ทหารญี่ปุ่นที่ยอมตายเพื่อการทิ้งระเบิดคามิคาเซ่ ต่างกันตรงไหนบ้างกับมือระเบิดพลีชีพ

นับเฉพาะ ยุทธวิธี คามิคาเซ่ กับ มือระเบิดพลีชีพ แม้ว่าจะมีเป้าหมายทำลายขวัญกำลังใจของฝ่ายข้าศึก
แต่สำหรับ กองบิน "คามิคาเซ่"  กองกำลังโจมตีพิเศษนี้ มียุทธวิธี มีเป้าหมายที่ชัดเจนแน่นอน นั่นคือ ทหารข้าศึกฝ่ายตรงข้าม ซึ่งต่างจากกรณีมือระเบิดพลีชีพที่ไม่สามารถคาดเดาเป้าหมาย ยุทธวิธีการโจมตีได้ เนื่องจากมีทั้งการโจมตีฝ่ายทหารและพลเรือนผู้บริสุทธิ์
ถ้านับเอายุทธวิธีก็มีความแตกต่างกันตรงนี้

ส่วนประเด็นเรื่องของการฆ่าพลเรือนผู้บริสุทธิ์เป็นคนละส่วนกันครับ ในประวัติศาสตร์ ญี่ปุ่นก็ไม่เคยใช้ยุทธวิธีคามิคาเซ่โจมตีผู้บริสุทธิ์ ส่วนกรณีเหยื่อสงครามนั้น ถือเป็นเหตุสุดวิสัย เพราะไม่ว่าฝ่ายใหนก็ตาม ต่างก็กระทำชำเราผู้บริสุทธิ์ไม่แตกต่างจากกันครับ ในช่วงสงครามจึงเป็นเรื่องปกติมากๆครับ ดังนั้น ในยุคที่มีความสงบสุขเช่นนี้จึงไม่มีฝ่ายใหนที่ยินดีปรีดากับการเกิดสงครามเลย เพราะฉะนั้นแล้ว ถ้ามีฝ่ายใดที่พยายามยั่วยุมุ่งหวังผลเพื่อจะก่อให้เกิดสงครามขึ้นมาในปัจจุบัน ย่อมสมควรต้องถูกประนามอย่างหนักมากกว่าที่จะยกย่องครับ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่า
ทำไมจึงไม่สมควรยกย่องพวกมือสังหารระเบิดพลีชีพเทียบเท่าเหล่าทหารอาสาเพื่อมาปฏิบัติการรบในยุทธวิธีคามิคาเซ่ เนื่องด้วยเหตุผลที่ว่า คามิคาเซ่ เป็นเหตุการณ์ในอดีต และเป็นช่วงสงครามที่ย่อมต้องมีการสังหารฆ่าผู้บริสุทธิ์อย่างที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ยุทวิธีคามิคาเซ่นั้นก็มุ่งโจมตีกองบินรบฝ่ายข้าศึกเป็นสำคัญ  ในขณะที่มือสังหารระเบิดพลีชีพ นั้นมีเป้าหมายเพื่อสร้างความปั่นป่วน เป็นการก่อการร้ายโดยมุ่งเป้าไปที่ผู้บริสุทธิ์เป็นหลักครับ และพวกนี้ ไม่ทราบเป้าหมาย ไม่ทราบอุดมการณ์ที่แน่นอน และพร้อมจะก่อสงครามกับคนที่เห็นต่างได้ทุกเมื่อโดยไม่เลือกข้าง พวกนี้จึงอันตรายและสมควรถูกประนาม เพราะมีเจตนาที่จะก่อให้เกิดสงคราม โดยอาสัยยุทวิธีทำสงครามใต้โต๊ะมากกว่าโจมตีกันซึ่งหน้าครับ

ปล. เหตุการณ์ในอดีต ถือเป็นประวัติศาสตร์ซึ่งเกิดขึ้นแล้ว เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เฉกเช่นการทำสงครามยุทธหัตถีในสมัยอยุธยา ซึ่งการยกย่องในกรณีเช่นนี้ เรายกย่องในความกล้าหาญของคนในอดีตที่กระทำตามอุดมการณ์เพื่อชาติ เพื่อแผ่นดิน ซึ่งถ้าย้อนไปในสมัยนั้น จริงๆคงไม่มีใครเลือกที่จะมายอมตายหรอกถ้าไม่เข้าตาจนเมื่อประเทศแผ่นดินเกิดของตนถูกคุกคามอยู่ในภาวะสงคราม
มันต่างกันนะครับ กับกรณีการก่อการร้าย การก่อความไม่สงบ ทำร้ายชีวิตเข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์

สำหรับประเด็น การเห็นฝ่ายตนทำเรื่องไม่ดีแล้วมองว่าถูกเสมอ นี่แหล่ะ จุดเริ่มต้นการล้างสมอง มักจะเพื่อผลทางการเมือง เป็นเครื่องมือเพื่อจุดหมายของคนไม่กี่คน  อันนี้ เห็นด้วย ครับและมักจะทำให้ประวัติศาสตร์มันซ้ำรอยเดิมได้อยู่เสมอๆ