อุดมการณ์ที่เปลี่ยนไป แนวคิดปลุกระดม อุดมคติจอมปลอม
หลายๆท่านคงสงสัยว่า กระทู้นี้คือกระทู้แบบเดิมๆ มานั่งพูดเพื่อระบายอารม และพูดในสิ่งที่ต้องการ
ผมว่ามันคงถึงเวลาแล้วครับที่เราต้องเปลี่ยนแปลงแนวคิด และ ปรับทัศนะคติ ยอมรับความจริงกันครับ
ผมเป็นหนึ่งคนที่ไม่เคยคิดจะโพสเรื่องการเมือง ลงใน Pantip เลย
แต่ผมได้แรงบันดาลใจจากคุณ เอก RESPECT MY VOTE ทั้งวลีและคำพูด * ผมรักประเทศไทยในแบบของผม *
คำนี้แหละครับที่ทำให้ผมอยากออกมาพูดในสิ่งที่มันเป็นไปได้รูปแบบที่เคยมีมาก่อน ในประวัติศาสตร์และปัจจุบัน
การเริ่มทุกคนจะทราบว่าการชุมนุมครั้งนี้เป็นการชุมนุมเพื่อเรียกร้อง คัดค้าน พ.ร.บ. นิรโทษกรรม
ผมเชื่อหลายๆคนเห็นคนด้วยนะครับที่ควรคัดค้าน พ.ร.บ. นี้ (ทั้งแดงและเหลือง) แต่เมื่อเวลาผ่านไปประชาชนมากขึ้น
ผู้ร่วมอุดมการณ์มากขึ้น แปรเปลี่ยนจากคัดค้าน เป็๋นการขับไล่ และยกระดับเป็นการปฏิรูป
ผมว่าหลายๆคนจะไม่มีปัญหาในการชุมนุมหรือรับแนวคิดการปฏิรูปเลย ถ้าศึกครั้งนี้ แม่ทัพ ไม่ใช่บุคคลที่ชื่อว่า * สุเทพ เทือกสุบรรณ *
และหมู่ขุนศึกก็เป็นพรรคประชาธิปัตย์ แทบทั้งนั้น ศึกครั้งนี้มันยุติธรรมกับประชาชนแล้วจริงหรือ ?
การศึกทุกครั้งผู้ที่ได้ผลประโยชน์ คือประชาชน ?
ที่ผ่านมาอดีตจนถึงปัจจุบัน ใคร ? ได้รับผลประโยชน์
ยามเราวิเคราะห์เรื่องต่างๆ หากเราใช้ความจริง ไม่ใช้ความรู้สึก เรื่องมันจะเป็นไปในคนละทิศทาง
ลองมองจากเริ่มแรก เวลาเรามองหรือประเมินบุลคลใด บุคคลหนึ่งเราจะใช้ระบบ การประเมินจากอดีต หรือ สถติ
คุณสุเทพ อดีตที่ผ่านมา ไม่ได้สวยหรูและดีเลิศ อย่างที่ประกาศป่าวๆ อย่างที่พูดบนเวทีอย่างแน่นอน
หลายๆท่านอาจบอกว่าคนเรามันเปลี่ยนกันได้
หิน ต่อให้คุณ เอาเจียร เอามาขัดก็กลายเป็นพลอย ที่มีค่า แต่จริงๆ มันก็ยังเป็นหิน ?
ไม่ว่าคนเราจะพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างไร แก้ไขตัวเองอย่างไร สิ่งที่ติดตัวเราตามตัวเรา เสมือน * เงา *
คือ นิสัย บางครั้ง นิสัย เป็นเรื่องที่โอกาศปรับเปลี่ยนกันได้ แต่ คุณสุเทพเป็นนักการเมือง มา หลายสิบปี
มันแปรเปลี่ยนจากนิสัย เป็นสันดาร ถามว่า คนเราครั้งเคยมีอำนาจ มีลูกน้องมากมาย
วันนี้จะยอมทิ้งสิ่งที่ตนสร้างมากว่า 10 ปี ยอมไม่รับผลประโยชน์ใดๆ ได้จริงหรือครับ ?
ในสมัย ปชป. เป็น รัฐบาล เรื่องจริง ใครคือคนตัดสินใจ ของพรรค ปชป. ?
ลองใช้ความจริงในการตอบมากกว่าความรู้สึก
กรณีการปฏิรูป สำเร็จ ผ็ที่ได้รับผลประโยชน์ ผมไม่เชื่อเลย คนที่ได้ขึ้นเวที ในทุกวันนี้จะไม่ได้รับเบี้ยตอนแทน
ในลักษณะทางใด ทางหนึ่งกันเลยเหรอครับ วันนี้คุณไม่รับเครื่องบรรณาการในรูปแบบ สิ่งที่จับต้องได้ แต่ความรู้สึก
จากคนที่คุณเคยช่วยเหลือจะเอื้อประโยชน์ ให้คุณในสิ่งที่คุณต้องการหรือไม่ ?
ผมเชื่อว่า คนเราถูกสอนมาให้ทำอะไรหวังผลตอบแทนซะเป็นส่วนใหญ๋
สถิติที่วิทยาศาสตร์ที่สามารถวัดได้ เช่น
การทำงาน > หวังผลตอบแทน (เงิน) > ตำแหน่ง > การยอมรับจากเพื่อนร่วมงาน > การมีชีวิตที่ดีขึ้น
การเมือง > หวังผลตอบแทน (อำนาจ) > ตำแหน่ง > การยอมรับจากเพื่อนร่วมงาน > การมีอำนาจที่มากขึ้น > เอื้อต่อธุรกิจและมีคนเกรงใจ
ลองมาดูในมุมมองและความคิดที่ผมฟังจาก กปปส. ว่าจะไม่รับผลประโยชน์และตำแหน่งจากสิ่งที่เกิดขึ้น
ความรู้สึก
ปฏิรูป > พัฒนาประเทศ > ต้านการคอรับชั่น > การยอมรับจากทั่วโลก > ประชากรมีชีวิตที่ดีขึ้น > เลือกตั้ง
แผนการนี้ผมมองคิด จิตนาการขึ้นมาเองนะครับ ที่ผมตั้งสมมุติฐานขึ้นมา มันจริงหรือครับ ? สะอาดขนาดนนี้เลยเหรอครับ ?
ของมันเคยกิน ? จะไม่กินกันอีกจริงๆเหรอครับ ? เอาอะไรมาชี้วัดและตรวจสอบครับ ในเมื่อทุกสิ่ง กปปส. เป็นคนเลือกเองแทบทุกอย่าง ?
ลองมาดูมูลความจริงจากคำว่าที่ว่า ชีวิตไม่ได้ง่ายอย่างที่เราคิด
ปฏิรูป > พัฒนาประเทศ > ต้านการคอรับชั่น > การยอมรับจากทั่วโลก > ประชากรมีชีวิตที่ดีขึ้น > เลือกตั้ง
(ยึดอำนาจ) > (ขจัดและทำลายคู่แข่งทางการเมือง) > (สร้างการยอมรับจากประชาชนในประเทศโดยใช้เวลา เปลี่ยนแนวคิดและล้างสมอง)
> (ประชากรบางกลุ่มร่ำรวย และบางกลุ่มหมดสิทธิ และสภาะในการเป็นพลเมืองในระบบ) > (ถึงเวลาเบ่งผลประโยชน์)
ลองใช้ความจริงมองเหตุการณ์ต่างๆ อย่าใช้ความรู้สึก เพื่อลดอคติที่มีอยู่ตัว
และสิ่งที่เลวร้ายที่สุดจากการประท้วงที่กำลังจะเกิดขึ้น คือ SHUT DOWN กรุงเทพฯ
ครั้งนี้ผมประเมินได้เลยครับ กรณีมีคนออกมามาก มากเป็นประวัติศาสตร์ คุณสุเทพฯ ไม่เลิกแน่นอนครับ
แต่ถ้าเกิดไม่เป้นไปตามแผนละ ผมเชื่อ อาจจะมีการเจรจาลับๆก็เป็นไปได้
แต่เหนือสิ่งใด กว่าจะมาซึ่งความสำเร็จ ต้องมีผู้เสีลสละ และ เสียชื่อเสียง มากขนาดนี้เลยเหรอครับ
หลายๆ ท่านอาจคิดว่า ไม่ทำตอนนี้จะทำตอนไหน ?
ในความคิดผมสิ่งที่คุณสุเทพต้องการ
1.ปฏิวัติ และ 2.รัฐธิปัตย์
ขึ้นหลังเสือแล้วครับ ลงไม่ได้แล้วตอนนี้
แต่ไม่ได้แค่มีแค่คุณสุเทพนิครับ ปชป. ก็เช่นกัน ครั้งนี้ถ้ามีการเลือกตั้งและประชาขชนยอมรับ
ปชป. อาจจะหายไปตลอดกาล ? หรือ ความสำคัญลดน้อยลงไปอีก
จึงจำเป็นครับ จำเป็นต้องมีการทำทุกวิถึทาง เพื่อทำลายความเชื่อมั่น และ ทำลายทัศนะคติ
จึงเกิด SHUT DOWN กรุงเทพฯ
นี่แหละครับ จะเป็นตัววัดว่าจะมีการ ปฏิวัติ หรือไม่ ?
เรามองแต่ในด้านการเมืองและสิ่งที่ต้องการ เราเคยมองผลที่จะเกิดขึ้นไหมครับ ?
SHUT DOWN กรุงเทพฯ เราจะไปทำงานกันอย่างไร เดินทางกันอย่างไร ?
กลับบ้านกันอย่างไร ? เศรษฐกิจจะไปในทิศทางไหน ? คนหาเช้ากินค่ำ จะกินอะไร ?
ทุกๆวัน คุณตกเป็นเครื่องมือเพื่ออำนาจของใครบางคนหรือไม่ ?
ลองเปิดใจมองหาความจริงผ่านเหตุผลที่ไร้ อคติ
RESPECT MY VOTE หรือ SHUT DOWN กรุงเทพฯ
คุณคือผู้ตัดสิน
ป.ล. เราลืมคำว่าประชามติกันไปหรือเปล่าครับ หรือเราแกล้งลืม เพิ่อให้อุดมคติฝ่ายเราเป็นจริง ?
[SHUT DOWN กรุงเทพฯ]อุดมการณ์ที่เปลี่ยนไปจากวันแรกสู่วันนี้
หลายๆท่านคงสงสัยว่า กระทู้นี้คือกระทู้แบบเดิมๆ มานั่งพูดเพื่อระบายอารม และพูดในสิ่งที่ต้องการ
ผมว่ามันคงถึงเวลาแล้วครับที่เราต้องเปลี่ยนแปลงแนวคิด และ ปรับทัศนะคติ ยอมรับความจริงกันครับ
ผมเป็นหนึ่งคนที่ไม่เคยคิดจะโพสเรื่องการเมือง ลงใน Pantip เลย
แต่ผมได้แรงบันดาลใจจากคุณ เอก RESPECT MY VOTE ทั้งวลีและคำพูด * ผมรักประเทศไทยในแบบของผม *
คำนี้แหละครับที่ทำให้ผมอยากออกมาพูดในสิ่งที่มันเป็นไปได้รูปแบบที่เคยมีมาก่อน ในประวัติศาสตร์และปัจจุบัน
การเริ่มทุกคนจะทราบว่าการชุมนุมครั้งนี้เป็นการชุมนุมเพื่อเรียกร้อง คัดค้าน พ.ร.บ. นิรโทษกรรม
ผมเชื่อหลายๆคนเห็นคนด้วยนะครับที่ควรคัดค้าน พ.ร.บ. นี้ (ทั้งแดงและเหลือง) แต่เมื่อเวลาผ่านไปประชาชนมากขึ้น
ผู้ร่วมอุดมการณ์มากขึ้น แปรเปลี่ยนจากคัดค้าน เป็๋นการขับไล่ และยกระดับเป็นการปฏิรูป
ผมว่าหลายๆคนจะไม่มีปัญหาในการชุมนุมหรือรับแนวคิดการปฏิรูปเลย ถ้าศึกครั้งนี้ แม่ทัพ ไม่ใช่บุคคลที่ชื่อว่า * สุเทพ เทือกสุบรรณ *
และหมู่ขุนศึกก็เป็นพรรคประชาธิปัตย์ แทบทั้งนั้น ศึกครั้งนี้มันยุติธรรมกับประชาชนแล้วจริงหรือ ?
การศึกทุกครั้งผู้ที่ได้ผลประโยชน์ คือประชาชน ?
ที่ผ่านมาอดีตจนถึงปัจจุบัน ใคร ? ได้รับผลประโยชน์
ยามเราวิเคราะห์เรื่องต่างๆ หากเราใช้ความจริง ไม่ใช้ความรู้สึก เรื่องมันจะเป็นไปในคนละทิศทาง
ลองมองจากเริ่มแรก เวลาเรามองหรือประเมินบุลคลใด บุคคลหนึ่งเราจะใช้ระบบ การประเมินจากอดีต หรือ สถติ
คุณสุเทพ อดีตที่ผ่านมา ไม่ได้สวยหรูและดีเลิศ อย่างที่ประกาศป่าวๆ อย่างที่พูดบนเวทีอย่างแน่นอน
หลายๆท่านอาจบอกว่าคนเรามันเปลี่ยนกันได้
หิน ต่อให้คุณ เอาเจียร เอามาขัดก็กลายเป็นพลอย ที่มีค่า แต่จริงๆ มันก็ยังเป็นหิน ?
ไม่ว่าคนเราจะพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างไร แก้ไขตัวเองอย่างไร สิ่งที่ติดตัวเราตามตัวเรา เสมือน * เงา *
คือ นิสัย บางครั้ง นิสัย เป็นเรื่องที่โอกาศปรับเปลี่ยนกันได้ แต่ คุณสุเทพเป็นนักการเมือง มา หลายสิบปี
มันแปรเปลี่ยนจากนิสัย เป็นสันดาร ถามว่า คนเราครั้งเคยมีอำนาจ มีลูกน้องมากมาย
วันนี้จะยอมทิ้งสิ่งที่ตนสร้างมากว่า 10 ปี ยอมไม่รับผลประโยชน์ใดๆ ได้จริงหรือครับ ?
ในสมัย ปชป. เป็น รัฐบาล เรื่องจริง ใครคือคนตัดสินใจ ของพรรค ปชป. ?
ลองใช้ความจริงในการตอบมากกว่าความรู้สึก
กรณีการปฏิรูป สำเร็จ ผ็ที่ได้รับผลประโยชน์ ผมไม่เชื่อเลย คนที่ได้ขึ้นเวที ในทุกวันนี้จะไม่ได้รับเบี้ยตอนแทน
ในลักษณะทางใด ทางหนึ่งกันเลยเหรอครับ วันนี้คุณไม่รับเครื่องบรรณาการในรูปแบบ สิ่งที่จับต้องได้ แต่ความรู้สึก
จากคนที่คุณเคยช่วยเหลือจะเอื้อประโยชน์ ให้คุณในสิ่งที่คุณต้องการหรือไม่ ?
ผมเชื่อว่า คนเราถูกสอนมาให้ทำอะไรหวังผลตอบแทนซะเป็นส่วนใหญ๋
สถิติที่วิทยาศาสตร์ที่สามารถวัดได้ เช่น
การทำงาน > หวังผลตอบแทน (เงิน) > ตำแหน่ง > การยอมรับจากเพื่อนร่วมงาน > การมีชีวิตที่ดีขึ้น
การเมือง > หวังผลตอบแทน (อำนาจ) > ตำแหน่ง > การยอมรับจากเพื่อนร่วมงาน > การมีอำนาจที่มากขึ้น > เอื้อต่อธุรกิจและมีคนเกรงใจ
ลองมาดูในมุมมองและความคิดที่ผมฟังจาก กปปส. ว่าจะไม่รับผลประโยชน์และตำแหน่งจากสิ่งที่เกิดขึ้น
ความรู้สึก
ปฏิรูป > พัฒนาประเทศ > ต้านการคอรับชั่น > การยอมรับจากทั่วโลก > ประชากรมีชีวิตที่ดีขึ้น > เลือกตั้ง
แผนการนี้ผมมองคิด จิตนาการขึ้นมาเองนะครับ ที่ผมตั้งสมมุติฐานขึ้นมา มันจริงหรือครับ ? สะอาดขนาดนนี้เลยเหรอครับ ?
ของมันเคยกิน ? จะไม่กินกันอีกจริงๆเหรอครับ ? เอาอะไรมาชี้วัดและตรวจสอบครับ ในเมื่อทุกสิ่ง กปปส. เป็นคนเลือกเองแทบทุกอย่าง ?
ลองมาดูมูลความจริงจากคำว่าที่ว่า ชีวิตไม่ได้ง่ายอย่างที่เราคิด
ปฏิรูป > พัฒนาประเทศ > ต้านการคอรับชั่น > การยอมรับจากทั่วโลก > ประชากรมีชีวิตที่ดีขึ้น > เลือกตั้ง
(ยึดอำนาจ) > (ขจัดและทำลายคู่แข่งทางการเมือง) > (สร้างการยอมรับจากประชาชนในประเทศโดยใช้เวลา เปลี่ยนแนวคิดและล้างสมอง)
> (ประชากรบางกลุ่มร่ำรวย และบางกลุ่มหมดสิทธิ และสภาะในการเป็นพลเมืองในระบบ) > (ถึงเวลาเบ่งผลประโยชน์)
ลองใช้ความจริงมองเหตุการณ์ต่างๆ อย่าใช้ความรู้สึก เพื่อลดอคติที่มีอยู่ตัว
และสิ่งที่เลวร้ายที่สุดจากการประท้วงที่กำลังจะเกิดขึ้น คือ SHUT DOWN กรุงเทพฯ
ครั้งนี้ผมประเมินได้เลยครับ กรณีมีคนออกมามาก มากเป็นประวัติศาสตร์ คุณสุเทพฯ ไม่เลิกแน่นอนครับ
แต่ถ้าเกิดไม่เป้นไปตามแผนละ ผมเชื่อ อาจจะมีการเจรจาลับๆก็เป็นไปได้
แต่เหนือสิ่งใด กว่าจะมาซึ่งความสำเร็จ ต้องมีผู้เสีลสละ และ เสียชื่อเสียง มากขนาดนี้เลยเหรอครับ
หลายๆ ท่านอาจคิดว่า ไม่ทำตอนนี้จะทำตอนไหน ?
ในความคิดผมสิ่งที่คุณสุเทพต้องการ
1.ปฏิวัติ และ 2.รัฐธิปัตย์
ขึ้นหลังเสือแล้วครับ ลงไม่ได้แล้วตอนนี้
แต่ไม่ได้แค่มีแค่คุณสุเทพนิครับ ปชป. ก็เช่นกัน ครั้งนี้ถ้ามีการเลือกตั้งและประชาขชนยอมรับ
ปชป. อาจจะหายไปตลอดกาล ? หรือ ความสำคัญลดน้อยลงไปอีก
จึงจำเป็นครับ จำเป็นต้องมีการทำทุกวิถึทาง เพื่อทำลายความเชื่อมั่น และ ทำลายทัศนะคติ
จึงเกิด SHUT DOWN กรุงเทพฯ
นี่แหละครับ จะเป็นตัววัดว่าจะมีการ ปฏิวัติ หรือไม่ ?
เรามองแต่ในด้านการเมืองและสิ่งที่ต้องการ เราเคยมองผลที่จะเกิดขึ้นไหมครับ ?
SHUT DOWN กรุงเทพฯ เราจะไปทำงานกันอย่างไร เดินทางกันอย่างไร ?
กลับบ้านกันอย่างไร ? เศรษฐกิจจะไปในทิศทางไหน ? คนหาเช้ากินค่ำ จะกินอะไร ?
ทุกๆวัน คุณตกเป็นเครื่องมือเพื่ออำนาจของใครบางคนหรือไม่ ?
ลองเปิดใจมองหาความจริงผ่านเหตุผลที่ไร้ อคติ
RESPECT MY VOTE หรือ SHUT DOWN กรุงเทพฯ
คุณคือผู้ตัดสิน
ป.ล. เราลืมคำว่าประชามติกันไปหรือเปล่าครับ หรือเราแกล้งลืม เพิ่อให้อุดมคติฝ่ายเราเป็นจริง ?