วันนี้ได้มีโอกาสได้ไปชมละครเวทีเลือดขัตติยา นั่งอยู่ชั้นบนตรงกลาง
ที่นั่งด้านหน้ามีครอบครัวนึงมานั่งประกอบด้วย พ่อแม่และเด็กพี่น้อง 2 คน
เด็กสาวคนพี่น่าจะไม่เกิน 10 ขวบและน้องชายคนเล็กไม่น่าเกิน 7 ขวบ
----------------------------------------------------------------------
พฤติกรรมแรกที่เจอคือ ในขณะที่หนังยังไม่เริ่ม ในโรงละครก็เปิดไฟ
เด็กก็คุยเสียงดังกับพ่อแม่ อันนี้ไม่ว่าอะไร พอทนได้เพราะละครยังไม่เริ่ม
สักพักเด็กสองคนเล่นกัน เด็กผู้ชายเลยตดใส่พี่สาวเสียงดัง
แต่กลิ่นมันลอยมาใส่หน้าผมกับแฟน ตอนนั้นนั่งกดไอแพดอยู่
กลิ่นมันเหม็นมากอะ ต้องกลั้นหายใจ แล้วก็มองหน้ากับแฟนแบบขำๆ
ด่าให้แฟนฟังก็ตลกๆกันไป แต่เก็บความโกรธเอาไว้ในใจ
----------------------------------------------------------------------
พอเพลงสรรเสริญพระบารมีจบลง ไฟในโรงละครก็ดับลง
ทั้งสี่คนแยกออกจากกันไปนั่งห่างกัน (คงเห็นว่าที่นั่งข้างๆไม่มีคน)
ห่างกันประมาณ 4-5 ที่นั่งข้างหน้าเรา โดยเด็กชายไปนั่งกับแม่ด้านซ้าย
และเด็กหญิงไปนั่งด้านขวากับพ่อ ตอนนั้นคิดในใจว่า ... ก็ดี ไม่มีคนบังเราทั้งคู่
แต่ก็แอบคิดในใจ เค้ารู้ว่าเราไม่พอใจหรือเปล่าหว่า ?
... พอละครเวทีเริ่มขึ้น เด็กชายก็คุยกับแม่เสียงดังออกมาหลายครั้ง
ส่วนเด็กสาวก็เริ่มไอและสั่งขี้มูกเสียงดังหลายครั้ง
จนสักพักเด็กชายก็เดินลุกขึ้นเอาทิชชู่มาให้พี่สาวตัวเองผ่านหน้าไปมา
สักพักเด็กผู้ชายก็สลับที่นั่งไปนั่งกับพ่อ ให้พี่สาวมานั่งกับแม่แทน
เราก็ทนพฤติกรรมเหล่านี้กันไป จนละครเวทีจบองค์แรก
-----------------------------------------------------------------------
พอเข้าสู่องค์ที่สอง เด็กชายที่นั่งข้างพ่อก็เริ่มงอแง
เปลี่ยนที่นั่งข้างพ่อไปนั่งตักพ่อแทน ซึ่งมันทำให้หัวลูกชายน่าจะบังคนด้านหลัง
ซึ่งเป็นกลุ่มเด็กมัธยมมากัน 3-4 คน ซึ่งผมก็เห็นว่าเด็กชายอยู่ไม่เป็นสุขเลย
เนื่องจากมันเป็นเวลา 3-4 ทุ่มแล้ว เด็กน่าจะง่วงนอน และก็เป็นแบบนั้นจริงๆ
เด็กไม่สนใจละครเวทีแล้ว พยายามนอนก่ายไปก่ายมา เอาขาพาดเก้าอี้ด้านหน้าบ้าง
เปลี่ยนท่าซบพ่อบ้าง ขยับขามาพาดเก้าอี้ด้านข้างบ้าง และบางครั้งก็กดโทรศัพท์เล่น
ทำให้มีแสงสีขาวกระพริบขึ้นมาหลายครั้ง สลับกับเด็กขอดูนาฬิกาพ่อหลายครั้ง
จนละครเวทีจบลง ...
-----------------------------------------------------------------------
ผมยอมรับว่าโมโหมาก คิดที่จะพูดเตือนหลายครั้ง แต่แฟนก็ห้ามไว้
เพราะแฟนเห็นว่าทางแม่เด็กเตือนลูกอยู่ แต่ทางฝั่งพ่อเหมือนไม่มีอาการห้าม
หรือเตือนอะไรฝั่งเด็กชายเลย ซึ่งพฤติกรรมที่แย่ๆก็มาจากฝั่งเด็กชายและพ่อมากกว่า
ทางฝั่งแม่และลูกสาว
-----------------------------------------------------------------------
เราอย่าขอร้องให้ผู้ปกครองพิจารณาให้ดี ก่อนจะพาเด็กๆและลูกๆไปชมภาพยนตร์
หรือละครเวที อยากให้ควบคุมพฤติกรรมของเด็กในระหว่างรับชม อย่าไปละเมิดสิทธิคนอื่น
ตรวจสอบเวลาเริ่มและเลิก ถ้ามันดึกจนเกินเวลานอนของเด็กๆ ก็อย่าฝืนพาเด็กมาดูเลย
เด็กๆตอนที่ง่วงนอนแล้ว เค้าไม่สนใจหรืออยากดูหรอกครับ และมันจะรบกวนคนอื่น
ฝากไว้ด้วยครับ ถ้าหากครอบครัวนี้ผ่านมาอ่านเจอ ...
ประสบการณ์ที่แย่ๆที่เกิดจากพฤติกรรมเด็กและผู้ปกครองในการดูละครเวที
ที่นั่งด้านหน้ามีครอบครัวนึงมานั่งประกอบด้วย พ่อแม่และเด็กพี่น้อง 2 คน
เด็กสาวคนพี่น่าจะไม่เกิน 10 ขวบและน้องชายคนเล็กไม่น่าเกิน 7 ขวบ
----------------------------------------------------------------------
พฤติกรรมแรกที่เจอคือ ในขณะที่หนังยังไม่เริ่ม ในโรงละครก็เปิดไฟ
เด็กก็คุยเสียงดังกับพ่อแม่ อันนี้ไม่ว่าอะไร พอทนได้เพราะละครยังไม่เริ่ม
สักพักเด็กสองคนเล่นกัน เด็กผู้ชายเลยตดใส่พี่สาวเสียงดัง
แต่กลิ่นมันลอยมาใส่หน้าผมกับแฟน ตอนนั้นนั่งกดไอแพดอยู่
กลิ่นมันเหม็นมากอะ ต้องกลั้นหายใจ แล้วก็มองหน้ากับแฟนแบบขำๆ
ด่าให้แฟนฟังก็ตลกๆกันไป แต่เก็บความโกรธเอาไว้ในใจ
----------------------------------------------------------------------
พอเพลงสรรเสริญพระบารมีจบลง ไฟในโรงละครก็ดับลง
ทั้งสี่คนแยกออกจากกันไปนั่งห่างกัน (คงเห็นว่าที่นั่งข้างๆไม่มีคน)
ห่างกันประมาณ 4-5 ที่นั่งข้างหน้าเรา โดยเด็กชายไปนั่งกับแม่ด้านซ้าย
และเด็กหญิงไปนั่งด้านขวากับพ่อ ตอนนั้นคิดในใจว่า ... ก็ดี ไม่มีคนบังเราทั้งคู่
แต่ก็แอบคิดในใจ เค้ารู้ว่าเราไม่พอใจหรือเปล่าหว่า ?
... พอละครเวทีเริ่มขึ้น เด็กชายก็คุยกับแม่เสียงดังออกมาหลายครั้ง
ส่วนเด็กสาวก็เริ่มไอและสั่งขี้มูกเสียงดังหลายครั้ง
จนสักพักเด็กชายก็เดินลุกขึ้นเอาทิชชู่มาให้พี่สาวตัวเองผ่านหน้าไปมา
สักพักเด็กผู้ชายก็สลับที่นั่งไปนั่งกับพ่อ ให้พี่สาวมานั่งกับแม่แทน
เราก็ทนพฤติกรรมเหล่านี้กันไป จนละครเวทีจบองค์แรก
-----------------------------------------------------------------------
พอเข้าสู่องค์ที่สอง เด็กชายที่นั่งข้างพ่อก็เริ่มงอแง
เปลี่ยนที่นั่งข้างพ่อไปนั่งตักพ่อแทน ซึ่งมันทำให้หัวลูกชายน่าจะบังคนด้านหลัง
ซึ่งเป็นกลุ่มเด็กมัธยมมากัน 3-4 คน ซึ่งผมก็เห็นว่าเด็กชายอยู่ไม่เป็นสุขเลย
เนื่องจากมันเป็นเวลา 3-4 ทุ่มแล้ว เด็กน่าจะง่วงนอน และก็เป็นแบบนั้นจริงๆ
เด็กไม่สนใจละครเวทีแล้ว พยายามนอนก่ายไปก่ายมา เอาขาพาดเก้าอี้ด้านหน้าบ้าง
เปลี่ยนท่าซบพ่อบ้าง ขยับขามาพาดเก้าอี้ด้านข้างบ้าง และบางครั้งก็กดโทรศัพท์เล่น
ทำให้มีแสงสีขาวกระพริบขึ้นมาหลายครั้ง สลับกับเด็กขอดูนาฬิกาพ่อหลายครั้ง
จนละครเวทีจบลง ...
-----------------------------------------------------------------------
ผมยอมรับว่าโมโหมาก คิดที่จะพูดเตือนหลายครั้ง แต่แฟนก็ห้ามไว้
เพราะแฟนเห็นว่าทางแม่เด็กเตือนลูกอยู่ แต่ทางฝั่งพ่อเหมือนไม่มีอาการห้าม
หรือเตือนอะไรฝั่งเด็กชายเลย ซึ่งพฤติกรรมที่แย่ๆก็มาจากฝั่งเด็กชายและพ่อมากกว่า
ทางฝั่งแม่และลูกสาว
-----------------------------------------------------------------------
เราอย่าขอร้องให้ผู้ปกครองพิจารณาให้ดี ก่อนจะพาเด็กๆและลูกๆไปชมภาพยนตร์
หรือละครเวที อยากให้ควบคุมพฤติกรรมของเด็กในระหว่างรับชม อย่าไปละเมิดสิทธิคนอื่น
ตรวจสอบเวลาเริ่มและเลิก ถ้ามันดึกจนเกินเวลานอนของเด็กๆ ก็อย่าฝืนพาเด็กมาดูเลย
เด็กๆตอนที่ง่วงนอนแล้ว เค้าไม่สนใจหรืออยากดูหรอกครับ และมันจะรบกวนคนอื่น
ฝากไว้ด้วยครับ ถ้าหากครอบครัวนี้ผ่านมาอ่านเจอ ...