คือผมและเพื่อนชาวต่างชาติได้ติดตามข่าวความขัดแย้งของไทยมานานพอสมควร
พยายามวิเคราะห์หาสาเหตุที่แท้จริงว่า
จริงๆแล้วคนไทยเรากำลังทะเลาะกันเรื่องอะไรกันแน่?
เพราะผมเองก็เป็นคนไทยแต่จนปัญญาที่จะตอบเหมือนกันว่าเรื่องอะไร
อย่างเช่นตอนนี้ภาพออกมาคล้ายๆว่าเป้นความขัดแย้งระหว่าง
คนสนับสนุนประชาธิปไตยกับคนที่ต่อต้านประชาธิปไตย และแถมด้วยมีคอมมูนิสก์ และมีแนวคิดฟาสซิสท์เข้ามาแจม อีกบางส่วนให้สับสน
ยังโดนแซวเอาเลยว่านี่จะมีลัทธิอะไรเข้ามาแจมอีกมั๊ยเนี่ย?
บางครั้งก็เหมือนว่าเรากำลังทำสงครามชนชั้นกัน มีการดูถูกเหยียดหยาม มีการแบ่งชั้นวรรณะชาติตระกูล ระดับการศึกษากันอย่างกว้างขวาง
แต่เพื่อนฝรั่งก็ร้องว่าโนๆๆ
เพราะเค้าเห็นว่ามีภาพความย้อนแย้งเวลาที่ชนชั้นสูงกำลังดูถูกคนอื่นนั้น
ก็กลับมีชนชั้นที่โดนดูถูกนั่นแหละสนับสนุนตบมือเชียร์กันอยู๋ไม่น้อยมันจะเป็นสงครามชนชั้นได้ไง
จะมาแบ่งว่าเป็นการต่อสู้ระหว่างคนดีกับคนชั่วยิ่งมั่วใหญ่เลยเพราะ
ต่าง มีดีมีชั่วพอๆกัน จนฝรั่งเค้าขำที่เห็นคนโดนคดีฉ้อโกงออกมานำต่อต้านคนโกงอย่างที่เห็นนี่แหละ
จะว่าทะเลาะกันเรื่องศาสนาก็ไม่ใช่ เรื่องภาคนิยมก็คล้ายๆว่าจะใช่นะ
เพราะเห็นเอามาเป็นประเด็นต่อต้านกันจนมีความคิดแบ่งภาคกันอยู่ แต่พอดูจริงๆยิ่งไม่ใช่เข้าไปทุกที เพราะคนไทยเราอยู่ปนเปกันมานาน
สืบไปสืบมาก็ไม่ใช่เทวดามาจากไหนพี่น้องกันทั้งนั้น
แม่คนใต้พ่อคนอีสาน หลานคนเหนือ คนเชื้อจีนคนเชื้อไทย แยกกันแทบไม่ออก
เรียกว่าถ้าจะแบ่งกันจริงๆสงสัยต้องไปเช็คดีเอ็นเอกันให้ชัวร์ก่อนดีกว่าว่าเป็นคนภาคนั้นจริงมั๊ย?
ที่น่าสนใจอีกประเด็นก็คือเรื่องของความเชื่อเรื่องสภาบันฯที่แตกต่าง
ปกิเสธไม่ได้เลยว่าสถาบันฯนั้นได้กลายเป็นส่วนประกอบสำคัญของความขัดแย้งทางการเมืองไปแล้ว
คือจากที่เคยคาดหวังว่าจะเป็นเหมือนหลักให้ยึดเป็นกรรมการยุติความขัดแย้งได้
ก็ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้งไปอย่างน่าเสียดาย ต่างฝ่ายต่างอ้างในสิ่งที่คล้ายๆกัน
แล้วดันมีกฏหมายมากดให้ไม่สามารถพูดคุยถกเถียงกันอย่างเปิดเผยเสียอีก
คุยกันแบบงึมงัมๆมันก็เลยต่างคนต่างจินตนาการกันเตลิดขัดแย้งไปใหญ่
ผมเจอกับคำถามว่าคนไทยคิดวางแผนอะไรกันอย่างไร? กับการผลัดแผ่นดินที่ต้องมาถึงในวันข้างหน้านี้
เพื่อไม่ให้กลายเป็นประเด็นขัดแย้งทางสังคมเพิ่มเข้ามาอีก
ผมก็บอกได้แต่ว่า" ไม่รู้ว่ะ" เพราะไม่มีกล้าใครพูดถึงกันอยู่แล้ว(มีแต่คิดกันไปเองได้อย่างเดียว)
เพราะฉะนั้นอย่าไปพูดถึงสิ่งที่พูดถึงไม่ได้ดีกว่า let it be
อีกเงื่อนไขหนึ่งก็คือเรื่องสีเสื้อนี่แหละ ใครมีเพื่อนต่างชาติก็คงเคยเจอกับคำถามเรื่องสีเสื้อกันมาแล้วแน่ๆ
ว่าสีไหนพวกใคร เพราะเค้าได้ข่าวความขัดแย้ง
ก็อยากสอบถามก่อนมาเที่ยวเมืองไทยกันว่าใส่สีไหนปลอดภัย จะได้รู้คัลเลอร์โค๊ดที่ถูกต้อง
อธิบายกันยาวเชียวล่ะ
ตั้งแต่สีเหลืองโน่นเลย เพราะเสื้อเหลืองมาไล่เสื้อแดง
แต่เสื้อแดงหลายคนก็ไปใส่เสื้อเหลืองแสดงความจงรักภักดีเทิดทูนในหลวงกันวันเฉลิม
ต่างชาติหลายคนก็ยังเข้าใจกันผิดว่าเสื้อเหลืองเป็นฝ่ายในหลวงเพราะเห็นชูรูปในหลวงแล้วก็ไล่ฆ่าคนเสื้อแดง
จนเสื้อเหลืองหลายคนก็เลยกลายมาเป็นเสื้อสีชมพู แล้วก็เป็นสีฟ้าก็มีแล้วตอนนี้ก็มีสีธงชาติ
แม้แต่สีขาวก็กลายเป็นสัญลักษณ์ทางการเมือง แม้จะเป็นสีที่เรียกร้องสันติต่อต้านความรุนแรงที่ไม่น่ามีศัตรู
ก็ไม่แน่เสมอไปเพราะดันไปทำให้คนที่เค้าต้องการความรุนแรงไม่พอใจ
เลยอาจโดนยัดเยียดให้ไปเป็นสีแดงได้ง่ายๆ
เรื่องสีนี่ลิสก์ก็คงโกออนแอนด์ออนไปเรื่อยๆ ในอนาคตหากจะมาเที่ยวเมืองไทยสงสัยปลอดภัยที่สุดคือต้องแก้ผ้ามาแน่ๆ
เปีะเด็นขัดแย้งก็เช่นกันออนแอนด์ออนไปเรื่อย มีดึงเอาต่างชาติมาเกี่ยวด้วยประปรายเหมือนกันนะ
เขมรมั่งอเมริกันมั่งแล้วแต่ใครจะซวยมีปัจจัยมาอำนวยให้
แต่รวมๆแล้วเพื่อนนักรัฐศาสตร์ของผมก็สรุปได้เจ็บแสบดีว่า คนไทยทะเลาะกันนี่จากสาเหตุที่ว่า เรามีความเป็นไทยมากเกินไปนั่นเอง
สรุปเสร็จผมก็โดดชกมันเลยมาดูถูกคนไทยอย่างนี้ได้ไง HA HA
พอจะรู้มั๊ยครับว่าคนไทยเรากำลังทะเลาะกันเรื่องอะไร??
พยายามวิเคราะห์หาสาเหตุที่แท้จริงว่า
จริงๆแล้วคนไทยเรากำลังทะเลาะกันเรื่องอะไรกันแน่?
เพราะผมเองก็เป็นคนไทยแต่จนปัญญาที่จะตอบเหมือนกันว่าเรื่องอะไร
อย่างเช่นตอนนี้ภาพออกมาคล้ายๆว่าเป้นความขัดแย้งระหว่าง
คนสนับสนุนประชาธิปไตยกับคนที่ต่อต้านประชาธิปไตย และแถมด้วยมีคอมมูนิสก์ และมีแนวคิดฟาสซิสท์เข้ามาแจม อีกบางส่วนให้สับสน
ยังโดนแซวเอาเลยว่านี่จะมีลัทธิอะไรเข้ามาแจมอีกมั๊ยเนี่ย?
บางครั้งก็เหมือนว่าเรากำลังทำสงครามชนชั้นกัน มีการดูถูกเหยียดหยาม มีการแบ่งชั้นวรรณะชาติตระกูล ระดับการศึกษากันอย่างกว้างขวาง
แต่เพื่อนฝรั่งก็ร้องว่าโนๆๆ
เพราะเค้าเห็นว่ามีภาพความย้อนแย้งเวลาที่ชนชั้นสูงกำลังดูถูกคนอื่นนั้น
ก็กลับมีชนชั้นที่โดนดูถูกนั่นแหละสนับสนุนตบมือเชียร์กันอยู๋ไม่น้อยมันจะเป็นสงครามชนชั้นได้ไง
จะมาแบ่งว่าเป็นการต่อสู้ระหว่างคนดีกับคนชั่วยิ่งมั่วใหญ่เลยเพราะ
ต่าง มีดีมีชั่วพอๆกัน จนฝรั่งเค้าขำที่เห็นคนโดนคดีฉ้อโกงออกมานำต่อต้านคนโกงอย่างที่เห็นนี่แหละ
จะว่าทะเลาะกันเรื่องศาสนาก็ไม่ใช่ เรื่องภาคนิยมก็คล้ายๆว่าจะใช่นะ
เพราะเห็นเอามาเป็นประเด็นต่อต้านกันจนมีความคิดแบ่งภาคกันอยู่ แต่พอดูจริงๆยิ่งไม่ใช่เข้าไปทุกที เพราะคนไทยเราอยู่ปนเปกันมานาน
สืบไปสืบมาก็ไม่ใช่เทวดามาจากไหนพี่น้องกันทั้งนั้น
แม่คนใต้พ่อคนอีสาน หลานคนเหนือ คนเชื้อจีนคนเชื้อไทย แยกกันแทบไม่ออก
เรียกว่าถ้าจะแบ่งกันจริงๆสงสัยต้องไปเช็คดีเอ็นเอกันให้ชัวร์ก่อนดีกว่าว่าเป็นคนภาคนั้นจริงมั๊ย?
ที่น่าสนใจอีกประเด็นก็คือเรื่องของความเชื่อเรื่องสภาบันฯที่แตกต่าง
ปกิเสธไม่ได้เลยว่าสถาบันฯนั้นได้กลายเป็นส่วนประกอบสำคัญของความขัดแย้งทางการเมืองไปแล้ว
คือจากที่เคยคาดหวังว่าจะเป็นเหมือนหลักให้ยึดเป็นกรรมการยุติความขัดแย้งได้
ก็ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้งไปอย่างน่าเสียดาย ต่างฝ่ายต่างอ้างในสิ่งที่คล้ายๆกัน
แล้วดันมีกฏหมายมากดให้ไม่สามารถพูดคุยถกเถียงกันอย่างเปิดเผยเสียอีก
คุยกันแบบงึมงัมๆมันก็เลยต่างคนต่างจินตนาการกันเตลิดขัดแย้งไปใหญ่
ผมเจอกับคำถามว่าคนไทยคิดวางแผนอะไรกันอย่างไร? กับการผลัดแผ่นดินที่ต้องมาถึงในวันข้างหน้านี้
เพื่อไม่ให้กลายเป็นประเด็นขัดแย้งทางสังคมเพิ่มเข้ามาอีก
ผมก็บอกได้แต่ว่า" ไม่รู้ว่ะ" เพราะไม่มีกล้าใครพูดถึงกันอยู่แล้ว(มีแต่คิดกันไปเองได้อย่างเดียว)
เพราะฉะนั้นอย่าไปพูดถึงสิ่งที่พูดถึงไม่ได้ดีกว่า let it be
อีกเงื่อนไขหนึ่งก็คือเรื่องสีเสื้อนี่แหละ ใครมีเพื่อนต่างชาติก็คงเคยเจอกับคำถามเรื่องสีเสื้อกันมาแล้วแน่ๆ
ว่าสีไหนพวกใคร เพราะเค้าได้ข่าวความขัดแย้ง
ก็อยากสอบถามก่อนมาเที่ยวเมืองไทยกันว่าใส่สีไหนปลอดภัย จะได้รู้คัลเลอร์โค๊ดที่ถูกต้อง
อธิบายกันยาวเชียวล่ะ
ตั้งแต่สีเหลืองโน่นเลย เพราะเสื้อเหลืองมาไล่เสื้อแดง
แต่เสื้อแดงหลายคนก็ไปใส่เสื้อเหลืองแสดงความจงรักภักดีเทิดทูนในหลวงกันวันเฉลิม
ต่างชาติหลายคนก็ยังเข้าใจกันผิดว่าเสื้อเหลืองเป็นฝ่ายในหลวงเพราะเห็นชูรูปในหลวงแล้วก็ไล่ฆ่าคนเสื้อแดง
จนเสื้อเหลืองหลายคนก็เลยกลายมาเป็นเสื้อสีชมพู แล้วก็เป็นสีฟ้าก็มีแล้วตอนนี้ก็มีสีธงชาติ
แม้แต่สีขาวก็กลายเป็นสัญลักษณ์ทางการเมือง แม้จะเป็นสีที่เรียกร้องสันติต่อต้านความรุนแรงที่ไม่น่ามีศัตรู
ก็ไม่แน่เสมอไปเพราะดันไปทำให้คนที่เค้าต้องการความรุนแรงไม่พอใจ
เลยอาจโดนยัดเยียดให้ไปเป็นสีแดงได้ง่ายๆ
เรื่องสีนี่ลิสก์ก็คงโกออนแอนด์ออนไปเรื่อยๆ ในอนาคตหากจะมาเที่ยวเมืองไทยสงสัยปลอดภัยที่สุดคือต้องแก้ผ้ามาแน่ๆ
เปีะเด็นขัดแย้งก็เช่นกันออนแอนด์ออนไปเรื่อย มีดึงเอาต่างชาติมาเกี่ยวด้วยประปรายเหมือนกันนะ
เขมรมั่งอเมริกันมั่งแล้วแต่ใครจะซวยมีปัจจัยมาอำนวยให้
แต่รวมๆแล้วเพื่อนนักรัฐศาสตร์ของผมก็สรุปได้เจ็บแสบดีว่า คนไทยทะเลาะกันนี่จากสาเหตุที่ว่า เรามีความเป็นไทยมากเกินไปนั่นเอง
สรุปเสร็จผมก็โดดชกมันเลยมาดูถูกคนไทยอย่างนี้ได้ไง HA HA