คุณคิดว่าหนังเรื่อง Notting Hill จะเกิดขึ้นกับเราบ้างไหมครับ

กระทู้สนทนา
ผมเจอผู้หญิงคนหนึ่ง เธอเป็นพนักงานใหม่ที่ทำงาน เราเริ่มสนิทกันมากขึ้นเป็นลำดับ เธอสวย ระดับประกวดนางงามรอบสุดท้าย เรียน high school จากยุโรป จบปริญญาเอก ที่บ้านมีธุรกิจมากมาย และเธอก็เป็นคนที่นิสัยดี แม้ว่าจะไม่ได้ติดดินเท่าไร บอกตรง ๆ ว่าวันแรกที่เห็นเธอ ผมอึ้งไปเลย ต้องทำใจรอเลย เพราะกลัวใจตัวเอง แต่อารมณ์ก็ต้องหาที่ระบาย ไปฝึกเล่นกีต้าร์ ปั้นจักรยานมาหลายร้อยกิโลเมตร เวลาที่ต้องเจอกัน ผมก็ต้องทำใจสักแป๊ปนึง เพื่อที่จะไม่ให้แสดงอาการอะไรออกไปมากนัก งานเริ่มดำเนินไป เวลาทำให้เรารู้จักกันมากขึ้น ระยะเวลาไม่นานก็สนิทกันมากขั้น หลายครั้งที่ได้มีโอกาสพูดคุยกันทำให้ผมรู้จักเธอมากขึ้นกว่าภาพที่ฉาบเธอไว้ ผมว่าเขาสวยมากกว่าที่เราคิด ผมอาจจะลำเอียงเพราะชอบเธอ แต่ผมว่าครอบครัวสอนเธอมาดี การวางตัวและการดำเนินชีวิต จะเรียงว่าเป็น "ผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบ" เลยก็ว่าได้

ส่วนผม เรียนโรงเรียนบ้านนอก โอกาสในชีวิตก็ไม่ค่อยมี ต้องพยายามมากกว่าคนอื่นหลายเท่าตัว เรียนมัธยมก็ต้องทำงานทุกเสาร์อาทิย์ เพื่อแบ่งเบาภาระที่บ้าน จนสามารถสอบเข้าเรียนมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศได้ และทำตามฝันของเราได้สำเร็จคือเรียนให้สูงที่สุดจนจบปริญญาเอก และไปทำงานต่างประเทศมาสองปีกว่า ผมเคยเล่าบางช่วงชีวิตให้เธอฟัง เธอก็ชื่นชมความพยายามเหมือนกัน ผมก็กลับมาเริ่มงานในเมืองไทย เป็นมนุษย์เงินเดือนที่มีความฝัน ค่อย ๆ เก็บเงินไป เที่ยวบ้างดูแลพ่อแม่ และยังไม่มั่นคง

พนักงานในที่ทำงานหลายคนก็อยากรู้เหมือนกันว่าเธอมีแฟนแล้วหรือยัง แต่ก็ไม่มีใครรู้ จนวันหนึ่งผมแบบว่าโยนหินถามทาง เราไปทำงานข้างนอกและไปทานข้าวกันสองคน ในร้านอาหารแห่งหนึ่งเราสั่งอาหารมาหลายรายการ เธอมักจะเล่นโทรศัพท์ตอนทานข้าวเสมอ ผมไม่ค่อยชอบเลย (ในใจก็คิดว่าเธอคงคุยกับแฟน) จนผมถามเธอไปว่า "แล้วตอนไปทานกับแฟน สั่งเยอะแล้วทานเหลือแบบนี้ไหม" เธอหันมาค้อนเล็กน้อย แล้วก็บอกว่าแฟนเธอสั่งมาเยอะเพราะอยากกิน แต่ก็ไม่ค่อยหมด เธอนะทานเยอะแล้ว บางทีผมก็เหวี่ยง ๆ บ้างเหมือนกัน

วันปีใหม่เธอชวนเพื่อน ๆ ที่ทำงานไปทานข้าวที่บ้าน แต่เราก็เกรงใจและไม่ได้ไป จนเธอชวนผมทาง line ใจอยากไปมาก ๆ แต่กก็กลัวว่าจะไปเป็นสูญญากาศเหมือนกันสาวคนก่อนที่เคยเข้าบ้านเขาจนต้องห่างหายกันไป ผมปฏิเสธ เพราะว่าป่วยเจ็บคอมาก ๆ วันรุ่งขึ้นเธออวดรูปที่บ้านมาให้ดู

ผมก็รู้ว่าเธอคงจะทำงานที่นี้ไม่นานเพราะธุรกิจที่บ้านต้องการเธอ แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะเร็วเกินไป ไม่กี่วันที่ผ่านมา เราไปเดินตลาดนัดกันสองคนซื้อของมาทานเล่นกัน จนเธอเอ่ยบอกว่าอาจจะออกเร็วๆ นี้ ผมพูดอะไรไม่ถูก ได้แต่จะอวยพรให้เธอโชคดี

เวลาเรากำลังน้อยลงทุกวัน แต่เราก็เคยคุยกันเรื่องการใช้ชีวิต คนที่อยู่กับเรา ณ ปัจจุบันสำคัญที่สุด และผมคิดว่าผมก็พยายามทำให้ดีเท่าที่ผมจะทำได้แล้ว

ไม่รู้จะเล่าให้ใครฟัง แต่ก็อยากจะแบ่งปันประสบการณ์ ผมคงทำได้เพียงพยายามให้ดีที่สุดให้เธอจดจำเราแต่ก็อยากจะเดินทางร่วมชีวิตด้วยกัน  เผื่อว่าจะมีปาฏิหาริย์กับเราบ้าง
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่