

วันนี้(9 ม.ค.) จากกรณีที่คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งบัลลังก์ไต่สวนพยาน ในคำร้องที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่งความเห็นของ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ ว่า ร่างพ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ
หรือ ร่างพ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท มีข้อความขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ หรือ ตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือไม่ เมื่อวานนี้ โดยมีการนัดไต่สวนพยานเพิ่มเติมในวันที่ 15 ม.ค.
ล่าสุดเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมออนไลน์ กรณีที่นายสุพจน์ ไข่มุกด์ หนึ่งในคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ไต่สวนคุณชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้ให้ความเห็นส่วนตัวว่า การกู้เงิน2.2ล้านล้านบาท มีความจำเป็นหรือไม่ที่จะสร้างรถไฟความเร็วสูง
ส่วนตนเป็นห่วงถึงการกู้เงินดังกล่าว อาจเป็นการสร้างภาะหนี้ให้กับลูกหลานและคุณชัชชาติ เป็นรัฐมนตรีในตำแหน่งมาแล้วก็ไป
การกู้เงินไม่สามารถจะนำมาใช้ได้ทันที จึงเห็นว่ารถไฟความเร็วสูงยังไม่จำเป็นสำหรับไทย และเป็นไปได้ควรให้ถนนลูกรังหมดไปจากประเทศก่อน
ที่มา :
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://news.mthai.com/hot-news/300244.html
ศาลรธน.ค้านรถไฟความเร็วสูง อ้างถนนลูกรังหมดก่อน
หรือ ร่างพ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท มีข้อความขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ หรือ ตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือไม่ เมื่อวานนี้ โดยมีการนัดไต่สวนพยานเพิ่มเติมในวันที่ 15 ม.ค.
ล่าสุดเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมออนไลน์ กรณีที่นายสุพจน์ ไข่มุกด์ หนึ่งในคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ไต่สวนคุณชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้ให้ความเห็นส่วนตัวว่า การกู้เงิน2.2ล้านล้านบาท มีความจำเป็นหรือไม่ที่จะสร้างรถไฟความเร็วสูง
ส่วนตนเป็นห่วงถึงการกู้เงินดังกล่าว อาจเป็นการสร้างภาะหนี้ให้กับลูกหลานและคุณชัชชาติ เป็นรัฐมนตรีในตำแหน่งมาแล้วก็ไป
การกู้เงินไม่สามารถจะนำมาใช้ได้ทันที จึงเห็นว่ารถไฟความเร็วสูงยังไม่จำเป็นสำหรับไทย และเป็นไปได้ควรให้ถนนลูกรังหมดไปจากประเทศก่อน
ที่มา : [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้