ผมติสต์แตกเกินไปรึเปล่าที่ไม่ได้ติดต่อเพื่อนฝูงมาเป็นเวลาเกือบปี

จุดเริ่มต้นมันเกิดจากเพื่อนคนหนึ่ง ซึ่งเขาก็เป็นเพื่อนที่ดี มีน้ำใจช่วยเหลือผมมาช่วงหนึ่ง (ผมนับว่ามันเป็นบุญคุณ)
เขามักจะมีเรื่องที่ชวนปวดหัวมาเล่าให้ฟังบ่อยๆ เป็นความคิดเล็กคิดน้อยของเขาล่ะ ...ผมก็ยินดีรับฟังมาโดยตลอด
จุดแตกหักมันเกิดจากวันหนึ่ง เขาโทรมาคุยด้วยตามปกติแล้วก็พูดคุยถึงคนนั้นคนนี้โดยมีประเด็นถึงตัวผม ...ซึ่งผมไม่ชอบ
ฟังแล้วไม่สบายใจเท่าไหร่ แต่คือผมเข้าใจนะว่าเขาแค่อยากจะเล่า... ผมก็โอเค รับฟังแล้วเออ ออไป! และที่ไม่สบายใจที่สุด
คือเรื่องแฟนเก่าของผม ...ผมไม่อยากรับรู้เรื่องนี้เลย ถึงขนาดปิดเฟสบุคเพราะไม่อยากหมกมุ่นกับเรื่องราวของคนนี้อีก...
ซึ่งเพื่อนผมก็รู้ดีว่าผมมีความทุกข์กับเรื่องนี้มาก เคยเสียใจมาก ...แต่ก็ยังมาเล่าให้ฟังว่าเนี่ย ตาม ig เขาอยู่แล้วเห็นมีแฟนใหม่ละ
แล้วก็อีกบลาๆๆ…จนจบ ผมไม่ได้ว่าอะไร พูดเสร็จแล้วเขาก็วางสายไป...
ผมเลยคิดว่าผมกับเพื่อนคนนี้...รู้จักกันดี แต่มันคงไม่มากพอที่จะเข้าใจความรู้สึกของกันและกัน!
หลังจากนั้นผมก็เริ่มไม่รับสายเพื่อนคนนี้ แล้วก็กลายเป็นความเคยชินว่าจะไม่รับสายเพื่อนคนนี้ ...นี่ก็เกือบปีแล้ว
เราต่างก็แยกย้ายกันไปทำงาน ผมเปลี่ยนเบอร์โทรโดยที่ไม่ได้บอกเพื่อนคนอื่นด้วย …เลยกลายเป็นว่าผมไม่ได้ติดต่อใครเลย
ล่าสุดเปิดโทรศัพท์(เบอร์เก่า)ขึ้นมา เห็นว่าเพื่อนคนนี้ส่งข้อความมาขอโทษ …ผมคิดดูแล้วผมก็ไม่ได้โกรธเขานะ แต่สิ่งที่ผมทำคือพยายาม
หลีกเลี่ยงเรื่องที่ไม่สบายใจ …พอเขาโทรมาหาอีกหลายครั้ง หลายวันมาแล้ว ผมก็ยังไม่อยากรับสาย ผมยังไม่อยากคุยกับใครเลย…
กลายเป็นว่าผมกำลังหลีกหน้าเพื่อนฝูงอยู่
*รายละเอียดเล็กๆ สำหรับเรื่องนี้มันมีอยู่เหมือนกัน เป็นเรื่องไม่สบายใจที่สะสมมาเรื่อยๆ พอถึงช่วงหนึ่ง (ช่วงทำงาน)
ที่ไม่จำเป็นต้องเจอเพื่อน ...ผมจึงเลือกที่จะอยู่คนเดียวสักพัก คิดแค่ว่าพร้อมเมื่อไหร่จะติดต่อกลับไปหาเพื่อนทุกคนเอง
เรื่องเล็กเรื่องนี้เหมือนเป็นปัญหาชีวิตของผมเลยนะ ตอนนี้รู้สึกแปลกๆ ว่าเราติสต์แตกเกินไปรึเปล่า ?
ผมควรทำไงดีครับ จะเริ่มต้นคุยกับเพื่อนยังไงดี
ผมติสต์แตกเกินไปไหม ? ที่ไม่ได้ติดต่อเพื่อนฝูงมาเป็นเวลาเกือบปี...
จุดเริ่มต้นมันเกิดจากเพื่อนคนหนึ่ง ซึ่งเขาก็เป็นเพื่อนที่ดี มีน้ำใจช่วยเหลือผมมาช่วงหนึ่ง (ผมนับว่ามันเป็นบุญคุณ)
เขามักจะมีเรื่องที่ชวนปวดหัวมาเล่าให้ฟังบ่อยๆ เป็นความคิดเล็กคิดน้อยของเขาล่ะ ...ผมก็ยินดีรับฟังมาโดยตลอด
จุดแตกหักมันเกิดจากวันหนึ่ง เขาโทรมาคุยด้วยตามปกติแล้วก็พูดคุยถึงคนนั้นคนนี้โดยมีประเด็นถึงตัวผม ...ซึ่งผมไม่ชอบ
ฟังแล้วไม่สบายใจเท่าไหร่ แต่คือผมเข้าใจนะว่าเขาแค่อยากจะเล่า... ผมก็โอเค รับฟังแล้วเออ ออไป! และที่ไม่สบายใจที่สุด
คือเรื่องแฟนเก่าของผม ...ผมไม่อยากรับรู้เรื่องนี้เลย ถึงขนาดปิดเฟสบุคเพราะไม่อยากหมกมุ่นกับเรื่องราวของคนนี้อีก...
ซึ่งเพื่อนผมก็รู้ดีว่าผมมีความทุกข์กับเรื่องนี้มาก เคยเสียใจมาก ...แต่ก็ยังมาเล่าให้ฟังว่าเนี่ย ตาม ig เขาอยู่แล้วเห็นมีแฟนใหม่ละ
แล้วก็อีกบลาๆๆ…จนจบ ผมไม่ได้ว่าอะไร พูดเสร็จแล้วเขาก็วางสายไป...
ผมเลยคิดว่าผมกับเพื่อนคนนี้...รู้จักกันดี แต่มันคงไม่มากพอที่จะเข้าใจความรู้สึกของกันและกัน!
หลังจากนั้นผมก็เริ่มไม่รับสายเพื่อนคนนี้ แล้วก็กลายเป็นความเคยชินว่าจะไม่รับสายเพื่อนคนนี้ ...นี่ก็เกือบปีแล้ว
เราต่างก็แยกย้ายกันไปทำงาน ผมเปลี่ยนเบอร์โทรโดยที่ไม่ได้บอกเพื่อนคนอื่นด้วย …เลยกลายเป็นว่าผมไม่ได้ติดต่อใครเลย
ล่าสุดเปิดโทรศัพท์(เบอร์เก่า)ขึ้นมา เห็นว่าเพื่อนคนนี้ส่งข้อความมาขอโทษ …ผมคิดดูแล้วผมก็ไม่ได้โกรธเขานะ แต่สิ่งที่ผมทำคือพยายาม
หลีกเลี่ยงเรื่องที่ไม่สบายใจ …พอเขาโทรมาหาอีกหลายครั้ง หลายวันมาแล้ว ผมก็ยังไม่อยากรับสาย ผมยังไม่อยากคุยกับใครเลย…
กลายเป็นว่าผมกำลังหลีกหน้าเพื่อนฝูงอยู่
*รายละเอียดเล็กๆ สำหรับเรื่องนี้มันมีอยู่เหมือนกัน เป็นเรื่องไม่สบายใจที่สะสมมาเรื่อยๆ พอถึงช่วงหนึ่ง (ช่วงทำงาน)
ที่ไม่จำเป็นต้องเจอเพื่อน ...ผมจึงเลือกที่จะอยู่คนเดียวสักพัก คิดแค่ว่าพร้อมเมื่อไหร่จะติดต่อกลับไปหาเพื่อนทุกคนเอง
เรื่องเล็กเรื่องนี้เหมือนเป็นปัญหาชีวิตของผมเลยนะ ตอนนี้รู้สึกแปลกๆ ว่าเราติสต์แตกเกินไปรึเปล่า ?
ผมควรทำไงดีครับ จะเริ่มต้นคุยกับเพื่อนยังไงดี