตกลงไป โดยคิดว่า เจ้าของโครงการน่าจะให้มาถาม เพราะไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร เจ้าของของโครงการมักจะบอกว่า
ให้คุยกับเสมียน ดิฉันก็เลยตกลง โดยไม่ได้ไปคุยกับเจ้าของโครงการ เสมียนคนนั้นเสนอราคามา ดิฉันก็เอามาดูคร่าว ๆ
เพราะเธอบอกว่า เป็นการรับเหมา ซึ่งทราบมาว่า เป็นราคาที่แพงมากกกกกกกกก
ก่อนหน้าที่จะเสมียนคนนี้จะมารับงาน
มีงานที่พวกคนงานก่อไว้ ให้ปวดหัวคือ
ดิฉันแจ้งทางโครงการว่า ต้องการหน้าต่างมีขอบเป็นไม้ ไม่ต้องการอลูมีเนียม ( ทางเจ้าของโครงการ ก็บอกอีกเช่นเคยว่า ถ้าต้องการไม้ ดิฉันก็ต้องจ่ายค่าไม้เอง ดิฉันก็ตกลง ด้วยความที่บ้านคุณพ่อ คุณแม่ เป็นบ้านไม้ ก็เลยอยากได้แบบนั้นบ้าง )
เมื่อช่างติดต่างวงกบหน้าต่าง ปรากฏว่า มันไม่แนบสนิท คือ มีช่องว่างระหว่าง ขอบวงกบหน้าต่างด้านบน กับช่องขอบด้านบนเป็นรูชัดเจน
ประมาณเกือบครึ่งนิ้ว และไม้ก็เนื้ออ่อนมาก ดิฉันก็ต่อว่า กับเจ้าของโครงการ ทางเจ้าของโครงการก็บอกว่า ถ้าอยากได้ไม้ จะราคาแพงมาก ( ดิฉันก็คิดในใจว่า แล้วทำไม่ถามดิฉัน ราคาไม้ที่แพง จะจ่ายส่วนต่างมั้ย ) สุดท้าย ดิฉันก็ต้องกลับไปทำอลูมิเนียมเหมือนเดิน ส่วนไม้หน้าต่าง วงกบ ดิฉันก็ต้องจ่าย เพราะว่า มันอยู่นอกเหนือโครงการ ทุกวันนี้ ยังไม่รู้จะเอาวงกบพวกนี้ ไปทำอะไรเลย
จากหน้าต่าง คราวนี้ มาถึงเหล็กดัด ( โครงการไม่มีให้ ต้องจ่ายเอง ) ด้วยความที่อยากทำบ้านให้เรียบร้อยไปเลย ก็ว่าจะใส่เหล็กดัด เสมียนคนนี้ เสนองานมาอีกแล้ว ดิฉันบอกว่า ดิฉันมีช่างประจำอยู่แล้ว ซึ่งระดับความเชื่อถือช่างประจำรายนี้คือ เคยทำงานให้ศาลากลางจังหวัดมาแล้ว เสมียนคนนี้ พยายามตื้อดิฉัน ดิฉันก็ให้เธอดูตัวอย่างที่ช่างคนนี้ ทำให้บ้านที่ดิฉันพักอาศัยอยู่ในปัจจุบัน เธอบอกว่า เหล็กไม่เท่ากัน เหล็กที่บ้านดิฉันเป็นเหล็ก สาม แต่ที่จะทำให้ดิฉันนี้เป็นเหล็กสี่ ดิฉันก็ไม่ได้ว่าอะไร แล้วเธอก็เอาแบบมาให้ดิฉันดู ถามว่าชอบลายอะไร ดิฉันก็เลือกไป ในใจ ไม่เคยคิดว่า ดิฉันถามเธอว่า ช่างทำเหล็กเขาตัดเหล็กหรือยัง เพราะว่าจะได้ ไปเอาเจ้าที่ดิฉันหมายตา เธอตอบว่า ตัดแล้ว แต่ว่าเวลาผ่านไปนานมาก เกือบจะเป็นเดือน เหล็กถึงได้มาติดตั้งให้ เหล็กบางมาก เขย่าก็จะหักแล้ว แถมมีการโกงเหล็กดิฉันอีก นอกจากจะลดขนาดเหล็กลงแล้ว ยังลดปริมาณเหล็กของดิฉันไปอีก คือ ขยายความกว้างของช่องไฟเหล็กดัดให้กว้างมากขึ้น ลดจำนวนแถวของเหล็กดัดลง
กว้างขนาดไหนคิดดูก็แล้วกัน เด็กอายุ 7-8 ขวบที่ตัวเล็ก ๆ ผอม ๆ หน่อย สามารถลอดเข้าไปได้ ดิฉันก็ถามกับเธอว่า ร้านเหล็กอยู่ตรงไหน ดิฉันจะแจ้งความจับ ฐานะโกงเหล็กดิฉัน เธอมีท่ามีตกใจ ( ลืมบอกไปว่า ทางเจ้าของโครงการจะไว้วางใจเธอมาก ให้เธอจัดการแทนทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงิน บัญชีต่าง ๆ การสั่งซื้อของ ซึ่งเป็นสาเหตุให้ดิฉัน ไม่ได้คุยกับเจ้าของโครงการ เพราะไม่ว่าจะแจ้งเรืองอะไร เขาจะบอกว่า คุยกับเสมียน แต่เขาก็มาดูบ้านดิฉันบ้าง แต่น้อยมาก และตัวของดิฉันเอง แทบจะไม่ได้ดูบ้านเลย ) บ้านหลังนี้ นอกจากโครงบ้านแล้ว ดิฉนออกเงินเองแทบจะทั้งหลัง
กลับมาเรื่องต่อเติมหลังบ้าน ในการต่อเติมหลังบ้านไม่ได้มีการทำเป็นสัญญาที่เป็นลายลักษณ์อักษร สิ่งที่ทำมีดังนี้
1. เนื้อที่ ประมาณ 30 ตารางเมตร
2. ถมดิน ประมาณ 6 คนรถ
3.ทำหลังคาโครงเหล็ก กระเบื้องลอนคู่ ใส่แผงกันความร้อน
4.ทำเคาเตอร์ล้างจาน + ประกอบอาหาร เคาเตอร์ล้างจานนี้ ประตูเคาเตอร์ดิฉันก็ต้องเป็นคนซื้อเอง เธอบอกว่าให้ดิฉันไปซื้อประตู โดยที่เธอไปด้วย ดิฉันไม่รู้แบบของเคาเตอร์ ก็ซื้อประตูมาบานเดียว ครั้นพอทำไป พบว่า มันต้องมีประตู 2-3 บาน เนื่องจากเคาเตอร์ยาวมาก แต่เธอให้ช่างก่อปูนปิดหมด จะเอาของไว้ หรือ เอาของออก ก็ลำบาก ต้องมุด หรือเรียกว่าคลานเข้าไปเอาของเลยก็ว่าได้ พอดิฉันต่อว่า ทำไมถึงทำประตูให้ดิฉันแค่บานเดียว จะเอาของอย่างไร เธอก็พูดแบบหน้าตาเฉยว่า ก็ดิฉันซื้อแค่บานเดียว แต่เธอเป็นคนออกแบบ น่าจะบอกดิฉันบ้าง
5.ทำเคาเตอร์สำหรับซักล้าง ( ชุดชั้นใน / ผ้าถูบ้าน ) เพราะเกรงว่า เมื่อแก่ตัวไป การก้ม ๆ เงย ๆ จะลำบาก
6.ปูพื้นกระเบื้อง
8.เดินสายไฟ
9.งานประปา
10.เจาะหน้าต่างบานเกร็ด 7 ช่อง
11.ใส่มุ้งลวดเหล็กดัด ( ปัจจุบันยังไม่ได้ใส่ เพราะดิฉันให้ถอดออกไปแก้งาน )
ประมาณนี้นะคะ เธอเรียกมาที่ราคา 350,000 บาท
12. งานสี ส่วนนี้ดิฉันก็ต้องจ่ายเองอีก
อ้อ ลืมบอกไปว่า
บรรดาอ่างล่างหน้า ก็น้ำ ฝักบัว ต่าง ๆ เหล่านี้ ดิฉันซื้อมาเองหมด กระจกล้างหน้า ชักโครกดิฉันซื้อมาเองหมด
เพราะอยากให้บ้านได้ใช้ของดี ๆ
แล้วเธอก็ถามดิฉันว่า ไม่ปูกระเบื้องรอบบ้านหรือคะ ใจดิฉันไม่อยากปูหรอกค่ะ อยากจะแค่ราดปูนก็พอ และส่วนที่เป็นพื้นที่หน้าบ้านเล็ก ก็อยากจะทำเป็นส่วนหย่อม เผลอแป๊บเดียว เธอเอาคนงานปูกระเบื้องแล้วค่ะ อี้ง ค่ะ อึ้ง พูดไม่ออก งานนี้ จ่ายเป็นแสนอีกแล้ว ซึ่งงานกระเบื้องนี้ ดิฉันตั้งใจจะเอาเศษกระเบื้องที่เหลือ ๆ มาประติดประต่อกัน ที่ไหนได้ ต้องซื้อใหม่อีก ทั้ง ๆ ที่ไม่มีเงินเหลือติดตัวเลย ต้องใช้บัตรเครดิต
ที่ตัดสินใจ กดบัตรเครดิต เพราะเธอบอกว่า ใช่เวลาในการยื่นเรื่องไม่นาน ประมาณ สองสัปดาห์
พอบ้านใกล้จะเสร็จ เป็นเวลายื่นกู้ใช่มั้ยคะ
เธอก็จะบอกว่า ต้องมีเงินจำนวนหนึ่ง ประมาณ 10,000 บาท ไปให้ใต้โต๊ะธนาคาร เพื่อให้เดินเรื่องเร็ว
ดิฉันก็อยากที่ให้การกู้เรียบร้อยโดยเร็ว เพราะว่า ออกเงินล่วงหน้าไปเยอะมาก จึงจ่ายเธอไป แต่เวลาผ่านไป กว่าจะได้เงินก็เกือบ ๆ จะเดือนครึ่ง
และที่ได้รับการอนุมัติไม่ใช่ฝีมือเธอหรอกค่ะ บังเอิญ รุ่นพี่โรงเรียนเก่าสมัยประถม เขาทำหน้าที่นี้ เขาเห็นดิฉันพอดี และจำดิฉันได้ เขาเลยเร่งเรื่องให้
เรื่องทะเบียนบ้าน ไฟฟ้า ประปา เธอก็บอกว่า ต้องมีใต้โต๊ะ ก็จ่ายเฉพาะค่าใต้โต๊ะอีก 10,000 บาท
ครั้นเวลาธนาคารเรียกไปทำสัญญา
สิ่งแรกที่จะต้องทำ คือ ไปทำการซื้อขาย โอน ที่ดินกันที่ทำการที่ดิน
เธอจะเป็นคนจัดการหมด ( อ้อ...ลืมบอกไปว่า เธอมีกิ๊กเป็นเจ้าพนักงานที่ดิน ซึ่ง ผู้ชายคนนี้ ในตอนแรก ๆ ที่เริ่มมาดูบ้านให้ดิฉัน เธอพยายามที่จะ ยุคน ๆ นี้ให้ดิฉัน เนื่องจากว่า ดิฉัน ประกาศว่า อยู่ตัวคนเดียว เธอพยายามบอกว่า คน ๆ นี้เป็นพี่ชายเธอ ดีอย่างนั้นดีอย่างนี้ มีหลายอย่างที่ตรงกับดิฉัน ตอนแรก ๆ ก็ผิดสังเกตว่า เอ๊ย..